บทที่ 65 ย่าผู้ดุดัน(ฟรี)
บทที่ 65 ย่าผู้ดุดัน(ฟรี)
ถานเจิ้งหยางนั่งอยู่บนพื้น มองเสี่ยวเผิงที่กำลังเดินเข้ามา เขาพยายามถอยหลังด้วยทั้งมือและเท้า "อย่าเข้ามานะ! แกทำอะไรฉันไม่ได้หรอก แกรู้มั้ยว่าพ่อฉันเป็นใคร?"
เสี่ยวเผิงหัวเราะเยาะ "ฉันไม่รู้หรอกว่าพ่อนายเป็นใคร แต่ฉันรู้ว่าปู่นายเป็นใคร"
พูดจบเสี่ยวเผิงก็ก้มตัวลง ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ถานเจิ้งหยาง "จำไว้ นี่แหละหน้าปู่แก!"
ถานเจิ้งหยางได้ยินคำพูดของเสี่ยวเผิงแล้วโมโหจัด กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสี่ยวเผิงก็ใช้ฝ่ามือตบหน้าเขาอีกครั้ง ฟันหน้าสีขาวของถานเจิ้งหยางหลุดออกมาทันที เสี่ยวเผิงมองเขาด้วยสายตาเย็นชา "ในสายตาฉัน แกก็แค่เด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวคนหนึ่ง ตอนแรกฉันยังไม่อยากจริงจังกับแกด้วยซ้ำ ใครๆ ก็มีช่วงวัยรุ่นที่คึกคะนอง ต่อให้แกพาคนมาซุ่มโจมตีฉัน ฉันก็ไม่คิดจะจริงจังกับแกหรอก"
"แต่" พูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเสี่ยวเผิงก็เคร่งขรึมลง "สิ่งที่แกไม่ควรทำเด็ดขาดคือการลงมือกับผู้หญิง แกให้หลี่จิ้งแกล้งป่วย ล่อพวกเราออกมาจากเกาะชีนหลี่เย่า แล้วดักซุ่มโจมตีที่นี่ แกคิดว่าทำได้อย่างไร้ร่องรอยงั้นเหรอ? แกช่างเด็กเกินไป"
"อะไรนะ? ลุง ที่ลุงพูดเป็นเรื่องจริงเหรอคะ?" ฟางหรานหรานได้ยินคำพูดของเสี่ยวเผิงแล้วตกใจ
เสี่ยวเผิงยิ้มน้อยๆ ชี้ไปข้างหลังฟางหรานหราน "เธอถามเพื่อนเธอได้นะ ตัวการอยู่ข้างหลังเธอนั่นไง"
หลี่จิ้งไม่รู้ว่าฟื้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เดินลงมาจากรถพยาบาล
หลี่จิ้งได้ยินคำพูดของเสี่ยวเผิง สีหน้าไม่ดีเลย "คุณรู้ได้ยังไง?"
ฟางหรานหรานถามหลี่จิ้งด้วยความโกรธ "หลี่จิ้ง ฉันปฏิบัติกับเธอไม่ดียังไง? ทุกครั้งที่มีของอร่อย ของเล่นสนุกๆ ฉันไม่เคยลืมเธอเลยนะ ทำไมเธอถึงทำแบบนี้กับฉันได้?"
สีหน้าของหลี่จิ้งเปลี่ยนไมื่ปเอถูกฟางหรานหรานถาม ทันใดนั้นหลี่จิ้งก็หัวเราะขึ้น "ทำไมฉันจะทำแบบนี้กับเธอไม่ได้ล่ะ? เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? ที่เธอแบ่งของอร่อย ของเล่นให้ฉัน ก็เพื่อสนองความภาคภูมิใจของเธอเองไม่ใช่เหรอ? เธอมีแม่ที่หาเงินเก่งไง? ฉันก็อยากใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม ฉันก็อยากมีชีวิตที่ดี ฉันได้สิ่งที่ฉันต้องการด้วยตัวเอง มันผิดตรงไหน?"
