บทที่ 40: การจุดไฟด้วยการขัดไม้
บทที่ 40: การจุดไฟด้วยการขัดไม้
ในขณะนั้น ปุโรหิตเฒ่าถอนหายใจอย่างน่าเสียดาย
ชิงและเหล่าหยาเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าปุโรหิตเฒ่าถอนหายใจเพราะเหตุใด
ปุโรหิตเฒ่ามองเห็นสีหน้าสงสัยของทั้ง 2 คน จึงส่ายหัวพลางพูดว่า "ช่างน่าเสียดายจริงๆ เฮ้อ..."
“น่าเสียดายอะไรงั้นรึ?”
ปุโรหิตชิงและเหล่าหยาถามด้วยความประหลาดใจ
“วัตถุศักดิ์สิทธิ์นั้นถูกทำลายโดยผู้ติดตามของเทพปีศาจในการต่อสู้ครั้งก่อนไปแล้ว นับจากนี้เป็นต้นไป…”
ปุโรหิตเฒ่ารู้สึกใจสลายเมื่อคิดถึงภาพที่วัตถุศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลาย
แม้ว่าท่านเทพจะกล่าวว่ามี "วัตถุศักดิ์สิทธิ์" อยู่อีก แต่เขาไม่เชื่อว่าวัตถุศักดิ์สิทธิ์นี้จะได้มาโดยง่าย แน่นอนท่านเทพต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างขึ้นอย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่จะมีอยู่มากมาย
“ท่านเทพคงพูดเพื่อปลอบพวกเรา ไม่ให้พวกเรารู้สึกผิด!” ปุโรหิตเฒ่าคิดด้วยความรู้สึกผิดในใจ
“แล้วจะทำอย่างไรดี?”
ปุโรหิตชิงและเหล่าหยาเองก็รำลึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า ผู้ติดตามของเทพปีศาจได้ทำลายบางสิ่งจริง ๆ สิ่งนั้นน่าจะเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์แน่นอน
เมื่อชาวเผ่าที่ฟังพวกเขาพูดเริ่มเข้าใจ สีหน้าของพวกเขาก็แสดงความกังวลออกมา
ปุโรหิตเฒ่าถอนหายใจอย่างหมดหวัง เขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง
“ท่านเทพกลับมาแล้ว!”
มีชาวเผ่าคนหนึ่งตะโกนขึ้นด้วยความตื่นเต้น
ปุโรหิตเฒ่าและคนอื่น ๆ สะดุ้งรีบลุกขึ้นมองไปยังทิศทางที่คนคนนั้นชี้ไป
บนท้องฟ้า มีแสงสีขาวเส้นหนึ่งกำลังพุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน แสงนั้นก็มาปรากฏตรงที่อยู่ของพวกเขา สิ่งนั้นไม่ใช่ใครอื่น—แต่เป็นเทพแห่งแสง!
ซูหยุนก้มมองชาวเผ่าเพียงแวบเดียวก่อนจะหายวับไป เขากลับเข้าสู่พื้นที่ศิลาศักดิ์สิทธิ์ทันที
เมื่อกลับมายังสถานที่คุ้นเคย เขาใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง “ดูเหมือนคราวนี้ต้องยืมร่างของปุโรหิตเฒ่าอีกครั้ง”
ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เขาย้ายจิตของเขาผ่านสายศรัทธาของปุโรหิตเฒ่า
เพียงชั่วพริบตา ส่วนหนึ่งของจิตสำนึกของซูหยุนก็ย้ายเข้าสู่ร่างของปุโรหิตเฒ่า
เมื่อจิตสำนึกของเขาเข้าครอบงำ ร่างของปุโรหิตเฒ่าก็ไม่ทันได้ตอบสนองและตกอยู่ในความมืดมิดอีกครั้ง
ซูหยุนลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับแผ่ออร่าความยิ่งใหญ่จนมิอาจละเลยได้
ชิงและเหล่าหยาจ้องมองอย่างตะลึง พวกเขารู้สึกราวกับว่าปุโรหิตเฒ่ากลายเป็นคนละคนในทันที ออร่าที่แผ่ออกมานั้นเปี่ยมไปด้วยความสูงส่งและความเย็นชาเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้ทั้ง 2 เกิดความหวั่นเกรงในใจ
ซูหยุนไม่สนใจทั้ง 2 คน เขาหันไปเรียกชาวเผ่าคนหนึ่งเข้ามา
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่รีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ท่านปุโรหิต ท่านมีสิ่งใดต้องการให้ข้าทำงั้นหรือ?” ชายหนุ่มพูดพลางเกาศีรษะด้วยท่าทางซื่อ ๆ
“เจ้าชื่ออะไร?” ซูหยุนมองชายหนุ่มที่มีคิ้วหนาดวงตาโตและถาม
“ท่านปุโรหิต ข้ามีนามว่า 'ต้าสือ'”ต้าสือตอบกลับด้วยความซื่อ
ซูหยุนพยักหน้ารับเบา ๆ “ไปเก็บฟางแห้ง และ...”
