บทที่ 4 การเกิดใหม่!
บทที่ 4 การเกิดใหม่!
หลังจากได้ยินน้ำเสียงที่อ่อนโยนของลูกสาวของเธอในที่สุดนางหลิวก็อดไม่ได้ที่จะรีบเร่งเข้าไปกอดลูกสาว แล้วเริ่มร้องไห้อย่างสะอึกสะอื้นพร้อมกับน้ำตาที่นองใบหน้า
เธอรู้สึกเศร้าโศกเสียใจมากจริงๆ ที่ลูกของเธอนั้นยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตวัยแรกรุ่นอันแสนจะสดใส ก็ถูกบังคับให้แต่งงานแล้ว! มิหนำซ้ำชายที่แต่งงานด้วยก็เป็นชายที่เลวร้ายที่สุดแห่งเมืองหลวงอีกด้วย!
“เสียนเอ๋อ~!”
เมื่อคิดถึงอนาคตที่ลูกสาวตัวน้อยต้องฝืนทนทรมานอยู่กับเจ้าชายเลวๆคนนั้น นางหลิวก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม!
“ท่านแม่ไม่ต้องเป็นกังวล ไม่ต้องห่วงลูก”
หลิวจู่เสียนค่อยๆ พูดจาปลอบโยนมารดาของเธอ หลังจากเห็นว่านางหลิวร้องไห้จนเหนื่อยและเริ่มผ่อนคลายลง เธอจึงบอกให้สาวใช้พาแม่ของเธอไปพักผ่อน
ในเวลานี้เมื่อเหลือเพียงพ่อและลูกสาว หลิวเจิ้งหยางรู้ดีว่าลูกสาวของตนนั้นต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม เขาจึงถอนหายใจและพูดว่า
“เสียนเอ๋อ! เจ้าคงอยากจะถามพ่อใช่มั้ย? ว่าทำไมราชาฉินจึงเลือกเจ้าเป็นพระชายาของเจ้าชาย!”
หลิวจู่เสียนพยักหน้าเบาๆ เธอเองก็อยากรู้เหตุผลว่าเหตุใดราชาแห่งเมืองอันหยาง จึงเลือกตนไปเป็นลูกสะใภ้ ทั้งๆที่เธอก็เป็นเพียงลูกสาวของขุนนางระดับ 7 ธรรมดาๆ ไม่ได้มีอิทธิพลหรือร่ำรวยอะไร กล่าวคือเมื่อแต่งงานกันแล้วตระกูลหลิวของพ่อเธอก็ไม่ได้ช่วยส่งเสริมฐานอำนาจใดๆ ต่อตละกูลฉินเลย?
หากจะกล่าวว่า เป็นเพราะเจ้าชายแอบหลงรักเธอ? นั่นก็ยิ่งเป็นไปได้ยาก! เพราะเธอกับเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนไม่เคยพบเจอกันมาก่อน และจากที่เธอทราบข่าวเกี่ยวกับเจ้าชายมา ในคฤหาสน์ของเขามีเหล่านางสนมสวยๆ อยู่อย่างมากมาย!
ฉะนั้นเธอจึงอยากทราบว่าเหตุใด ราชาแห่งเมืองอันหยาง จึงอยากได้เธอเป็นสะใภ้ถึงกับต้องรบกวนองค์ฮ่องเต้ ให้ออกพระราชกฤษฎีกาอภิเษกสมรส?
เมื่อพูดถึงเหตุผลของเรื่องนี้ หลิวเจิ้งหยางก็รู้สึกค่อนข้างจะมีอารมณ์โกรธ!
“นั่นก็เพราะว่าราชาฉิน น่าจะไม่สามารถมีบุตรได้อีกต่อไป! ฉะนั้นเขาจึงคาดหวังที่จะให้เจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนมีหลานจำนวนมากให้แก่เขา!”
หลิวจู่เสียนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ฟังคำพูดของบิดา! และเธอก็เริ่มจะมีอารมณ์โกรธขึ้นมาบ้างเช่นเดียวกัน!
เธอรู้ดีว่าผู้คนในเมืองหลวงนั้นพูดถึงตระกูลหลิวของเธอว่าอย่างไร! นั่นก็คือเป็นตระกูลที่มีภาวะเจริญพันธุ์อันแข็งแกร่ง เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ชั้นดีที่มีบุตรง่าย
‘ฮึ? ไม่น่าแปลกใจเลยที่ราชาแห่งเมืองอันหยาง ต้องการให้ข้าเป็นสะใภ้ของเขา! สรุปแล้วเห็นข้าเป็นแค่แม่พันธุ์ ที่เอาไว้คอยผลิตทายาทให้กับพวกเขาเพียงเท่านั้น!’
