ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 83 มิใช่เพียงแค่การแลกเปลี่ยน
ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 83 มิใช่เพียงแค่การแลกเปลี่ยน
"จำนวนผู้บำเพ็ญระดับถ้ำพำนักที่นิกายไร้ขอบเขตมี มิใช่เพียงหนึ่งหรือสองคน!"
"โอ้ มิใช่หนึ่งหรือสองคน เช่นนั้นดูเหมือนว่าท่านผู้อาวุโสผู้นี้จะรู้จักนิกายไร้ขอบเขตเป็นอย่างดี"
เยี่ยหมิงยื่นมือขวาออกไปควบคุมเบา ๆ
ร่างของเหอซ่างซูถูกแรงดูดลึกลับดูดเข้าไป
เยี่ยหมิงใช้มือจับที่คอของเขา
ใบหน้าของเหอซ่างซูแดงก่ำ หายใจติดขัด
จากนั้นจึงกล่าวตะกุกตะกัก "เจ้ามิอาจสังหารข้าได้"
"มิอาจสังหาร? เช่นนั้นจงบอกเหตุผลมาให้ข้าฟัง"
เยี่ยหมิงแค่นเสียงเย็นชา เพิ่มแรงที่มือขึ้นเล็กน้อย
แคร็ก!
เสียงเสียดสีของกระดูกดังขึ้นเบา ๆ
ดวงตาของเหอซ่างซูเริ่มปรากฏสีขาว
"อึก... หาก... เจ้า... สังหาร... ข้า... นิกายไร้ขอบเขต... จะมิปล่อยพวกเจ้าไปอย่างแน่นอน..."
สิ้นเสียง
แคร็ก!
เสียงที่ดังกว่าก่อนหน้านี้ดังขึ้น
เยี่ยหมิงบิดคอขุนนางผู้มีอำนาจของราชวงศ์ราชันสิงเฟิงผู้นี้จนขาด ร่างที่ไร้ชีวิตตกลงบนพื้น
เคร้ง
เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้นเบา ๆ
เหรียญตราสีทองหล่นลงมาจากร่าง
เมื่อหลัวเซี่ยนเห็นเหรียญตรานั้น ดวงตาทั้งสองข้างก็เบิกกว้าง!
หลัวเซี่ยนในฐานะฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ราชันสิงเฟิง ย่อมรู้จักเหรียญตราสีทองนี้เป็นอย่างดี
เหรียญตรานี้คือเหรียญตราส่งสารของนิกายไร้ขอบเขต
กล่าวคือ......แววตาของหลัวเซี่ยนปรากฏจิตสังหาร!
ช่างไร้หัวใจนัก!
เยี่ยหมิงที่สวมหน้ากากครึ่งหน้า มองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง
มองไปยังหลัวเซี่ยนพร้อมกับรอยยิ้ม "ฝ่าบาทหลัว ดูเหมือนว่าราชวงศ์ของท่านจะมีสายลับของนิกายไร้ขอบเขตอยู่ไม่น้อย"
หลัวเซี่ยนรู้สึกกระวนกระวาย
เยี่ยหมิงยิ้มอีกครั้ง "แต่โชคดีที่ท่านได้พบเจอกับข้า เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ ข้าจะช่วยท่านจัดการเอง"
สิ้นเสียง มือสังหารระดับเร้นลับชั้นตรีหลายคนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็เริ่มเคลื่อนไหว
ภายใต้สายตาที่หวาดกลัว
ขุนนางและแม่ทัพที่อยู่ด้านซ้ายและขวาต่างก็ถูกสังหาร โลหิตสาดกระจาย ศีรษะกลิ้งอยู่บนพื้น
"ทำสิ่งใด? ข้ามิได้ทรยศราชวงศ์ ไม่!"
"รอ… ข้า..."
"......"
ไม่ว่าพวกเขาจะกล่าวเช่นไร ก็มิอาจหนีพ้นความตาย
ไม่นานนัก ขุนนางสองแถวที่เคยดูยิ่งใหญ่
ตอนนี้เหลือเพียงครึ่งเดียว
โลหิตสีแดงสดไหลนองเต็มพื้นราชสำนัก ราวกับอยู่ในนรก
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้
แม้ว่าหลัวเซี่ยนจะเคยเห็นภาพเหตุการณ์นองเลือดมากมาย แต่ตอนนี้เขาก็ยังคงหวาดกลัว
ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้เห็นความโหดเหี้ยมของศาลาสังหารโลหิตอีกครั้ง
เขาไม่รู้ว่าหากก่อนหน้านี้เขาปฏิเสธเจ้าศาลาแห่งศาลาสังหารโลหิตผู้นี้
ราชวงศ์ราชันสิงเฟิงจะต้องพบเจอกับหายนะเช่นไร
"ฝ่าบาทหลัว ศพเหล่านี้ข้าจะให้พวกท่านจัดการเอง"
เยี่ยหมิงยิ้มเล็กน้อย
หลัวเซี่ยนพยายามควบคุมความหวาดกลัว ตอบกลับ "ขอรับ"
หลังจากได้รับคำตอบที่ต้องการแล้ว
เยี่ยหมิงหันหลังกลับ มองไปยังหลัวเซี่ยน
"เช่นนั้นก็พบกันใหม่ ฝ่าบาทหลัว..."
ร่างของเขาหายไปในความว่างเปล่าที่ปรากฏระลอกคลื่น
มือสังหารทั้งหมดก็หายตัวไปพร้อมกับเยี่ยหมิง
หลัวเซี่ยนมองไปรอบ ๆ เมื่อมั่นใจว่าอีกฝ่ายจากไปแล้ว
“ฟู่ว”
หลัวเซี่ยนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
แรงกดดันที่เยี่ยหมิงมอบให้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
แม้ว่าเขาจะเก็บกลิ่นอายเอาไว้ แต่แววตาที่เย็นชาของเยี่ยหมิง ราวกับสามารถแช่แข็งดวงวิญญาณของผู้คนได้ น่ากลัวยิ่งนัก
ยิ่งไปกว่านั้น ภาพเหตุการณ์นองเลือดเบื้องหน้าก็ยังคงปรากฏขึ้นในห้วงสมุทรแห่งปัญญาของเขา
หากเขามิใช่ผู้บำเพ็ญระดับบำรุงจิต บางทีตอนนี้เขาคงจะหวาดกลัวจนเสียสติไปแล้ว
"ฝ่า… ฝ่าบาท พวกเรา… ต้องทำเช่นนั้นจริง ๆ หรือ?”
อู๋เทียนกังค่อย ๆ รู้สึกตัว แววตาอ่อนล้า
หลัวเซี่ยนไม่ได้ตอบคำถามในทันทีเพียงแต่มองไปยังเขา
"เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดเราจึงเรียกเจ้าเอาไว้?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น
อู๋เทียนกังจึงกล่าวความคิดที่แท้จริงในใจออกมา "เพราะทูตแห่งศาลาสังหารโลหิตผู้นั้นเป็นถึงผู้บำเพ็ญระดับถ้ำพำนักหรือ?”
หลัวเซี่ยนส่ายหน้า "มิใช่ เราได้ยินมาว่ามือสังหารภายในศาลาสังหารโลหิต ล้วนถูกจัดอันดับจากระดับมนุษย์ขึ้นไป"
"และเราได้เห็น มือสังหารทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ ล้วนมีเหรียญตรา ‘เร้นลับ’ แขวนอยู่ที่เอว"
อู๋เทียนกังกังวล
แต่เมื่อได้ยินประโยคต่อไปของหลัวเซี่ยน
ดวงตาทั้งสองข้างก็เบิกกว้าง
"เท่าที่เรารู้ มือสังหารระดับเร้นลับของศาลาสังหารโลหิต อย่างน้อยก็ต้องมีตบะระดับบำรุงจิต!”
ราชสำนักตกอยู่ในความเงียบ
อู๋เทียนกังรู้สึกขนลุก
มือสังหารชุดดำมากมายเมื่อครู่ ล้วนเป็นผู้บำเพ็ญระดับบำรุงจิต!
หลัวเซี่ยนมองดูเหล่าขุนนางที่ตกอยู่ในความเงียบ กล่าวพึมพำ “แม้ว่าเราจะเลือกทางอื่น เช่นไรเล่า? ทั่วทั้งใต้หล้า หากราชวงศ์เจริญรุ่งเรือง ประชาชนก็ต้องทุกข์ยาก หากราชวงศ์ล่มสลาย ประชาชนก็ต้องทุกข์ยากเช่นกัน……”
"คุณชาย เหตุใดท่านจึงต้องเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เพียงแค่มอบหมายให้ข้ารับใช้ก็พอแล้ว"
เฟิงชิงจู๋มองไปยังเยี่ยหมิงด้วยความไม่เข้าใจ
เยี่ยหมิงได้ยินเช่นนั้น จึงตอบกลับ "ข้ารู้ แต่ข้าต้องการมิใช่เพียงแค่การแลกเปลี่ยน"
"แต่เป็นความหวาดกลัวที่หลัวเซี่ยนมีต่อศาลาสังหารโลหิต ยิ่งหวาดกลัวยิ่งดี หวาดกลัวจนกระทั่งยอมคุกเข่าลงเบื้องหน้าศาลาสังหารโลหิต"
"มิกล้าคิดที่จะต่อต้าน หรือทรยศ"
"และจากสถานการณ์ในตอนนี้ ก็เป็นไปตามที่ข้าคาดการณ์เอาไว้แล้ว"
"ยิ่งไปกว่านั้น จากที่ได้เห็น หลัวเซี่ยนผู้นั้นก็เป็นคนที่รู้จักปรับตัว เชื่อว่าไม่ต้องให้ข้าสั่งการ เขาก็จะเลือกทางที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง"
เฟิงชิงจู๋ยิ้มเล็กน้อย "คุณชายช่างรอบคอบยิ่งนัก"
ตำแหน่งของถ้ำสวรรค์น้อยแห่งหลินเทียน อยู่ที่ภูเขาไม่ไกลจากเมืองทางตอนใต้ของราชวงศ์ราชันสิงเฟิง
วิธีการจัดการกับถ้ำสวรรค์น้อยแห่งหลินเทียนที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันของราชวงศ์ราชันสิงเฟิงนั้นชาญฉลาดยิ่งนัก
พวกเขามิได้ส่งคนเข้าไปสำรวจในทันที
แต่กลับอพยพประชาชนและขุนนางทั้งหมดที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ ออกไป
ยิ่งไปกว่านั้น ราชวงศ์ราชันสิงเฟิงมิได้ส่งคนไปล้อมถ้ำสวรรค์น้อยแห่งหลินเทียนเอาไว้
เพราะหลัวเซี่ยนรู้ดีว่า เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า จะตัดสินชะตากรรมของราชวงศ์ราชันสิงเฟิง!