ฟางหรานหรานตกตะลึงกับคำพูดของหลี่จิ้ง "หลี่จิ้ง เธอเข้าใจฉันผิดแล้ว ฉันทำแบบนั้นไม่ได้คิดจะสนองความภาคภูมิใจของตัวเองเลย ฉันแค่คิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน!"
"เด็กโง่คนนี้ โดนคนอื่นสองสามคำก็หลงกล" เสี่ยวเผิงคิดในใจ แต่บนใบหน้ายังคงยิ้มอยู่ เขาปรบมือเบาๆ พูดกับหลี่จิ้งว่า "พูดดีมาก นี่คือเหตุผลที่เธอทำร้ายคนอื่นเพื่อตัวเองงั้นเหรอ? เธอได้สิ่งที่ต้องการด้วยการทรยศคนอื่น แล้วเธอต่างอะไรกับสัตว์?"
"เมื่อเธอได้บางสิ่งมา เธอก็ต้องเสียบางสิ่งไปด้วย ฉันไม่รู้ว่าถานเจิ้งหยางให้เงินเธอเท่าไหร่ที่ช่วยเขาทำเรื่องนี้ แต่พร้อมกับที่เธอได้เงินมา เธอก็เสียบางอย่างไปด้วย ลองชั่งใจดูดีๆ ว่าการทำแบบนี้คุ้มหรือขาดทุน" เสี่ยวเผิงพูดกับหลี่จิ้งเสียงเย็น
หลี่จิ้งหัวเราะเยาะ "คุณเป็นอะไรกับฉัน? คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน? ฉันไม่ต้องการให้คุณมายุ่งกับชีวิตฉัน" พูดจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เสี่ยวเผิงยิ้มกว้าง เด็กคนนี้ช่างลืมความเจ็บปวดง่ายจริงๆ ดูเหมือนบทเรียนเมื่อครู่ยังไม่เข้าใจซะแล้ว! คิดว่าไม่มีวิธีจัดการกับเธอแล้วจริงๆ เหรอ? เธอกล้าก่อเรื่องอีก ฉันจะทำให้เธออยากตายยิ่งกว่ามีชีวิตอยู่เลย เชื่อมั้ย?
"หลี่จิ้ง!" ฟางหรานหรานยังอยากเรียกหลี่จิ้งไว้ แต่เสี่ยวเผิงห้ามเธอไว้
"หรานหราน จำไว้ว่าทุกคนต้องรับผิดชอบต่อทางเลือกของตัวเอง เรื่องนี้ใครก็หนีไม่พ้น ปล่อยเธอไปเถอะ นี่เป็นการรักษาศักดิ์ศรีครั้งสุดท้ายที่เหลืออยู่ของเธอ ตอนนี้สิ่งที่เธอมีเหลืออยู่ก็มีแค่นี้แหละ" เสี่ยวเผิงพูดกับฟางหรานหราน
ฟางหรานหรานไม่เข้าใจความหมายของเสี่ยวเผิง แต่ก็พยักหน้า ไม่ได้เรียกหลี่จิ้งอีก
เสี่ยวเผิงพูดจบ ก็ได้ยินเสียงปรบมือดังมาจากข้างๆ
เมื่อเสี่ยวเผิงและคนอื่นๆ มอง เห็นคนสามคนเดินเข้ามา คนที่ปรบมืออยู่คือคนที่อยู่ตรงกลาง อายุราวห้าสิบกว่า ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งที่ไม่เข้ากับวัย ข้างๆ เขามีคนยืนอยู่สองคน คนหนึ่งอายุราวสามสิบ รูปร่างสมส่วน ดวงตาเป็นประกาย แววตามีแววฆ่าฟันแฝงอยู่
อีกคนคือคนที่เสี่ยวเผิงรู้จักดี นายอำเภอหลิวชิ่งหลง
ชายผู้มามองเสี่ยวเผิง "นายก็คือเสี่ยวเผิงสินะ ดูท่าที่หลิวพูดไว้ก็ไม่ผิด เจ้าหนุ่มนายใช้ได้ทีเดียว"
พูดจบก็จ้องหยางเมิ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ "สมแล้วที่ว่าผู้มีฝีมือมักอยู่ในหมู่ชาวบ้าน หนุ่มน้อย วรยุทธ์ไม่เลวเลยนะ ทำอาชีพอะไรอยู่? สนใจไปฝึกฝนในกองทัพมั้ย?"