หลิวจู่เสียนนึกในใจ และความโกรธก็เพิ่มมากขึ้น!
หลิวเจิ้งหยางรู้สึกค่อนข้างจะเขินอายเล็กน้อยที่ต้องพูดเรื่องแบบนี้กับลูกสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือน เขาจึงแอบสังเกตสีหน้าของหลิวจู่เสียน แต่เมื่อเห็นเธอมีสีหน้าที่สงบและมั่นคงอยู่เช่นเดิม เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก!
ลูกสาวของเขานั้นแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆมาก เธอมีความสุขุม เยือกเย็น สงบนิ่งและเรียบร้อยเหมือนกับผู้ใหญ่มาตั้งแต่ตอนเด็กๆ เมื่อเธอเริ่มโตขึ้นเธอก็เป็นเหมือนเด็กอัจฉริยะ
เธอเรียนรู้ทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว และมีความรู้ความสามารถแทบจะทุกด้าน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเธอก็ไม่เคยอวดดีหรือหยิ่งผยองเลยแม้แต่น้อย ฉะนั้นเธอจึงเป็นที่รักใคร่ของทุกๆ คนในบ้าน
“เสียนเอ๋อ! งานแต่งงานจะจัดขึ้น ในอีก 2 เดือนข้างหน้า ในระหว่างนี้เจ้าเตรียมชุดแต่งงานของตัวเองที่บ้านได้! ส่วนทรัพย์สิน อื่นๆ พ่อจะเร่งหาเพิ่มเติมให้!”
เมื่อพูดถึงเรื่องแต่งงานหลิวเจิ้งหยางก็รู้สึกเศร้าใจ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็จะพยายามเตรียมข้าวของเงินทองติดตัวเพิ่มให้กับบุตรีคนเล็กของเขาในวันออกเรือนให้ได้มากที่สุด!
“ลูกเข้าใจ,ท่านพ่อและท่านแม่ก็โปรดอย่าเศร้าโศกมากเกินไปสำหรับเรื่องนี้! เนื่องจากมันเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้! ฉะนั้นก็ทำได้เพียงแต่ยอมรับมันและพยายามทำให้ดีที่สุด! บางทีเจ้าชายอันหยางอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คนเขาล่ำลือกัน!” หลิวจู่เสียนปลอบใจบิดาของเธอ
หลิวเจิ้งหยางและหลิวจู่เสียนรู้ว่าคำพูดเหล่านี้เป็นเพียงการปลอบโยนซึ่งกันและกัน! แต่มนุษย์เราเมื่อถึงคราวต้องเผชิญกับปัญหาอันหนักหน่วง ทุกคนต่างต้องการคำปลอบโยนและคำพูดที่ดีด้วยกันทั้งสิ้น!
หลิวจู่เสียนพูดคุยกับพ่อของเธออยู่อีกครู่หนึ่ง ก่อนที่จะบอกลาและจากไป!
หลิวจู่เสียนกลับมายังที่พักของเธอ พร้อมกับสาวใช้ส่วนตัวโม่จู!
หลังจากเข้ามาในห้องแล้ว! ใบหน้าของเธอซึ่งควรสงบนิ่งราวกับผืนน้ำ ก็เปลี่ยนเป็นคิ้วขมวด หน้ามู่ทู่ ดวงตากลมโตก็เต็มไปด้วยความโกรธเคือง! เธอหันไปหยิบโต๊ะหนังสือที่อยู่ทางด้านข้าง และต้องการจะฉีกมันออกมันเป็นชิ้นๆเพื่อระบายอารมณ์!
“โปรดหยุดมือก่อนคะคุณหนู!!”
น้ำเสียงห้ามปรามที่ไม่ดังมาก แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ในเชิงตำหนิ ดังมาจากทางด้านหลัง เพื่อหยุดพฤติกรรมของเธออย่างทันท่วงที!
“หากคุณหนู ทำลายโต๊ะตัวนี้ ข้าเชื่อว่านายหญิงจะต้องสั่งให้คนรับใช้ชายทั้งหมดในคฤหาสน์ ออกไปกวาดล้างและกำจัดแมวป่าในบริเวณนี้ทั้งหมดอย่างแน่นอน!”
