ตอนที่ 230 การกลายพันธุ์ครั้งใหม่ (ฟรี)
ตอนที่ 230 การกลายพันธุ์ครั้งใหม่
***ตอนนี้สั้นกว่าปกตินะครับ เพราะมีเนื้อหาบางส่วนซ้ำจึงต้องตัดออก
เมือง W
หลังจากได้เห็นประกาศของฉู่เจียงเยว่แล้ว เสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ ก็รีบมารวมตัวกัน
แม้แต่เจิ้งเหวินอันก็ยังมาเข้าร่วมการหารือด้วย พร้อมกับเจียงเจิ้นเจิน และหลิวอี้อี้ที่ติดสอยห้อยตามมาติดๆ
เมื่อพวกเธอทั้งสองเห็นเสิ่นจื้อกุย ฮั่วฮวน และคนอื่นๆ พวกเธอต่างแสดงท่าทีเขินอาย คนที่ไม่รู้ก็อาจคิดว่าทั้งสองเป็นเด็กสาวไร้เดียงสา แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครสนใจมอง
“ทุกคนเห็นประกาศแล้วใช่มั้ย?”
เสิ่นจื้อกุยเริ่มพูดเป็นคนแรกเพื่อทำลายความเงียบ
จินซู่หยู หลินเฟิง และซ่งเฉิงจุนต่างพยักหน้า พวกเขาไม่เชื่อว่าประกาศของฉู่เจียงเยว่จะไร้เหตุผล
“สภาพอากาศหนาวจัดกำลังสิ้นสุดลงแล้ว และซอมบี้...อาจจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง”
จากนี้ไป พวกเขาไม่ควรออกไปเสี่ยงขุดหาแก่นคริสตัลอีก
"ผมคิดว่าเราควรฟังคำเตือนของเธอ และรีบออกจากเมือง W โดยเร็วที่สุด เราควรรีบกลับไปที่โรงแรมเจียงหลินเพื่อความปลอดภัย”
“สำหรับข่าวนี้มันเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงต้องบอกกับผู้คนในฐานแห่งนี้ ส่วนพวกเขาจะตัดสินใจยังไงก็ขึ้นอยู่ตัวพวกเขาเองแล้ว”
ไม่ใช่ทุกคนที่มีความกล้าที่จะละทิ้งทุกสิ่งที่พวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มา และติดตามพวกเขาไปยังที่แห่งใหม่ที่ไม่คุ้นเคย
"เราก็คิดแบบเดียวกัน"
จินซู่หยูไม่คิดว่าฉู่เจียงเยว่จะล้อเล่นเกี่ยวกับเรื่องสำคัญแบบนี้ ไม่งั้นในอนาคต หากฉู่เจียงเยว่ ต้องการแจ้งข่าวใหญ่ใดๆ คนที่เห็นประกาศก็จะไม่เชื่อมันอีก
ตราบใดที่ฉู่เจียงเยว่มีสมอง เธอจะไม่ทำอะไรที่ทำลายภาพลักษณ์ของตัวเอง
"เก็บข้าวของแล้วรีบกลับกันเถอะ"
ส่วนคนอื่นๆ พวกเขาก็ไม่สามารถบีบบังคับให้ใครทำตามได้
เสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ กลับไปเก็บข้าวของโดยไม่ได้ปิดการเคลื่อนไหวเป็นความลับเลย และในไม่ช้าก็มีคนสังเกตเห็นการกระทำของพวกเขา
เมื่อมีคนมาถาม พวกเขาก็จะตอบตามความจริง ส่วนจะเชื่อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน
คนที่เชื่อจึงเริ่มเก็บข้าวของ และพร้อมจะจากที่นี่ไปพร้อมกับเสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ พวกเขาเตรียมพร้อมกันอย่างรวดเร็ว
สำหรับคนที่ไม่เชื่อ ไม่มีใครมีเวลามาสนใจคนพวกนั้น
“พี่เหวินอัน เรายังไม่พบพ่อแม่ของเราเลย เราจะกลับไปตอนนี้เหรอ?”