"ไม่สนใจ" หยางเมิ่งปฏิเสธทันทีโดยไม่ลังเล
ชายผู้มาขมวดคิ้ว "เจ้าไม่อยากไปฝึกฝนในกองทัพให้ดีจริงๆ หรือ? ลูกผู้ชายต้องเข้ากองทัพสิ!"
หยางเมิ่งตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด "ผมไม่สนใจเลยสักนิด ตอนนี้ผมแค่อยากเอาชนะเขาให้ได้ก่อน" ขณะพูดประโยคนี้ หยางเมิ่งชี้ไปที่เสี่ยวเผิง
ชายผู้มาได้ยินคำพูดของหยางเมิ่งแล้วแสดงสีหน้าประหลาดใจ ฝีมือของหยางเมิ่งทำให้เขาทึ่งมากแล้ว แต่ทำไมฟังจากคำพูดของหยางเมิ่งแล้ว เสี่ยวเผิงจะเก่งกว่าหยางเมิ่งอีกหรือ? มองดูกล้ามเนื้อบนตัวหยางเมิ่ง แล้วมองดูรูปร่างผอมบางของเสี่ยวเผิง เขาส่ายหัวในใจ คงคิดมากเกินไปละมั้ง
เมื่อได้ยินคำพูดของชายผู้มา เสี่ยวเผิงก็เข้าใจแล้ว นี่น่าจะเป็นเพื่อนทหารเก่าที่นายอำเภอหลิวบอกว่าจะช่วยแก้ปัญหาบนเกาะ แต่ตอนนี้ทุกคนใส่ชุดธรรมดา เขารีบทักทายว่า "ท่านนายอำเภอหลิว พวกคุณมาได้ยังไงครับ? ท่านผู้นี้เรียกว่าอะไรดีครับ?"
หลิวชิ่งหลงแนะนำว่า "นี่คือหยินฉงเต๋อ เพื่อนทหารเก่าของผม ตอนนี้ทำงานด้านพรรคและการเมืองอยู่ที่กองเรือเหนือ ปัญหาการควบคุมการบินที่เกาซีนหลี่เย่าของพวกคุณก็ขอความช่วยเหลือจากเขา ส่วนคนนี้คือ 'มีดน้อย' ตู้เฉิง องครักษ์ของเขา"
เสี่ยวเผิงได้ยินแล้วรีบทักทายหยินฉงเต๋อและตู้เฉิง "ที่แท้ก็เป็นลุงหยินนี่เอง ผมเสี่ยวเผิง นี่หยางเมิ่ง กระดากใจจริงๆ เรื่องเล็กๆ ที่เกาะชีนหลี่เย่าถึงกับต้องรบกวนลุงหยินมาถึงที่ ทำให้ลุงหยินลำบากแล้ว"
เสี่ยวเผิงพูดจาหวานหู เรียก 'ลุง' ติดปาก ฟังจากคำแนะนำของหลิวชิ่งหลง หยินฉงเต๋อทำงานด้านพรรคและการเมืองที่กองเรือเหนือ? นั่นก็คือเป็นเจ้าหน้าที่การเมืองสินะ? ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนทหารเก่าของหลิวชิ่งหลงจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่การเมืองระดับไหน
หยินฉงเต๋อส่ายหน้า ยิ้มพูดว่า "ไม่มีอะไรลำบากหรอก ตอนนี้ต้องรบกวนนายต่างหาก หลิวชมพวกเธอที่เกาะชีนหลี่เย่าให้ฟังทุกวัน ชมจนออกดอกเลย วันนี้พวกเราก็อยากมาดูดินแดนในฝันของนายหน่อย แต่นี่พวกเธอกำลังแสดงอะไรกันอยู่? พวกนี้เป็นใครกัน?"
