บทที่ 119 สอนวิธีปรุงยา
บทที่ 119 สอนวิธีปรุงยา
“คุณเป็นใคร? จู่ ๆ ทำไมถึงมาพูดเรื่องนี้กับฉัน” ลิ่นเซี่ยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ สิ่งที่ฉันต้องการจะบอกเธอคือจางจื้อมีผู้หญิงคนอื่น” ลู่หยางกล่าว
“คุณ... คุณกำลังพูดเรื่องอะไร?!” ลิ่นเซี่ยเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“จางจื้อมีผู้หญิงอีกคนที่บ้านเกิด เขาเคยสัญญากับผู้หญิงคนนั้นว่าจะแต่งงานด้วย เธอชื่อว่าหวางเจียว แต่จางจื้อยังมีแฟนอีกสองคน คนหนึ่งมีอะไรกับเขาแล้วส่วนอีกคนก็ใกล้ที่จะถูกเขาหลอกล่อขึ้นเตียง”
หลังจากพูดมาถึงตรงนี้ลู่หยางก็หยุดดูสีหน้าของลิ่นเซี่ย เท่าที่เขาจำได้อีกฝ่ายเป็นคนที่ให้ความสำคัญในเรื่องความรักมาก แล้วถ้าหากว่าในชาติก่อนเธอกับจางจื้อไม่ได้มีลูกด้วยกัน เธอก็คงจะหย่ากับอีกฝ่ายไปตั้งนานแล้ว
สาเหตุที่ลู่หยางรู้เรื่องจางจื้อเยอะขนาดนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตัวลิ่นเซี่ยมาเล่าให้เขาฟัง อีกส่วนหนึ่งก็เพราะหวางเจียวเคยไปอาละวาดที่บ้านของจางจื้อถึงขั้นทำร้ายร่างกายของลิ่นเซี่ย เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดโปงออกมามันก็กลายเป็นเรื่องฉาวขนาดใหญ่ในวงการเกม
ลิ่นเซี่ยมองลู่หยางอย่างสับสน ก่อนที่เธอจะถามว่า
“คุณพูดจริงเหรอ?”
“ฉันถึงกับพูดชื่อออกไปขนาดนั้นแล้วฉันจะโกหกเธอไปทำไม” ลู่หยางตอบ
ลิ่นเซี่ยรู้สึกโกรธภายในใจ เพราะจางจื้อกำลังจีบเธออยู่จริง ๆ และเธอก็กำลังมีความคิดที่จะคบหาดูใจกับอีกฝ่ายด้วย แต่ถ้าหากจางจื้อเป็นคนเจ้าชู้แบบนี้เธอก็ไม่มีวันจะเลือกคบกับเขาอย่างเด็ดขาด
“ขอบคุณที่บอก เดี๋ยวฉันจะลองไปตรวจสอบเรื่องนี้ดู” ลิ่นเซี่ยกล่าวก่อนจะหันหลังเดินจากไป
“เดี๋ยวก่อน” ลู่หยางพูดขัด
“มีอะไรอีกงั้นเหรอ?” ลิ่นเซี่ยถาม
“เรื่องความรักอย่าตัดสินใจง่าย ๆ เด็ดขาด บางคนเป็นพวกปากหวานก้นเปรี้ยว บางคนเป็นพวกพูดไม่เก่งแต่รักเดียวใจเดียว หากคุณต้องการความรักที่มั่นคง คุณก็ลองมองหาคนใกล้ ๆ ตัวของคุณดู บางทีคนที่ดูไม่ได้เรื่องในตอนนี้อาจจะมีอนาคตที่ดีให้กับคุณก็ได้” ลู่หยางกล่าว
ลิ่นเซี่ยมองลู่หยางอย่างสับสนเพราะเธอไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร เมื่อลู่หยางเห็นว่าเด็กสาวกำลังสับสนเขาก็ทำได้เพียงแต่เผยรอยยิ้มออกมาอย่างลึกลับเท่านั้น
คำพูดนี้คือคำพูดที่ลิ่นเซี่ยเคยพูดกับเขาในชาติก่อน แต่ตอนนั้นมันกลับเป็นคำพูดถากถางตัวเองและพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความเสียใจ
“อีกอย่างผู้หญิงก็ควรจะมีอาชีพเป็นของตัวเอง เท่าที่ฉันได้ยินมาคุณอยากจะเป็นสตรีมเมอร์ใช่ไหม?” ลู่หยางกล่าว
“ใช่” ลิ่นเซี่ยพยักหน้าตอบ
ลู่หยางส่งคำขอเป็นเพื่อนให้ลิ่นเซี่ย ก่อนจะพูดว่า
“บางทีสักวันคุณอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากฉัน ในตอนนั้นคุณขอความช่วยเหลือมาได้ตลอดเวลาไม่จำเป็นจะต้องเกรงใจ”
เมื่อลิ่นเซี่ยเห็นชื่อของลู่หยาง ดวงตาของเธอก็เป็นประกายไปด้วยความตื่นเต้น
“คุณ... คุณคือ…”
ลู่หยางเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะริมฝีปาก
