ตอนที่ 73 พัฒนาค่ายกลรูปลิ่ม

เสียงเย็นชาของระบบดังขึ้น

"ต้องการใช้หนึ่งพันคะแนนเพื่ออัพเกรดค่ายกลรูปลิ่มระดับเทพหรือไม่?"

เฉินฉงพยักหน้าเล็กน้อย

"ติ๊ง! อัพเกรดสำเร็จ ค่ายกลรูปลิ่มระดับเทพได้รับการอัพเกรดจาก ระดับ1 เป็นระดับ2 แล้ว!"

ในขณะเดียวกัน ข้อมูลค่ายกลรูปลิ่มระดับเทพใหม่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเฉินฉง

[ค่ายกลรูปลิ่มระดับเทพ (ระดับ2)]

[ใช้ได้กับ: ทหารม้า]

[รัศมี 1: ความทรหด: ความสามารถในการต้านทานการโจมตีเพิ่มขึ้นสามเท่า และสามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้โดยอัตโนมัติ!]

[รัศมี 2: ความเร็วสูงสุด: เมื่อม้าพุ่งชน ความเร็วจะเพิ่มขึ้นสิบเท่า!]

[รัศมี 3: การทำลายล้าง: สามารถทำลายสิ่งกีดขวาง เช่น เครื่องกีดขวาง และเพิ่มความเสียหายให้กับทหารหอกห้าเท่า!]

[รัศมี 4: การเหยียบย่ำ: การเหยียบย่ำของม้าสามารถทำให้ศัตรูในระยะหนึ่งมึนงงในระยะเวลาสั้นๆ!]

เช่นเดียวกับค่ายกลอื่นๆ หลังจากการอัพเกรด ผลของรัศมีเดิมได้รับการปรับปรุงอย่างมาก

การเพิ่มความต้านทานเป็นสองเท่าและความสามารถในการรักษาตัวเอง สามารถเพิ่มระยะเวลาการต่อสู้ของทหารม้า และลดการบาดเจ็บล้มตาย

ความเร็วเพิ่มขึ้นจากห้าเท่าเป็นสิบเท่า

นั่นหมายความว่าม้าของทหารม้าของเขาสามารถระเบิดความเร็วที่น่ากลัวเมื่อพุ่งชน

มันเร็วมากพอที่จะทำให้ม้าศึกอย่างเซ็กเธาว์ในตำนานละอายใจ!

ส่วนรัศมีที่สาม การทำลายล้าง คือการเพิ่มความสามารถของทหารม้าในการเพิกเฉยต่อข้อจำกัดของอาวุธและสิ่งกีดขวาง

ในขณะเดียวกัน ก็มีการเพิ่มรัศมีที่สี่ ผลการเหยียบย่ำ

นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพสำหรับทหารม้า

ลองนึกภาพว่ามันน่ากลัวแค่ไหน ที่จะมึนงงในสนามรบที่อันตราย

แม้เพียงชั่วครู่ ก็เพียงพอที่จะตัดสินชีวิตและความตาย!

สิ่งนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพในการสังหารของทหารม้าอย่างมาก!

เฉินฉงตื่นเต้นเล็กน้อย

หลังจากรวมทหารม้าปิงโจวแล้ว จำนวนทหารม้าเพลิงสายฟ้าสามารถเข้าถึงหนึ่งหมื่นนาย

ร่วมกับค่ายกลรูปลิ่มระดับเทพขั้นสูง

นี่จะเป็นทหารม้าที่ไม่มีใครเอาชนะได้อย่างแท้จริง!

อย่างน้อยก็ในยุคสามก๊ก

ไม่ว่าจะเป็นทหารม้าเบาชั้นยอดอย่างทหารม้าขาว หรือทหารม้าหนักชั้นยอดอย่างทหารม้าเหล็กซีเหลียง พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทหารม้าเพลิงสายฟ้า!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฉินฉงก็ไม่ลังเลอีกต่อไป

เรียกลิโป้ เตียวเลี้ยว และจูล่งมาโดยตรง

"นี่คือตราเสือของทหารม้าปิงโจว พวกเจ้าสามารถบัญชาการทหารม้าปิงโจวแปดพันนายได้"

"เฟิงเซียน เหวินหยวน จูล่ง พวกเจ้ารับผิดชอบในการรวมทหารม้าปิงโจวและทหารม้าเพลิงสายฟ้า"

"เช่นเดียวกับการจัดระเบียบทหารม้าครั้งที่แล้ว กระจายพวกเขาออกไป และมอบหมายให้ทหารม้าเพลิงสายฟ้าแต่ละคนดูแลทหารม้าปิงโจวหลายคน เพื่อลดความยุ่งยากในการรวมกลุ่ม สำหรับการดำเนินการเฉพาะ ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งมากนัก"

"สิ่งที่ข้าต้องการนั้นง่ายมาก ในเวลาที่สั้นที่สุด ข้าจะต้องควบคุมทหารม้าใหม่นี้ได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนต้องเชี่ยวชาญค่ายกลรูปลิ่มระดับเทพ!"

"ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะทำได้ก่อนที่กองทัพเซียนเป่ยของปู้ตู้เกิ้นจะมาถึง"

"หากพบปัญหาใดๆ ระหว่างการรวมกลุ่ม ให้ไปหาแม่ทัพฉินเหลียง เขาเป็นคนที่น่าเชื่อถือ เขาสามารถทำงานด้านอุดมการณ์ของทหารม้าปิงโจว และยังสามารถทำงานด้านขนส่งให้พวกเจ้าได้"

เฉินฉงออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

"นายท่านวางใจได้!"ลิโป้และเตียวเลี้ยวตอบรับ

พวกเขาก็ตื่นเต้นมากเช่นกันที่ได้รับภารกิจใหม่นี้

ถึงแม้ว่าตามตำแหน่งแล้ว ตำแหน่งของพวกเขาทั้งสามจะไม่เปลี่ยนแปลง

ยังคงเป็นแค่แม่ทัพของทหารม้าเพลิงสายฟ้า

แต่ทหารม้าเพลิงสายฟ้าขยายตัว จำนวนเพิ่มขึ้นจากสองพันนายเป็นหนึ่งหมื่นนาย

โดยพื้นฐานแล้ว นี่เป็นการเพิ่มอำนาจของพวกเขาทั้งสามอย่างมาก!

ได้รับความไว้วางใจ พวกเขาทั้งสามจะไม่มีความสุขได้อย่างไร!

หลังจากที่ทั้งสามคนจากไป เฉินฉงก็เปิดหน้าจอระบบอีกครั้ง

เลือกปลดล็อกฟังก์ชั่นค่ายกลใหม่

ในตอนนี้ ศัตรูแข็งแกร่ง ไม่ใช่เวลาที่จะลังเล

เหลือคะแนนสงครามอีกสามร้อยคะแนน ต้องใช้ให้คุ้มค่า!

"ติ๊ง! ใช้สามร้อยคะแนนสงคราม ปลดล็อกค่ายกลใหม่สำเร็จ!"

"ได้รับค่ายกลแปดทิศระดับเทพ (ระดับ1)!"

[ค่ายกลแปดทิศระดับเทพ (ระดับ1)]

[ใช้ได้กับ: ผู้ตั้งรับ!]

[รัศมี 1: การโต้กลับ: ความเสียหายของอุปกรณ์ป้องกันทั้งหมดเพิ่มขึ้นสิบเท่า!]

[รัศมี 2: การป้องกัน: ความแข็งแกร่งของกำแพงเมืองเพิ่มขึ้นสามเท่า!]

เฉินฉงมองดู และดีใจทันที

นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ!

ค่ายกลที่เพิ่งปลดล็อกเป็นค่ายกลสำหรับป้องกันเมือง!

และผลลัพธ์ก็ใช้งานได้จริงมาก

ไม่เพียงแต่เพิ่มความเสียหายของอาวุธป้องกัน แต่ยังเพิ่มการป้องกันของกำแพงเมืองด้วย

ถึงแม้ว่าพวกเซียนเป่ยจะเรียนรู้จากชาวฮั่น เรียนรู้วิธีสร้างอาวุธล้อมเมือง

แต่เนื่องจากช่างฝีมือและฝีมือยังไม่ดีพอ ระดับความประณีตของอาวุธล้อมเมืองที่พวกเขาสร้างขึ้นจึงค่อนข้างธรรมดา

ผลกระทบต่อกำแพงเมืองมีจำกัด

เมื่อพวกเขาพบกับค่ายกลแปดทิศระดับเทพ พวกเขาคงต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อยึดด่านเอียนเหมิน!

สามวันต่อมา

ด่านเอียนเหมินคึกคัก

ภายใต้การฝึกฝนอย่างเข้มงวดของลิโป้ เตียวเลี้ยว และจูล่ง ทหารม้าปิงโจวก็รวมเข้ากับทหารม้าเพลิงสายฟ้าอย่างสมบูรณ์

และเริ่มเชี่ยวชาญค่ายกลรูปลิ่มระดับเทพ

หลังจากได้สัมผัสกับพลังอันยิ่งใหญ่ของค่ายกล พวกเขาก็เริ่มเคารพบูชาเฉินฉง!

ความขัดแย้งเดิมหายไปโดยสิ้นเชิง

หน้าด่านเอียนเหมิน เจียงกวนถูกสร้างขึ้นแล้ว

หัวคนเกือบหนึ่งหมื่นหัวกองรวมกัน มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจ

บนสุดคือหัวของนักรบเซียนเป่ย ถัวปา

เขามองไปทางเหนือ

มีธงของราชวงศ์ฮั่นปักอยู่ข้างๆ เป็นสัญลักษณ์ว่านี่คือดินแดนของราชวงศ์ฮั่น!

ในขณะเดียวกัน เฉินฉงได้สอนค่ายกลแปดทิศระดับเทพให้ฉินเหลียง

ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้การนำของฉินเหลียง ได้เลือกคนห้าร้อยคนจากในเมือง เพื่อเป็นกองกำลังป้องกัน ฝึกฝนค่ายกลทั้งกลางวันและกลางคืน ตอนนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว!

เครื่องมือป้องกันทั้งหมดในเมือง หินกลิ้ง ไม้ และน้ำมันร้อน ได้รับการเตรียมพร้อมแล้ว

ทุกอย่างพร้อมแล้ว แค่รอให้กองทัพเซียนเป่ยมาถึง!

ทางเหนือของด่านเอียนเหมิน บนทุ่งหญ้า

มีค่ายสีขาวมากมาย

ธงเซียนเป่ยถูกปักอยู่ โบกสะบัดตามลม

ในกระโจมกลาง ปู้ตู้เกิ้น ผู้นำเซียนเป่ย นั่งอยู่บนพรม

ถือถ้วยนมม้าในมือ ดวงตาของเขามองแผนที่ที่อยู่เบื้องหน้า

และข้างๆ ปู้ตู้เกิ้นมีบัณฑิตคนหนึ่งยืนอยู่ด้วยความเคารพ เขาดูเหมือนชาวฮั่น!

เขาชื่อเฉินคง

เขาเป็นชาวฮั่นจริงๆ

หลังจากถูกเซียนเป่ยจับตัวไป เขาก็ยอมแพ้

ด้วยความคุ้นเคยกับดินแดนของชาวฮั่นและความเฉลียวฉลาด เขาก็กลายเป็นที่ปรึกษาของปู้ตู้เกิ้น

"ขอแสดงความยินดีท่านผู้นำ!"

"ตราบใดที่ท่านยึดด่านเอียนเหมินได้ ท่านก็จะสามารถยึดปิงโจวได้อย่างราบรื่น!"

"นอกจากทุ่งหญ้าแล้ว ปิงโจวก็จะเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงม้าของท่านผู้นำด้วย!"

ปู้ตู้เกิ้นพยักหน้า และมองเฉินคงด้วยรอยยิ้ม

"ท่านเฉิน ถ้าข้าจำไม่ผิด ท่านก็มาจากปิงโจว ท่านต้องการให้ข้าบุกปิงโจวงั้นหรือ?"

เฉินคงยิ้ม พยักหน้าและโค้งคำนับ และพูดเบาๆ

"ข้าอยู่กับท่านผู้นำมานานแล้ว ท่านผู้นำไม่รู้หรือว่าข้าคิดอะไรอยู่?"

"ชาวฮั่นขี้ขลาดเหมือนลูกแกะ ในขณะที่เซียนเป่ยแข็งแกร่งและกล้าหาญ เหมือนหมาป่าบนทุ่งหญ้า"

"ถึงแม้ว่าข้าจะเกิดเป็นชาวฮั่น แต่ข้าก็โหยหาเซียนเป่ย!"

"การยึดด่านเอียนเหมินครั้งนี้ ข้าหวังว่าท่านผู้นำจะจำข้าได้ และอนุญาตให้ข้าเปลี่ยนเผ่ากำเนิด กำจัดตัวตนของชาวฮั่น และกลายเป็นเซียนเป่ยอย่างแท้จริง!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ปู้ตู้เกิ้นก็หัวเราะออกมา

"ตกลง! ข้ายอมรับคำขอของเจ้า!"

"หลังจากสงครามครั้งนี้จบลง เจ้าจะไม่ใช่ชาวฮั่นที่ต่ำต้อยอีกต่อไป!"

"ข้าไม่เพียงแต่อนุญาตให้เจ้าเข้าร่วมชนเผ่าเซียนเป่ย แต่ยังหาหญิงสาวชาวเซียนเป่ยมาเป็นภรรยาของเจ้าด้วย เจ้าสามารถอยู่ในชนเผ่าเซียนเป่ยได้อย่างสบายใจ!"

เฉินคงดีใจมาก และโค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง

"ขอบพระคุณท่านผู้นำ!"

ในเวลานี้ ประตูกระโจมก็เปิดออก

หน่วยสอดแนมคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

"ท่านผู้นำ เกิดเรื่องไม่ดีแล้ว!"

ปู้ตู้เกิ้นขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาฉายแววไม่พอใจ

"มีเรื่องอะไร? ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูด!"

หน่วยสอดแนมพูดด้วยเสียงแหบพร่า แทบจะร้องไห้

"ทหารม้าหนึ่งหมื่นนายที่นำโดยแม่ทัพถัวปาพ่ายแพ้ให้กับชาวฮั่น!"

"แม่ทัพถัวปาตายในสนามรบ และพี่น้องหลายคนก็ถูกชาวฮั่นฆ่าตาย"

"มีน้อยกว่าแปดร้อยคนที่หนีกลับมาได้!"

ปู้ตู้เกิ้นเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ถัวปาเป็นคนที่เขาไว้วางใจ

ความกล้าหาญของเขาหาตัวจับยากในชนเผ่าเซียนเป่ย!

ทหารม้าหนึ่งหมื่นนายนั้นก็เป็นทหารชั้นยอด

พวกเขาจะพ่ายแพ้ให้กับชาวฮั่นที่อ่อนแอได้อย่างไร!

จากทหารม้าหนึ่งหมื่นนาย เหลือรอดกลับมาเพียงแปดร้อยนาย

การสูญเสียครั้งนี้ทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวด!

เขาหรี่ตาลง จ้องมองหน่วยสอดแนม

"เกิดอะไรขึ้น?"

หน่วยสอดแนมพูดเบาๆ "ข้าได้ยินพี่น้องที่หนีรอดกลับมาบอกว่า พวกเขาเจอกองทหารราบชาวฮั่นที่น่ากลัวมาก ชื่อว่ากองกำลังติดกับดัก ทัพหน้าของเราพ่ายแพ้ให้กับกองกำลังติดกับดัก!"

"หลังจากนั้น พี่น้องคนอื่นๆ ที่หนีไปก็ถูกทหารม้าฮั่นไล่ล่าและสังหาร"

"ดังนั้น จึงมีพี่น้องเพียงไม่กี่คนที่หนีกลับมาได้!"

เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

"เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร!"

"ทหารม้าเซียนเป่ยของข้าไม่มีใครเอาชนะได้ จะแพ้ชาวฮั่นได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้น ยังแพ้ทหารราบชาวฮั่น?"

"เจ้านี่ดูถูกพวกมัน!"

ปู้ตู้เกิ้นคำราม ดวงตาเบิกกว้างด้วยความโกรธ

ชักดาบยาวออกมาจากเอวและฟันออกไปอย่างรวดเร็ว

ตัดหัวหน่วยสอดแนมโดยตรง

เลือดพุ่งกระจายไปทั่วตัวเขา

เฉินคงหวาดกลัวจนหน้าซีด และหดตัวอยู่ในมุมกระโจม

ปู้ตู้เกิ้นหายใจเข้าลึกและระงับความโกรธในใจ

ก้าวออกไป

"ส่งคำสั่งของข้า!"

"ทุกคน ออกจากค่ายและไปที่ด่านเอียนเหมิน!"

"ข้าจะใช้เลือดของชาวฮั่นเหล่านั้นบูชายัญดวงวิญญาณของนักรบเซียนเป่ย!"

ในไม่ช้า กองทัพเซียนเป่ยเก้าหมื่นนายก็เริ่มเคลื่อนไหว

เดินทัพด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้าสู่ด่านเอียนเหมินอย่างรวดเร็ว