ตอนที่แล้วบทที่ 30 การปรากฏตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32 รีบกลับมาเถอะ

บทที่ 31 การประชุมผู้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง


บทที่ 31 การประชุมผู้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง

หัวหน้าของชนเผ่าซานมองไปรอบๆ ชาวเผ่าของเขา ก่อนจะเงยหน้าขึ้น แม้จะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ยังกัดฟันพูดออกมาว่า

"ท่านเทพ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้า โปรดลงโทษข้าคนเดียว แล้วปล่อยพวกเขาไปเถอะ"

พูดจบ เขาก็ก้มตัวลงอย่างนอบน้อม

"ท่านหัวหน้า!"

ชาวเผ่าคนอื่นๆ ต่างมองมาที่เขาด้วยความสะเทือนใจ

ซูหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าชายที่ดูโอหังในตอนแรกนี้ กลับเป็นคนที่เสียสละตัวเองเพื่อคนอื่นได้ คนแบบนี้แม้จะมีข้อเสียในบางด้าน แต่เรื่องการดูแลเผ่าของตัวเองนั้นถือว่าเหมาะสมทีเดียว

แม้แต่ชาวเผ่าหยานหวงก็ดูแปลกใจ หัวหน้าของพวกเขามองไปที่ชายคนนั้นด้วยสายตาชื่นชม

"ท่านเทพผู้ยิ่งใหญ่ ได้โปรดลงโทษข้าแทนท่านหัวหน้าเถอะ..."

ปุโรหิตเฒ่าของชนเผ่าซานรีบพูดแทรกขึ้น หวังจะให้เทพปล่อยหัวหน้าของพวกเขาไป แล้วลงโทษตัวเองแทน

ซูหยุนถึงกับรู้สึกหมดคำพูด ชาวเผ่าพวกนี้คิดจะทำให้เขากลายเป็นตัวร้ายอย่างนั้นหรือ?

"ครั้งนี้ข้าจะปล่อยผ่านไป" เขาขัดจังหวะปุโรหิตโดยไม่รอให้พูดต่อ พร้อมพูดเสียงเรียบ "แต่ข้าหวังว่า พวกเจ้าอย่าทำผิดอีกในภายหน้า"

ยังไงท้ายที่สุดเขาก็มาเพื่อรวบรวมพวกเขาให้เข้าร่วมเผ่า หากมีคนต้องเสียชีวิตจริงๆ มันก็คงไม่คุ้มค่า เพราะเป้าหมายของเขาคือต้องการจำนวนคนมากพอที่จะเลื่อนขั้น

ทันทีที่คำพูดจบลง เหล่าคนจากชนเผ่าซานต่างนิ่งค้าง ก่อนจะค่อยๆ เข้าใจ จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเปี่ยมไปด้วยความยินดี พวกเขามองเทพด้วยความสำนึกในความเมตตา

"ขอบคุณท่านเทพผู้เมตตา..."

พวกเขาพูดคำขอบคุณซ้ำไปซ้ำมา ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

เมื่อเหตุการณ์จบลง ซูหยุนมองกลุ่มคนเหล่านั้นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างของเขาจะลอยกลับเข้าไปในศิลาศักดิ์สิทธิ์

แสงสว่างจางลงเรื่อยๆ ก่อนที่ศิลาศักดิ์สิทธิ์จะกลับมาดูธรรมดาเหมือนเดิม

เหล่าคนต่างเฝ้ามองด้วยความเคารพจนกระทั่งร่างของเทพหายไป หลังจากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

สองฝ่ายต่างมองหน้ากันด้วยความลำบากใจ ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป

ซูหยุนมองสถานการณ์เหล่านี้อยู่ ก่อนจะครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นเขาใช้จิตของตนส่งคำสั่งผ่านสายใยศรัทธาไปยังหัวหน้าเผ่าของเขา

"ไปบอกพวกเขาให้รวบรวมคนทั้งหมด แล้วนำพวกเขากลับไปที่เผ่า"

เสียงสั่งการอย่างสงบนั้นดังขึ้น

หัวหน้าเผ่าพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว "ขอรับ!"

เมื่อคนอื่นๆ ที่ได้ยินคำพูดของเขา ต่างก็พอจะเดาได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างคลุมเครือ พร้อมกับมองดูศิลาศักดิ์สิทธิ์ด้วยความเคารพยำเกรง

หัวหน้าเผ่ากล่าวเสร็จ ก็หันไปมองคนในชนเผ่าซานด้วยสีหน้าจริงจัง "เทพเจ้าสั่งข้ามา ให้พวกเจ้ารวบรวมสมาชิกทุกคนในเผ่า แล้วเดินทางกลับไปยังเผ่าของเราพร้อมกัน!"