“พวกเรากลับกันเถอะ ไม่งั้นจางจื้อจะมาตามเธอกลับไปแล้ว”
ตัวตนของลู่หยางค่อนข้างที่จะพิเศษ เพราะทั้งบลัดไทแรนท์และแบล็คบลัดต่างก็ตั้งรางวัลค่าหัวเขาเอาไว้ หากตัวตนของเขาถูกเปิดเผยออกไปมันย่อมตามมาด้วยปัญหาอีกมากมาย
“ขอบคุณค่ะ ถ้าถึงเวลาอย่าปฏิเสธคำขอของฉันนะ” ลิ่นเซี่ยกล่าวอย่างตื่นเต้น
“อือ” ลู่หยางพยักหน้าก่อนจะพาลิ่นเซี่ยกลับไปยังตำแหน่งเดิม
อีกด้านหนึ่งจินปู้ฮวนก็กำลังทะเลาะอยู่กับจางจื้อ ท้ายสุดเมื่อมีลู่หยางเป็นที่พึ่งเขาก็ไม่กลัวอีกฝ่ายอีกต่อไป ทั้งสองฝ่ายจึงสลับกันด่าทอกันไปมา แต่เมื่อได้เห็นลู่หยางกับลิ่นเซี่ยกลับมาทั้งสองฝ่ายจึงหยุดโต้เถียงกันไป
“เขาพูดอะไรกับเธอ?” จางจื้อมองลิ่นเซี่ยด้วยความกังวล
ลิ่นเซี่ยไม่ใช่คนโง่และเธอก็ไม่มีทางพูดเปิดโปงเรื่องที่ลู่หยางพูดมาโดยไม่มีหลักฐาน
“ไม่มีอะไรหรอกก็แค่พูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย”
“เราไปกันเถอะ ยังมีงานให้ต้องทำอีกเยอะ” ลู่หยางหันไปพูดกับจินปู้ฮวน
จินปู้ฮวนพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามลู่หยางเข้าไปในร้านค้าประมูล จากนั้นพวกเขาก็ทำการซื้อสมุนไพรเป็นจำนวนมากแล้วทำการขนพวกมันไปยังสมาคมนักปรุงยา
เมื่อลู่หยางเห็นจินปู้ฮวนคุ้นเคยกับวิธีการปรุงยาแล้วเขาจึงพูดว่า
“ฉันขอตัวไปเก็บเลเวลก่อน นายฝึกฝนอยู่ที่นี่ไปเรื่อย ๆ นะ จำเอาไว้ว่าอย่ารีบร้อน พรุ่งนี้ฉันจะมาหาใหม่ถ้าสมุนไพรไม่พอก็ให้เอาเงินพวกนี้ไปซื้อ”
“ได้ครับ” จินปู้ฮวนกล่าวพร้อมพยักหน้ารับ
ลู่หยางเดินทางออกจากสมาคมนักปรุงยาก่อนที่จะทำการเทเลพอร์ตไปยังวิหารเทพอสูร จากนั้นเขาก็เดินทางกลับไปยังเมืองซาโรส ก่อนจะวิ่งตรงไปยังสุสานลับเพื่อไปสมทบกับพวกเสี่ยวเหลียง
การเดินทางกลับเมืองเซนต์กอลล์ในก่อนหน้านี้ทำให้เขาได้รับผลตอบแทนกลับมาอย่างมหาศาล เพราะไม่เพียงแต่เขาจะซื้อที่ดินได้เท่านั้นแต่เขายังได้รับจักรพรรดินักปรุงยามาเป็นลูกน้องอีกด้วย เหตุการณ์นี้จึงทำให้ชายหนุ่มมีความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับลิ่วเจียในอนาคตมากยิ่งขึ้น
“อยู่ไหน? ฉันกำลังไปหา” ลู่หยางส่งข้อความหาเสี่ยวเหลียง
“ลูกพี่ ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ที่สะพานเหล็กครับ” เสี่ยวเหลียงตอบ
“แป๊บนึงเดี๋ยวฉันไป” ลู่หยางกระโดดลงไปในสุสานลับ ก่อนที่เขาจะสังหารมอนสเตอร์ไปตามทางจนกระทั่งได้พบเสี่ยวเหลียงและพี่น้องทั้งสามในที่สุด
ตอนนี้หมานรกสามหัวของฮั่นอิ่งกับเสี่ยวเหลียงกำลังยืนขวางอยู่บนสะพาน โดยตรงหน้ามีซอมบี้อยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ฮั่นอิ่งกำลังใช้อาซันนิสท์สตาฟเพื่อสร้างกำแพงไฟ
เห็นได้ชัดว่าทุกคนเผชิญหน้ากับซอมบี้ได้อย่างคล่องแคล่วมากกว่าเดิม นอกจากนี้อุปกรณ์ของเสี่ยวเหลียงยังได้รับการอัปเกรดเพิ่มขึ้นจากเดิมด้วย
“พี่ลู่หยางมาแล้ว!” ฮั่นอิ่งโบกมือเรียกด้วยความดีใจหลังจากที่ได้เห็นลู่หยางเดินเข้ามา
เสี่ยวเหลียง, ฮั่นเฟยและฮั่นอวี่ต่างก็รีบโบกมือทักทายด้วยเช่นกัน
ลู่หยางเผยรอยยิ้มเล็กน้อยขณะที่ภายในปากยังคงท่องคาถา ก่อนที่เขาจะสั่งการเรียกนกเพลิงบินทะยานไปตรงหน้า
เฟลมเบิร์ด!
