ตอนที่แล้วบทที่ 122 สุสานลับชั้นที่ 3
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 124 สังหารอย่างง่ายดาย (เปิดให้อ่านฟรีวันที่ 23 ม.ค. 68)

บทที่ 123 นักเวทอันเดด


บทที่ 123 นักเวทอันเดด

ลู่หยางเตรียมตัวรักษาเสี่ยวเหลียงอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเขาได้เห็นเด็กหนุ่มสามารถหลบการโจมตีได้เขาก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก

สามพี่น้องตระกูลฮั่นก็กำลังเป็นห่วงเสี่ยวเหลียงอยู่เช่นกัน เมื่อเด็กหนุ่มสามารถหลบหลีกซอมบี้ได้สำเร็จ ทุกคนต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“พวกเราไปล่อซอมบี้แล้วนะ พี่สาวกับพี่เสี่ยวเหลียงก็สู้ ๆ ถ้ามัวแต่ชักช้าระวังตอนที่เรากลับมาพวกพี่จะยังเก็บของไม่เสร็จ” ฮั่นเฟยกล่าว

ฮั่นอวี่หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ และเขาก็เห็นด้วยกับคำท้าของฝาแฝดอย่างชัดเจน

“คิดจะลองดีงั้นเหรอ? หวังว่าพวกนายจะไม่ทำให้ฉันรอนานนะ” ฮั่นอิ่งกล่าวก่อนที่เธอจะกระโดดลงไปจากแท่นสูงในทันที เพราะท้ายที่สุดฝีมือของเธอก็เหนือกว่าน้องชายทั้งสองคนอยู่เสมอ และเธอก็ทำหน้าที่คอยปกป้องน้องชายทั้งสองมาโดยตลอด

ฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่สบตากันก่อนจะรีบวิ่งออกไปหลอกล่อศัตรู ระหว่างทางมีซอมบี้ฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมาเรื่อย ๆ และทั้งสองก็ใช้ทักษะการเคลื่อนไหวในการหลบหลีกซอมบี้เหล่านี้ไป

ลู่หยางพยักหน้าอย่างพึงพอใจพร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อสมัยก่อน ตอนนั้นเขาก็เคยฝึกการเคลื่อนไหวกับเพื่อน ๆ แบบนี้ และถ้าหากว่าพวกเขาต้องการจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญภายในเกม การฝึกฝนเคลื่อนไหวอย่างจริงจังภายในเกมก็ถือว่าเป็นวิธีการฝึกฝนที่ดีที่สุด

ครั้งนี้ซอมบี้ดรอปไอเท็มลงมาไม่มากนัก เสี่ยวเหลียงกับฮั่นอิ่งจึงสามารถเก็บพวกมันกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างทางเสี่ยวเหลียงโดนโจมตีไปทั้งสิ้น 4 ครั้ง ส่วนทางด้านฮั่นอิ่งไม่ถูกโจมตีเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“ลูกพี่ ผมยังอ่อนแออยู่มากเลยจริง ๆ” เสี่ยวเหลียงกล่าวอย่างหงุดหงิด

“ไม่ต้องรีบร้อน ค่อย ๆ พัฒนาไป นายยังมีช่องว่างให้พัฒนาได้อีกเยอะ” ลู่หยางกล่าว

“แต่การฝึกแบบนี้มันดีจริง ๆ ผมเริ่มสัมผัสได้เลยว่าการเคลื่อนไหวของตัวเองมันดีขึ้นกว่าเดิมมาก” เสี่ยวเหลียงกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

ระหว่างนั้นฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่ก็วิ่งกลับมาพอดีพร้อมกับฝูงซอมบี้ที่ไล่ตามหลังมามากกว่า 100 ตัว

ลู่หยางท่องคาถาเรียกไฟร์วอลล์ขึ้นมาใหม่ ก่อนที่สองฝาแฝดจะลากฝูงซอมบี้เข้ามาภายในทะเลเพลิงเช่นเดิม

ครึ่งชั่วโมงต่อมาเมื่อฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่พาซอมบี้กว่า 60 ตัวกลับมาอีกครั้ง ฮั่นเฟยก็พูดขึ้นมาว่า

“พี่ลู่หยางมอนสเตอร์ถูกฆ่าจนเกือบหมดแล้วครับ แถวทางเดินมันแทบไม่มีมอนสเตอร์เหลืออยู่แล้ว”

“ฝั่งผมก็ใกล้หมดแล้วเหมือนกัน แต่ผมเห็นซอมบี้ตัวหนึ่งแปลกมาก ทั่วทั้งร่างของมันสวมเสื้อคลุมสีดำ, ลำตัวลอยอยู่กลางอากาศและมีเคียวถืออยู่ในมือ ดูเหมือนชื่อมันจะเป็นนักเวทอันเดดอะไรสักอย่าง” ฮั่นอวี่กล่าว