นั่นคือเสียงของสาวรับใช้คนสนิทโม่จู ที่พูดเตือนหลิวจู่เสียนด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ข้าเคยเตือนคุณหนูไว้แล้ว! หากไม่จำเป็นจริงๆ ได้โปรดอย่าใช้กำลังที่ผิดแผกจากมนุษย์ทั่วไปนั้นอีก…!”
หลิวจู่เสียนที่ถือโต๊ะในท่าที่กำลังจะฉีกออกก็แข็งค้างคล้ายกับว่ามีคนกดปุ่มสต็อป! และในที่สุดเธอก็ค่อยๆวางโต๊ะกลับไปที่เดิม!
โม่จูถอนหายใจออกมาเบาๆ ถึงแม้ว่าเธอจะเห็นพละกำลังอันมหาศาลที่ผิดแปลกจากมนุษย์โดยทั่วไป จากคุณหนูของเธออยู่บ่อยครั้ง แต่เธอก็ยังคงรู้สึกทึ่งตะลึงงันในทุกทีที่ได้เห็น!
หากคนปกติทั่วไปคนอื่นได้เห็นเช่นเธอก็คงจะตื่นตกใจไม่แพ้กัน! ใครมันจะคิดว่าเด็กสาวหน้าตาสดสวยน่ารักที่มีรูปร่างบอบบาง จะถือโต๊ะหนังสือตัวใหญ่ๆ ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว!
โม่จูยังจำวันแรกที่เธอค้นพบความแข็งแกร่งคุณหนูของเธอได้เป็นอย่างดี! ในตอนนั้นคุณหนูของเธอมีอายุเพียงแค่ 3 ขวบ ขณะที่กำลังทานขนมอยู่ในสวน ได้มีแมลงตัวเล็กๆ บินเข้ามาเกาะที่โต๊ะขนม และกำลังจะไต่ขึ้นไปบนจานขนม เมื่อคุณหนูของเธอเห็นแมลงตัวนั้นเธอก็ยกมือขึ้นเพื่อตีมัน!
ตูมมมม!!
แต่ใครจะไปคิดว่า การกระทำของเด็กน้อย 3 ขวบ ที่ยกมือขึ้นตีแมลงตัวเล็กๆ มันจะทำให้ ทั้งจานขนมและโต๊ะทั้งหมดแหลกละเอียดกลายเป็นเศษซากไปในทันที! ด้วยการตีเพียงแค่ครั้งเดียว!
ยังดีที่ในเวลานั้นมีเธออยู่เพียงแค่คนเดียว! มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่เธอจะช่วยคุณหนูของเธอเก็บซ่อนความลับนี้เอาไว้! ไม่เช่นนั้นทุกคนคงจะมองว่าคุณหนูของเธอนั้นเป็นสัตว์ประหลาด หรือเป็นปีศาจร้ายจำแลงมาก็เป็นได้!
ฉะนั้นเมื่อครั้งใดก็ตาม ที่คุณหนูของเธอต้องการจะใช้พละกำลังอันแปลกประหลาด เธอจะคอยพูดเพื่อหยุดเตือนในทันที! จนคล้ายกับว่าเป็นสัญญาณแจ้งเตือนส่วนตัวไปแล้ว!
หลิวจู่เสียนหายใจเข้าลึกๆ 2-3 ครั้ง และพยายามวางโต๊ะอย่างเบามือเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ซึ่งหากคนอื่นมองดูก็จะคงคิดว่า เด็กสาวที่แสนจะน่ารักและอ่อนแอ กำลังพยายามจะผลักโต๊ะตัวใหญ่ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี เพื่อที่จะได้จัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
“เอาล่ะๆ? ข้ารู้แล้วพี่โม่จู! เลิกมองข้าแบบนั้นซะทีเถอะ!”
หลังจากนั้นโม่จูก็พูดกับหลิวจู่เสียนด้วยสีหน้าจริงจัง
“คุณหนูคะ! คุณหนูต้องการแต่งงานกับเจ้าชายฉินผู้นั้นจริงๆหรือเจ้าคะ?”
เมื่อได้ยินคำถามของโม่จู หลิวจู่เสียนก็ส่ายหน้าเล็กน้อยและถอนหายใจเบาๆ
“แล้วท่านจะให้ข้าทำเช่นไร? หากข้าฝ่าฝืนไม่ยอมแต่งงาน! พ่อของข้าและคนในตระกูลหลิวรวมทั้งบ่าวไพร่ ก็จะได้รับความเดือดร้อนและรับโทษทัณฑ์ด้วยกันทั้งหมด!”
เมื่อได้ยินคำตอบ โม่จูก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกต่อไป!
