บทที่ 118 รับศิษย์
บทที่ 118 รับศิษย์
“อาจารย์ ถ้าอย่างนั้นผมขอทำน้ำยาต่อเลยนะครับ” จินปู้ฮวนกล่าว
“เดี๋ยวก่อน! การทำน้ำยาแบบนี้มันช้าเกินไป” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“มันยังจะเร็วกว่านี้ได้อีกเหรอครับ?” จินปู้ฮวนถาม
“ถ้าเราใช้ไอ้นี่ช่วยเราสามารถปรุงน้ำยาทีเดียว 100 ขวด” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่หม้อต้มยาขนาดใหญ่
“มันใช้ยังไงเหรอครับ?” จินปู้ฮวนถามอย่างสับสน
“ใช้วิธีการเหมือนเดิมนั่นแหละ ฟังเอาไว้ให้ดีนี่คือเคล็ดลับของฉัน ห้ามเอาไปบอกใครอย่างเด็ดขาด” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากลู่หยางบอกสูตรเวลาการปรุงยา จินปู้ฮวนก็ยิ่งรู้สึกสับสนกว่าเดิม เพราะเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเก่งกาจถึงกับทำน้ำยาได้ทีละมาก ๆ หลังจากเด็กหนุ่มทำการจดเวลาทั้งหมดเอาไว้แล้วเขาก็ยืนข้างลู่หยางพร้อมกับดูอาจารย์ของตัวเองทำก่อนหนึ่งรอบ
หลังจากจินปู้ฮวนทำน้ำยาตามลู่หยางได้สำเร็จ ในตอนนี้เขาก็เพิ่งรู้ตัวว่าน้ำยาที่ตัวเองทำลงไปแท้ที่จริงแล้วมันคือน้ำยาอะไร
“อาจารย์ อย่าบอกนะว่านี่มันคือยาต้านพิษ?!” จินปู้ฮวนกล่าวอย่างตกตะลึง
“ใช่ ยาที่พวกเรากำลังทำคือยาต้านพิษ” ลู่หยางตอบ
จู่ ๆ จินปู้ฮวนก็รู้สึกว่าสมองของตัวเองประมวลผลไม่ทัน ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เรียบเรียงข้อมูลและถามว่า
“คนที่ขายยาต้านพิษในร้านประมูลวันนี้คืออาจารย์เหรอครับ?”
“อือ” ลู่หยางตอบกลับอย่างเฉยเมย
“อาจารย์ คุณจะเก่งเกินไปแล้ว!” จินปู้ฮวนอุทานอย่างตื่นเต้น เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่ายอดนักปรุงยาปริศนาที่ทำกำไรช่วงนี้ได้อย่างมหาศาล แท้ที่จริงแล้วจะเป็นชายตรงหน้าของเขานี่เอง
“อาจารย์วางใจได้เลย ผมจะตั้งใจทำน้ำยาอย่างสุดความสามารถเพื่อตอบแทนบุญคุณที่คุณช่วยผม” จินปู้ฮวนกล่าวอย่างกระตือรือร้น
“ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบตอบแทนบุญคุณอะไรฉันหรอก เดี๋ยวฉันจะพานายไปหาเงิน ต่อไปนี้น้ำยาทุกขวดที่นายเป็นคนปรุง ฉันจะแบ่งรายได้ให้กับนาย 10%” ลู่หยางกล่าว
ปัจจุบันยาต้านพิษถูกขายออกไปขวดละ 10 เหรียญเงิน ถ้าลู่หยางแบ่งรายได้ให้จินปู้ฮวน 10% มันก็หมายความว่าถ้าหากเด็กหนุ่มปรุงน้ำยาได้วันละ 100 ขวด อีกฝ่ายก็จะได้รับค่าแรงถึงวันละ 1 เหรียญทอง
1 เหรียญทองในตลาดตอนนี้มีราคา 800-1,000 เครดิต ถ้าหากจินปู้ฮวนทำแบบเดิมซ้ำ ๆ ไป 1 เดือน มันก็หมายความว่าเขาจะมีรายได้เดือนละ 20,000-30,000 เครดิตเลยทีเดียว
“มันมากเกินไปครับ ผมรับเอาไว้ไม่ได้” จินปู้ฮวนกล่าวพร้อมกับส่ายหน้าอย่างแรง
ลู่หยางมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะพูดว่า
“จำคำที่ฉันจะพูดเอาไว้ในวันนี้ให้ดี ตั้งแต่ตอนที่นายตัดสินใจมาอยู่กับฉัน นายก็คือน้องชายของฉันแล้ว ฉันไม่มีทางทอดทิ้งพี่น้องของตัวเองเด็ดขาด วันหนึ่งในอนาคตถ้าฉันต้องการให้นายทำอะไร นายก็แค่จะต้องช่วยฉันทำสิ่งนั้นอย่างจริงจัง นี่คือเรื่องที่ฉันอยากจะขอจากนาย”
จินปู้ฮวนฟังคำพูดของลู่หยางอย่างซาบซึ้งและถึงแม้เขาจะใช้ชีวิตมานานหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนยินดีจะรับตัวเขาเป็นน้องชาย
“อาจารย์วางใจได้ ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถ”
“แบบนี้แหละดีแล้ว” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อาจารย์ ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”
“ฉันชื่อลู่หยาง”
“หา!?” จินปู้ฮวนอุทานออกมาด้วยความตกใจ
ใครจะไปคิดว่าคนที่ทำให้กิลด์ขนาดใหญ่ในเมืองเซนต์กอลล์ปั่นป่วนไปหมด แท้ที่จริงแล้วจะคือผู้เชี่ยวชาญอันดับ 1 ในตารางจัดอันดับ แล้วในขณะที่ทุกคนคิดว่าท้ายที่สุดลู่หยางก็จะต้องถูกดึงตัวเข้าสู่กิลด์ขนาดใหญ่ที่ไหนสักแห่ง แต่ความจริงแล้วอีกฝ่ายรวยมากจนไม่จำเป็นจะต้องสนใจข้อเสนอของกิลด์ใหญ่เหล่านั้นเลย
“เอาล่ะไปร้านประมูลกับฉันหน่อย พวกเรายังจะต้องขนสมุนไพรกันอีกหลายเที่ยว ต่อไปนายก็คงจะต้องเหนื่อยหน่อยนะ” ลู่หยางกล่าว
“ผมจะพยายามหาเงินอย่างเต็มที่ครับ” จินปู้ฮวนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
ลู่หยางหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ เพราะถึงแม้เด็กคนนี้จะยังไม่ลืมสาวในดวงใจ แต่อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ยังไม่หลงงมงายกับดอกไม้เหมือนกับหลาย ๆ คนในชาติก่อน
เมื่อเกมได้รับความนิยมสาวสวยเป็นจำนวนมากก็จะเริ่มเข้ามาภายในเกม มุมหนึ่งคือสาว ๆ เหล่านี้เข้ามาเพื่อเล่นเกมพร้อมกับไลฟ์สตรีม ขณะที่อีกมุมมันก็มีสาวบางประเภทเข้ามาเพื่อหาชายหนุ่มไปทำการปอกลอก
ลู่หยางกังวลว่าจินปู้ฮวนจะพบกับสาวประเภทที่ 2 และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมเขาต้องทำข้อตกลงกับอีกฝ่ายเอาไว้ อย่างไรก็ตามมันก็ยังไม่มีอะไรรับประกันว่าถ้าหากมันเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ ในเวลานั้นจินปู้ฮวนยังคงนับถือเขาเป็นอาจารย์อยู่หรือเปล่า
แน่นอนว่าเรื่องพวกนั้นมันก็เป็นเรื่องของอนาคต หลังจากที่พวกเขาออกจากสมาคมนักปรุงยาไปจนถึงร้านค้าประมูลทั้งคู่ก็ได้พบกับคนอีกกลุ่มหนึ่งเข้าพอดี
“เฮ้ย! นั่นมันจินปู้ฮวนนี่หว่า แกมีเงินจะมาร้านประมูลกับเขาด้วยงั้นเหรอ?” ผู้เล่นคนหนึ่งกล่าวเยาะเย้ย
“จางจื้อ ฉันไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว” จินปู้ฮวนกัดฟันพูดอย่างโกรธเคือง
“ไม่ใช่คนเดิม? แล้วแกจะเป็นใครได้ ทำไมจู่ ๆ ถึงมั่นใจขนาดนั้นล่ะหรือแกพยายามทำตัวอวดสาว” จางจื้อกล่าวพร้อมกับหัวเราะลั่น
ไม่ไกลจากจางจื้อมีเด็กสาวร่างสูงโปร่งคนหนึ่งกำลังแสดงสีหน้าออกมาอย่างเขินอาย ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาเบา ๆ
“นายพูดอะไรของนายเนี่ย”
“ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ ก็มันชอบเธอจริง ๆ”
จินปู้ฮวนมองจางจื้ออย่างเย็นชา ซึ่งภายในใจเขาก็อยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายซะเดี๋ยวนี้เลย อย่างไรก็ตามเขาก็รู้ดีว่าช่องว่างระหว่างสองฝ่ายกว้างใหญ่แค่ไหน และในขณะที่จินปู้ฮวนกำลังทำอะไรไม่ถูกลู่หยางก็ได้พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเสียก่อน
“พวกเขาคือเพื่อนร่วมชั้นของนายสินะ”
“ใช่ครับ” จินปู้ฮวนพยักหน้าตอบ
ลู่หยางมองไปยังเด็กสาวตรงหน้าและถึงแม้เขาจะรู้ว่าจินปู้ฮวนมีผู้หญิงภายในใจ แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่าลิ่นเซี่ยคนนี้จะเป็นคนที่เขารู้จักในชาติก่อนด้วย
ลิ่นเซี่ยเป็นสตรีมเมอร์ชื่อดังที่ต่อมาได้แต่งงานกับจางจื้อคนนี้ ต่อมามันก็มีข่าวลือว่าผู้ชายมีนิสัยเจ้าชู้ ถึงแม้ว่าเขาจะเข้าไปสืบทอดกิจการของครอบครัวฝ่ายหญิงและประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่อีกฝ่ายก็นอกใจลิ่นเซี่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ชาติก่อนลู่หยางก็เคยพบปะกับลิ่นเซี่ยด้วยเช่นกัน แม้เขาจะไม่ได้รู้จักกับอีกฝ่ายดีมากนักแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวคนนี้คือคนดีคนหนึ่งเลยทีเดียว
“ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม?” ลู่หยางเดินเข้าไปพูดกับลิ่นเซี่ย
เด็กสาวมองลู่หยางอย่างงุนงง แต่เมื่อได้เห็นแววตาอันจริงใจของอีกฝ่าย เธอจึงตอบรับกลับไปเบา ๆ
“อือ”
ลู่หยางเผยรอยยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะพาลิ่นเซี่ยไปยังมุมใกล้ ๆ ที่ปราศจากผู้คน
“ตอนนี้เธอเริ่มชอบจางจื้อแล้วใช่ไหม?”
นอกจากแก้แค้นแล้วพี่แกก็ขยันเป็นกามเทพด้วยนะ