บทที่ 49 : เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ เฟรย่า!
บทที่ 49 : เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ เฟรย่า!
เมื่อเซียวซิงหยูแสดงท่าทางแน่วแน่ ลั่วซานเหนียงก็ไม่รู้จะพูดอะไร เเละได้แต่มองไปที่ฉินเยี่ยนหรัน
ซึ่งฉินเยี่ยนหรันก็ถามย้ำอีกครั้ง
"เซียวหยู นายตั้งใจจะซื้ออสูรสายพันธุ์เอลฟ์ตัวนี้จริงๆเหรอ?"
เมื่อได้ยินคำถามนี้, เซียวซิงหยูก็พยักหน้ารัวๆ
ฉินเยี่ยนหรันโน้มตัวมากระซิบข้างหูเซียวซิงหยู
"บอกพี่มาตามตรงนะ เธอไม่ได้คิดจะซื้อเอลฟ์คนนี้มาเป็นทาสรับใช้จริงๆ ใช่มั้ย?"
"พี่เยี่ยนหรัน ผมไม่มีรสนิยมแปลกๆ แบบนั้นหรอก ผมแค่อยากทำพันธสัญญากับเธอ…ให้เธอมาเป็นอสูรของผม"
ฉินเยี่ยนหรันเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบเงินออกมายื่นให้ลั่วซานเหนียง
"ซานเหนียง เราซื้ออสูรสายพันธุ์เอลฟ์ตัวนี้"
"คุณหนูฉิน นี่..."
"ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ในเมื่อน้องชายของฉันอยากได้…ฉันก็ต้องตามใจเขา"
ลั่วซานเหนียงหยิบเครื่องรูดบัตรออกมา
"คุณหนูฉิน อสูรสายพันธุ์เอลฟ์ตัวนี้ปีกหักไปข้างหนึ่ง แถมยังป่วยกระเสาะกระแสะอีก…ราคาของเธอจึงถูกมาก"
"ราคาเดิม 30,000 หยวน, เห็นแก่ที่เราเป็นคนกันเอง…เเค่ 10,000 หยวนก็พอแล้ว"
30,000 หยวน ไม่ใช่ราคามูลค่าของอสูรสายพันธุ์เอลฟ์, แต่มันคือมูลค่าของเรือนร่างที่เซ็กซี่และใบหน้างดงามของเธอ…ถ้าอสูรสายพันธุ์เอลฟ์ไม่มีรูปร่างหน้าตาที่งดงามขนาดนี้ ต่อให้ขายแค่ 100 หยวนก็คงไม่มีใครซื้อ
หลังจากรูดบัตรเสร็จ เสี่ยวเป้าก็เปิดกรงทันที
"คุณชายเซียว เชิญดูได้เลยครับ"
เซียวซิงหยูเดินไปที่กรง เเล้วค่อยๆ ย่อตัวลงใกล้กับเอลฟ์ผมทอง
ใบหน้าของเอลฟ์ผมทองซีดเผือด, ดวงตาใสๆของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและกังวล ร่างกายบอบบางของเธอตอนนี้กำลังขดตัวเป็นก้อน
เซียวซิงหยูทำการเปิดใช้งานดวงตาเทพอสูรอีกครั้ง
[วิเคราะห์อาการบาดเจ็บ]: ปีกด้านหลังหัก แขนซ้ายหลุด บ่าขวามีบาดแผลเปิดขนาด 10 เซนติเมตร
[วิธีการรักษาแบบทั่วไป]: หญ้าเงินทอง น้ำยาบำรุงพลังธาตุน้ำ ยาบำรุงกระดูกและเลือด...
[วิธีการรักษาแบบพิเศษ]: เปิดใช้งานสายเลือดที่ซ่อนอยู่
….