หลิวอี้อี้ไม่ได้ใส่ใจกับประกาศของฉู่เจียงเยว่มากนัก เพราะเธอไม่เชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด และคิดว่าฉู่เจียงเยว่นั้นพูดเกินจริง
ดังนั้น เธอจึงเยาะเย้ยที่เสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ ที่หารือกันเกี่ยวกับการกลับไปที่โรงแรมเจียงหลิน
เจียงเจิ้นเจินยังไม่พบคนที่ต้องการ จึงไม่ต้องการจากเมือง W ไปเหมือนกัน แม้ว่าเธอจะไม่พูดอะไร แต่เธอก็ไม่ได้ซ่อนความคิดที่สื่อออกมาจากสายตา
“เราต้องตามหาพวกเขาก็จริง แต่หากเราตายที่นี่ เราก็จะไม่มีโอกาสพบพวกเขาอีก อี้อี้ พี่รู้ว่าเธอต้องการตามหาคุณลุงคุณป้า พี่ก็ต้องการตามหาพ่อแม่ของตัวเองเหมือนกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการกลับไปที่โรงแรมเจียงหลินก่อน หากเธอไม่อยากกลับ จะอยู่ที่นี่คนเดียวก็ได้ พี่ไม่ห้าม”
คราวนี้เจิ้งเหวินอันไม่ได้ถูกพวกเธอโน้มน้าวให้เปลี่ยนใจ และตั้งมั่นในความคิดของตัวเอง
ทั้งหลิวอี้อี้และเจียงเจิ้นเจินไม่ใช่ผู้ปลุกพลัง หากไม่มีเจิ้งเหวินอันอยู่เคียงข้าง พวกเธอก็จะรู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้น แม้ว่าพวกเธอจะไม่เต็มใจยอมแพ้ แต่ทั้งสองก็ยังเดินตามเจิ้งเหวินอันอย่างเชื่อฟัง โดยวางแผนที่จะติดตามเสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ และออกจากเมือง W พร้อมๆ กัน
โชคดีที่พวกเขามาเมือง W ด้วยถนนปลอดซอมบี้ เมื่อพวกเขาต้องการกลับ พวกเขาก็สามารถกลับไปด้วยเส้นทางเดิมได้ จึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีเสี่ยงมากเกินไป
เพียงแต่ว่าพวกเขาอาจไม่คุ้นเคยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้ที่โผล่ออกมาเป็นครั้งคราวเมื่อออกมาข้างนอกในอนาคต
แม้เสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ จะเห็นผู้คนจำนวนมากในฐาน แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าไม่มีเวลาจะมาช่วยใคร ตอนนี้พวกเขาจำเป็นต้องกลับไปที่โรงแรมเจียงหลินก่อนเป็นการชั่วคราว ดังนั้นพวกเขาจึงรีบเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากนั้น ทุกคนก็พร้อม และรีบขึ้นรถออฟโรดสีขาวเงินเพื่อเตรียมออกเดินทาง
รถของทีมเสิ่นจื้อกุยขับนำหน้าขบวน
ส่วนรถของทีมจินซู่หยูก็ตามมาติดๆ ตามมาด้วยรถของทีมหลินเฟิง
เจิ้งเหวินอันรอให้คนอื่นๆ ขับผ่านไปก่อน จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ขับตามไป
ด้านหลังรถของเจิ้งเหวินอัน มีรถหลายคันตามมาอยู่ ไม่จำเป็นต้องพูดก็รู้ว่าพวกเขามาจากฐานเล็กๆ แห่งนี้
ขบวนรถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างราบรื่น ดูเหมือนวันนี้โชคจะเข้าข้างพวกเขา แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะแค่ตอนนี้เท่านั้น
แต่เสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ ไม่ได้คิดมากอะไร หลังจากสภาพอากาศหนาวจัดสิ้นสุดลง แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่ใจคือ การอยู่ในโรงแรมเจียงหลินนั้นปลอดภัยที่สุด
ไม่มีใครอยากท้าทายธรรมชาติด้วยพลังของตัวเอง
เนื่องจากผู้คนในฐานตามมาด้วย ขบวนรถจึงยาวมาก เพื่อความปลอดภัย เสิ่นจื้อกุยจึงไม่หยุด และเริ่มขับด้วยความเร็วเต็มที่ ในที่สุด ก่อนที่แสงสีขาวจะปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า พวกเขาก็เกือบถึงถนนปลอดซอมบี้แล้ว
“จี๊ด จี๊ด จี๊ด...”
“จี๊ด…”
ทันใดนั้นหนูกลุ่มหนึ่งก็วิ่งออกมาขวางหน้า และเสิ่นจื้อกุยก็หยุดรถโดยไม่รู้ตัว
โชคดีที่ทีมของจินซู่หยูไม่ได้ขับตามหลังมาอย่างใกล้ชิด ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการชนกันอย่างแน่นอน
“ฝูงหนูกลายพันธุ์ พวกมันอีกแล้วเหรอ!”
“พี่เสิ่น ดูสภาพของหนูกลายพันธุ์พวกนั้นสิ พวกมันดูแตกต่างจากหนูกลายพันธุ์ที่เราเคยเจอก่อนหน้านี้”
เจียงเหอยกมือขึ้นแล้วดันแว่นตา มองดูหนูกลายพันธุ์ด้วยสายตาที่เคร่งขรึม
หลังจากได้ยินคำพูดของเจียงเหอแล้ว เสิ่นจื้อกุยก็เริ่มสังเกตหนูกลายพันธุ์อย่างระมัดระวัง และแน่นอนว่าเขาพบสิ่งผิดปกติจริงๆ
“หนูกลายพันธุ์เหล่านี้ ขนของพวกมันเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินม่วง ดวงตาของพวกมันเปลี่ยนเป็นสีขาว และ...ร่างกายของพวกมันถูกปกคลุมไปด้วยเนื้อเน่า นี่มัน…”
สถานะของพวกมันคล้ายกับซอมบี้มาก!
เป็นไปได้ไหมว่าเพราะไวรัสซอมบี้ มันจึงเกิดการกลายพันธุ์อีกครั้ง?
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม เราก็ต้องรีบกันแล้ว ตราบใดที่เราเข้าไปในถนนปลอดซอมบี้ได้ เราก็จะปลอดภัย”
เสิ่นจื้อกุยไม่ต้องการเสียเวลามากเกินไปกับหนูกลายพันธุ์เหล่านี้