เสี่ยวเผิงยิ้มพูด "ลุงหยินกับท่านนายอำเภอหลิวมาที่นั่น ถือเป็นเกียรติอย่างสูง ยินดีต้อนรับตลอดเวลา แต่จะว่าเป็นดินแดนในฝันก็ไม่ใช่หรอกครับ แค่เกาะเล็กๆ ที่ไม่มีอะไร หวังว่าลุงหยินไปแล้วจะไม่ผิดหวังก็แล้วกัน" พูดจบก็ชี้ไปที่ถานเจิ้งหยางที่กำลังร้องไห้เอามือปิดหน้าอยู่บนพื้นแล้วพูดว่า "ไม่รู้ว่าเด็กน้อยที่ไหนพาพวกไร้ประโยชน์มาแต่งตัวเป็นอันธพาล นี่ไง จัดการไปรอบหนึ่งแล้ว เหลือแต่นั่งร้องไห้อยู่บนพื้น"
หลิวชิ่งหลงและหยินฉงเต๋อ ทั้งคู่ไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อได้ยินคำว่า 'อันธพาล' ต่างขมวดคิ้วด้วยความโกรธ หลิวชิ่งหลงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ได้ยินเสียงรถตำรวจดังมาจากนอกท่าเรือ มองไปตามเสียง เห็นรถตำรวจสองคันแล่นมาอย่างรวดเร็ว
แต่พวกเขาไม่ทันสังเกตว่า หลังรถตำรวจยังมีรถบีเอ็มดับเบิลยูสปอร์ตตามมาอีกคัน
เสี่ยวเผิงยิ้ม "เอาละ ท่านนายอำเภอหลิว ลุงหยิน ตำรวจมาแล้ว เรื่องนี้ให้ตำรวจจัดการก็พอ เดี๋ยวพวกเราไปเกาะชีนหลี่เย่ากันเลย ลองชิมอาหารธรรมดาๆ ที่นั่น หวังว่าทุกท่านจะไม่รังเกียจ"
หลิวชิ่งหลงทำท่าไม่พอใจ "เสี่ยวเผิง นี่นายไม่ถูกแล้วนะ พวกเรารู้จักกันมานาน นายเรียกฉันว่าท่านนายอำเภอหลิวตลอด แต่พอหยินมานายกลับเรียกเขาว่าลุง นายคงคิดว่าหยินมีความสามารถกว่าฉันถึงเรียกแบบนั้นสินะ?"
เสี่ยวเผิงรีบยกมือทั้งสองข้างทำท่ายอมแพ้ "ลุงหลิว ผมผิดไปแล้ว ท่านก็เป็นลุงแท้ๆ ของผม ที่จริงผมอยากเรียกท่านว่าลุงหลิว แต่กลัวท่านจะรังเกียจน่ะครับ"
ทุกคนได้ยินคำพูดของเสี่ยวเผิงแล้วต่างหัวเราะออกมา
ในตอนนั้นเอง รถตำรวจก็จอดหน้าพวกเขา ตำรวจหลายนายเดินลงจากรถ เข้ามาหาเสี่ยวเผิงและคนอื่นๆ
"พวกแกทะเลาะกันที่นี่หรือ? ทำร้ายคนจนเป็นแบบนี้ยังมายืนหัวเราะกันอยู่ได้ พวกแกกล้าดียังไง?" ประโยคแรกที่ตำรวจนายแรกพูดทำให้ทุกคนขมวดคิ้ว นี่หมายความว่ายังไง?
