บทที่ 145 หน้าตาจะมีความหมายอะไร เมื่อเทียบกับพลังและความมั่งคั่งที่แท้จริง?!

หลังกลับมาจากการท้าทายที่สำเร็จ โดยเฉพาะการผ่านการทดสอบระดับนรก ชูหยุนเซิงก็กลายเป็นที่หมายปองของทุกคนทันที!

เมื่อเห็นเผ่ามดวิญญาณเข้ามาประจบประแจงไร้ยางอาย ขอให้ชูหยุนเซิงจับทีมพาไปด้วย คนอื่นๆ ก็รีบเข้ามาล้อมวง พูดจาวุ่นวาย

"ท่านเทพชูหยุนเซิง ขอร่วมทีมด้วยคนได้ไหมครับ? ทีมหนึ่งรวมได้ 4 คน ผมเพิ่งมาถึงพอดี!"

"ท่านเทพชู พาผมไปด้วยครับ ผมเป็นเผ่าช้างกระดูกเหล็ก ผิวหนาเนื้อแน่น ผมสามารถยืนหน้าช่วยรับความเสียหายให้ท่านได้!"

"ผมบอกแล้วว่าเผ่ามนุษย์โลกเป็นเผ่าที่เก่งที่สุดในกาแล็กซีทางช้างเผือก เห็นไหมว่าผมพูดถูก? ท่านเทพชู พาผมไปด้วยครับ!"

"ท่านเทพชู ผมเป็นเผ่าจิ้งจอกเขียวค่ะ พาฉันไปด้วยนะคะ ถึงพลังต่อสู้จะธรรมดา แต่ฉันนวดไหล่อุ่นเตียงเก่งนะคะ รับรองว่าจะทำให้ท่านสบายที่สุด!"

"..."

แม้แต่สมาชิกเผ่าวิญญาณทองที่พูดจาหยาบคายเมื่อครู่ ตอนนี้ก็ยังหน้าด้านวิ่งมาหาชูหยุนเซิง ทั้งอายทั้งคาดหวังมองเขา:

"ท่านเทพชู มาจับทีมกันเถอะครับ! ผมอยู่อันดับ 45 ในการจัดอันดับร้อยอันดับแรก!"

"ถ้าเราร่วมมือกัน นั่นก็คือการรวมพลังของผู้แข็งแกร่ง รับรองว่าต้องผ่านด่านแน่นอน!"

การทดสอบระดับนรก เมื่อผ่านด่านได้ จะมีการประกาศไปทั่วหอ นี่เป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่!

เมื่อได้รับชัยชนะ พวกเขากลับไปที่เผ่าและประเทศของตน ก็จะได้รับรางวัลมากมาย!

เช่นเดียวกัน ด่านระดับนรกนี้ รางวัลก็อุดมสมบูรณ์มาก!

อย่างเช่น คัมภีร์หัวใจพยัคฆ์ขาวคำรามจันทรา และหมัดพยัคฆ์ขาวทำลายกองทัพ แม้พวกเขาจะฝึกฝนไม่ได้ แต่ถ้านำไปมอบให้ประเทศ หรือขายให้สมาคมการค้า ก็จะได้รับทรัพย์สมบัติมหาศาล!

นี่เป็นคัมภีร์ของราชวงศ์สี่เซียน มีมูลค่าสูงมาก รวยข้ามคืนกันเลยทีเดียว!

ชูหยุนเซิงมองฝูงชนที่เข้ามาล้อมรอบไม่หยุด มุมปากเหยียดยิ้มเย็นชา

ชูหยุนเซิงมองไปที่สมาชิกเผ่าวิญญาณทองก่อน: "เมื่อกี้ท่านไม่ได้ด่าว่าข้าโง่เขลา บอกว่าข้าทำลายอนาคตตัวเองหรอกหรือ? บอกว่าวันหน้าต้องเหยียบข้าไว้ใต้ฝ่าเท้าไม่ใช่หรือ? แล้วตอนนี้ยังจะมาขอร่วมทีมกับข้าอีก?"

สมาชิกเผ่าวิญญาณทองหน้าแดงด้วยความอับอาย แต่ก็ยังหน้าด้านพูดว่า: "ท่านเทพชู ขอโทษครับ! ผมมันตาถั่วมองคนผิด เป็นความผิดของผมเอง ผมขอชดใช้ให้ท่าน ได้โปรดจับทีมกับผมเถอะครับ!"