เขากล่าวคำสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ระหว่างนั้นเขาอธิบายสิ่งที่ต้องการให้ต้าสือไปหาให้ฟังอย่างชัดเจน
ต้าสือพยายามจดจำ แม้จะมีของไม่มาก แต่เขาก็จำไว้ในใจและรีบตรงไปในป่าเพื่อหาสิ่งของทันที
พวกเขามองดูแผ่นหลังของต้าสือที่ค่อย ๆ หายไปในป่า ชิงและเหล่าหยาต่างก็เต็มไปด้วยความสงสัย พวกเขาไม่รู้ว่าปุโรหิตเฒ่ากำลังจะทำอะไรอีก
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าเกี่ยวกับเนื้อย่าง ทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะคาดหวัง
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ซูหยุนก็รอจนกระทั่งต้าสือนำสิ่งของกลับมา
“ท่านปุโรหิต เท่านี้นี้เพียงพอหรือไม่?”
ชายหนุ่มที่มีผิวแทนเพราะแสงแดดยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากของเขา เผยรอยยิ้มซื่อ ๆ ออกมา
ซูหยุนสำรวจสิ่งของที่ต้าสือนำมา
ไม้แข็งยาวที่แม้จะบิดงอเล็กน้อย แต่ยังพอใช้ได้
ไม้ท่อนใหญ่แห้งที่เหมาะสม
หญ้าแห้งและใบไม้ที่แห้งสนิท...
“ดีมาก”
ซูหยุนมองต้าสือด้วยความชื่นชม ของพวกนี้ตรงกับที่เขาต้องการอย่างสมบูรณ์
เมื่อได้ยินคำชม ต้าสือก็หัวเราะ แฮ่แฮ่ ออกมาอย่างมีความสุข พร้อมกับเผลอเกาศีรษะตัวเองโดยไม่รู้ตัว
"วางของพวกนี้ลงบนพื้น แล้วทำตามที่ข้าบอก"
ซูหยุนสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ต้าสือรีบทำตามทันที เขานั่งลงกับพื้นแล้วจัดของทีละชิ้นตามลำดับ
เมื่อเห็นสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ ชาวเผ่าหลายร้อยคนที่อยู่นอกถ้ำต่างก็เต็มไปด้วยความสงสัย พวกเขาจ้องมองอย่างไม่ละสายตา
"เซาะหลุมเล็ก ๆ บนไม้ท่อนนี้" ซูหยุนชี้ไปที่ไม้ท่อนหนึ่ง
ต้าสือพยักหน้าและเริ่มลงมือทำ เขาไปยืมมีดหินจากคนอื่นมา ใช้แรงอยู่นานกว่าจะเซาะหลุมเล็ก ๆ ได้สำเร็จ
"ใส่หญ้าแห้งและใบไม้แห้งลงไปในหลุมนั้น"
ต้าสือทำตามคำสั่งทันที
ซูหยุนชี้ไปที่ไม้แท่งเล็ก ๆ "หยิบไม้แท่งนี้ขึ้นมา แล้วหมุนไปมาในหลุมบนไม้ท่อนนี้"
คำสั่งนี้ค่อนข้างซับซ้อนสำหรับต้าสือ เขาต้องให้อธิบายหลายรอบกว่าจะเข้าใจ
ต้าสือนั่งลงบนพื้น ประสานมือทั้งสองข้างเข้าหากัน และเริ่มหมุนไม้แท่งไปมาด้วยความพยายาม
ชาวเผ่าเยี่ยมมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น คนที่มุงดูก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ
เวลาผ่านไปสิบกว่านาที
ซูหยุนมองดูวัสดุที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย รอยขมวดคิ้วปรากฏขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูดแนะนำ "เร่งความเร็วขึ้นอีกหน่อย"
ต้าสือไม่สนใจเหงื่อที่ไหลเต็มหน้าและมือที่อ่อนล้า เขาตอบรับด้วยเสียงหนักแน่นก่อนจะกัดฟันเร่งความเร็ว
ผ่านไปอีกไม่กี่นาที
หลุมไม้เล็ก ๆ เริ่มมีควันลอยออกมาบาง ๆ ซึ่งทำให้ผู้ชมรอบ ๆ เบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น
"ควัน?"
