ช่างตีเหล็กสายบั๊ก ตอนที่ 41 มีคนคุ้มกัน?
ช่างตีเหล็กสายบั๊ก ตอนที่ 41 มีคนคุ้มกัน?
ในขณะที่ซูเฉินกำลังดูแผนที่
เขาก็สังเกตเห็นว่า
ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลจากการฟื้นคืนชีพของบอส [ราชันมาร] ที่กำลังจะเกิดขึ้น
หรืออาจเป็นเพราะสาเหตุอื่น
สัตว์ประหลาดบนแผนที่ ไม่มีตัวไหนที่มีระดับต่ำกว่า 25 เลย
ไม่เพียงเท่านั้น
พวกมันยังกระจายตัวอย่างหนาแน่น และแต่ละกลุ่มยังมีบอส [แม่ทัพเทพมาร] ระดับ 40 อยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก
พูดตามตรง โลกนี้ถือว่ามีความยากระดับสูงแล้ว
การเดินเล่นในเมืองที่ตั้งของสหพันธ์นั้นไม่มีปัญหา
แต่ออกไปกำจัดสัตว์ประหลาด... นั้นอันตรายมาก
ซูเฉินพิจารณาถึงสถานการณ์ของกลุ่มอย่างรอบคอบ จึงเลือกตำแหน่งที่มีสัตว์ประหลาดและบอส [แม่ทัพเทพมาร] น้อยที่สุด และอยู่ใกล้กับเมืองที่ตั้งของสหพันธ์มากที่สุด
และเมื่อเขาบอกความจริงข้อนี้
บรรยากาศในกลุ่มก็เงียบลงทันที
“เอ่อ...” ฟางม่านพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกัก “งั้น พวกเราเปลี่ยนโลกกันไหม?”
เธอมองไปที่ทุกคน
“พวกเธอมาตัดสินใจกันเถอะ”
จงจิ้งเหยาถอนหายใจ ดูเหมือนไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้
“โลกไหนก็ได้ ฉันไม่เกี่ยง” ลู่ชิงเกอหรี่ตาลง พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเกียจคร้าน
ลั่วหว่าไม่ได้ตอบ แสดงสีหน้าครุ่นคิด
ระดับพลังต่อสู้ของกลุ่มนี้ สามารถรับมือกับบอสและสัตว์ประหลาดที่ระดับสูงกว่าได้สบาย ๆ
แต่พวกเธอก็ต้องคำนึงถึงจำนวนศัตรูที่มากกว่า และในกลุ่มยังมีซูเฉินกับจงจิ้งเหยาที่ระดับต่ำอยู่ด้วย...
“อืม... ซูเฉิน คุณ คิดยังไงคะ?”
สวีอิงรวบรวมความกล้า มองซูเฉินแล้วถามเบา ๆ
เขาเงยหน้าขึ้น พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมว่าตำแหน่งที่ผมเลือกเมื่อกี้นี้ก็ดีแล้วนะ”
“ลองดูก่อนก็ได้ ถ้าไม่ได้ก็ค่อยถอย”
“ถึงจะเจอปัญหาที่รับมือได้ยากจริง ๆ อาจจะไม่ต้องใช้ไอเทมช่วยชีวิตด้วยซ้ำ ยังไงก็มีคนมาช่วยแล้ว”
ประโยคสุดท้ายของเขาเป็นการบอกใบ้แล้ว
“มีคนมาช่วย... เฮ้ คุณพูดแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบแล้ว แบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลแล้วนี่” ฟางม่านเข้าใจทันที รอยยิ้มที่สดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่งดงาม
หญิงสาวอีกสี่คนก็เข้าใจเช่นกัน
ใช่แล้ว
จากคำชมเชยของผู้ใหญ่ที่บ้าน และศักยภาพที่น่าเหลือเชื่อของซูเฉิน
จะเป็นไปได้ยังไง ที่จะไม่มีผู้ครอบครองอาชีพระดับสูงคอยคุ้มกันเขาอยู่ลับ ๆ?