“หมายความว่า แค่กระตุ้นสายเลือดที่ซ่อนอยู่ของเอลฟ์น้อยคนนี้ อาการบาดเจ็บทั้งหมดก็จะหายดีใช่ไหม” เซียวซิงหยูพึมพำเบาๆ
หลังจากนั้น, เซียวซิงหยูก็ทำการเปิดร้านค้าของระบบด้วยความคิด
ตอนนี้ยอดเงินคงเหลือในบัญชีของเซียวซิงหยูคือ 2,050 คูปอง, เดิมทีเซียวซิงหยูตั้งใจจะเก็บเงินไว้ก่อน แต่ตอนนี้เซียวซิงหยูต้องการ [ผลึกปลุกพลังสายเลือด] อย่างเร่งด่วน
“ราคาของ [ผลึกปลุกพลังสายเลือด] อยู่ที่ 1,800 คูปอง”
“เฮ้อ เพื่อเอลฟ์น้อยคนนี้ คงต้องยอมเสียเงินก้อนใหญ่อีกแล้ว!”
เซียวซิงหยูไม่ลังเล เเล้วตัดสินใจซื้อทันที
[ติ๊ง~]
[ใช้ 1,800 คูปอง ซื้อ [ผลึกปลุกพลังสายเลือด] 1 ชิ้น สำเร็จ]
[ยอดเงินคงเหลือในบัญชีปัจจุบัน: 250 คูปอง]
….
เซียวซิงหยูปิดร้านค้าระบบ เเล้วมองไปที่เอลฟ์ผมทองอีกครั้ง
เมื่อเห็นสายตาของเซียวซิงหยู, เอลฟ์ผมทองก็ได้เเต่ก้มหน้า ร่างกายบอบบางของเธอสั่นสะท้านด้วยความกลัว
เซียวซิงหยูยื่นมือไปลูบหัวเอลฟ์ผมทองเบาๆเเล้วเอ่ยว่า
"ไม่ต้องกลัวนะ ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอก"
"เซียวหยูพูดอะไรน่ะ ฉันฟังไม่รู้เรื่องเลย"
ภาษาที่เซียวซิงหยูใช้ตอนนี้คือภาษาเฉพาะของเผ่าเอลฟ์
เมื่อได้ยินภาษาของเผ่าพันธุ์, เอลฟ์ผมทองก็เงยหน้าขึ้นมองเซียวซิงหยูด้วยความประหลาดใจ
"ตอนนี้ฉันเป็นเจ้านายของเธอแล้วนะ เธอวางใจฉันได้…เเละฉันจะช่วยปลดโซ่ตรวนให้เธอเอง"
ที่คอและเท้าของเอลฟ์ผมทองมีโซ่ตรวนเส้นหนาพันอยู่, เเละการที่เซียวซิงหยูใช้ภาษาของเผ่าเอลฟ์ มันก็ทำให้เอลฟ์ผมทองคลายความหวาดระแวงต่อตัวเขาลงไปมาก
สถานการณ์นี้ทำให้ลั่วซานเหนียงมองด้วยความชื่นชม
"สุดยอดไปเลยน้องชาย เธอรู้ภาษาเอลฟ์ด้วยเหรอเนี่ย!"
ดวงตาเทพอสูรมอบความสามารถในการเรียนรู้และความเข้าใจระดับสูงสุดให้กับเซียวซิงหยู, เขาจึงสามารถเรียนรู้ภาษาของทุกเผ่าพันธุ์ได้อย่างง่ายดาย
"เฮยเฟิง!"
เซียวซิงหยูเปิดตราอสูร เเล้วเรียกหมาป่าปีศาจเเห่งนรกออกมา
เคร้ง!
เคร้ง!
เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่ากัดโซ่ตรวนที่พันธนาการเอลฟ์ผมทองจนขาดสะบั้นในพริบตา
จากนั้น, เซียวซิงหยูก็อุ้มเอลฟ์ผมทองที่บาดเจ็บขึ้นมา
เมื่อถูกอุ้ม, เอลฟ์ผมทองก็สัมผัสได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้คิดจะทำร้ายเธอ
"เซียวหยู เอลฟ์ผมทองคนนี้พูดอะไรน่ะ ฉันฟังไม่รู้เรื่องเลย"
"เธอกำลังขอบคุณฉัน ขอบคุณที่ฉันช่วยเธอ"
เอลฟ์ผมทองไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่าเซียวซิงหยูเป็นผู้มีพระคุณของเธอ, ถ้าไม่มีเซียวซิงหยู ชะตากรรมของเธอก็คงไม่พ้นการถูกขายให้กับพวกคนใหญ่คนโต แล้วก็ต้องกลายเป็นของเล่นและทาส ถูกทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ
…..