คนในชนเผ่าซานไม่กล้าขัดขืน แล้วเร่งช่วยกันเรียกคนในเผ่าและจัดเก็บข้าวของทันที

"หวังว่าจะมีจำนวนเพียงพอที่จะเลื่อนระดับได้นะ"

ซูหยุนคิดอย่างคาดหวัง

จากที่เขาได้สำรวจคร่าวๆ ชนเผ่าซานนี้มีคนอยู่ราวๆ 200 คน หากรวมพวกที่ยังไม่ได้ออกมา อาจจะถึง 200 กว่าคนก็ได้ หากจำนวนนี้เพียงพอ เขาก็ไม่ต้องเสียเวลาไปพิชิตเผ่าอื่นอีก เพราะขนาดแค่เผ่าเดียว ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ การเพิ่มอีกเผ่าอาจสร้างปัญหาใหญ่ให้กับเผ่าหยานหวงก็เป็นได้

ไม่นาน ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ ชนเผ่าซานก็เก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย

ต้องขอบคุณที่คนในยุคโบราณมีของใช้น้อย เก็บแค่เสื้อผ้า อาหาร และเครื่องมือไม่กี่ชิ้น หากเป็นคนในยุคปัจจุบันที่มีของเยอะเต็มบ้าน คงต้องใช้เวลาถึงช่วงบ่ายกว่าจะจัดการเสร็จ

"ห...หัวหน้า..."

หัวหน้าชนเผ่าซาน กัดฟันพูดออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ ราวกับกำลังขัดเขิน

"อืม"

หัวหน้าเผ่าของซูหยุนตอบรับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แต่ในใจแทบจะหัวเราะลั่น

สถานการณ์ที่หัวหน้าเผ่าอื่นต้องมาเรียกเขาว่าหัวหน้าแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจมาก

"คนของพวกเราพร้อมแล้ว สามารถออกเดินทางได้ทุกเมื่อ" หัวหน้าชนเผ่าซานกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เขาหันไปมองคนข้างหลัง

ชาวเผ่าราว 200 กว่าคนยืนอออยู่ด้านหลัง พร้อมถือข้าวของที่เตรียมไว้เรียบร้อย

หัวหน้าเผ่าของซูหยุนประกาศด้วยเสียงดัง "ดี ในเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราออกเดินทางได้!"

สิ้นคำ เขาก็เรียกคนของเผ่าตนเอง และนำขบวนออกเดินกลับทางเดิมทันที

หัวหน้าชนเผ่าซานและปุโรหิต หันมามองกัน ก่อนจะเหลียวกลับไปมองที่พักอาศัยของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์ แล้วรีบพาคนในเผ่าของตัวเองติดตามขบวนไป

"256 คน!"

ในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ซูหยุนนับจำนวนคนในเผ่าซานอย่างละเอียด รวมทั้งเด็กเล็กด้วย

"จำนวนคนเพียงพอแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทำให้พวกเขาศรัทธา"

มุมปากของเขายกขึ้น แสดงถึงความพึงพอใจ

ในเรื่องนี้เขามีความมั่นใจมาก เขารู้ดีว่าต้องใช้เวลาไม่นาน คนเหล่านี้ก็จะกลมกลืนกับเผ่าหยานหวงและยอมรับเขาในฐานะเทพ

เมื่อถึงตอนนั้น การเลื่อนระดับขึ้นเป็นเทพเจ้าขั้นหนึ่งก็จะเป็นจริง!

คิดได้ดังนั้น เขาก็หันไปตรวจสอบสถานะของเส้นใยศรัทธาในพื้นที่เทพของตนเอง

361 เส้น!

ยังขาดอีก 139 คน!

เขาคำนวณในใจ แล้วพบว่า การปรากฏตัวครั้งก่อน ทำให้คนส่วนหนึ่งในเผ่าซานยอมรับเขาและมอบความศรัทธาให้โดยอัตโนมัติ

แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีสิ่งหนึ่งที่เขาสังเกตได้

"น่าเสียดาย คนที่ตายไปก่อนหน้านี้ทำให้เส้นใยศรัทธาลดลงไปบ้าง"

ซูหยุนคิดด้วยความเสียดาย

แต่เขาก็พบว่า แม้เส้นใยศรัทธาจะลดลง แต่สถานะของเขาไม่ได้ลดระดับลงตามไปด้วย ระดับของเทพยังคงเดิม เพียงแค่หากต้องการเลื่อนระดับ จะต้องหาคนมาเพิ่มให้ครบจำนวนที่ขาดไปเท่านั้น

นี่ทำให้เขาได้ข้อสรุปว่า ต่อให้ผู้ศรัทธาตายไป ตราบใดที่เขาเลื่อนระดับได้สำเร็จ ระดับเทพจะไม่ลดลง แต่การเลื่อนระดับในอนาคตจะต้องชดเชยจำนวนที่เสียไปให้ครบก่อนถึงจะเลื่อนระดับสำเร็จ!

"ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับว่าศรัทธา หรือไม่ศรัทธาก็เท่านั้นเอง"

“ซูหยุนส่ายหัว”

โลกภายนอก

หัวหน้าเผ่าเดินไปพลาง เอ่ยถามปุโรหิตเผ่าซานด้วยความสงสัยว่า "ปุโรหิต เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเจ้าถึงไม่เชื่อในเทพ?"

