บทที่ 121 เลเวล 13
บทที่ 121 เลเวล 13
หลังจากนัดแนะสถานที่พบเจอกันเรียบร้อยแล้ว ลู่หยางก็เดินไปข้างกำแพงเมืองเพียงลำพัง ก่อนที่เขาจะใช้เชือกที่ได้มาจากคนเลี้ยงม้าในก่อนหน้านี้เพื่อเหวี่ยงขึ้นไปคล้องกำแพงและปีนขึ้นไป
บนกำแพงไม่มีทหารยามคอยเฝ้าอยู่ ซึ่งมันเป็นสัญลักษณ์ว่าเซคคัลเวิลด์ให้ความอิสระกับผู้เล่นสูงมาก และมันก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นจะปรับใช้สภาพแวดล้อมเหล่านี้ยังไงให้มีความเหมาะสมกับตัวเอง
ลู่หยางพากบพิษขึ้นไปที่กำแพงเมืองทีละตัว จากนั้นเขาก็พาพวกมันปีนลงมาอีกฝั่งของกำแพง ในตอนนี้เองที่เสี่ยวเหลียงกับสามพี่น้องเพิ่งเดินทางมาจนถึงจุดนัดพบ
“ลูกพี่ทำไมมาเร็วจัง?” เสี่ยวเหลียงถามอย่างประหลาดใจ
“เพราะฉันเก่งไงล่ะ พวกเรากลับเมืองซาโรสกันเถอะ หลังจากมีกบพิษ 6 ตัวนี่พวกเราก็น่าจะฆ่ามอนสเตอร์ได้เร็วขึ้นเยอะ” ลู่หยางกล่าวอย่างภาคภูมิใจในทักษะของตัวเอง
เสี่ยวเหลียงกับสามพี่น้องต่างก็พยักหน้ารับพร้อมกัน
ไม่นานทั้งห้าก็กลับมามายังเมืองซาโรสอีกครั้ง ลู่หยางจึงไปซื้อไอเท็มบางอย่างก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในสุสานลับ
ตอนนี้ใต้แท่นสูงมีซอมบี้รวมตัวกันอยู่ไม่น้อย เสี่ยวเหลียงจึงเดินไปข้างหน้ายกโล่ขึ้นมาตามหน้าที่ ขณะที่ฮั่นอิ่งก็ได้อัญเชิญหมานรกสามหัวออกมาด้วยเช่นกัน
ในเวลาเดียวกันลู่หยางก็ได้ใช้สกิลไฟร์วอลล์ ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานพื้นที่ด้านล่างก็กลายเป็นทะเลเพลิง
ฮั่นอวี่ทำหน้าที่ใช้สกิลยิงกระจายเพื่อดึงดูดซอมบี้ ทำให้ซอมบี้มากกว่า 30 ตัวเริ่มเดินมาทางพวกเขา
เมื่อเข้ามาในระยะ 10 เมตรจากเสี่ยวเหลียง พวกมันก็เข้าสู่ขอบเขตทะเลเพลิง แต่กว่าที่ซอมบี้จะเข้ามาโจมตีเด็กหนุ่มได้สำเร็จ ร่างของพวกมันก็ล้มลงไปเสียชีวิตเสียก่อน
ระบบ: คุณได้รับค่าประสบการณ์ 119 หน่วย
…
หลังจากได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ 30 ครั้งต่อ ๆ กันลู่หยางก็พูดขึ้นมาว่า
“มอนสเตอร์ในชั้นแรกกับชั้น 2 เหลือไม่เยอะแล้ว ถึงจะให้ฮั่นเฟยไปล่อพวกมันมาก็คงจะช้าเกินไป วันนี้พวกเราลงไปชั้นที่ 3 กันดีกว่า”
หลังจากพวกซอมบี้ฟื้นคืนชีพ 2 ครั้ง พวกลู่หยางก็ทำการเก็บไอเท็มและเดินลึกเข้าไปในสุสานต่อ หลังจากเวลาผ่านพ้นไปได้ไม่นานพวกเขาก็มาถึงทางเข้าของชั้น 3 โดยปลอดภัย
