บทที่ 437: สัตว์ร้าย (6)
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 437: สัตว์ร้าย (6)
แม้ข้อเสนอที่ยื่นมาจะเย้ายวนใจเพียงใด คำตอบของคังวูจินกลับกระชับหนักแน่น
"ผมขอดูบทภาพยนตร์ก่อนครับ"
สีหน้าของผู้บริหารจากโคลัมเบียสตูดิโอฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย บางคนถึงกับขมวดคิ้วมุ่น
'อย่างน้อยก็น่าจะรับปากส่ง ๆ ไปก่อนสิ'
'บทโจ๊กเกอร์ ภาคปฐมบทของวายร้าย ถือเป็นเกียรติประวัติของนักแสดงแท้ ๆ แต่นักแสดงคนนี้กลับไม่แยแสเลยสักนิด'
ปฏิกิริยาเช่นนี้พอจะคาดเดาได้
บทภาพยนตร์เรื่อง 'ปิเอโรต์: กำเนิดวายร้าย' นั้นไม่ได้มาจากพวกเขา หากแต่มาจากผู้กำกับอันกาบกโดยตรง เหล่าผู้บริหารแทบไม่เคยเห็นปฏิกิริยาของคังวูจินในช่วงแคสติ้งมาก่อน ทว่าในยามนี้ใบหน้าของวูจินเรียบเฉย แต่ก็ไม่ได้เคร่งเครียดแต่อย่างใด
'ปิเอโรต์: กำเนิดวายร้าย ถึงจะระดับดี ตัวหนังก็ทำได้ยอดเยี่ยม แต่ภาคต่อจะออกมาเป็นยังไงใครจะรู้ ถ้าแป้ก ฉันก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะรับเล่น'
โดยปกตินักแสดงที่ได้รับเลือกให้ร่วมแสดงในจักรวาลภาพยนตร์มักจะรับบทตัวละครเดิมต่อเนื่อง อาจด้วยความผูกพันกับตัวละคร เกียรติยศชื่อเสียง หรือเหตุผลนานาประการ แต่หนึ่งในเหตุผลหลักคือการรักษาฐานแฟนคลับเอาไว้
นั่นคือเพื่อรักษาอิทธิพลและชื่อเสียงที่เพิ่มพูนขึ้น
ทว่าสำหรับวูจินผู้ครอบครอง 'มิติว่างเปล่า' เหตุผลรองเหล่านั้นกลับไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง
ฝ่ายที่ตกเป็นรองคือโคลัมเบียสตูดิโอ
เมื่อตระหนักได้เช่นนั้น ชายหัวล้าน หนึ่งในผู้บริหารของโคลัมเบียสตูดิโอ จึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“แน่นอนครับ พอบทภาพยนตร์เสร็จสมบูรณ์ผมจะส่งให้ทันที แต่... ฮ่า ๆ คุณคังวูจินนี่ตรงไปตรงมาเหมือนที่ผู้กำกับอันกล่าวไว้ไม่มีผิดเลยนะครับ”
“สำหรับผม บทภาพยนตร์สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด”
ผู้บริหารหัวล้านพยักหน้ารับราวกับเข้าใจถ่องแท้ แล้วจึงเริ่มอธิบายแผนงานในปีหน้าและปีถัดไปอย่างละเอียด
แม้คำอธิบายจะยาวเหยียด แต่สรุปใจความได้ว่า จักรวาลภาพยนตร์ที่ ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ หนึ่งในห้าค่ายยักษ์ใหญ่แห่งฮอลลีวูด หรือที่คนในวงการเรียกขานกันว่า “บิ๊กไฟว์” ทุ่มทุนสร้างมาหลายปีนั้น จะเริ่มต้นด้วย ‘ปิเอโรต์:กำเนิดวายร้าย’ โดยมี ‘โจ๊กเกอร์’ เป็นวายร้ายคนแรกประเดิมฉาก
เมื่อวายร้ายปรากฏตัว ฮีโร่ก็ต้องตามมาอย่างมิต้องสงสัย
ดังนั้นพาร์ทสองจึงเป็นเรื่องราวของฮีโร่คนแรกที่ปรากฏตัวขึ้นเพื่อต่อกร และจักรวาลของฮีโร่คนนี้จะเชื่อมโยงกับ ‘โจ๊กเกอร์’ อย่างแนบเนียน ส่วนภาคสามที่ตามมาติด ๆ จะเป็นการเปิดตัวฮีโร่อีกคน พร้อมกับวายร้ายคนใหม่ที่โผล่ขึ้นมานอกเหนือจาก ‘โจ๊กเกอร์’ แน่นอนว่าทุกอย่างล้วนอยู่ในจักรวาลเดียวกัน โดยเรื่องราวจะดำเนินไปพร้อมกับการอธิบายที่มาที่ไปของแต่ละตัวละครอย่างกระจ่างชัด
แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของจักรวาลภาพยนตร์อันยิ่งใหญ่ที่ ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ วางแผนไว้อย่างรอบคอบเท่านั้น
เป้าหมายของ ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ คือการออกฉายภาพยนตร์ทั้ง 3 ภาคภายในสองปีข้างหน้า แต่วูจินกลับนิ่งเฉย ไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ ปรากฏบนใบหน้า
แท้จริงแล้วในใจเขากำลังปั่นป่วนไปด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก
‘โอ้โห...มันน่าตื่นเต้นชะมัด! สเกลเรื่องใหญ่มาก!’