“ดีจัง”
จงจิ้งเหยาพูดความคิดของเธอออกมาตรง ๆ
เมื่อวานหลังจากที่เธอได้พบกับผู้ใหญ่ในตระกูล
ถึงแม้จะได้อุปกรณ์ทองคำสำหรับมือใหม่ และไอเทมช่วยชีวิตมาบ้าง
แต่เธอก็ได้รับแจ้งว่า “จะไม่มีใครคอยคุ้มกันเธอ การเพิ่มระดับ กำจัดสัตว์ประหลาด และภารกิจต่าง ๆ เธอต้องจัดการเอง”
ตอนนี้ พอได้ยินว่าซูเฉินมีคนคุ้มกัน... ก็อิจฉามาก ๆ!
“ไม่ต้องอิจฉาหรอก หลายครั้งก็ต้องพึ่งตัวเอง”
ซูเฉินส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
หลังจากที่เขากลับมาเมื่อวาน เขาก็รู้แล้วว่าคริสซิเลียต้องคอยคุ้มกันเขาอยู่แน่ ๆ
มีคนคอยช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน พูดจริง ๆ มันก็ไม่ได้แย่
ยังไงก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร
“จริงเหรอ พอได้ยินแบบนี้ ฉันก็ยิ่งอยากเห็นฝีมือของคุณแล้วสิ” ลู่ชิงเกอยิ้มเล็กน้อย เสน่ห์ของเธอนั้นเกินต้านทาน
“ผมจะพยายาม”
ซูเฉินตอบกลับอย่างสบาย ๆ
“งั้น ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็ไปกันเถอะ?”
สวีอิงถามเบา ๆ สายตายังคงมองซูเฉิน
เขาตอบตกลงอย่างยินดี
และสังเกตเห็นว่าลั่วหว่าที่ไม่ได้พูดอะไร พยักหน้าเล็กน้อย
——
“สายแล้ว สายแล้ว สายแล้ว...”
เสียงหญิงสาวที่ดูตกใจดังขึ้นจากข้างนอก [สนามทดสอบ] ของสำนักงานใหญ่สหพันธ์ ตามมาด้วยหญิงสาวผมสีน้ำตาล สวมแว่นตาหนาและชุดยาวสีดำ วิ่งเข้ามา
ผู้ครอบครองอาชีพหลายคนมองไปยังต้นเสียง บางคนรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกรบกวน กำลังจะต่อว่า แต่พอเห็นหน้าของหญิงสาว ก็ชะงักไป
จากนั้น ก็เงียบลง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ก็มีบางคนที่กล้าหาญ พูดคุยกันผ่านไอเทม หรือไม่ก็กระซิบกระซาบกัน
“นั่นไม่ใช่วิเวียน ซูเฟล [นักทำขนมเวทมนตร์] ที่โด่งดังที่สุดในกลุ่มอาชีพสนับสนุนปีนี้เหรอ? นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเธอมาที่ [สนามทดสอบ] เลย ได้ยินมาว่าเธอมักจะไปตามหาส่วนผสมขนมในโลกพิเศษต่าง ๆ ที่ผู้ครอบครองอาชีพระดับสูงควบคุมอยู่...”
“ใครบอกว่าเธอเป็นอาชีพสนับสนุนกัน? เธอเป็นตัวทำดาเมจหลักต่างหาก การทำขนมเป็นแค่งานอดิเรก... เธอไม่ได้ดูคลิปการต่อสู้ที่สหพันธ์ปล่อยออกมาเหรอ? เธอใช้ [ขนมเวทมนตร์] กำจัดผู้ครอบครองอาชีพหายาก [จอมเวท] ได้ถึงเจ็ดสิบหกคน แม้แต่[จอมเวทเพลิงผลาญ] ที่มีพลังโจมตีสูง ยังแพ้เธอราบคาบ”
“สุดยอดจริง ๆ ไม่คิดว่าจะได้เจอคนแบบนี้ ดูสิ ตอนนี้เธอก็ระดับ 32 แล้ว อิจฉาจัง ตอนที่ฉันอายุเท่าเธอ ฉันยังผ่านภารกิจเลื่อนขั้นระดับ 20 ไม่ได้เลย...”
“เฮ้ เธอพูดว่า ‘สายแล้ว’ เห็นแบบนี้ เหมือนเธอก็จะมานัดพบใครสักคน?”
“นัดพบ?”
