บทที่ 155 ผู้ชนะเลิศระดับชาติ!
ทักษะตรวจจับระดับ SSS แบบนี้
หลี่เหยาแทบไม่ต้องคิดเลย
ในช่องอัญเชิญใหม่ที่จะเปิดตอนระดับ 30
ไม่มีตัวไหนเหมาะสมไปกว่ามันอีกแล้ว!
สัตว์อสูรที่หลี่เหยาสังหารในภารกิจครั้งนี้ ล้วนเป็นอสูรระดับสูงเลเวล 30-40 ทั้งสิ้น ซึ่งทำให้ของรางวัลที่ได้มาเขายังไม่สามารถใช้ได้ในตอนนี้
ดังนั้น
เป้าหมายสำคัญในตอนนี้คือ ต้องเร่งพยายามทะลุขีดจำกัดของระดับ 30 ให้ได้
หลังจากนั้น ความแข็งแกร่งของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
เพียงแต่...
เขายังไม่แน่ใจว่าเมื่อถึงระดับ 30 แล้ว จะสามารถต่อกรกับสัตว์อสูรระดับ "จ้าว" ได้หรือไม่?
หลังจากตรวจสอบของรางวัลเสร็จ หลี่เหยาก็ขึ้นขี่มังกรดำปีกมืด มุ่งหน้าไปยังเมืองซางหยูผ่านทางวงเวทย์มิติ
ใช้เวลาเพียงสิบ นาทีเขาก็มาถึงหน้าวงเวทย์เคลื่อนย้ายขนาดใหญ่
เมื่อก้าวเข้าสู่วงเวทย์ เวทย์ก็เริ่มทำงาน
หลังจากที่รู้สึกเหมือนถูกหมุนวนไปมาได้ไม่นาน หลี่เหยาก็ปรากฏตัวในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ซูหยวน
บริเวณใกล้เคียงนั้นมีเพียงท่านผู้นำเมืองซางหยูมารอเขาอยู่
เมื่อเห็นหลี่เหยาออกมา หม่องหยางไห่ก็หัวเราะออกมาอย่างยินดี “โอ้! ผู้ชนะเลิศของเราออกมาแล้วหรือ?”
หลี่เหยาพนมมือคำนับเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามว่า “ท่านผู้นำเมือง นี่มันหมายความว่าอย่างไร?”
“ยังต้องถามอีกเหรอ?” หม่องหยางไห่ตบไหล่หลี่เหยาดังปั้บ
“เจ้าช่วยสร้างชื่อให้เมืองซางหยูของเรานะ! ได้อันดับหนึ่งของประเทศเลยนะ! หลายปีแล้ว ที่เมืองซางหยูของเรายังไม่เคยมีผู้ชนะเลิศระดับชาติแบบนี้มาก่อน!”
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ฮ่าฮ่า!”
เมื่อเห็นท่าทางงุนงงของหลี่เหยา หม่องหยางไห่จึงอธิบายเพิ่มเติมว่า “หลังจากเจ้าลงไปยังทางผ่านมิติแล้ว เซวี่ยจิ่วหลันก็ประกาศข่าวว่าเจ้าคือผู้ชนะเลิศ!”
“ไม่ต้องห่วง เซวี่ยจิ่วหลันรู้จักนิสัยของเจ้า ขณะนี้มีเพียงผู้บริหารระดับสูงของประเทศมังกรเท่านั้นที่ทราบข่าวนี้”
“ส่วนการถ่ายทอดสด ทุกคนรู้เพียงว่าอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศมังกรชื่อว่า หลี่เหยา แต่ในส่วนหน้าตาของเจ้า
ทางรัฐบาลได้รีบทำการเบลอภาพไว้อย่างดี ถ้าไม่ใช่คนที่รู้จักใกล้ชิด ก็ไม่มีทางจำเจ้าได้หรอก!”
“ถ่ายทอดสด?”
“เจ้าไม่รู้หรือ?” หม่องหยางไห่มีสีหน้าแปลกใจ
จากนั้นเขาก็เล่าให้หลี่เหยาฟังเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกระหว่างการแข่งขันชิงชัย
“สรุปแล้ว ท่านหมายถึงนักรบทั่วประเทศสามารถเห็นการต่อสู้ของข้ากับเจ้าคอลอินได้?”