ทว่าด้วยบุคลิกที่ดูเย็นชาและนิ่งขรึมของเขา ทำให้ผู้บริหารทุกคน รวมถึงชายหัวล้าน เข้าใจผิดคิดว่าคังวูจินไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลยแม้แต่น้อย
‘บทภาพยนตร์มาก่อนสินะ? หรือว่าค่าตัว?’
ผู้บริหารอีกคนจึงแทรกขึ้น
“ในข้อเสนอโครงการของคุณวูจิน ระบุค่าตัวที่คุณคาดหวังไว้ด้วย คุณเห็นหรือยังครับ?”
สายตาของคังวูจินและชเวซองกุนจับจ้องไปยังเอกสารเบื้องหน้า วูจินเห็นตัวเลขค่าตัวมหาศาลของตัวเองปรากฏอยู่
‘ให้ตายเถอะ! พระเจ้า!’
เขาเกือบหลุดอุทานออกมาดัง ๆ ด้วยความตกใจ เหตุผลง่าย ๆ ก็คือมันสูงกว่า ‘ปิเอโรต์:กำเนิดวายร้าย’ เสียอีก พูดตามตรงตอนนี้วูจินเริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเลขเหล่านี้เป็นเงินจริง ๆ หรือเป็นเพียงภาพลวงตา ส่วนชเวซองกุน ถึงจะเก็บอาการไว้ด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่ภายในใจก็ไม่อาจห้ามความตกตะลึงได้เช่นกัน
‘บ้าไปแล้ว นี่มันระดับฮอลลีวูดชัด ๆ !!’
ทว่าน้ำเสียงของคังวูจินที่เปล่งออกมายังคงราบเรียบและสุขุม แฝงไว้ด้วยความมั่นใจ
“ครับ ผมเห็นแล้ว”
การประชุมที่ดำเนินมาประมาณ 1 ชั่วโมงก็สิ้นสุดลง คังวูจินเดินออกจากห้องประชุมไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ภายในใจกลับครุ่นคิด
‘โอ้โห ให้ตายเถอะ ค่าตัวฉันพุ่งสูงขนาดนี้เลยเชียว? ถ้าบทภาพยนตร์ไม่แย่ก็คงต้องรับไว้ล่ะนะ’
ในทางกลับกัน เหล่าผู้บริหารของ ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ ที่ยังคงอยู่ในห้องประชุมกลับมีสีหน้าเคร่งเครียด พวกเขาไม่รู้ความคิดที่แท้จริงของคังวูจิน และเห็นเพียงท่าทีที่ดูไม่ค่อยกระตือรือร้น
“ดูเหมือนคุณวูจินจะไม่ค่อยมีความทะเยอทะยานเลย…ลำบากใจจริง ๆ”
“ฉันคิดว่าเป็นเพราะเรื่องค่าตัวแน่ ๆ มันน้อยเกินไป”
“นั่นก็เป็นส่วนหนึ่ง…แต่ดูเหมือนเขาจะให้ความสำคัญกับเนื้อเรื่องของภาพยนตร์เรื่องต่อไปด้วย”
“เฮ้อ…ค่าตัวที่เสนอก็สูงมากแล้วนะ ขึ้นมากกว่านี้คงไม่ได้แล้ว”
ความคิดเห็นหลากหลายพรั่งพรูออกมาจากเหล่าผู้บริหาร
“หากต้องการตัวคังวูจินจริง ๆ เราต้องรีบดำเนินการก่อนสิ้นปีนี้ เขาคอนเฟิร์มตารางงานไว้ยาวเหยียดถึงปีหน้าแล้ว ทั้งกับภาพยนตร์เรื่อง ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ และโปรเจกต์ใหญ่ของ ‘ยูนิเวอร์แซลมูฟวี่ส์’ หากเขารับงานอื่นเพิ่มอีก คงไม่มีเวลาว่างเหลือสำหรับโปรเจกต์ของเราแน่”
“······บางที เราอาจต้องมองหานักแสดงคุณอื่นมารับบทแทนคังวูจินสำหรับภาพยนตร์เรื่องต่อไป”
“หมายถึงตัว ‘โจ๊กเกอร์’ ใช่ไหมครับ?”