ตูม!
ซอมบี้กว่า 10 ตัวด้านหน้าเสี่ยวเหลียงถูกโจมตีอย่างรุนแรงจนทำให้เหลือพลังชีวิตเพียงแค่นิดเดียว แต่ก่อนที่พวกมันจะทันได้เปลี่ยนเป้าหมาย จู่ ๆ มันก็ได้มีพายุเพลิงขนาดใหญ่ห่อหุ้มร่างกายของพวกมันเอาไว้เสียก่อน
เฟลมสตอร์ม!
หลังจากโจมตีอีกสองครั้งติดต่อกันซอมบี้ในส่วนที่เหลือก็ถูกสังหารลงไปทั้งหมด
ระบบ: คุณได้รับค่าประสบการณ์ 119 แต้ม
ระบบ: คุณได้รับค่าประสบการณ์ 119 แต้ม
…
ลู่หยางเดินไปหาเสี่ยวเหลียงและสามพี่น้องก่อนจะพูดว่า
“ไม่เลวเลยนี่ ฉันเพิ่งไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่ทุกคนดูเก่งขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย”
“พี่ลู่หยาง ผมเก่งไหม ผมเป็นคนล่อมอนสเตอร์พวกนั้นมาจนหมดเลย” ฮั่นเฟยกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ลู่หยางตบไหล่เด็กหนุ่มพร้อมกับพูดว่า
“เก่งมาก”
เมื่อได้รับคำชมฮั่นเฟยก็ยิ้มอย่างภูมิใจมากยิ่งขึ้น
“พี่ลู่หยาง พี่พอจะมีวิธีพัฒนาตัวเองบ้างไหม? ผมรู้สึกว่าตอนนี้ผมแทบจะช่วยอะไรไม่ได้เลย” ฮั่นอวี่กล่าวอย่างหดหู่
ฮั่นอวี่เป็นนักธนูและในตอนนี้เขายังไม่มีธนูดี ๆ ให้ใช้งานและยังไม่มีสัตว์เลี้ยงดี ๆ ที่คอยช่วยเหลือด้วย
“พวกนายได้หนังสือสกิลเบสิกคอนโทรลมาแล้วหรือยัง?” ลู่หยางถาม
“ได้มาแล้วครับและผมก็เรียนรู้มันไปแล้ว” ฮั่นอวี่ตอบ
“เอาล่ะทุกคน พวกเราจะไปจับสัตว์เลี้ยงให้ฮั่นอวี่กัน” ลู่หยางกล่าว
“พี่ลู่หยาง มันเก่งหรือเปล่า?” ฮั่นอวี่ถามอย่างตื่นเต้น
“เก่งสิ มันเป็นสัตว์ที่พิเศษมาก ฉันคิดว่านายจะต้องชอบมันแน่ ๆ” ลู่หยางตอบ
“เยี่ยมไปเลย! ในที่สุดผมก็จะมีสัตว์เลี้ยงเหมือนกับคนอื่นบ้างแล้ว” ฮั่นอวี่กล่าว
อย่างไรก็ตามคำพูดนี้กลับทำให้เสี่ยวเหลียงสังหรณ์ใจไม่ดีอยู่เล็กน้อย เพราะโดยปกติเมื่อลู่หยางมีท่าทางแบบนี้มันก็มักจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก
สัตว์เลี้ยงตัวนี้จะเลเวลเท่าไหร่กันนะ? 5555