หลี่เหยารู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
พวกผู้บริหารระดับสูงช่างตามสมัยเสียจริง แม้แต่เรื่องการถ่ายทอดสดก็ยังรู้จักใช้
“ต้องบอกว่ามันน่าละอายเล็กน้อย พวกผู้ใหญ่ที่เมืองหลวงก็ตัดสินใจเปิดการถ่ายทอดสดก็ต่อเมื่อเห็นเจ้ากับจางอี่เฉิงกำลังได้เปรียบในการต่อสู้ ทั้งนี้เพื่อปลุกกำลังใจให้ผู้มีอาชีพหนุ่มสาวทั่วประเทศน่ะ”
"ไม่คิดเลย...ว่าตัวอ่อนของอสูรตัวนั้นจะสามารถวิวัฒนาการได้ และยิ่งไม่คิดว่าอสูรระดับจอมทัพ จะเป็นแค่เครื่องสังเวยที่
เผ่าไททันนำมา..."
"ถ้าไม่ได้เจ้าหนุ่มคนนี้ออกมายืนหยัด ป่านนี้การถ่ายทอดสดคงกลายเป็นเรื่องน่าอับอายไปแล้ว!"
"เหล่าอัจฉริยะจากทั่วประเทศ ต้องสละชีพระหว่างถ่ายทอดสด…"
"นึกดูสิ ว่าตอนนั้นจะเกิดความโกลาหลขนาดไหน!"
"ท่านผู้อาวุโสพูดเกินไปแล้ว" หลี่เหยาเอ่ยด้วยสีหน้าเยือกเย็น
"ถึงไม่มีข้า แม่ทัพเซวี่ยก็คงส่งกำลังเสริมมาอยู่ดี"
"ฮ่า ๆ เจ้าเด็กคนนี้" หม่องหยางไห่หัวเราะเสียงดัง
"ช่างเถอะ ยังไงรางวัลที่ควรได้ ทางเบื้องบนก็ไม่ขาดให้เจ้าอยู่แล้ว ข้าจะไม่พูดมากไปกว่านี้แล้วกัน"
เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ หม่องหยางไห่ก็พูดต่อว่า
"เรื่องในช่องทางเขตลับ เซวี่ยจิ่วหลันได้บอกข้าแล้ว
เรื่องนี้เป็นความบกพร่องของข้าเอง ไม่ได้รอบคอบพอ"
"ตอนนี้เรื่องก็ผ่านไปแล้ว บ้านตระกูลหยาน คงจะได้กระโดดโลดเต้นอีกไม่นาน"
"ดังนั้นเจ้ามีอะไรต้องการ ก็บอกข้าได้เลย ถือเป็นการชดเชยจากข้า"
"ผู้น้อยเห็นว่าควรให้ท่านผู้นำไปหารือกับแม่ทัพเซวี่ยจะดีกว่า"
หลี่เหยาพูดด้วยท่าทีเฉยเมย
ค่าตอบแทนที่แม่ทัพเซวี่ยจ่ายให้คือการเชิญผู้นำหม่องหยางไห่มาปกป้องเขาด้วยตัวเอง
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร เรื่องนี้ควรให้แม่ทัพเซวี่ยเป็นคนจัดการ
เขาเองก็ไม่มีสิทธิ์จะพูดว่า "ไม่เป็นไร"
เมื่อเห็นว่าหม่องหยางไห่จะพูดอะไรอีก หลี่เหยาจึงรีบกล่าวว่า "ท่านผู้นำเมือง ถ้าไม่มีธุระสำคัญใด ๆ
ข้าคงต้องรีบกลับเจียงโจวก่อน เกรงว่าที่บ้านจะเป็นห่วงเรื่องการถ่ายทอดสด"
หม่องหยางไห่เข้าใจถึงความต้องการกลับบ้านของหลี่เหยา
"เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวล การถ่ายทอดสดครั้งนั้นไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเจ้า หากเจ้าไม่อยากให้ใครรู้ก็คิดชื่อใหม่ขึ้นมาก็พอ"
"ทราบแล้ว"
หลี่เหยาพยักหน้า
แต่ทำไม...
ทำไมต้องคิดชื่อใหม่ด้วย?
ถ้าหากชื่อเสียงของสุดยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งสามารถลดปัญหาให้ตนได้...
แล้วทำไมจะไม่ยอมรับ?
หลี่เหยายังไม่มีนิสัยแสร้งทำตัวเป็นหมาป่าตัวเล็กที่ซ่อนเขี้ยวไว้
"ข้าจะส่งคนไปส่งเจ้า"
"ขอบคุณท่านผู้นำเมือง"
สองชั่วโมงต่อมา
หลี่เหยาเดินทางกลับถึงเจียงโจวโดยเครื่องบินส่วนตัว
พอออกจากสนามบิน ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
"ฮัลโหล ๆ!"
"คุณชายหลี่!"