ในตอนนั้น รถบีเอ็มดับเบิลยูสปอร์ตก็จอดลง หญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบกว่าคนหนึ่งเดินออกมาจากรถ
พอออกมาหญิงวัยกลางคนก็ด่าทันที "ไอ้พวกขี้ข้า! กล้าทำร้ายลูกชายฉัน? วันนี้พวกแกหนีไม่รอดแน่!"
เห็นผู้หญิงคนนั้นเดินลงจากรถ ปฏิกิริยาแรกของเสี่ยวเผิงคือไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ก็ไม่แปลกที่เสี่ยวเผิงจะตกใจ ภาพตรงหน้าช่างเหลือเชื่อจริงๆ
ต้องรู้ว่ารถบีเอ็มดับเบิลยูคันนี้เป็นรุ่น Z4 นี่เป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนแบบหลังคาแข็งขนาดกะทัดรัดที่มีชื่อเสียง รถคันนี้จริงๆ ไม่ได้แพงมาก ราคาแค่หลายแสนหยวน โดยทั่วไปมักเป็นเด็กสาวที่ขับเล่น
แต่ตอนนี้ผู้หญิงวัยกลางคนที่เดินออกมาจากรถ มีน้ำหนักอย่างน้อยสองร้อยกว่าจิ้น เสี่ยวเผิงไม่รู้จริงๆ ว่าเธอยัดตัวเองเข้าไปในรถเล็กๆ แบบนั้นได้ยังไง?
ภาพนี้ช่างงดงามเหลือเกิน นอกจากคำว่า 'ยัด' เสี่ยวเผิงนึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีคำไหนที่จะบรรยายฉากนี้ได้อีก...
เสี่ยวเผิงมองดูใบหน้าของป้าผู้นี้อย่างละเอียด ก็ได้ พูดตามตรง หน้าตาของป้าอ้วนคนนี้ไม่ได้น่าเกลียดจนทนดูไม่ได้ขนาดนั้น แต่อาจเป็นเพราะอ้วนเกินไป ทำให้มองยังไงก็รู้สึกไม่สบายตา
อ๋อ นึกออกแล้ว! เหมือนย่าไฟแรงในหนังของโจวซิงฉือเรื่อง 'ขุนนางเก้าตำลึง'! บ้าเอ๊ย เหมือนกับหล่อออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันเลย!
สิ่งที่ยิ่งทำให้คนรับไม่ได้คือ ป้าอ้วนคนนี้ราวกับกลัวคนอื่นจะไม่รู้ว่าเธอมีเงิน คอห้อยสร้อยทองคำใหญ่ ติดพระทองคำองค์ใหญ่ ที่แขนสวมกำไลหยก นิ้วมือสวมแหวนทองคำหลายวง ท่าทางเหมือนเศรษฐีใหม่ เธอไม่กลัวคอจะปวดจนเป็นโรคกระดูกคอเหรอ?
ผู้ชายแบบนี้เสี่ยวเผิงเคยเห็นมาเยอะ แต่ผู้หญิงแบบนี้ เสี่ยวเผิงยังไม่เคยเห็นสักกี่คน
เห็นหญิงวัยกลางคนลงจากรถ ถานเจิ้งหยางชี้นิ้วไปที่เสี่ยวเผิง ร้องไห้หนักกว่าเดิม "แม่ครับ แม่ต้องแก้แค้นให้ผมนะ! มันเป็นคนรังแกผม!"
ที่แท้คนที่ขับรถมาก็คืออ้ายหุยหลิน แม่ของถานเจิ้งหยาง
เห็นท่าทางของอ้ายหุยหลินที่ทำเหมือนไม่มีใครอยู่ในสายตา เสี่ยวเผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
มีตำรวจอยู่ข้างๆ ยังกล้าทำตัวโอหังขนาดนี้? ได้ เธอนี่เหมือนย่าไฟแรงจริงๆ!