“พี่ลู่หยางข้างล่างมีซอมบี้เยอะมากเลย แถมมันยังมีหมาซอมบี้อยู่อีกหลายตัว หน้าตาพวกมันดูน่ากลัวมาก” ฮั่นเฟยกล่าวหลังจากชะโงกหน้าเข้าไปสำรวจพื้นที่ชั้นที่ 3
หมาซอมบี้
เลเวล 20
พลังชีวิต 2,567/2,567
“พวกหมาซอมบี้ค่อนข้างจะรับมือยากพอสมควร พวกมันทั้งรวดเร็ว, โจมตีก็แรงแถมยังทำให้ติดพิษได้ด้วย ถ้าเราไม่ระวังก็อาจจะถูกพวกมันฆ่าจนตายได้” ลู่หยางกล่าว
“ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับ” เสี่ยวเหลียงกล่าว
“นายรับมือพวกมันไม่ไหวหรอก เดี๋ยวฉันจะลงไปก่อน ข้างล่างมีแท่นสูงเหมือนกับชั้นแรกและบันไดขึ้นมาบนแท่นก็มากพอที่จะรองรับคนเดินได้แค่สองคน นายรอให้ฉันฆ่าหมาซอมบี้ไปตัวหนึ่งก่อนแล้วค่อยกระโดดตามลงไป หลังเสี่ยวเหลียงไปยืนขวางบันได ฮั่นอิ่งค่อยกระโดดตามลงมา”
“เมื่อหมาสามหัวของฮั่นอิ่งไปยืนข้าง ๆ เสี่ยวเหลียงแล้ว รอให้พวกเราฆ่าหมาซอมบี้อีกสองตัวแล้วฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่ค่อยอุ้มกบพิษกระโดดตามลงมา”
“ครับ/ค่ะ” ทุกคนต่างก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
หลังจากสั่งการเรียบร้อยแล้ว ลู่หยางก็มองดูสถานการณ์ทางด้านล่าง ก่อนที่เขาจะกระโดดลงไปเป็นคนแรก
ร่างของนักเวทหนุ่มยังไม่ทันตกลงถึงแท่นสูง หมาซอมบี้ทั้งสองตัวนั้นก็เห็นลู่หยางอย่างรวดเร็ว พวกมันจึงส่งเสียงเห่าเบา ๆ ก่อนที่จะวิ่งกระโจนเข้ามาอย่างฉับพลัน
หมาซอมบี้วิ่งได้เร็วมาก กว่าที่ร่างของลู่หยางจะลงถึงพื้นหมาซอมบี้ทั้งสองตัวก็อยู่ห่างจากเขาเพียงแค่ไม่ถึง 3 เมตร ส่วนด้านล่างของบันไดก็เต็มไปด้วยซอมบี้หลายร้อยตัวจนทำให้ลู่หยางไม่สามารถใช้สกิลแฟลชหลบหนีได้เลย
ชายหนุ่มเริ่มท่องคาถาและในจังหวะที่หมาซอมบี้วิ่งมาถึงตรงหน้า มันก็มีพายุเพลิงพัดออกมาอย่างรุนแรง
เฟลมสตอร์ม!
หมาซอมบี้ทั้งสองตัวถูกพายุเพลิงโจมตีในทันที และทำให้พวกมันติดสถานะสตั๊นเป็นเวลา 2 วินาที
เบลซซิงเบิร์ส!
นกเพลิงตัวหนึ่งพุ่งลงมาจากเหนือศีรษะของลู่หยางเข้าปะทะกับหมาซอมบี้ทั้งสองตัว
ระหว่างนั้นลู่หยางก็ทำการปล่อยเบลซซิงเบิร์สออกมาติด ๆ กันเพื่อโจมตีหมาซอมบี้อย่างต่อเนื่อง หลังเวลาผ่านไปจนครบ 2 วินาทีหมาซอมบี้ตัวหนึ่งก็ถูกลู่หยางสังหารได้สำเร็จ
หมาซอมบี้อีกตัวกำลังจะกระโจนเข้าใส่ลู่หยาง แต่ชายหนุ่มก็ได้ยื่นมือซ้ายออกไปเล็งเข้าใส่หัวของหมาด้านหน้า
เฟลมอิมแพค!