ลู่หยางรีบมองสำรวจฝูงซอมบี้ตรงหน้าและเมื่อเขาไม่เห็นนักเวทอันเดดในฝูงมอนสเตอร์นั้น ชายหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“ฮั่นอวี่ทำได้ดีมากที่ยังไม่ได้ล่อมันมา”

“มันเก่งมากเลยเหรอครับ?” ฮั่นอวี่ถาม

“มันก็ไม่ได้เก่งเท่าไหร่หรอก แต่ถ้านายไปยุ่งกับมัน นายจะถูกมันสังหารในทันทีเรียกได้ว่ามันเป็นบอสที่เก่งที่สุดในสุสานนี้แล้ว” ลู่หยางกล่าว

“เก่งขนาดนั้นเลย!?” เสี่ยวเหลียงและสามพี่น้องต่างก็อุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

“ไม่เป็นไร ฉันมีวิธีการรับมือกับมันอยู่ รอพวกเราจัดการซอมบี้พวกนั้นจนเสร็จแล้วค่อยให้ฮั่นอวี่พาพวกเราไปหามัน” ลู่หยางกล่าว

“ครับ” ฮั่นอวี่ตอบ

“เยี่ยมเลย! เราจะได้ฆ่าบอสกันอีกแล้ว” ฮั่นเฟยกล่าวอย่างตื่นเต้น โดยมีเสี่ยวเหลียง, ฮั่นอิ่งและฮั่นอวี่พยักหน้าอย่างตื่นเต้นอยู่ใกล้ ๆ ด้วยเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดการสังหารบอสได้สำเร็จมันก็หมายความว่าพวกเขากำลังจะได้รับสมบัติ

ไม่นานฝูงซอมบี้ก็ถูกทะเลเพลิงของลู่หยางเผาตายจนหมด ร่างของสามพี่น้องตระกูลฮั่นจึงเปล่งประกายสีทองออกมาพร้อมกันเป็นสัญญาณว่าพวกเขามีเลเวลถึง 11 แล้ว

ฮั่นเฟยไม่สนใจเรื่องที่ตัวเองมีเลเวลเพิ่มขึ้น แต่เขากลับรีบพูดกับลู่หยางว่า

“พี่ลู่หยาง เราไปฆ่าบอสกันเถอะ”

ลู่หยางก็อยากจะรู้ว่าบอสตัวนี้จะดรอปอะไรลงมาบ้าง แต่เขาก็ต้องเตือนสติให้ทุกคนเก็บของก่อน

“ช่วยกันเก็บของก่อนแล้วพวกเราค่อยไปด้วยกัน”

“ครับ/ค่ะ” เสี่ยวเหลียงและสามพี่น้องกระโดดลงไปจากแท่นสูง ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไปไม่ถึงนาทีพวกเขาก็เก็บไอเท็มทั้งหมดจนเสร็จ

ลู่หยางให้ฮั่นอวี่นำทาง ไม่นานพวกเขาก็มาถึงทางแยกแห่งแรกบริเวณทางขวาของแผนที่ ซึ่งหลังจากเดินไปไม่ไกลพวกเขาก็เห็นวิญญาณตนหนึ่งกำลังล่องลอยอยู่

ร่างของวิญญาณตัวนี้สวมเสื้อคลุมสีดำทั้งตัว มีแขนสีขาวสีที่กำลังถือเคียวขนาดใหญ่อันไม่สมส่วนกับร่างกาย

รอบตัวของมันไม่มีซอมบี้เหลืออยู่อีกแล้ว เพราะซอมบี้ทั้งหมดถูกฮั่นอวี่หลอกล่อไป ตอนนี้มันจึงเหลืออยู่เพียงแค่ตัวคนเดียว

นักเวทอันเดด (บอส)

เลเวล 30

พลังชีวิต 200,000/200,000

ตามบันทึกของเกม นักเวทอันเดดตัวนี้เป็นหนึ่งในนักเวทอันเดดในอดีตที่ก่อให้เกิดซอมบี้ในสุสานแห่งนี้ขึ้นมา หลังจากที่เขาถูกจับได้ว่าใช้เวทมนตร์อันเดด กองทัพมนุษย์ก็จำเป็นจะต้องทุ่มเทอย่างมากกว่าจะจัดการกับมันลงได้ แล้วเพื่อเป็นการลงโทษในสิ่งที่เขาทำลงไป ร่างของเขาจึงถูกจับโยนลงมาในสุสานด้วย

“ตัวของนักเวทอันเดดเองก็เป็นพาหะของเวทมนตร์อันเดด หลังจากที่มันตายร่างกายของมันจึงกลายเป็นอันเดดโดยอัตโนมัติ ถึงแม้พลังโดยรวมของมันจะลดลงไปจากตอนที่มีชีวิตมาก แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเอาชนะได้ง่าย ๆ อยู่ดี เวทมนตร์ของมันเน้นไปที่คำสาปและการจบชีวิตซากศพ แม้แต่ทีมผู้เล่นชั้นยอดก็ยากจะเอาชนะบอสตัวนี้ลงได้” ลู่หยางอธิบาย