“ฉันแค่พูดถึงการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า”
ในตอนนั้นเอง
-กึก
ผู้บริหารหัวล้านลูบศีรษะมันวาวของตนอย่างเงียบเชียบ ภาพการแสดงอันทรงพลังในบท ‘โจ๊กเกอร์’ ของคังวูจินในรอบออดิชั่น รวมถึงผลงานการแสดงทั้งหมดที่เคยผ่านสายตา ปรากฏขึ้นในห้วงความคิด
ครู่ต่อมา ผู้บริหารหัวล้านก็กอดอกแน่น
“นักแสดงคนอื่น? ใครกันที่จะมาเทียบชั้น ‘โจ๊กเกอร์’ ของคังวูจินได้? ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้แม้เพียงเศษเสี้ยว เราได้ประจักษ์กับตาตนเองมาแล้ว มาตรฐานการมองหานักแสดงของเราสูงขึ้นมาก ถึงแม้จะเป็นแค่ความรู้สึกของเราเองก็ตาม แต่-”
ผู้บริหารหัวล้านแสยะยิ้มบาง ๆ
“แล้วผู้ชมทั่วโลกเล่า? คนที่เคยเห็น ‘โจ๊กเกอร์’ ใน ‘ปิเอโรต์:กำเนิดวายร้าย’ จะพึงพอใจกับนักแสดงคนอื่นได้ยังไง?”
“······”
“······”
บรรยากาศในห้องประชุมที่เคยคึกคักพลันเงียบสงัด ผู้บริหารหัวล้านส่ายหน้า ราวกับแค่คิดก็รู้สึกขนลุกขนพอง
“ถ้าหากเปลี่ยนตัว ‘โจ๊กเกอร์’ จากคังวูจินเป็นนักแสดงคนอื่น… ไม่สิ ต้องบอกว่าโอกาสเกิดขึ้นจริงถึง 100% แน่ ๆ กระแสความสนใจที่พุ่งสูงอยู่จะดิ่งลงเหว นั่นหมายถึง ‘จักรวาลภาพยนตร์’ ทั้งหมดจะล่มสลาย”
เขาวางปลายนิ้วลงบนแผ่นพลาสติกใส บริเวณที่ระบุค่าตัวของคังวูจิน
“หมายความว่าเราต้องได้ตัวคังวูจินมาให้ได้ ถึงแม้ต้องจ่ายเป็นสองเท่าของราคานี้ก็ยอม”
ตัดภาพไปที่
คังวูจินนั่งอยู่ในรถตู้ที่กำลังเคลื่อนตัวไปยังจุดหมายปลายทางซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ภายใน ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ เดียวกัน แต่เป็นอีกโซนหนึ่ง นั่นคือฉากถ่ายทำของภาพยนตร์เรื่อง ‘ปิเอโรต์:กำเนิดวายร้าย’ ถึงจะอยู่ในสตูดิโอเดียวกัน แต่พื้นที่กลับกว้างใหญ่ไพศาล เดินเท้าไปไม่ถึงแน่
ขณะนี้ คังวูจินกำลังก้มมองหน้าจอโทรศัพท์
‘เรื่องยังคงเป็นกระแสอยู่เรื่อย ๆ สินะ’
เรื่องราวการช่วยชีวิตไมลีย์ คาร่า ของเขาเมื่อวานนี้ ดูเหมือนจะดังกระหึ่มไปทั่วโลก ไกลเกินกว่าแค่ฮอลลีวูดเสียแล้ว
『LA TIME/ไมลีย์ คาร่า รอดชีวิตได้เพราะคังวูจิน วีรกรรมคล้ายกันนี้เคยเกิดขึ้นที่เกาหลี!』
วูจินไล่อ่านข่าวจากหลายสำนัก พลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย
‘แต่มันรั่วออกไปได้ยังไงกันนะ’
ถึงจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สะเทือนวงการฮอลลีวูด แต่เพื่อลดความเสียหาย ฝ่ายไมลีย์ คาร่า เลือกที่จะปิดข่าวเงียบ ๆ ทว่าสำหรับตัวเขาเองแล้ว กลับไม่รู้สึกหนักใจอะไร เพราะไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว สุดท้ายก็สามารถช่วยคาร่าได้สำเร็จ แถมยังได้รับรางวัลตอบแทนอย่างงามเกินคาด