หัวหน้าเผ่าซาน เหล่าหยา ที่ยืนอยู่ข้างๆ คอตกด้วยความรู้สึกผิด

"เรียกข้าว่า ชิง ก็ได้" ปุโรหิตชิงยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวช้าๆ

ที่แท้เดิมทีพวกเขาก็เคยเชื่อในเทพ แต่เมื่อเผ่าพบเจอกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เคยได้รับการตอบรับคำภาวนาจากเทพเจ้า อีกทั้งยังไม่มีการปรากฏของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ในเผ่าเลย

เมื่อเหตุการณ์ซ้ำซากเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงทำให้ในภายหลังไม่มีใครในเผ่านอกจากปุโรหิตชิงที่เชื่อในเทพเจ้าอีกต่อไป

สำหรับปุโรหิตชิง แม้จะไม่ได้ถูกคนในเผ่ากลั่นแกล้ง แต่กลับนิ่งเมินเฉย แถมบางครั้งยังดูเหมือนจะโดนระบายความอัดอั้นใส่บ้าง

หัวหน้าเผ่าซูหยุนฟังเรื่องราวจนเข้าใจทั้งหมด จึงพยักหน้าอย่างช้าๆ พลางมองดูปุโรหิตชิงด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ

ปุโรหิตชิงที่สังเกตเห็นสายตานั้น สีหน้าก็เศร้าหมอง

ขณะที่บรรยากาศกำลังตึงเครียดอยู่นั้น

"ชิง ข้าขอโทษ!"

เหล่าหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า มองปุโรหิตชิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสำนึกผิด

"เจ้า..."

ปุโรหิตชิงหันมามองเขาด้วยความตกใจบนใบหน้า

"ท่านปุรหิต ข้าขอโทษ..."

เสียงขอโทษดังมาจากด้านหลังตามมาอีกระลอก

ชาวเผ่าซานที่หูไวได้ยินการสนทนานี้ ต่างก็รู้สึกผิด จึงร้องออกมาด้วยความสำนึกผิด เสียงขอโทษดังไปทั่ว ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ปุโรหิตชิงที่ฟังเสียงเหล่านั้น น้ำตาก็เอ่อ รู้สึกทำตัวไม่ถูก

หัวหน้าเผ่าของซูหยุนแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบาๆ และกล่าวปลอบว่า "ฮ่าๆ ที่จริงไม่ได้มีแค่พวกเจ้าหรอกที่เป็นแบบนี้"

เหล่าหยาและปุโรหิตชิงชะงักไปชั่วครู่ คนในเผ่าที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มหยุดพูด และพากันมองหัวหน้าเผ่าด้วยความสงสัย

หัวหน้าเผ่าอธิบายว่า "เผ่าของพวกเราตอนแรก ก่อนที่เทพเจ้าจะปรากฏตัว ก็มีบางคนที่เหมือนกับพวกเจ้า ที่หมดศรัทธาและละทิ้งความเชื่อที่ว่าเทพมีจริง"

"จนกระทั่ง มหาเทพแห่งแสง จุติลงมา พวกเราถึงได้รู้ว่า โลกใบนี้มีเทพอยู่จริงๆ และได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของท่านเทพ!"

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประทับใจ

"อะไรนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือ?"

คนในเผ่าซานไม่อยากจะเชื่อ ต่างพูดขึ้นมาพร้อมกัน

"จริงแท้แน่นอน"

คนในเผ่าหยานหวงพากันหัวเราะเบาๆ พร้อมนึกถึงเรื่องตลกในอดีต ต่างพูดขึ้นเพื่อยืนยัน

"ว่าไงนะ?"

"เจ้าหมายถึง?"

"เรื่องนี้ไม่น่าเป็นไปได้!"

ไม่นานนัก สองเผ่าพบหัวข้อสนทนาร่วมกัน พากันจับกลุ่มพูดคุย หัวเราะ และถกเถียงเสียงดัง

"เจ้าหมอนี่..." ซูหยุนหรี่ตาเล็กน้อย มองหัวหน้าเผ่าด้วยความแปลกใจ

เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจหรือบังเอิญกันแน่ แต่เพียงเพราะเรื่องเล็กๆ นี้ กลับทำให้บรรยากาศระหว่างสองเผ่าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

คนในสองเผ่าดูเหมือนจะเริ่มเปิดใจให้กัน ราวกับมีความรู้สึกแบบพี่น้องร่วมชะตากรรม ความสัมพันธ์ระหว่างกันแน่นแฟ้นขึ้น

ความบาดหมางระหว่างสองเผ่าก็จางหายไปไม่น้อย

ซูหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนสรุปว่า หัวหน้าเผ่าน่าจะไม่ได้ตั้งใจ เพราะนิสัยอีกฝ่ายดูเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน

"ช่างเถอะ ยังไงก็เป็นเรื่องดี"

เขาหัวเราะเบาๆ

ขณะที่กลุ่มของซูหยุนกำลังเดินทางกลับเผ่าหยานหวง อีกด้านหนึ่ง กลุ่มคนจาก เผ่าน้ำแข็ง ก็กำลังเข้าใกล้ถิ่นฐานของเผ่าหยานหวงอย่างช้าๆ

วิกฤตครั้งใหม่กำลังคืบคลานเข้ามา

(จบตอนที่ 31 )

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด