ตอนที่แล้วบทที่ 115 รวย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 117 จักรพรรดินักปรุงยา

บทที่ 116 ซื้อที่ดิน


บทที่ 116 ซื้อที่ดิน

อาคารสองข้างทางในทุกถนนของเมืองเส้นเก่าสามารถซื้อขายได้ ซึ่งตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ค้าที่ดินจะอยู่ในห้องโถงชั้นที่ 1 ทางด้านซ้ายของพระราชวัง

สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างลึกลับอยู่มากพอสมควร และผู้เล่นโดยทั่วไปย่อมไม่มีทางเดินผ่านไปพื้นที่แถวนั้นอย่างเด็ดขาด มีเพียงแต่เหล่าบรรดาผู้เล่นสายบุกเบิกของกิลด์ขนาดใหญ่ที่มีโอกาสเดินทางมาสำรวจสถานที่แห่งนี้

ลู่หยางรู้จักเจ้าหน้าที่ค้าที่ดินเพราะในชาติก่อนเขาก็อยากจะลงทุนซื้อที่ดินสักแปลง แต่กว่าที่เขาจะเก็บเงินได้มากพอที่ดินภายในเมืองเซนต์กอลล์ก็ถูกขายออกไปจนหมดแล้ว หากเขาต้องการที่ดินมาไว้ในครอบครองเขาจะต้องซื้อต่อจากผู้เล่นคนอื่นเท่านั้น เมื่อย้อนกลับไปในตอนนั้นแม้แต่ที่ดินที่มีราคาต่ำที่สุดก็ยังมีราคาถึง 10,000 เหรียญทอง ขณะที่ที่ดินที่แพงที่สุดมีราคาสูงถึง 3 ล้านเหรียญทอง

ลู่หยางเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ค้าที่ดิน ก่อนจะเริ่มพูดว่า

“ขอติดต่อซื้อที่ดินหน่อยครับ”

“ไม่ทราบว่าคุณต้องการที่ดินแถวไหน?” เจ้าหน้าที่ร่างท้วมกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะหยิบแผนที่เมืองเซนต์กอลล์ออกมากางลงบนโต๊ะ

หลังจากเจ้าหน้าที่วางแผนที่ลงบนโต๊ะภาพสามมิติก็ปรากฏขึ้นในทันที ลู่หยางจึงสามารถมองเห็นภาพรวมของทั้งเมืองได้อย่างชัดเจน และได้พบว่าอาคารบางส่วนบนถนนทางทิศตะวันออกถูกขายออกไปบ้างแล้ว แต่ร้านค้าที่ดีที่สุดในชาติก่อนมันยังไม่มีการขายออกไป

ลู่หยางชี้นิ้วไปยังที่ดินทางเหนือของเมือง ก่อนจะพูดว่า

“ผมขอซื้อที่ดินแปลงนี้ครับ”

ที่ดินแปลงนี้เคยสร้างเสียงฮือฮาอย่างมากในชาติก่อน และผู้ซึ่งเคยเป็นเจ้าของที่ดินก็ไม่ใช่ใครอื่นใดเลยนอกเสียจากแบล็คบลัดผู้ซึ่งเป็นศัตรูของเขานั่นเอง

ย้อนกลับไปในตอนที่เกมเปิดระบบแลกเปลี่ยนเงินตรา กิลด์ขนาดใหญ่แย่งซื้อที่ดินภายในเมืองกันอย่างบ้าคลั่ง แต่แบล็คบลัดกำลังทำสงครามอยู่กับอีกกิลด์ เขาจึงแทบไม่เหลือเงินมาแย่งชิงซื้อที่ดินกับกิลด์ขนาดใหญ่กิลด์อื่น ๆ

หลังจากชนะสงครามอาคารในย่านการค้าทางทิศตะวันออกของเมืองก็ถูกกิลด์ขนาดใหญ่อื่น ๆ แย่งซื้อกันไปจนหมดแล้ว ส่วนพื้นที่ทางใต้และทางตะวันตกของเมืองที่มีสภาพเศรษฐกิจด้อยกว่าเล็กน้อยก็ถูกกลุ่มทุนที่เข้ามาลงทุนภายในเกมกว้านซื้อไปหมดแล้วด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้พื้นที่เดียวที่ยังเหลือให้พอซื้อได้ก็คือที่ดินบริเวณทางเหนือของเมือง แต่ประตูทางตอนเหนือติดกับหุบเขาขาด ผู้เล่นจึงไม่สามารถเดินทางออกจากประตูทางเหนือได้ ดังนั้นพื้นที่บริเวณทางเหนือจึงมีคนอาศัยอยู่น้อยมากและการลงทุนในพื้นที่แถวนั้น มันก็แทบที่จะไม่เห็นโอกาสทางธุรกิจเลย

อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากมันเป็นสถานที่ที่ซบเซา ราคาของที่ดินทางตอนเหนือจึงถูกมากแม้แต่ที่ดินแปลงที่แพงที่สุดก็ถูกวางขายเพียงแค่ 10 เหรียญทอง แบล็คบลัดในตอนนั้นจึงพยายามรักษาหน้าไม่อยากให้คนอื่นเรียกว่าเขาคือหัวหน้ากิลด์ที่ไม่มีที่ดิน เขาจึงใช้เงิน 30 เหรียญทองซื้อที่ดิน 3 แปลงบริเวณใกล้จัตุรัสทางตอนเหนือ ซึ่งในเวลานั้นการกระทำของเขาก็ถูกหัวหน้ากิลด์ขนาดใหญ่หัวเราะเยาะไม่ต่างไปจากคนที่โง่เขลา

อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าแท้ที่จริงแบล็คบลัดคือนักลงทุนที่โชคดีที่สุด หลังจากเวลาผ่านพ้นไปได้ไม่นานทางผู้พัฒนาได้ตัดสินใจตั้งจุดแลกเปลี่ยนสกุลเงินในเกม ทำให้ผู้เล่นไม่จำเป็นจะต้องถอดหมวกเพื่อชำระเงินอีกต่อไป เพียงแค่พวกเขาทำการกรอกหมายเลขบัตรหน้าจุดแลกเปลี่ยนเงินเพียงเท่านี้ พวกเขาก็สามารถทำการแลกเปลี่ยนโดยตรงได้จากในเกม

จุดแลกเปลี่ยนที่ถูกเพิ่มเข้ามาไม่ได้ถูกตั้งในย่านทางทิศตะวันออกที่คึกคักและไม่ได้ตั้งอยู่ทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกของเมือง แต่เลือกมาตั้งในจัตุรัสทางเหนือของเมืองตรงกันข้ามกับที่ดินทั้งสามของแบล็คบลัดพอดี

เมื่อจุดแลกเปลี่ยนได้ปรากฏราคาที่ดินของแบล็คบลัดก็พุ่งสูงขึ้นทันที 1,000 เท่า และมันก็มีคนเสนอราคาถึง 30,000 เหรียญทองเพื่อซื้อที่ดินทั้งสามแปลงที่แบล็คบลัดได้ถืออยู่

แม้แบล็คบลัดจะเป็นคนหยิ่งยโสแต่เขาก็ไม่ใช่คนที่โง่เขลา ชายฉกรรจ์จึงตอบกลับอีกฝ่ายไปอย่างเย็นชาว่าถ้าหากเสนอเงินมาน้อยกว่า 3 ล้านก็ไม่จำเป็นจะต้องเข้ามาคุย

ต่อมากิลด์ของลู่หยางก็ได้ทำสงครามกับกิลด์ของแบล็คบลัด ชายหนุ่มได้ใช้พลังของหัวใจแห่งเทพอสูรทำลายกิลด์ของอีกฝ่ายจนแทบไม่เหลือซาก แต่ในตอนที่เขาคิดว่าแบล็คบลัดพ่ายแพ้แล้วอีกฝ่ายกลับขายที่ดินเหล่านี้กลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีสินทรัพย์หลายร้อยล้าน

