ตอนที่ 350 บทบาทพิเศษของมิติลับกระจกเงา! (ฟรี)
ตอนที่ 350 บทบาทพิเศษของมิติลับกระจกเงา!
“ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร การที่ได้รับพรสวรรค์ระดับ SS [เพลิงอีกาสีทอง] ถือว่าเป็นเรื่องดี!”
ไป๋จื่ออันยิ้ม บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดีใจ
พูดตามตรงว่าสาเหตุที่สุริยะอีกาสีทองได้รับพรสวรรค์ระดับ SS นั้นไม่สำคัญอีกต่อไป
สิ่งสำคัญก็คือหลังจากที่ได้รับพรสวรรค์ระดับ SS ใหม่นี้ พลังของสุริยะอีกาสีทองจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมาก
นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับไป๋จื่ออัน
ยังไงซะในความคิดของไป๋จื่ออัน พลังนั้นสำคัญที่สุด
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงเลิกคิดมาก เขาเริ่มตรวจสอบผลลัพธ์ของ [เพลิงอีกาสีทอง]
[เพลิงอีกาสีทอง] : พรสวรรค์ธาตุไฟระดับ SS เพลิงอีกาสีทองคือราชาแห่งเปลวเพลิง สามารถดูดซับพลังของเปลวเพลิงทั้งหมด เพิกเฉยต่อการโจมตีของเปลวเพลิงทั้งหมด ปกคลุมไปด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์ เพิ่มความสามารถในทุกๆ ด้าน สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับศัตรู
“เพิกเฉยต่อการโจมตีของเปลวเพลิงทั้งหมด? นี่มันต้านเปลวเพลิงนี่นา? เป็นผลลัพธ์ที่ดี!”
ไป๋จื่ออันรู้สึกตื่นเต้น ดวงตาของเขาเป็นประกาย
ต้านเปลวเพลิง แค่ผลลัพธ์นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะถูกเรียกว่าเป็นพรสวรรค์ระดับ SS
แต่นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ทั้งหมดของเพลิงอีกาสีทอง
การที่ถูกปกคลุมไปด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์จะทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี การป้องกัน หรือความเร็ว มันจะต้องน่าทึ่งมาก
ยิ่งไปกว่านั้น เพลิงอีกาสีทองยังสามารถดูดซับพลังของเปลวเพลิงอื่นๆ นำมาใช้เสริมสร้างตัวเองได้
ถ้าคิดแบบนี้ พรสวรรค์นี้ก็เป็นพรสวรรค์ที่สมบูรณ์แบบ
พูดได้เลยว่าเพลิงอีกาสีทองเป็นหนึ่งในพรสวรรค์ระดับท็อปของธาตุไฟ
สุริยะอีกาสีทองที่ได้รับพรสวรรค์นี้ พลังของมันจะต้องน่าทึ่งมากยิ่งขึ้น
ไป๋จื่ออันพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก
ไม่นานไป๋จื่ออันก็เลิกสนใจเรื่องนี้ เขามองผลประโยชน์สุดท้าย
นั่นก็คือคุณสมบัติหยาง
หลังจากที่อีกาเพลิงปีกทองคำวิวัฒนาการกลายเป็นสุริยะอีกาสีทอง มันก็ได้รับคุณสมบัติใหม่ คุณสมบัติหยาง
ไป๋จื่ออันไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับคุณสมบัติหยาง
ยังไงซะคุณสมบัติหยินของราชันย์วาฬเงายมโลกก็ทำให้ไป๋จื่ออันได้รู้จักกับคุณสมบัติหยินและหยาง
ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตแห่งดวงอาทิตย์ การที่อีกาสีทองจะมีคุณสมบัติหยาง ไป๋จื่ออันจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร
แต่สิ่งที่ทำให้ไป๋จื่ออันรู้สึกงงก็คือคำอธิบายของสุริยะอีกาสีทอง
จากคำอธิบายของคำแนะนำจากสวรรค์ สุริยะอีกาสีทองยังคงมีคุณสมบัติไฟบริสุทธิ์
มันดูขัดแย้งกัน
ยังไงซะข้างหน้าก็บอกว่ามันมีคุณสมบัติไฟและหยาง แต่คำอธิบายข้างหลังกลับบอกว่ามันมี ‘คุณสมบัติไฟบริสุทธิ์’
เรื่องนี้ทำให้ไป๋จื่ออันรู้สึกงง
“ดูเหมือนว่าคุณสมบัติหยินและหยางจะไม่ธรรมดา มันน่าจะมีความลับบางอย่างแฝงอยู่!”
ไป๋จื่ออันพึมพำ เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้
แต่ไป๋จื่ออันก็ไม่ได้ศึกษามันนานเกินไป
ยังไงซะสำหรับไป๋จื่ออันแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้เร่งด่วนอะไร
ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการทำความคุ้นเคยกับราชันย์วาฬเงายมโลกและสุริยะอีกาสีทองที่เพิ่งจะวิวัฒนาการ
เข้าใจสถานการณ์ของพวกมันอย่างละเอียด ทำให้พวกมันสามารถควบคุมพลังของตัวเองได้
แบบนี้พอรอให้ถึงการต่อสู้จัดอันดับประจำปี พวกมันก็จะสามารถใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุด เอาชนะการต่อสู้จัดอันดับประจำปีได้
สำหรับไป๋จื่ออันแล้ว นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ดังนั้นในช่วงเวลาต่อมา ไป๋จื่ออันจึงไม่มีเวลามาศึกษาคุณสมบัติหยินและหยาง
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการฝึกฝนราชันย์วาฬเงาแห่งยมโลกกับสุริยะอีกาสีทอง
“แต่ราชันย์วาฬเงาแห่งยมโลกกับสุริยะอีกาสีทองต่างก็แข็งแกร่งขึ้น พลังของพวกมันน่าทึ่งมาก!”
“ถ้าหากปล่อยให้พวกมันอาละวาดในมิติสัตว์วิญญาณ ฉันคงจะปวดหัวแย่”
“ถ้าหากมีสถานที่ที่ดีล่ะก็นะ...”
ไป๋จื่ออันพึมพำในใจ เขากำลังคิดเรื่องนี้อยู่
เขาคิดที่จะปล่อยให้ราชันย์วาฬเงาแห่งยมโลกกับสุริยะอีกาสีทองได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างเต็มที่ แต่สถานที่นั้นเป็นปัญหา
พูดตามตรงว่าเมื่อระดับของไป๋จื่ออันเพิ่มขึ้น มิติสัตว์วิญญาณก็จะขยายใหญ่ขึ้น กว้างขวางขึ้น
แต่มันก็ยังคงเล็กเกินไปสำหรับพวกมัน
ไม่ต้องพูดถึงราชันย์วาฬเงายมโลก ขนาดตัวที่ยาวกว่า 100 เมตรของมัน เหมือนกับป้อมปราการเคลื่อนที่
การเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ของมันก็เพียง▬
ส่วนสุริยะอีกาสีทอง ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดเล็กกว่าก็จริง ประมาณ 30 เมตร
แต่อีกาสีทองกางปีกออก ความยาวของมันก็เกือบ 100 เมตร
พูดได้เลยว่าพวกมันเป็นสัตว์ร้ายขนาดใหญ่
ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์วิญญาณของไป๋จื่ออันยังมีพลังต่อสู้ข้ามระดับ พลังของพวกมันน่าทึ่งมาก
การที่พวกมันจะไม่ทำลายข้าวของนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
อย่างน้อยที่สุดไป๋จื่ออันก็ไม่อยากให้มิติสัตว์วิญญาณถูกพวกมันทำลาย
ส่วนการที่เรียกราชันย์วาฬเงาแห่งยมโลกกับสุริยะอีกาสีทองออกมายังโลกแห่งความจริงนั้น เป็นไปไม่ได้
ถ้าหากราชันย์วาฬเงาแห่งยมโลกกับสุริยะอีกาสีทองปรากฏตัวขึ้นในโลกแห่งความจริง พวกมันจะต้องกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ไป๋จื่ออันต้องการ
ยังไงซะพวกมันก็คือไพ่ตายของไป๋จื่ออัน
ไพ่ตายจะให้ทุกคนรู้ได้ยังไง?
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงรู้สึกหนักใจ
“ว่าแต่ที่นั่นก็น่าจะไม่เลว!”
ไป๋จื่ออันเหมือนกับจะคิดอะไรบางอย่างออก
จากนั้นไป๋จื่ออันก็โบกมือ เรียกกระจกเงาออกมาโดยตรง
“กระจกเงา มิติลับกระจกเงาของนายแข็งแกร่งแค่ไหน?”
“ถ้าหากสัตว์วิญญาณระดับเพชรสองตัวฝึกฝนอยู่ในมิติลับกระจกเงาของนาย มันจะส่งผลกระทบต่อนายรึเปล่า?”
ไป๋จื่ออันถามกระจกเงาอย่างรวดเร็ว
ใช่แล้ว ไป๋จื่ออันกำลังหมายตาถึงมิติลับกระจกเงาของกระจกเงา
ก่อนหน้านี้ ระหว่างการทดสอบในมิติลับกระจกเงา ไป๋จื่ออันก็ได้สัมผัสกับความพิเศษของมิติลับกระจกเงาแล้ว
ในความคิดของไป๋จื่ออัน มันไม่ใช่พรสวรรค์ของกระจกเงา แต่มันคือมิติลับพิเศษ
มิติพิเศษแบบนี้ตรงกับความต้องการของไป๋จื่ออัน
มันไม่เพียงแต่เป็นส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังสามารถให้ราชันย์วาฬเงาแห่งยมโลกกับสุริยะอีกาสีทองใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่
สิ่งเดียวที่ต้องกังวลก็คือมิติลับกระจกเงาของกระจกเงาจะสามารถต้านทานราชันย์วาฬเงาแห่งยมโลกกับสุริยะอีกาสีทองได้รึเปล่า
ด้วยเหตุผลนี้เอง ไป๋จื่ออันจึงถามกระจกเงา
“แน่นอน ถึงแม้ว่าระดับของฉันจะลดลงก็จริง แต่มิติลับกระจกเงาก็ไม่ได้ถดถอยตาม!”
“สัตว์วิญญาณระดับเพชรขั้นต้นสองตัวที่เพิ่งจะเลื่อนขั้นจะทำอะไรฉันได้?”
เสียงที่หยิ่งผยองของกระจกเงาดังขึ้นในหัวของไป๋จื่ออัน
เรื่องอื่นมันไม่รับประกัน
มีเพียงแค่มิติลับกระจกเงาเท่านั้นที่มันมั่นใจ
ยังไงซะนี่ก็คือรากฐานของมัน เป็นความสามารถที่มันมั่นใจที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากแม้แต่มิติลับกระจกเงาก็ยังไม่น่าเชื่อถือ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา มหาวิทยาภูตเร้นลับก็คงจะไม่ปวดหัวขนาดนี้
ดังนั้นราชันย์วาฬเงาแห่งยมโลกกับสุริยะอีกาสีทองระดับเพชรขั้นต้นจึงไม่ใช่ปัญหา
แต่ไม่นานมันก็จะต้องเสียใจ