คาร่ามอบบ้านพักหลังงามที่แอลเอให้เป็นของขวัญ แถมเธอยังตอบตกลงรับบทนำในภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง ‘มารร้ายผู้แสนดี’ พาร์ท 1 ซึ่งถือเป็นการแสดงภาพยนตร์เกาหลีครั้งแรกในชีวิตของเธออีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น
‘ฉันกับไมลีย์ คาร่า ก็สนิทกันมากขึ้นด้วย’
ก่อนหน้าที่คังวูจินจะเฉิดฉายในวงการฮอลลีวูด เขายังเป็นเพียงบุรุษผู้ไร้นาม แต่กลับสานสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับไมลีย์ คาร่า ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยความพึงพอใจในสิ่งที่ได้รับ วูจินจึงไม่ได้ใส่ใจกับเหตุการณ์ช่วยชีวิตเธอมากนัก
แต่แล้วเรื่องราวที่ถูกปิดบังไว้ก็ถูกเปิดโปงขึ้นอีกครั้ง
『CNM/คนร้ายที่ทำร้ายไมลีย์ คาร่า ถูกจับกุมแล้ว ฝ่ายไมลีย์ “ขอบคุณคังวูจิน” 』
เรื่องราวดังกล่าวส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วฮอลลีวูด สื่อบันเทิงต่างประโคมข่าวด้วยคำว่า "ข่าวเด็ด" และ "ข่าวพิเศษ" รายงานข่าวการถูกทำร้ายของไมลีย์ คาร่า สำนักข่าวต่าง ๆ ก็พร้อมใจกันนำเสนอข่าวใหญ่นี้อย่างต่อเนื่อง
แม้กาลเวลาจะล่วงเลย แต่กระแสความสนใจกลับยิ่งทวีความร้อนแรง
เพราะไมลีย์ คาร่า คือหนึ่งในนักแสดงหญิงแถวหน้าของฮอลลีวูด
การถูกทำร้ายของซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก ทั้งในฐานะนักแสดงและนักร้อง ซึ่งเคยถูกปิดเป็นความลับ กลับกลายเป็นประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือ คังวูจิน ชายหนุ่มที่กำลังเป็นที่กล่าวขานที่สุดในฮอลลีวูด ไม่ว่าจะในแง่ดีหรือร้าย
เรื่องราวของสองซุปเปอร์สตาร์ยิ่งโหมกระพือให้ข่าวนี้เป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้น
ยิ่งมีทั้งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอสั้น ๆ ในเหตุการณ์นั้นรั่วไหลออกมา แม้จะไม่ได้บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ แต่ก็ปรากฏภาพคังวูจินเข้าควบคุมตัวผู้หญิงคนหนึ่ง ภาพอาวุธที่ผู้หญิงคนนั้นถือ ภาพความโกลาหลในกองถ่ายมิวสิควิดีโอ รวมถึงเสียงกรีดร้องโหยหวนในคลิปวิดีโอ ซึ่งในคลิปนั้นมีภาพของคาร่าและคังวูจินอย่างชัดเจน
สิ่งที่น่าสนใจคือ
『BBX/คังวูจินที่เคยตกเป็นเป้าสายตาจากรายการ ‘ทูไนท์โชว์’ กลับมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นอย่างฉับพลันจากวีรกรรมที่ช่วยไมลีย์ คาร่า』