“เฮ้อ~! วันนี้ข้าเหนื่อยมากจะพักผ่อนแล้ว! พี่โมจูก็กลับไปพักผ่อนเถอะ!”
หลังจากที่โม่จูเดินออกไปแล้ว หลิวจู่เสียนก็เดินตรงเข้าไปยังห้องด้านใน หลังจากที่ปิดประตูลงกลอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินไปปิดหน้าต่างและดึงม่านลง
ขณะที่เดินไปนั่งลงบนเตียง ความนึกคิดของเธอนั้นยังคงวนเวียนอยู่กับการถูกบังคับให้แต่งงาน!
หลิวจู่เสียนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เธอรู้สึกว่าสังคมศักดินาในยุคจักรพรรดิเช่นนี้ช่างน่ารังเกียจมาก! เพศชายเป็นผู้ที่เหนือกว่า ส่วนเพศหญิงต้องเป็นเบี้ยล่าง และต้องคอยถูกกดขี่อยู่เสมอ!
ด้วยความโกรธและความโมโห เธอพาลสาปแช่งและดุด่าเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนในใจหลายสิบคำ….
แคว๊กกก~!
ในทันใดนั้นเสียงของบางสิ่งถูกฉีกขาดก็ดังขึ้น!
และเมื่อเธอรู้สึกตัวอีกที เธอก็พบว่าผ้าปูที่นอนที่เธอกำลังขยำขยี้อยู่ในตอนนี้นั้น ได้ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆเหมือนกระดาษบางๆ
หลิวจู่เสียนยิ้มอย่างขมขื่น และลุกขึ้นไปหยิบตะกร้าข้างเตียงเพื่อนำเข็มกับด้าย ออกมาและเริ่มทำการเย็บเพื่อซ่อมผ้าปูที่นอน!
หากจะกล่าวไปแล้ว ตัวของหลิวจู่เสียนนั้นมีความลับที่ไม่สามารถให้ใครรู้ได้! ในความเป็นจริงแล้ว เธอนั้นเป็นคนสมัยใหม่จากยุคปี 2024!
ในชีวิตก่อนหน้าที่เธอจะกลับมาเกิดในยุคโบราณนี้! เธอเป็นเด็กสาวจากสังคมสมัยใหม่ที่ธรรมดาๆ คนหนึ่ง! บ้านของเธออยู่ในเมืองเล็กๆของเขตมณฑลกวงหนาน เธอมีพี่น้องอยู่หลายคนและเธอก็เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว!
เธอมีบุคลิกที่เรียบร้อยและเชื่อฟังพ่อแม่มาก และภายใต้การจัดเตรียมของทุกคนในบ้านเธอก็เรียนจบมหาวิทยาลัยในคณะคอมพิวเตอร์สาขาการออกแบบกราฟฟิก หลังจากที่เรียนจบ เธอก็ได้ทำงานในบริษัทอินเตอร์เน็ตขนาดกลางแห่งหนึ่ง!
ในครั้งแรกที่เธอได้ออกไปทำงาน เธอรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นโลกใบใหม่สำหรับเธอ การอยู่หอพักคนเดียว การทำงานภายใต้คำสั่งของเจ้านายและการทำงานร่วมกันเป็นทีมกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ฉะนั้นเธอจึงต้องปรับตัวและปรับปรุงชีวิตของเธอในสถานะใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุด!
แต่แล้วด้วยอุปัทวเหตุที่ร้ายแรง ก็ได้ทำให้เธอเสียชีวิตและกลับมาเกิดใหม่ในยุคโบราณนี้!
เมื่อคืนรู้ว่าเธอมาเกิดใหม่ในยุคที่แตกต่าง เธอรู้สึกเศร้าโศกเสียใจมาก เธอคิดถึงพ่อแม่และพี่น้องทุกๆคนของเธอ ฉะนั้นในวันแรกที่เธอคลอดออกมา เธอก็ร้องไห้ออกมาเสียงดังในทันที!
เธอร้องไห้เสียงดังทุกวันจนคอแหบแห้ง และตาบวม นางหลิวที่เป็นมารดาของเธอในชีวิตนี้ จึงคิดว่าเธอเจ็บป่วยจึงให้สามีของเธอนั้นเชิญหมอที่มีชื่อเสียงมาตรวจเพื่อรักษา!