“เมื่อกี้ [นักรบเวทชั่วร้าย] ฟางม่าน [นักร้องมายา] ลู่ชิงเกอ และผู้ครอบครองอาชีพหายากอีกหลายคน ไม่ได้รวมตัวกันอยู่ตรงนี้เหรอ? พอชายหนุ่มรูปงามคนนั้นมา พวกเขาก็เข้าไปในช่องมิติ... เธอจะมารวมกลุ่มกับคนพวกนั้นรึเปล่า?”
“ถ้าเธอพูดแบบนั้น ก็อาจจะเป็นไปได้...”
...
ในขณะที่ผู้ครอบครองอาชีพกำลังพูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ
หญิงสาวผมสีขาว ดวงตาสีแดง รูปร่างสง่างาม ก็เดินเข้ามาในโถงใหญ่ของสนามทดสอบ
เธอสวมชุดเกราะหนักสีดำ สะพายกระบี่ยาวไว้ที่เอว ดูแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม
“พระเจ้า! นั่นคือ [อัศวินแห่งความตาย] กู้หานเยี่ยน! เธอโหดมากนะ!”
“ผู้ครอบครองอาชีพระดับสูงที่อยู่เบื้องหลังเธอ ไม่ใช่เล่น ๆ เลย!”
ผู้ครอบครองอาชีพหลายคน โดยเฉพาะคนที่ระดับต่ำ รีบก้มหน้าลงทันที
ส่วนคนที่ระดับสูงกว่า ก็หันไปทางอื่น ทำเป็นยุ่งกับเรื่องของตัวเอง ไม่มีใครกล้าสบตาเธอ
หญิงสาวที่ชื่อกู้หานเยี่ยนรู้ว่าผู้ครอบครองอาชีพรอบข้างกลัวเธอ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไร เพียงแค่เดินไปหาวิเวียนที่กำลังกอดอกถอนหายใจอยู่
“อาจารย์บอกว่า เธอขยันกว่าฉันมาก แต่... ทำไมถึงมาสายเหมือนกัน?”
เธอถอนหายใจ ถาม
“ฉันก็ไม่อยากมาสายนี่...” วิเวียนเงยหน้าขึ้น มองหน้ากู้หานเยี่ยนด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “ตอนนี้จะทำยังไงดี เสี่ยวเยี่ยน พวกเขาดูเหมือนจะไปกันหมดแล้ว...”
“หรือจะให้อาจารย์ลองถามมหาเจตจำนง ว่าพวกเขาเลือกโลกไหนดี?” กู้หานเยี่ยนพูดอย่างลังเล
“คงไม่ได้หรอกมั้ง?” วิเวียนนึกย้อนกลับไป แล้วพูดว่า “ฉันจำได้ว่า ถ้าไม่ใช่คนที่ลงทะเบียนไว้ว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ครอบครองอาชีพคนนั้น ก็คงถามไม่ได้หรอก”
“งั้นก็คงไม่มีทางเลือกแล้ว” กู้หานเยี่ยนส่ายหน้า “ยังไงก็มาสายแล้ว ไปซ้อมต่อสู้กับฉันไหม?”
“ไม่เอา” วิเวียนปฏิเสธทันที
“แล้วเธอจะทำยังไง?” กู้หานเยี่ยนมองเธอด้วยความสงสัย “รออยู่ที่นี่เหรอ?”
“แน่นอนสิ” วิเวียนพูดอย่างมั่นใจ “ฉันค่อนข้างถูกใจเขา... อืม อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันไม่ได้สนใจแค่หน้าตา เขาถึงจะหล่อมากก็เถอะ... แค่อยากทำความรู้จักกับผู้ครอบครองอาชีพที่มีศักยภาพเท่านั้น”
“ยังไงฉันก็มาสายแล้ว ต้องรอขอโทษเขา และทำความรู้จักกันหน่อย ไม่อย่างนั้น ฉันคงไม่มีหน้ากลับไปหาอาจารย์”
“อืม ฉันไม่ได้สนใจแค่หน้าตาหรอกนะ ถึงเขาจะหล่อมากก็เถอะ... เหมือนจะอยากรู้จักเขามากขึ้นแล้วสิ เฮ้ ซูเฉิน ซูเฉินของฉัน...”
“เธอทำตัวปกติหน่อยได้ไหม...”
กู้หานเยี่ยนรู้สึกขายหน้า จึงเอามือปิดหน้าผาก ถอนหายใจหนัก ๆ