เหนือศีรษะหมาซอมบี้ปรากฏสัญลักษณ์ติดสตั๊นอีกครั้งพร้อมกับร่างของมันที่หยุดค้างไปอีก 2 วินาที
ตอนนี้ซอมบี้ตัวอื่นสังเกตเห็นลู่หยางแล้ว พวกมันจึงเริ่มกรูกันมาทางนี้
“ลูกพี่ ผมมาแล้ว!” เสี่ยวเหลียงกล่าวขณะกระโดดลงมาถึงพื้น ก่อนที่เขาจะเดินไปที่บันไดและยกโล่ขวางบันไดเอาไว้
ต่อมาสามพี่น้องก็ทยอยกระโดดลงมาเช่นกัน พื้นที่ตรงบันไดจึงถูกเสี่ยวเหลียงกับหมานรกสามหัวปิดผนึกเอาไว้โดยสมบูรณ์ ท้ายที่สุดหากพวกซอมบี้ไม่จัดการเสี่ยวเหลียงหรือหมานรกสามหัว พวกมันก็ไม่มีทางเข้ามาจนถึงตัวลู่หยางได้ นักเวทหนุ่มจึงเริ่มร่ายคาถาไฟร์วอลล์ ขณะที่ฮั่นอวี่เปิดโหมดอิสระใช้สกิลยิงกระจายเพื่อโจมตีซอมบี้ในระยะ 60 เมตร
กบพิษทั้งหกตัวก็พ่นพิษช่วยโจมตีด้วยเช่นกัน ทำให้ซอมบี้หลาย ๆ ตัวที่ยังไม่ทันเดินมาถึงทะเลเพลิงก็เสียพลังชีวิตไปแล้วกว่า 20%
…
หลังเวลาผ่านไป 10 นาทีซอมบี้กว่า 300 ตัวก็ถูกสังหารและในเวลานั้นร่างของลู่หยางก็เป็นประกายแสงสีทอง
ระบบ: คุณเลเวล 13 แล้ว
เสี่ยวเหลียงกับสามพี่น้องต่างก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างยินดี
“พี่ลู่หยางเลเวลอัปแล้ว” ฮั่นเฟยกล่าว
“การเก็บเลเวลมันไม่ใช่เรื่องง่ายจริง ๆ ในที่สุดฉันก็เลเวล 13 สักที พวกเรามาพยายามกันต่อเถอะ วันนี้ฉันอยากจะให้ทุกคนเพิ่มเลเวลจนถึง 11” ลู่หยางกล่าว
—
ซุนหยูและพวกฉิงชางเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเร่งเก็บเลเวล แต่ในระหว่างที่พวกเขานั่งพักเพื่อฟื้นฟูความเหนื่อยล้า เหมาชิวก็เปิดดูตารางจัดอันดับเลเวลแก้เบื่อและได้สังเกตเห็นเลเวลของลู่หยางเพิ่มขึ้นจากเลเวล 12 เป็น 13 พอดี
“อาจารย์เขาเลเวล 13 แล้ว!” เหมาชิวอุทานอย่างตกใจ
“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?!”
“หัวหน้าของฉันนี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ” ซุนหยูกล่าวอย่างดีใจ
พวกฉิงชางต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย และในตอนนี้ทุกคนต่างก็มั่นใจในตัวของลู่หยางมากยิ่งขึ้น
—
ทางด้านเซี่ยหยู่เว่ยก็กำลังพาผู้เล่นฝีมือดีที่เพิ่งรับสมัครเข้ามาในกิลด์ไปล่ามอนสเตอร์ แต่ทันใดนั้นจางจื่อโป๋ก็ได้อุทานขึ้นมาซะก่อน
“ลู่หยางเลเวล 13 แล้ว!”
“อะไรนะ?! เป็นไปได้ยังไง!!” เจิ้งหยวนอุทานด้วยความอิจฉา เพราะในตอนนี้เขาเพิ่งมีเลเวล 7 เท่านั้นเอง
ทุกคนรู้ดีว่าการเก็บเลเวลในเซคคัลเวิลด์เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากแค่ไหน การที่ลู่หยางมีความเร็วในการเก็บเลเวลสูงกว่าพวกเขาทั้ง ๆ ที่มีเลเวลเกินเลเวล 10 ขึ้นไปแล้วมันจึงเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถจะจินตนาการถึง
หลานอวี่เหลือบมองไปทางเซี่ยหยู่เว่ยและถึงแม้สีหน้าของหญิงสาวคนนี้จะยังคงเรียบเฉย แต่ในแววตาของเธอกลับมีความผิดปกติอย่างชัดเจน หลานอวี่จึงทำได้เพียงแต่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เพราะเธอรู้ว่าครั้งนี้เซี่ยหยู่เว่ยทำให้ลู่หยางไม่พอใจขึ้นมาจริง ๆ และตอนนี้พวกเธอก็กำลังรับผลกรรมในการกระทำก่อนหน้านี้ของตัวเองอยู่
จุดล่ามอนสเตอร์เลเวล 5 ที่พวกเธอเคยเก็บเลเวลในก่อนหน้านี้ถูกกิลด์อื่นแย่งชิงไปเรียบร้อยแล้ว และเนื่องมาจากกิลด์ของพวกเธอยังเล็กเกินไปจนทำให้ไม่สามารถแย่งชิงจุดเก็บเลเวลกลับมาได้ หลานอวี่จึงมีความคิดที่จะขอความช่วยเหลือจากลู่หยางอีกครั้ง แต่เมื่อเธอเห็นเจิ้งหยวนจู่ ๆ เธอก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ
เจิ้งหยวนปากเก่งใส่ขนาดนั้น ดูแลตัวเองยาว ๆ จ้า