หลังจากนั้น ทุกคนก็เเยกย้ายกันไป
กลางดึกหลังฝนตก
ณ ภูเขาหยินหนานที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกจนราวกับเป็นดินแดนสวรรค์
ดวงดาวบางดวงปรากฏบนท้องฟ้า แสงดาวส่องสว่างมายังยอดเขาที่เงียบสงบ
ข้างสระน้ำ
เซียวซิงหยูฉีกเสื้อผ้า ใช้เป็นผ้าขนหนูชุบน้ำในสระเช็ดคราบสกปรกและคราบเลือดบนร่างกายของเอลฟ์ผมทอง, เมื่อมือของเซียวซิงหยูสัมผัสโดนบาดแผลของเอลฟ์ผมทองโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาก็จะได้ยินเสียงร้องเบาๆ
"ขอโทษนะ ฉันทำเธอเจ็บรึเปล่า"
เอลฟ์ผมทองส่ายหน้า แสดงออกว่าเธอไม่เป็นไร
กลางดึกบนภูเขาหยินหนานไม่มีผู้คน มีแต่อสูรระดับเริ่มต้นที่ซุ่มซ่อนอยู่
, โชคดีที่มีหมาป่าปีศาจเเห่งนรกอยู่ด้วย อสูรพวกนั้นจึงไม่กล้าเข้ามาใกล้
เเละที่เซียวซิงหยูพาเอลฟ์ผมทองมาที่นี่…ก็เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว เพื่อที่จะกระตุ้นสายเลือดที่ซ่อนอยู่ของเอลฟ์ผมทองได้อย่างสะดวก
ทันใดนั้น เขาก็เปิดคลังระบบเเล้วนำผลึกปลุกพลังสายเลือดออกมา
เเต่ก่อนที่จะกระตุ้นสายเลือดที่ซ่อนอยู่ของเอลฟ์ผมทอง มันยังมีขั้นตอนสำคัญอีกอย่างหนึ่ง…นั่นคือการทำพันธสัญญาโลหิต
ภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้าของเอลฟ์ผมทองงดงามราวกับภาพวาด สวยงามจนแทบไม่น่าเชื่อ
"เธอเต็มใจทำพันธสัญญากับฉัน เเล้วกลายเป็นอสูรของฉันไหม" เซียวซิงหยูเริ่มเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างจริงจัง
เอลฟ์ผมทองพยักหน้าทันที ในใจของเธอ…เซียวซิงหยูเป็นทั้งเจ้านายและเป็นผู้มีพระคุณของเธอ
เมื่อเห็นเช่นนี้, เซียวซิงหยูก็ยิ้มอย่างพอใจ เขากัดปลายนิ้วมือ นำเลือดไปแต้มที่หน้าผากของเอลฟ์ผมทอง
รูปดาวห้าแฉกสีแดงสดปรากฏขึ้น เป็นสัญลักษณ์ว่าการทำพันธสัญญาโลหิตสำเร็จเเล้ว
จริงๆ แล้วเอลฟ์ผมทองคนนี้เป็นอสูรตัวที่สามของเซียวซิงหยู, แต่เนื่องจากสถานะพิเศษของจิ้งจอกเก้าหางเดลลู เขาจึงไม่สามารถเปิดเผยตัวเดลลูต่อหน้าสาธารณชนได้
ดังนั้นสำหรับคนภายนอก เอลฟ์ผมทองคนนี้คืออสูรตัวที่สองของเซียวซิงหยู เเละหลังจากทำพันธสัญญาโลหิตแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเอลฟ์ผมทองกับเซียวซิงหยูก็ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น
ทันใดนั้น, เซียวซิงหยูก็นำผลึกปลุกพลังสายเลือดมายื่นให้เอลฟ์ผมทอง
"กลืนนี่ลงไปสิ"
เอลฟ์สาวผมทองอ้าปากเล็กๆสีแดงสดดุจผลเชอร์รี่ กลืนผลึกปลุกพลังสายเลือดลงไปในคำเดียว
สักพักต่อมา ร่างกายของเอลฟ์สาวก็ร้อนผ่าวขึ้นมา ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด พร้อมเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นเต็มหน้าผาก
นี่คือความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญ เพื่อที่จะปลุกพลังสายเลือดที่ซ่อนอยู่…และเมื่อผ่านความเจ็บปวดนี้ไปได้ ชีวิตของเธอก็จะได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
ครืนนน!!!!