พูดจบ สมาชิกเผ่าวิญญาณทองก็กัดฟันคิดครู่หนึ่ง แล้วตบหน้าตัวเองอย่างแรงต่อหน้าชูหยุนเซิง!

ตบจริงๆ!

เสียงดังสนั่น ทุกคนในที่นั้นได้ยินชัดเจน!

การกระทำแบบนี้... ทำเอาชูหยุนเซิงงงไปเลย!

ไม่นะ พี่ชาย กระดูกสันหลังอ่อนขนาดนี้เลยหรือ?

ชูหยุนเซิงหันไปมองเผ่ามดวิญญาณข้างๆ คราวนี้ไม่ต้องรอให้ชูหยุนเซิงพูด หนูตัวนี้ก็ตบหน้าตัวเองทันที ซ้ายขวาสลับกันตบ เสียงดังสนั่น ใบหน้าที่เจ้าเล่ห์แบบหนูก็บวมขึ้นทันที!

เผ่ามดวิญญาณทั้งตบทั้งด่าตัวเอง: "ท่านเทพชู ขอโทษครับ ทั้งหมดเป็นความผิดของผม!"

"ผมมันไม่มีปัญญา ผมมันควรส่องกระจกดูตัวเองบ้าง!"

"ได้โปรดจับทีมกับผมเถอะครับ ผมยอมเป็นวัวเป็นม้ารับใช้ท่าน!"

สมาชิกเผ่าวิญญาณทองที่อยู่ข้างๆ: "..."

พี่ชาย ทำแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกแย่นะ ได้ไหม?

คนอื่นๆ รอบๆ โดยเฉพาะ "ผู้อาวุโส" ที่เพิ่งเยาะเย้ยชูหยุนเซิงเมื่อครู่ ก็ตบหน้าตัวเองทันทีโดยไม่ต้องพูดอะไร!

ยิ่งไปกว่านั้น บางคนถึงกับคุกเข่าให้ชูหยุนเซิงทันที!

เมื่อคนหนึ่งคุกเข่า เผ่ามดวิญญาณและคนอื่นๆ ก็คุกเข่าตามทั้งหมด!

สมาชิกเผ่าวิญญาณทองลังเลครู่หนึ่ง แล้วก็คุกเข่าตามเช่นกัน!

ภาพนี้ช่างดูตลกสิ้นดี!

ชูหยุนเซิงมองคนเหล่านี้อย่างอ่อนใจ พวกเขาล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดาวเคราะห์ ปล่อยไว้บนดาวดวงไหนก็เป็นถึงราชาได้

แต่กลับมาไร้ยางอายต่อหน้าเขาถึงเพียงนี้ ถึงขั้นทำเรื่องคุกเข่าตบหน้าตัวเองได้!

ยอมแพ้แล้ว!

เขาก็พอจะเข้าใจแล้ว ในสายตาของคนพวกนี้ เมื่อเทียบกับพลังและความมั่งคั่งที่แท้จริงแล้ว หน้าตาเล็กน้อยนี้จะมีความหมายอะไร?

ถ้าการคุกเข่าทำให้แข็งแกร่งขึ้นได้ ทุกคนในที่นี้ก็พร้อมจะคุกเข่าให้ชูหยุนเซิงจนกว่าฟ้าดินจะมลาย!

...

...

ไม่สนใจพวกขี้ขลาดเหล่านี้ ชูหยุนเซิงเลือกเข้าไปในกระท่อมไม้หลังหนึ่ง จากนั้นก็หยิบม้วนคัมภีร์สองม้วนที่เพิ่งได้มาออกมา

เมื่อชูหยุนเซิงเพิ่งเปิดม้วนคัมภีร์ ทั้งสองม้วนก็เปลี่ยนเป็นลำแสง พุ่งเข้าสู่กลางหน้าผากของชูหยุนเซิงอย่างรวดเร็ว

วินาทีถัดมา สมองของชูหยุนเซิงก็พองตัว ในความคิดมีข้อมูลมากมายหลั่งไหลเข้ามา!

นี่คือวิธีเก็บรักษาม้วนคัมภีร์ของหอเชื่อมสวรรค์ เป็นม้วนคัมภีร์พลังจิตพิเศษ

ในฐานะคัมภีร์ระดับสูงสุดของกาแล็กซีทางช้างเผือก ไม่ว่าจะเป็นหัวใจสายฟ้าหรือดาบสายฟ้าเผาสวรรค์ คัมภีร์จะประกอบด้วยสามส่วน

หนึ่ง ภาพจินตนาการ

สอง แผนผังเส้นลมปราณ

สาม คาถาฝึกฝน

เนื่องจากเป็นม้วนคัมภีร์พลังจิต ดังนั้นในความคิดของชูหยุนเซิงจึงปรากฏภาพจินตนาการยักษ์เทพสายฟ้าที่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

การใช้วิธีม้วนคัมภีร์พลังจิตแบบนี้ หนึ่ง สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในการฝึกฝนของผู้ใช้ได้ เพราะภาพจินตนาการถูกประทับลงในความคิดโดยตรง

สอง ป้องกันผู้ฝึกฝนคัดลอกคัมภีร์โดยพลการ

ตัวอย่างเช่น ถ้าชูหยุนเซิงต้องการถ่ายทอดหัวใจสายฟ้าให้เย่ฉิงเทียน แผนผังเส้นลมปราณและคาถาฝึกฝนสองอย่างนี้ถ่ายทอดได้ง่าย แต่การถ่ายทอดภาพจินตนาการนั้นยากมาก

โดยเฉพาะตอนนี้ภาพจินตนาการในสมองชูหยุนเซิงนั้นทั้งสง่างามและน่าเกรงขาม แม้แต่การจดจ้องมองเพียงครั้งเดียวด้วยสมาธิเต็มที่ก็ยังรู้สึกมึนงง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการคัดลอกเลย

สาม เนื่องจากเป็นม้วนคัมภีร์พลังจิต ดังนั้นหนึ่งม้วนจึงอนุญาตให้เพียงหนึ่งคนฝึกฝนเท่านั้น

ตามที่ม้วนคัมภีร์หัวใจสายฟ้าระบุไว้ หัวใจสายฟ้าแบ่งเป็นสี่ระดับ

ระดับที่หนึ่งตรงกับขั้นดาวเคราะห์

ระดับที่สองขั้นดาวฤกษ์

ระดับที่สามขั้นจักรวาล

ระดับที่สี่ขั้นเขตแดน

เมื่อชูหยุนเซิงฝึกฝนถึงขั้นเขตแดน และควบคุมพลังของภาพจินตนาการได้อย่างสมบูรณ์ จึงจะสามารถคัดลอกและถ่ายทอดได้

กล่าวคือ หากชูหยุนเซิงต้องการถ่ายทอดคัมภีร์นี้ให้ผู้อื่น อย่างน้อยเขาต้องฝึกฝนถึงขั้นเขตแดนก่อน!

แต่พูดอีกนัยหนึ่ง เมื่อชูหยุนเซิงฝึกฝนถึงขั้นเขตแดน ใครในทั่วทั้งเขตแดนจะสามารถขัดขวางการถ่ายทอดคัมภีร์ของเขาได้?

"ทุกขั้นตอนล้วนถูกคำนวณไว้หมดแล้ว" ชูหยุนเซิงยิ้มขื่น ส่ายหน้า

แต่การทำเช่นนี้ก็ถูกต้อง

หากคัมภีร์สามารถถ่ายทอดกันได้อย่างอิสระ แพร่หลายไปทั่ว แล้วใครจะมาที่หอเชื่อมสวรรค์เพื่อเสี่ยงชีวิตทดสอบอีกเล่า?

ไม่คิดเรื่องเหล่านี้อีก ชูหยุนเซิงเริ่มฝึกฝนคัมภีร์ทั้งสองอย่างจริงจัง

เพื่อให้ได้ความก้าวหน้าโดยเร็ว จากนั้นจะได้ช่วยเย่ฉิงเทียนผ่านด่าน แล้วไปยังชั้นที่สองของหอเชื่อมสวรรค์ด้วยกัน

หัวใจสายฟ้า

เน้นการผสานพลังจิตภายในกับพลังสวรรค์และพิภพ รวมถึงเจตจำนงสายฟ้า ผ่านการนั่งสมาธิเพื่อติดต่อกับพลังสวรรค์และพิภพ และสายฟ้า เพิ่มพูนความสามารถของจิตใจในการรับรู้และควบคุมพลังสวรรค์และพิภพ รวมถึงสายฟ้า

หัวใจสายฟ้าทั้งสี่ระดับ ทุกครั้งที่ฝึกฝนสำเร็จหนึ่งระดับ ความเร็วในการดูดซึมและแปรเปลี่ยนพลังวิญญาณจะเปลี่ยนแปลงอย่างมีคุณภาพ!