เวทมนตร์อันเดดถือได้ว่าเป็นเวทมนตร์ที่รับมือได้ยากที่สุดในตอนนี้ และผู้เล่นทุกคนก็ไม่มีความต้านทานเวทมนตร์อันเดดเลย ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าความเสียหายของเวทมนตร์จะมีเท่าไหร่ ความเสียหายเหล่านั้นก็จะโจมตีเข้าพลังชีวิตไปเต็ม ๆ

“แล้วพวกเราจะสู้ยังไงครับ?” ฮั่นเฟยถามอย่างกังวล

“ตอนนี้พวกนายยังช่วยอะไรฉันไม่ได้ ฉันเลยจำเป็นจะต้องสู้คนเดียว ทุกคนจงดูการเคลื่อนไหวของฉันให้ดี ๆ สาเหตุที่ฉันให้ทุกคนฝึกการเคลื่อนไหวเอาไว้ก็เพราะเรื่องนี้ ถ้าหากใครเรียนรู้การเคลื่อนไหวของฉันได้ ในอนาคตพวกนายก็จะสามารถโซโลบอสได้เหมือนกัน” ลู่หยางกล่าว

“ลูกพี่จะสู้คนเดียวจริง ๆ เหรอ?” เสี่ยวเหลียงถาม

“อือ จำได้ไหมว่าฉันฆ่าจอมเวทแองโกโล่ได้ยังไง?” ลู่หยางกล่าวพลางใช้ไฟร์วอลล์รอบตัวเอง

เสี่ยวเหลียงพยักหน้ารับ เพราะเขาจะไม่วันลืมภาพที่ลู่หยางต่อสู้กับจอมเวทแองโกโล่ตัวต่อตัว

“ถ้าหากบอสเป็นนักรบเลเวล 30 ตอนนี้พวกเราก็คงต้องถอย แต่เมื่อบอสเป็นนักเวท ฉันก็สามารถสู้กับมันคนเดียวได้สบายมาก” ลู่หยางกล่าว

ตอนนี้ชายหนุ่มได้วางกำแพงไฟบนทางเดินเอาไว้แล้วมากกว่า 60 แถว พวกมันจึงมีความยาวมากกว่า 24 เมตร

“ทุกคนถอยไปก่อน” ลู่หยางสั่งก่อนจะพากบพิษ 5 ตัวมาหยุดอยู่ห่างจากนักเวทอันเดด 30 เมตร จากนั้นเขาจึงเริ่มใช้สกิลคอมบัสชันใส่บอส 5 ครั้งติดต่อกัน

เมื่อนักเวทอันเดดถูกโจมตีมันก็หันกลับมาในทันทีเผยให้เห็นแสงสีขาวบริเวณดวงตา 2 ดวง ขณะที่มันยกเคียวขึ้นมาชี้ไปทางลู่หยาง

นักเวทหนุ่มกระโดดกลิ้งออกไปทางด้านหลัง ซึ่งพวกเสี่ยวเหลียงก็ไม่เข้าใจว่าลู่หยางทำแบบนี้ไปทำไม แต่ในพริบตาต่อมาพื้นที่ตรงที่ลู่หยางเคยยืนอยู่กลับปรากฏตัวอักษรสีม่วงดำ จากนั้นอักขระก็เกิดการระเบิดคล้ายกับเกิดสายฟ้าฟาด

“นี่คือเวทมนตร์คำสาปที่สามารถสร้างความเสียหายได้ประมาณ 2,000 หน่วย วิธีการหลบเวทของมันก็ง่าย ๆ ตราบใดก็ตามที่มันยกเคียวก็แปลว่ามันกำลังจะปล่อยเวทมนตร์” ลู่หยางอธิบาย

พวกเสี่ยวเหลียงพยักหน้ารับอย่างกระตือรือร้น

เมื่อนักเวทอันเดดเห็นว่ามันโจมตีไม่โดน บอสก็ทำการยกเคียวขึ้นมาอีกครั้ง ทันใดนั้นมันก็มีแสงสีม่วงดำพุ่งออกมาจากเคียว ก่อนที่รอบ ๆ ตัวลู่หยางจะมีโครงกระดูกสีทองปรากฏขึ้นมา 20 ตัว

โครงกระดูกเหล่านี้ถือธนู 11 ตัวและโครงกระดูกอีก 9 ตัวถือขวานเป็นอาวุธ เมื่อพวกมันปรากฏกายขึ้นมาแล้วทุกคนต่างก็โจมตีไปยังลู่หยางพร้อม ๆ กัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด