ตอนที่ 30 – พระแน่หรอวะ? น่าจะนะ....
ฆ่าด้วยการโจมตีครั้งเดียว! โคลินรู้สึกว่าสัตว์ประหลาดที่อยู่ใต้ร่างของเขาดิ้นรนหลายครั้งก่อนจะตาย. พลังของ "ฮันติ้งไทม์"ที่รวมกับ "ผู้เชี่ยวชาญพวกกลายพันธ์", ตราบใดที่สัตว์ประหลาดไม่แข็งแกร่งกว่าโคลิน เขาก็สามารถฆ่ามันได้ทันที.
"ขอบคุณนายท่าน!" ทาสที่รอดตายกล่าวอย่างรวดเร็ว โคลินพยักหน้าตอบรับแล้วมองไปที่สัตว์ประหลาดที่เหลือ. ในเมื่อเขาได้ลงมือแล้ว ก็ควรจะต้องจบงานให้เสร็จสิ้น.
ในเวลาไม่ถึงสิบนาที โคลินก็เอาชนะสัตว์ประหลาดทั้งหมดได้.
"ยินดีด้วย! คุณได้รับเลือดปนเปื้อนโสมม 7 มิลลิลิตร"
"..."
ได้เลือดทั้งหมด 130 มิลลิลิตร. โคลินยังได้รับ "วิญญาณที่บิดเบี้ยว" มาอีกด้วย ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจ.
"ฮะ? ดูเหมือนฉันจะได้อะไรดีๆ สินะ!" โคลินประหลาดใจที่พบการ์ดว่าจ้างพิเศษในช่องเก็บของของเขา.
[การ์ดว่าจ้างผู้มีพรสวรรค์พิเศษ: สามารถว่าจ้างบุคคลที่มีความสามารถพิเศษได้. มีโอกาสล้มเหลวได้ในระดับหนึ่ง]
[หมายเหตุ: ความภักดีเบื้องต้นของบุคคลนั้นคือ 50%. พวกเขาจะทำตามคำสั่งของคุณแต่ไม่สามารถถูกปฏิบัติอย่างรุนแรงได้.หากความภักดีของพวกเขาลดลงต่ำกว่า 30% พวกเขาอาจจากไปได้ทุกเมื่อ.]
“มันอาจล้มเหลวได้? ฉันก็ไม่น่าจะโชคร้ายขนาดนั้นหรอกมั้ง. แต่ความภักดีของพวกเขาไม่ได้แน่นอนเหมือนทาสทั่วไป” โคลินอ่านคำอธิบายและตัดสินใจใช้การ์ดทันที โดยอยากรู้ว่าการ์ดใบนี้จะมอบผู้มีพรสวรรค์พิเศษประเภทใด.
หลังจากใช้การ์ดแล้ว โคลินก็เห็นอนุภาคแสงสีขาวปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา มันรวมตัวกันอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนไป มีร่างผู้หญิงตัวเล็กปรากฏออกมา.
เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กสวมชุดคลุมนักบวชสีขาว สูงประมาณ 1.6 เมตร ผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า ใบหน้าบอบบาง และถือหนังสือที่มีตราสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์สีทอง.
เมื่อเห็นโคลิน เธอก็วาดวงกลมบนหน้าอกและโค้งตัวเล็กน้อย เสียงของเธออ่อนโยน: “ดิฉันคือซานน่า เฮลาก้า นักบวชแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์. ท่านเรียกฉันว่าซานน่าก็ได้ค่ะ. นายท่าน”
“สวัสดี คุณซานน่า เรียกฉันว่าเจ้านายหรือโคลินก็ได้” โคลินตอบขณะกำลังตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของเธอ.
[นักบวชหญิงแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์: ซานน่า เฮลาก้า]
ตัวตน: นักบวชหญิงแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์จากโบสถ์แห่งสุริยะนิรันดร์.
คำอธิบาย: รักใคร่ อ่อนโยน นำแสงแห่งการรักษามาให้.
ระดับ: ขั้นที่หนึ่ง
สถานะ: หิว
ความอิ่ม: 22 (1-20 หิวมาก 21-40 หิว 41-60 ปกติ 61-80 อิ่มท้อง 81-100 อิ่มมาก.)
ความแข็งแกร่ง: 2.9 (1 สำหรับมนุษย์ทั่วไป)
ความอดทน: 2.3 (1 สำหรับมนุษย์ทั่วไป)
ความอึด: 2.1 (1 สำหรับมนุษย์ทั่วไป)
จิตวิญญาณ: 1.8 (1 สำหรับเมจทั่วไป)
สติปัญญา: 1.5 (เสริมจากเวทย์มนต์ ไม่เกี่ยวข้องกับปัญญาที่มีอยู่ปกติ.)
มานา: 500/500
สกิล: “สตรองแอนฟิต” “เมเทโอ แฮมเม่อ” “สวีปคิก” “ต่อยตรง” “โจมตีหน้าท้อง” “น็อคแบ็คเสริมพลัง” “คริเปิลลิ่งสไตรค์” “พรแห่งความกล้าหาญ” “โฮลี่ไลท์ ฮีลลิ่ง.” …
“เอ่อ คุณซานน่าครับ. ค่าสถานะและสกิลของคุณดูแปลกๆ นิดหน่อย…” โคลินเหลือบมอง เด็กสาวรูปร่างเพรียวและบอบบาง พลางอดไม่ได้ที่จะแสดงความคิดเห็น. รายการสกิลที่จัดเรียงตามความแข็งแกร่งเผยให้เห็นว่าเธอเก่งในการต่อสู้มากกว่าการรักษา.
โคลินประเมินว่าแม้ว่าเขาจะมีฮันติ้งไทม์ เขาอาจจะไม่แข็งแกร่งเท่าเธอ. แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดออกมาดังๆ เพราะกลัวว่าเธอจะสาธิตสกิลการต่อสู้ของเธอใส่.
เขาสังเกตเห็นว่ามุมทั้งสี่ของหนังสือศักดิ์สิทธิ์อันหนาของเธอถูกเสริมด้วยเหล็ก...
ในอีกแง่หนึ่ง เธอมีพรสวรรค์จริงๆ
“นายท่านผู้ทรงเกียรติ ท่านต้องการความช่วยเหลือจากฉันหรือไม่คะ. แม้ว่า ‘โฮลี่ไลท์ฮีลลิ่ง’ ของฉันจะไม่แข็งแกร่งมากนัก” ซานน่าถามอย่างอ่อนโยน.
“ไม่ ไม่...เอ้ย ใช่” โคลินตอบ ขณะกำลังเสียสมาธิกับข้อมูลของเธอ ก่อนจะรีบเปลี่ยนคำพูด เมื่อรู้ว่าเธอหมายความถึงทาสที่ได้รับบาดเจ็บ.
“ขอบคุณสำหรับความเมตตาของท่าน.” ซานน่าเดินไปหาทาสที่บาดเจ็บสาหัสคนหนึ่งและยกหนังสือศักดิ์สิทธิ์ของเธอขึ้น เมื่อเห็นผู้บาดเจ็บ แววตาแห่งความเมตตาก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ.
“ระวัง อย่าให้พวกเขาตุยล่ะ…” โคลินพูดขึ้นโดยไม่ทันคิด.
“คุณพูดอะไรนะ?” หนังสือศักดิ์สิทธิ์ของซานน่าเปล่งแสงสีขาวออกมา แต่เธอหันหน้ากลับ เมื่อได้ยินโคลินพูด.
“เอ่อ เปล่า. ฉันแค่บอกว่าเดี๋ยวจะทำอาหารให้คุณกิน....” โคลินกระแอมเปลี่ยนเรื่องไป.