เดิมทีการที่ลู่หยางกำจัดแบล็คบลัดได้ทำให้ขวัญกำลังใจของสมาชิกภายในกิลด์เพิ่มขึ้นมหาศาล แต่เหตุการณ์ที่แบล็คบลัดขายที่ดินทำให้ทางลู่หยางและลูกกิลด์รู้สึกอึดอัดใจ เหตุการณ์นี้จึงทิ้งรอยแผลเอาไว้ภายในใจของชายหนุ่มอย่างไม่รู้ลืม

การที่คนเลวมาทำเรื่องชั่ว ๆ ภายในเกมแต่ก็ยังกลับออกไปกลายเป็นมหาเศรษฐีเป็นสิ่งที่ลู่หยางยอมรับไม่ได้ ในชาตินี้ชายหนุ่มจึงตั้งใจจะให้แบล็คบลัดได้เรียนรู้คำว่ากฎแห่งกรรม

“พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่คึกคักที่สุดทางตอนเหนือของเมือง ราคาของมันอยู่ที่ 10 เหรียญทอง” เจ้าหน้าที่กล่าว

“ตกลง” ลู่หยางตอบ

ชายหนุ่มส่งเงิน 10 เหรียญทองให้เจ้าหน้าที่ก่อนจะทำให้ที่ดินในแผนที่กลายเป็นสีฟ้าในทันที ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ก็หยิบโฉนดที่ดินออกมาส่งให้กับเขา

“ที่ดินผืนนี้เป็นของคุณแล้ว ไม่ทราบว่าคุณยังต้องการจะซื้อที่อีกไหม?”

“ที่ดินทั้งสองแปลงนี้ราคาเท่าไหร่?” ลู่หยางถาม

“ทางซ้าย 10 เหรียญทอง ส่วนทางขวาก็ 10 เหรียญทองเหมือนกัน” เจ้าหน้าที่ตอบ

ลู่หยางหยิบเงินออกมา 20 เหรียญทองก่อนจะซื้อที่ดินเพิ่มอีกสองแปลง จากนั้นเขาก็ทำการเก็บโฉนดที่ดินทั้งสามแปลงเอาไว้ภายในกระเป๋า

ชายหนุ่มไม่ได้ตั้งใจที่จะขายที่ดินทั้งสามแปลงในอนาคต แต่ตั้งใจที่จะเอาพวกมันไปเปิดร้านค้า เพราะทางธุรกิจที่ทำกำไรได้มากที่สุดไม่ใช่การขายกินกำไรจากที่ดิน แต่เป็นการทำธุรกิจบนทำเลทองต่างหาก

เขารู้ดีว่าเกมจะพัฒนาไปทางไหนแล้วเขาก็รู้ว่าผู้เล่นจะขาดแคลนอะไรในอนาคต หากเขาเตรียมสิ่งเหล่านี้เอาไว้ภายในร้าน การร่ำรวยจากร้านค้าทั้งสามย่อมไม่ใช่เรื่องยากลำบากอย่างแน่นอน

จากนี้ไปร้านค้าทั้งสามแห่งนี้จะกลายเป็นแหล่งผลิตเงินที่ใหญ่ที่สุดของเขา และมันก็จะกลายเป็นพื้นฐานในการครองอำนาจภายในเกมต่อไป

อย่างไรก็ตามที่ดินที่มีค่าที่สุดในขณะนี้ยังคงเป็นที่ดินในตลาดทางทิศตะวันออกของเมือง ลู่หยางจึงข้ามแผนการสร้างร้านในอนาคตไปก่อน และเตรียมจะไปทำยาต้านพิษเพิ่มเพื่อเตรียมพวกมันเอาไว้ขายในเช้าวันรุ่งขึ้น

นักเวทหนุ่มเดินออกจากพระราชวังไปยังสมาคมนักปรุงยา แต่เมื่อเขาเดินผ่านประตูจู่ ๆ เขาก็สังเกตเห็นผู้เล่นคนหนึ่งกำลังยืนอย่างหดหู่อยู่ท่ามกลางฝูงชน โดยมีผู้เล่นอีกหลายคนยืนล้อมคอยพูดจาเยาะเย้ยเขาไม่หยุด

“ไอ้ขี้เหร่! น้ำหน้าอย่างแกเนี่ยนะคิดจะมาจีบลิ่นเซี่ย ดูหนังหน้าของตัวเองบ้าง คนอย่างแกมันไม่คู่ควร!”