แต่เมื่อตรวจอาการเสร็จ หมอประจำเขตผู้นั้นก็ไม่สามารถหาสาเหตุที่ทารกเพศหญิงผู้นี้ร้องไห้เสียงดังทุกวันได้
มารดาของเธอจึงทำได้เพียงอุ้มและกอดเธอไว้ทุกๆวัน แต่หลังจากนั้นไม่นานเมื่อหลิวจู่เสียนรู้ว่าไม่สามารถกลับไปยังโลกเดิมได้อีกต่อไป เธอจึงต้องทำใจยอมรับการกลับชาติมาเกิดใหม่ในครั้งนี้!
และเมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป ทั้งบิดามารดารวมถึงพี่น้องทุกๆคนในตระกูลหลิว ต่างรักใคร่เอ็นดูและดีกับเธอมาก เธอจึงยอมรับว่าทุกคนในที่นี้นั้นคือครอบครัวของเธอ!
บางทีเพื่อชดเชยชีวิตและความตายที่ไม่สมเหตุผล รวมถึงการพลัดพรากจากครอบครัวอันอบอุ่นในชาติที่แล้ว พระเจ้าจึงได้มอบแหวนมิติจัดเก็บให้แก่เธอ!
ซึ่งแหวนจัดเก็บวงนี้นั้นค่อนข้างจะพิเศษมาก มันติดอยู่บนนิ้วกลางข้างขวาของเธอ คล้ายกับว่าเป็นอาวุธวิเศษที่เชื่อมโยงผูกกับจิตวิญญาณของเธอ แต่ในสายตาของคนอื่นๆ พวกเขาไม่สามารถมองเห็นแหวนมิติจัดเก็บวงนี้ได้ ทุกคนเห็นเป็นเพียงแค่รอยปานจุดเล็กๆบนนิ้วกลางข้างขวาของเธอเพียงเท่านั้น!
พื้นที่ภายในแหวนจัดเก็บนั้นกว้างใหญ่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่สิ่งมีชีวิตไม่สามารถนำเข้าไปไว้ในพื้นที่จัดเก็บของแหวนได้ รวมทั้งไม่สามารถนำดินและหญ้าเข้าไปเพื่อปลูกพืชพันธุ์ไม้ต่างๆได้ มันมีไว้เพื่อจัดเก็บสิ่งของเพียงเท่านั้น!
เมื่อรู้ว่าแหวนมีไว้สำหรับจัดเก็บของได้เพียงเท่านั้น หลิวจู่เสียนก็หายตื่นเต้นและค่อนข้างจะเฉื่อยชาเล็กน้อย!
‘มันค่อนข้างจะไร้ประโยชน์มากเกินไปที่มีพื้นที่ภายในแหวนจัดเก็บมากมายถึงขนาดนี้!’ เธออดไม่ได้ที่จะบ่น!
แต่หลังจากนั้นไม่นานผลข้างเคียงที่อัศจรรย์จากแหวนมิติจัดเก็บก็เกิดขึ้น! เพราะเธอรู้สึกได้ว่าร่างกายของเธอนั้น ค่อยๆ ได้รับพลังงานอันแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในทุกๆวัน!
เด็กน้อยไร้เดียงสาที่อายุไม่กี่ขวบ สามารถใช้นิ้วเล็กๆเจาะรูบนหินแข็งๆได้!
เมื่อได้รับพลังครั้งแรก! หลิวจู่เสียนรู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก! เมื่อเธอมีพลังงานแข็งแกร่งเธอก็สามารถดูแลตัวเองได้ดี และไม่แน่ว่าเธออาจจะเป็นยอดวีรสตรีสาวแห่งยุคก็เป็นได้!
แต่หลังจากนั้นไม่นานความสุขของเธอก็หายไป! และวันอันเลวร้ายก็ค่อยๆคืบคลานเข้ามา?
กล่าวคือเธอไม่สามารถควบคุมพลังงานอันแข็งแกร่งในร่างกายของเธอได้ ทุกสิ่งที่เธอเผลอออกแรงมากเกินไปนั้นจะถูกทำลายโดยสิ้นเชิง เธอกลัวว่าเธอจะเผลอไปทำร้ายบิดามารดาและพี่น้องคนอื่นๆโดยไม่ตั้งใจ!
ฉะนั้นนับตั้งแต่ที่เธอเป็นเด็กเธอจึงพยายามควบคุมพลังอันล้นเหลือและทำตัวให้สง
บเรียบร้อยด้วยการอยู่นิ่งๆ ให้มากที่สุด!
ด้วยเหตุนี้เอง ในสายตาของคนอื่นๆ จึงมองว่าเธอนั้นเป็นเด็กสาวที่สง่างาม น่ารัก และสุภาพเรียบร้อยมาก!
…. ….
จบบท