ณ ใจกลางป่าอันเงียบสงบ
แสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า กวาดเมฆดำให้สลายหายไป เเล้วเชื่อมต่อกับดวงดาวน้อยใหญ่ทั้งหลาย!
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แสงศักดิ์สิทธิ์ถึงค่อยๆจางหายไป
ในเวลานี้
ตรงหน้าเซียวซิงหยู ปรากฏร่างของหญิงสาวผู้สวมชุดเกราะสีเงินกำลังลอยอยู่กลางอากาศ
หญิงสาวผู้นั้นมีผมสีทอง สวมผ้าคัดหน้าผากสีทอง ด้านหลังมีปีกแสงสว่างไสวสองข้างที่แผ่ออกอย่างสง่างาม
มือซ้ายและขวาของเธอ กุมดาบแสงยาวสามฉื่อเอาไว้
เซียวซิงหยูแสยะยิ้มกว้าง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด
"ในที่สุด, พลังสายเลือดที่ซ่อนอยู่ของเธอก็ถูกปลุกขึ้นมาแล้ว!"
ดวงตาเทพอสูรเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เเละข้อมูลใหม่ที่ปรากฏขึ้นบนแผงสถานะ
…..
[ชื่อ]: เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์
[ระดับ]: ระดับเริ่มต้น (ขั้นที่หนึ่ง)
[สายเลือด]: สายเลือดเทวทูต (คุณภาพระดับเทพเจ้า)
[พรสวรรค์]: การปกป้องด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ (ขับไล่ผลกระทบเชิงลบจากศัตรู และมอบโล่แสงศักดิ์สิทธิ์ให้แก่พันธมิตร)
[คุณสมบัติ]: เทวทูต, บิน, ธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์
[ความภักดี]: 100
[ทักษะ]:
[ดาบกางเขนศักดิ์สิทธิ์]: โบกดาบทั้งสองพร้อมกัน สร้างดาบแสงศักดิ์สิทธิ์เป็นรูปกากบาท ทำดาเมจสามเท่าแบบคริติคอล พร้อมทั้งเพิ่มพลังของโล่แสงศักดิ์สิทธิ์ให้กับตนเองและพันธมิตร
[กระบวนทัพขนนกศักดิ์สิทธ์]: กระพือปีกทั้งสองข้าง ปลดปล่อยดาบแสงศักดิ์สิทธิ์รูปขนนกจำนวน 188 ดาบ, ทำดาเมจเป็นวงกว้าง
[เส้นทางวิวัฒนาการ]: เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ → เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์สี่ปีก → เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์หกปีก → เทพธิดาบริสุทธิ์ (แปดปีก) → ราชินีศักดิ์สิทธิ์ (สิบปีก) → เซราฟิม(สิบสองปีก)
[นิสัยและความชอบ]: ดูดซับแสงจันทร์, อยู่เคียงข้างนาย
….