"อ่า มีควันออกมาแล้ว!"
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"
เสียงอุทานของชิงและคนอื่น ๆ ดังขึ้น
ต้าสือเองก็ตกใจกับควันที่ลอยออกมาจากหลุมไม้จนเผลอหยุดมือไปชั่วครู่
ซูหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตำหนิด้วยน้ำเสียงเข้ม "อย่าหยุด? ทำต่อไปสิ!"
ต้าสือที่ได้ยินเสียงดุดันกว่าปกติของปุโรหิตก็กลับมามีสติอีกครั้ง เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อหมุนไม้ต่อไป
เวลาค่อย ๆ ผ่านไป ผู้ชมรอบ ๆ ค่อย ๆ กลั้นหายใจอย่างลุ้นระทึกและจ้องมองไปที่ไม้ท่อนนั้นอย่างตั้งใจ
เมื่อควันเริ่มหนาขึ้นเรื่อย ๆ ความตกใจในใจของทุกคนก็เพิ่มมากขึ้น
"อ่า นี่มัน..." ต้าสือร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
ชาวเผ่าที่ชมอยู่รอบ ๆ ต่างก็ตกใจกันถ้วนหน้า
ประกายไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนกองหญ้าแห้งในหลุมไม้!
ซูหยุนสั่งต่อด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ "ย่อตัวลงไป ระวังหน่อย แล้วค่อย ๆ เป่าประกายไฟนี้เบา ๆ"
ต้าสือได้ยินดังนั้นก็รีบย่อตัวลง แล้วใช้ปากเป่าเบา ๆ ที่กองหญ้า
เมื่อเห็นต้าสือทำตามอย่างถูกต้อง ซูหยุนพยักหน้าด้วยความพอใจ
ต้าสือเป่าหญ้าอยู่สักพัก กองหญ้าก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ไฟเปลวเล็ก ๆ ลุกพรึบขึ้นมาอย่างไม่คาดฝัน
"ไฟ!" ต้าสือร้องอุทานด้วยความตกใจจนตัวลุกขึ้นยืน
คราวนี้ผู้ชมรอบ ๆ ถึงกับยืนอึ้งตาค้างกันไปหมด "ไฟ?"
"นี่มันเป็นไปได้ยังไง?"
"ไฟไม่ใช่ว่าต้องใช้ของวิเศษถึงจะสร้างได้หรือ?"
ทุกคนมองดูภาพตรงหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อ
เสียงอุทานดังขึ้นไม่ขาดสาย "นี่มันทำได้ยังไง?"
"โอ้ นี่คือปาฏิหาริย์จากเทพ!"
ชิงและเหล่าหยาก็ยืนอ้าปากค้างอย่างเหลือเชื่อเมื่อเห็นไฟลุกไหม้ขึ้นตรงหน้า
ซูหยุนยิ้มบาง ๆ ด้วยความพอใจ และกล่าวชมต้าสือว่า "ทำได้ดีมาก"
ต้าสือที่ยังยืนอึ้งอยู่ได้สติกลับมาเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขาหันไปมองซูหยุนด้วยความเคารพศรัทธา
แม้ว่าเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขารู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะคำสอนของท่านปุโรหิต จึงเกิดความเลื่อมใสในตัวซูหยุนอย่างล้นเหลือ
คนอื่น ๆ ที่ได้สติต่างก็แสดงความตกตะลึงต่อปุโรหิตผู้สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา
หลังจากความตกใจผ่านไป ชิงและเหล่าหยาก็เริ่มมีคำถามผุดขึ้นในใจ
เหล่าหยาถามด้วยความสงสัยว่า "ท่านปุโรหิต ท่านไม่ใช่กำลังกังวลเรื่องของวิเศษอยู่เมื่อครู่หรือ? แล้วนี่ทำไมถึง…"
ทำไมถึงหันมาแสดงปาฏิหาริย์เช่นนี้ได้ในทันที?
ทั้งสองคนต่างรู้สึกประหลาดใจและสงสัย
ซูหยุนไม่ได้คาดคิดว่าพวกเขาสองคนจะรู้เรื่องที่ปุโรหิตเฒ่าเคยพูดไว้ เขาแสดงท่าทีแปลกใจเล็กน้อย
(จบตอนที่ 40 )