ตั้งแต่อดีตจวบจนกระทั่งรายการ “ทูไนท์โชว์” ล่าสุด กระแสวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบที่เคยรุมเร้าคังวูจินมาโดยตลอด กลับพลิกผันราวกับพลิกฝ่ามือ ความคิดเห็นของสาธารณชนและสื่อต่าง ๆ แปรเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ขณะที่คังวูจินกำลังเพ่งพินิจข่าวสาร บทความ และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ นั้น
เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
-อืดด อืดด
ชื่อผู้ติดต่อปรากฏขึ้นบนหน้าจอ คือ ไมลีย์ คาร่า วูจินสบตากับชเวซองกุนแวบหนึ่ง ก่อนจะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นแนบหู
“ฮัลโหล ไมลีย์ ผมเองครับ”
เสียงของคาร่าจากปลายสายกลับสงบนิ่งผิดวิสัย
“คุณวูจิน ได้ดูข่าวบ้างหรือยังคะ?”
“ครับ ผมติดตามมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว หรือว่าเรื่องนี้ทางคุณเป็นคนปล่อยข่าวออกมา?”
เป็นคำถามที่ฟังดูสมเหตุสมผล เพราะคนที่ปกปิดเรื่องนี้ไว้ได้ ย่อมเป็นคนที่สามารถเปิดเผยมันได้ง่ายที่สุดเช่นกัน แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ “ไม่”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ ทางเราก็เพิ่งทราบเรื่องจากข่าวเหมือนกัน เรากำลังตรวจสอบอยู่ว่าข้อมูลมันรั่วไหลออกมาจากทางไหน แต่เรื่องมันผ่านมานานแล้ว แถมยังมีทีมงานอยู่ในเหตุการณ์มากมาย การตรวจสอบทีละคนคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละครับ”
“แต่ยังไงฉันก็คิดว่าเราคงปิดบังเรื่องนี้ไว้ตลอดไปไม่ได้อยู่แล้ว เราก็เคยคุยกันแล้วนี่คะ”
ใช่ ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เกิดเรื่อง คังวูจินและคาร่าก็เคยสนทนากันในประเด็นนี้ ว่าคงไม่สามารถปิดเรื่องนี้เป็นความลับไปตลอดชีวิตได้ วูจินพยักหน้ารับเบา ๆ
“ครับ แต่เรื่องมันก็ปะทุขึ้นเร็วเกินไป ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ?”
คาร่าหัวเราะออกมาจากปลายสายเบา ๆ
“แบบนี้ต้องถามว่า ‘คุณโอเคไหม?’ มากกว่ามั้งคะ ถามว่า ‘ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?’ นี่มันยังไงกัน”
“...คุณโอเคไหมครับ?”
“ก็โอเคแหละค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นเรื่องจริงทั้งหมดด้วย ตอนนั้นที่ปิดข่าวไปเพราะวุ่นวายหลายอย่าง แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องแล้วนี่ คุณวูจิน คุณล่ะคิดยังไงคะ?”