ดาบสายฟ้าเผาสวรรค์

วิชาการต่อสู้ที่ผสานความเชี่ยวชาญของสายฟ้า ไฟ และดาบเข้าด้วยกัน

วิชาดาบนี้รวมความดุดันของพลังสายฟ้า ความเร่าร้อนของเปลวไฟ และความคมกล้าของดาบเข้าด้วยกัน แสดงถึงความยิ่งใหญ่ที่สามารถทำลายสวรรค์และพิภพ

วิชาดาบนี้มีเจ็ดท่า:

ท่าที่หนึ่ง: สายฟ้าเพลิงแฝง

ปลายดาบพลิ้วไหว ดึงดูดสายฟ้าและเปลวไฟ รวมเป็นหนึ่งในทันที ก่อตัวเป็นคมสายฟ้าเพลิงอันดุดัน แทงทะลุศัตรูอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายครั้งแรก และทิ้งเปลวไฟเดือดพล่านไว้สร้างความเสียหายครั้งที่สอง

ท่าที่สอง: บ่อสายฟ้าเพลิงร้อน

เหยียบพื้นพิภพ ใช้ดาบเป็นสื่อ ถักทอสายฟ้าและธาตุไฟ สร้างบ่อสายฟ้าเพลิงใต้เท้า ผู้ใดก้าวเข้ามาจะถูกไฟฟ้าช็อตและเผาไหม้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจำกัดการเคลื่อนไหว

ท่าที่สาม: พายุมังกรสายฟ้าเพลิง

หมุนดาบเป็นวง สายฟ้าและเปลวไฟพันเกี่ยวถักทอ ก่อตัวเป็นพายุหมุนดุจมังกร กวาดผ่านสนามรบ ทุกที่ที่ผ่านไป ทุกสิ่งกลายเป็นเถ้าถ่าน พร้อมทั้งนำพาพลังแห่งความวุ่นวายและการทำลายล้าง

ท่าที่สี่: สายฟ้าร้อนทำลายเกราะ

รวบรวมพลังสายฟ้าเพลิงทั่วร่างสู่ใบดาบ หนึ่งฟันสายฟ้าฉีกเกราะศัตรู เปลวไฟแทรกซึมตาม โจมตีทั้งในและนอก ทำให้การป้องกันไร้ความหมาย

ท่าที่ห้า: อุกกาบาตเพลิงสวรรค์

ชูดาบชี้ฟ้า เรียกก้อนสายฟ้าเพลิงจากนอกสวรรค์ทั้งเก้า มาพร้อมเสียงสายฟ้าคำรามและเปลวไฟแผดเผา ตกลงมาดุจดาวตก สร้างความเสียหายจากการระเบิดอันมหาศาลในพื้นที่เป้าหมาย

ท่าที่หก: ระบำมังกรสายฟ้าเพลิง

ร่างกลายเป็นมังกรคู่แห่งสายฟ้าและไฟ เงาดาบและเงามังกรสะท้อนประกายซึ่งกันและกัน เคลื่อนไหวด้วยวิถีที่คาดเดาได้ยากระหว่างเหล่าศัตรู ทุกครั้งที่ปะทะมาพร้อมเสียงระเบิดของสายฟ้าและการปะทุของเปลวไฟ

ท่าที่เจ็ด: วิชาสุดยอด-สายฟ้าเผาสวรรค์・ฟันลงทัณฑ์เทพเจ้า

รวมพลังสายฟ้าเพลิงแห่งสวรรค์และพิภพไว้ในร่าง ทั่วร่างถูกห้อมล้อมด้วยสายฟ้าเพลิง ราวกับเทพเจ้าเสด็จลงมา หนึ่งดาบฟัน สวรรค์และพิภพแปรผัน สายฟ้าและเปลวไฟรวมตัวเป็นดาบเทพสายฟ้าเพลิงขนาดมหึมา ฟันลงมาจากขอบฟ้า ไม่เพียงตัดขาดวัตถุทั้งมวล แต่ยังทำลายเจตจำนงของศัตรู เป็นการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถพลิกสถานการณ์สงคราม!

(จบบท)