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยอยู่กลางอากาศในตอนนี้…ก็คือเอลฟ์สาวผมทองที่บาดเจ็บสาหัสเมื่อครู่นั่นเอง
หลังจากปลุกพลังสายเลือดที่ซ่อนอยู่ เอลฟ์สาวได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง, ไม่เพียงแต่บาดแผลจะหายเป็นปลิดทิ้งเท่านั้น แต่เธอยังกลายเป็นสัตว์อสูรสายเลือดเทวทูต ซึ่งหาได้ยากมากในโลกใบนี้
ต้องรู้ว่า พลังสายเลือดเทวทูตนั้น เป็นพลังสายเลือดระดับเทพเจ้าที่เทียบเท่ากับพลังสายเลือดจิ้งจอกเก้าหาง…เเละหลังจากตรวจสอบแผงข้อมูลแล้ว เซียวซิงหยูก็เริ่มจินตนาการถึงอนาคต
"พอฉันกลายเป็นปรมาจารย์อสูรระดับเก้าดาว เธอก็น่าจะวิวัฒนาการเป็นเซราฟิมสิบสองปีกแล้วสินะ"
"อ้อ ใช่แล้ว ต้องตั้งชื่อให้เธอด้วย"
เซียวซิงหยูเอามือเท้าคางครุ่นคิด
จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น พร้อมดวงตาที่เป็นประกาย
"ก่อนที่เธอจะปลุกพลังสายเลือด เธอเป็นเอลฟ์ธาตุน้ำ"
"ถ้าอย่างนั้น ก็ชื่อเฟรย่าแล้วกัน!"
เพราะในตำนานเทพกรีก เฟรย่าหมายถึงภูติเเห่งสายน้ำ
"เฟรย่า!" เซียวซิงหยูเรียกอีกครั้ง
เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์กระพือปีก ค่อยๆลงมาจอดตรงหน้าเซียวซิงหยู
เมื่อเทียบกับเอลฟ์สาวผมทองคนก่อน รูปร่างหน้าตาของเฟรย่าในตอนนี้ยิ่งดูสมบูรณ์แบบราวกับงานศิลปะที่พระเจ้าบรรจงสร้างขึ้นมา
เธอดูเย็นชา บริสุทธิ์ ทรงพลัง และสูงส่ง...นี่คือคุณสมบัติและบุคลิกเฉพาะของสัตว์อสูรพลังเทวทูต
อย่างไรก็ตาม, ถึงแม้สัตว์อสูรสายเลือดเทวทูตจะสูงส่งเพียงใด แต่เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเย่อหยิ่งต่อหน้าเซียวซิงหยูเลยแม้แต่น้อย
เธอย่อเข่าข้างหนึ่งลง เก็บดาบแสงทั้งสองเล่ม แล้วกำมือซ้ายวางไว้ที่อก…นี่คือการแสดงความเคารพสูงสุดของเผ่าเทวทูต
"เฟรย่า ต่อจากนี้ไปเราจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันตลอดไป"
เซียวซิงหยูยื่นมือไปบีบแก้มของเทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์เบาๆ
เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ขัดขืน ปล่อยให้เซียวซิงหยูบีบแก้มและลูบหัว, แม้สีหน้าของเธอจะดูเย็นชาและเคร่งขรึม แต่แววตากลับแสดงความอ่อนโยนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หลังจากที่ปลุกพลังสายเลือดแล้ว แม้ภายนอกเธอจะเป็นเทพธิดาผู้สูงส่ง แต่เธอก็ยังจำได้เสมอว่า ตัวเองเคยเป็นเอลฟ์ธาตุน้ำตัวน้อยๆ ที่พึ่งจะได้รับการช่วยเหลือจากเซียวซิงหยู
บางครั้ง สายสัมพันธ์ระหว่างสัตว์อสูรและปรมาจารย์อสูร ก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าพันธสัญญาโลหิตเสียอีก
…..
อู๊ววววววว~
ทันใดนั้นเอง, หมาป่าแห่งนรกก็คำรามก้อง…พลังปีศาจของมันแผ่กระจายออกไปทั่วป่า
ส่วนร่างของเทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ก็เปล่งประกายพลังแสงศักดิ์สิทธิ์อันบริสุทธิ์ออกมาเช่นกัน
ณ เวลานี้
เซียวซิงหยูมีเทพธิดาอยู่เบื้องซ้าย และปีศาจอยู่เบื้องขวา!
เเละเซียวซิงหยูยังไม่รู้ตัวว่า กงล้อแห่งโชคชะตาได้เริ่มหมุนวนแล้ว
บัลลังก์ของจอมมารในอนาคต กำลังเรียกหาเขาอยู่กลายๆ
………………..