ฉันเหรอ ฉันก็เหมือนกัน เรื่องนี้ถูกเปิดเผยไปก็ไม่ได้ทำให้คังวูจินเดือดร้อนอะไร
“ผมก็คิดเหมือนกันครับ”
“งั้นก็ปล่อยไปแบบนี้แหละ ปล่อยให้สื่อกับกระแสสังคมสนุกกันไป”
“ครับ”
หลังคำตอบสั้น ๆ ของคังวูจิน เสียงของคาร่าก็ดังขึ้นมาอีกครั้งผ่านโทรศัพท์มือถือ คราวนี้เปลี่ยนเรื่องคุย
“ทานข้าวหรือยังคะ? อ๊ะ หรือว่ากำลังเดินทางไปกองถ่ายอยู่”
“ใช่ครับ”
“ถึงแล้วก็หาอะไรทานด้วยนะคะ”
คาร่าคุยกับวูจินอีกเล็กน้อยก่อนจะวางสาย วูจินวางโทรศัพท์มือถือลง ใบหน้ายังคงเรียบเฉย แต่หัวใจกลับเต้นระรัวอย่างแปลกประหลาด
‘บทสนทนาก่อนวางสายนี่มัน…เหมือนคู่รักคุยกันไม่มีผิด’
ทันใดนั้น ชเวซองกุนก็แทรกขึ้นมา
“ไมลีย์ว่าไงบ้าง”
วูจินตั้งสติแล้วปรับน้ำเสียงให้ต่ำลง
“ทางนั้นไม่ได้ปล่อยข่าว บอกว่าไม่เกี่ยวอะไรด้วย”
“เหรอ หืม แปลกจัง ฉันนึกว่าคาร่าเป็นคนเปิดเผยเรื่องนี้ออกมาซะอีก ก็จังหวะมันได้พอดีเลยนี่ ตอนที่ภาพลักษณ์นายกำลังด่างพร้อย เรื่องราวแบบวีรบุรุษนี่มันก็ดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมาได้พอดี มันไม่น่าบังเอิญขนาดนั้นหรอก”
ชเวซองกุนลูบคางครุ่นคิด ก่อนจะหยุดลง
“ช่างเถอะ ทั้งทางนั้นและทางเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ปล่อยให้เรื่องมันดำเนินไปแบบนี้ก็แล้วกัน”
ทันใดนั้นเขาก็แย้มยิ้มออกมา
“แต่มันก็ตลกดีนะ”
“ตลกยังไงครับ?”
“ก็คิดดูสิ นี่โคลัมเบียสตูดิโอทุ่มทุนสร้างจักรวาลภาพยนตร์ขนาดนี้ แต่วายร้ายคนแรกอย่างโจ๊กเกอร์ในโลกความจริงกลับเป็นคนช่วยชีวิตคาร่าไว้ได้ ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ”
ชเวซองกุนแย้มยิ้ม มุมปากยกขึ้นคล้ายกับโจ๊กเกอร์
“พอปิเอโรต์: กำเนิดวายร้ายเข้าฉาย เรื่องนี้คงถูกพูดถึงอีกมากแน่”
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
คังวูจินท่ามกลางวงการบันเทิงฮอลลีวูดที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ยังคงถ่ายทำภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่ามีตารางงานจุกจิกอื่น ๆ อีกมาก แต่ภารกิจหลักยังคงเป็นการถ่ายทำ
“คัท โอเค วูจิน คราวนี้ลองแสดงแบบด้นสดดูหน่อยไหม?”
“ครับ”
ผู้กำกับอันกาบกรุ่นเก๋าที่หลุดพ้นจากพันธนาการ กลับมาฮึกเหิมกว่าเดิมหลายเท่า ส่วนนอร่านั้นดูเปลี่ยนไป เธอมาที่กองถ่ายน้อยลงกว่าแต่ก่อน
วันเวลาผ่านไปราวกับติดปีกบิน
บัดนี้ เข้าสู่สัปดาห์ที่สามของเดือนกรกฎาคมแล้ว วันที่ 18 วันจันทร์ เช้าตรู่ ขณะที่ข่าวสารจากทั้งฮอลลีวูดและเกาหลีหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย คังวูจินใบหน้าเรียบเฉย สวมหมวกปิดบังใบหน้า ก้าวออกมาจากคฤหาสน์ที่แอลเอ
- ตึง!
เขาขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่ จากนั้นเอ่ยทักทายชเวซองกุนและทีมงานด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะหยิบจับบทภาพยนตร์ขึ้นมาอ่าน
‘ลองดูหน่อยสิ-’
ไม่ใช่บทปิเอโรต์: กำเนิดวายร้าย แต่เป็นโฉมงามกับเจ้าชายอสูร ส่วนเหตุผลก็ง่ายมาก
เพราะในตอนนี้
『คังวูจิน ‘ซุป’ ตาร์ระดับโลก’ ปรากฏตัวที่แอลเอ! วันนี้ 18 ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ เริ่มอ่านบท』
'โฉมงามกับเจ้าชายอสูร' กำลังจะได้เวลาอ่านบทแล้ว
-จบ-
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_