ซานน่าจดจ่ออยู่กับการร่ายคาถา “โฮลี่ไลท์ฮีลลิ่ง” เธอได้ยินไม่ชัดและไม่ได้คิดมาก. เธอจดจ่ออยู่กับคาถาของเธอ แสงสีขาวก็เปล่งออกมาจากหนังสือศักดิ์สิทธิ์ ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของผู้บาดเจ็บ แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บก็รู้สึกถึงความสงบและความนิ่ง.
“ท่านช่างเป็นผู้ส่งสารศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง!” ทาสคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความขอบคุณ.
“ก็แค่ทำหน้าที่ค่ะ.” ซานน่ายิ้ม ไม่คุ้นเคยกับคำชมเชยเช่นนี้.
“กินนี่ก่อนสิ. มันจะช่วยให้เธอฟื้นตัวจะได้กลับมาซัด… เอ่อ ฉันหมายถึง จะได้กลับมาช่วยคนอื่น.…” โคลินนำชามโจ๊กเนื้อมาให้ กลิ่นหอมทำให้ดวงตาของซานน่าลุกวาวขึ้น แต่เธอก็ลังเล ตาของเธอหลุบลง และเธอพูดเบาๆ:
“นี่ นี่มีเนื้อ อาหารแบบนี้มีค่ามาก. มันสามารถช่วยชีวิตได้. ถ้าให้คนบาดเจ็บ มันอาจช่วยให้พวกเขามีชีวิตรอดได้… โปรดเก็บมันไว้เถอะค่ะ อย่าให้มันเสียเปล่ากับฉันเลย. ฉัน… ฉันสามารถกินอย่างอื่นได้ ฉันจำได้ว่ามีอาหารอยู่บ้าง… บางทีอาจมีรากเหลืออยู่ในหนังสือของฉัน…”
ซานน่ารู้ถึงคุณค่าของอาหารดี โดยเฉพาะอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างโจ๊กนี้. มันสามารถช่วยชีวิตได้. ในช่วงเวลาสำคัญ โจ๊กชามนี้สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างชีวิตและความตายได้.
เธอเปิดหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่หุ้มด้วยเหล็กออก เผยให้เห็นหญ้าแห้งที่ดูประหลาดจำนวนหนึ่ง.....
นี่เธอใช้ชีวิตมาแบบไหนเนี่ย... โคลินรู้สึกเห็นใจเล็กน้อย แต่ก็รีบฉกหญ้ามาแล้วโยนลงในกระเป๋าไป. เขาพูดอย่างหนักแน่นว่า “ฟังนะ นี่ไม่ใช่การดูแลแบบพิเศษ. ถ้าคุณไม่มีแรง คุณจะเป็นภาระของพวกเราทุกคน.”
ขณะที่เขาพูด โคลินพยายามจับมือเธอแล้วส่งโจ๊กให้เธอ แต่พบว่าเขาขยับเธอไม่ได้. เขาปล่อยมือไปเมื่อรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งที่น่าประหลาดใจของเธอ และพูดต่อไปว่า “อย่ากังวล ฉันมีอาหารเหลือเฟือที่พอจะให้เราอยู่ได้อีกนาน”
“ใช่แล้ว นายท่านใจดีมาก ท่านให้โจ๊กเนื้อกับทุกคน” ทาสพูดเสริม
ซานน่าลังเล “จริงเหรอ? อาหาร โดยเฉพาะแบบนี้ สำคัญมาก…”
“เชื่อฉันเถอะ” โคลินหยิบขนมปังหลายชิ้นออกมาจากกระเป๋า.
ในที่สุดเธอก็เชื่อแล้ว ซานน่าจึงหยิบโจ๊กขึ้นมา “ขอให้ดวงอาทิตย์อวยพรคุณ นายท่านโคลิน.”
[ความภักดีของซานน่า เฮลาก้า นักบวชแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้น 10% ตอนนี้เป็น 60%]
โคลินได้ยินเสียงของระบบในหัวของเขา
*จากผู้แปล: ตอนหน้าจะเริ่มติดเหรียญแล้วนะจ๊ะ*