“ตระกูลลิ่นเป็นเศรษฐีบ้านนอกนะเว้ย! ส่วนแกมันเป็นแค่ไอ้ขอทาน คิดจะทำตัวเป็นหนูตกถังข้าวสารงั้นเหรอวะ”

“ไปตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาซะไป”

“ถ้าฉันเห็นแกอยู่ข้าง ๆ ลิ่นเซี่ยอีก ฉันจะซ้อมแกให้ตาย”

เสียงเยาะเย้ยของคนเหล่านั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ และในตอนที่ลู่หยางเดินเข้าไปใกล้ ในที่สุดเขาก็สังเกตเห็นคนที่ถูกยืนล่ออยู่ตรงกลาง

ใบหน้านี้ทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงักอย่างฉับพลัน ก่อนจะรออยู่ตรงนั้นไม่จากไปไหน

ผู้เล่นที่โดนดูถูกแต่เดิมก็ไม่มั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อมันได้มีคนมามุงดูอย่างมากมายมันก็ทำให้เขารู้สึกอับอายไปจนถึงขั้วหัวใจ

“ฉันไม่ได้จีบเธอ พวกเราเป็นแค่เพื่อนกัน ถึงฉันจนแล้วมันยังไง ฉันไม่ได้ไปขอเงินจากพวกคุณนี่นา”

ผู้เล่นที่เป็นหัวโจกหัวเราะลั่น ก่อนที่จะชี้หน้าพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“เป็นคนจนก็หัดเจียมกะลาหัวตัวเองบ้างสิวะ แค่ค่ารถเมล์ยังไม่มีปัญญาจะจ่ายแต่เสือกมายุ่งกับคนที่ขับรถยุโรป”

ผู้คนรอบข้างต่างก็มองไปยังเด็กหนุ่มผู้ยากจนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดูถูก แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาอันเย็นชา ในที่สุดเด็กหนุ่มคนนั้นก็ทนไม่ไหวก่อนจะหันหลังวิ่งหนีไป

กลุ่มคนที่เยาะเย้ยไม่ได้ไล่ตามไปแต่กลับหัวเราะลั่นก่อนที่จะเดินออกไปจากสมาคม

ลู่หยางทำได้เพียงส่ายหน้า ก่อนที่เขาจะวิ่งไล่ตามเด็กหนุ่มผู้ยากจน คนอื่น ๆ อาจจะยังไม่รู้แต่เขารู้ดีว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คือใคร

จินปู้ฮวนคือ 1 ใน 10 จักรพรรดินักปรุงยาที่โด่งดังในชาติก่อน เขาคือหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถฝึกฝนทักษะการปรุงยาจนถึงระดับสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้ครอบครองสกิลลับที่ช่วยเพิ่มคุณสมบัติของยาเป็นสองเท่า

น่าเสียดายที่เด็กคนนี้ไม่ได้ตั้งใจมาหาเงินภายในเกม เขาจึงขายไอดีของตัวเองออกไปในราคาเพียงแค่ไม่กี่หมื่นเครดิต อย่างไรก็ตามใครจะไปรู้ว่าต่อมาไอดีของเขาจะมีมูลค่าหลายล้าน แต่กว่าจะรู้ตัวในตอนนั้นทุกอย่างมันก็สายเกินไปแล้ว

สาเหตุที่คนคนนี้มีชื่อเสียงนั้นก็เพราะเขาขายไอดีของตัวเอง ต่อมาเรื่องที่เขาซื้อของตามจีบเด็กสาวคนหนึ่งก็ถูกเปิดโปงจนทำให้เขากลายเป็นโรคซึมเศร้าและกระโดดน้ำตายในที่สุด

เล่นเกมตามจีบสาวของจริงสินะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด