ตอนที่แล้วบทที่ 48 : สายเลือดเทวทูต!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 50 : จุดสูงสุดของชีวิต!

บทที่ 49 : เทพธิดา​แสงศักดิ์สิทธิ์ เฟรย่า!


บทที่ 49 : เทพธิดา​แสงศักดิ์สิทธิ์ เฟรย่า!

เมื่อเซียวซิงหยูแสดงท่าทางแน่วแน่ ลั่วซานเหนียงก็ไม่รู้จะพูดอะไร เเละได้แต่มองไปที่ฉินเยี่ยนหรัน

ซึ่งฉินเยี่ยนหรันก็ถามย้ำอีกครั้ง

"เซียว​หยู​ นายตั้งใจจะซื้ออสูร​สายพันธุ์​เอลฟ์​ตัวนี้จริงๆเหรอ?"

เมื่อ​ได้ยิน​คำถามนี้, เซียวซิงหยูก็พยักหน้ารัวๆ

ฉินเยี่ยนหรันโน้มตัวมากระซิบข้างหูเซียวซิงหยู

"บอกพี่มาตามตรงนะ เธอไม่ได้คิดจะซื้อเอลฟ์คนนี้มาเป็นทาสรับใช้จริงๆ ใช่มั้ย?"

"พี่เยี่ยนหรัน ผมไม่มีรสนิยมแปลกๆ แบบนั้นหรอก ผมแค่อยากทำพันธสัญญากับเธอ…ให้เธอมาเป็นอสูร​ของผม"

ฉินเยี่ยนหรันเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบเงินออกมายื่นให้ลั่วซานเหนียง

"ซานเหนียง เราซื้ออสูร​สายพันธุ์​เอลฟ์​ตัวนี้"

"คุณหนูฉิน นี่..."

"ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ในเมื่อน้องชายของฉันอยากได้…ฉันก็ต้องตามใจเขา"

ลั่วซานเหนียงหยิบเครื่องรูดบัตรออกมา

"คุณหนูฉิน อสูร​สายพันธุ์​เอลฟ์​ตัวนี้ปีกหักไปข้างหนึ่ง แถมยังป่วยกระเสาะกระแสะอีก…ราคาของเธอจึงถูกมาก"

"ราคาเดิม 30,000 หยวน, เห็นแก่ที่เราเป็นคนกันเอง…เเค่ 10,000 หยวนก็พอแล้ว"

30,000 หยวน ไม่ใช่ราคามูลค่าของอสูร​สายพันธุ์​เอลฟ์, ​แต่มันคือมูลค่าของเรือนร่างที่เซ็กซี่และใบหน้างดงามของเธอ…ถ้าอสูร​สายพันธุ์​เอลฟ์​ไม่มีรูปร่างหน้าตาที่งดงามขนาดนี้ ต่อให้ขายแค่ 100 หยวนก็คงไม่มีใครซื้อ

หลังจากรูดบัตรเสร็จ เสี่ยวเป้าก็เปิดกรงทันที​

"คุณชายเซียว เชิญดูได้เลยครับ"

เซียวซิงหยูเดินไปที่กรง เเล้วค่อยๆ ย่อตัวลงใกล้กับเอลฟ์ผมทอง

ใบหน้าของเอลฟ์ผมทองซีดเผือด, ดวงตาใสๆของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและกังวล ร่างกายบอบบางของเธอตอนนี้กำลังขดตัวเป็นก้อน

เซียวซิงหยูทำการเปิดใช้งานดวงตาเทพอสูรอีกครั้ง

[วิเคราะห์อาการบาดเจ็บ]: ปีกด้านหลังหัก แขนซ้ายหลุด บ่าขวามีบาดแผลเปิดขนาด 10 เซนติเมตร

[วิธีการรักษาแบบทั่วไป]: หญ้าเงินทอง น้ำยาบำรุงพลังธาตุ​น้ำ ยาบำรุงกระดูกและเลือด...

[วิธีการรักษาแบบพิเศษ]: เปิดใช้งานสายเลือดที่ซ่อนอยู่

….

“หมายความว่า แค่กระตุ้นสายเลือดที่ซ่อนอยู่ของเอลฟ์น้อยคนนี้ อาการบาดเจ็บทั้งหมดก็จะหายดีใช่ไหม” เซียวซิงหยูพึมพำเบาๆ

หลัง​จากนั้น, เซียวซิงหยูก็ทำการเปิดร้านค้าของระบบด้วยความคิด

ตอนนี้ยอดเงินคงเหลือในบัญชีของเซียวซิงหยูคือ 2,050 คูปอง, เดิมทีเซียวซิงหยูตั้งใจจะเก็บเงินไว้ก่อน แต่ตอนนี้เซียวซิงหยูต้องการ [ผลึกปลุกพลังสายเลือด] อย่างเร่งด่วน

“ราคาของ [ผลึกปลุกพลังสายเลือด] อยู่ที่ 1,800 คูปอง”

“เฮ้อ เพื่อเอลฟ์น้อยคนนี้ คงต้องยอมเสียเงินก้อนใหญ่อีกแล้ว!”

เซียวซิงหยูไม่ลังเล เเล้วตัดสินใจซื้อทันที

[ติ๊ง~]​

[ใช้ 1,800 คูปอง ซื้อ [ผลึกปลุกพลังสายเลือด] 1 ชิ้น สำเร็จ]​

[ยอดเงินคงเหลือในบัญชีปัจจุบัน: 250 คูปอง]​

….

เซียวซิงหยูปิดร้านค้าระบบ เเล้วมองไปที่เอลฟ์ผมทองอีกครั้ง

เมื่อ​เห็น​สายตาของเซีย​วซิงหยู, เอลฟ์ผมทองก็ได้เเต่ก้มหน้า ร่างกายบอบบางของเธอสั่นสะท้าน​ด้วยความกลัว

เซียวซิงหยูยื่นมือไปลูบหัวเอลฟ์ผมทองเบาๆเเล้วเอ่ยว่า

"ไม่ต้องกลัวนะ ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอก"

"เซียว​หยู​พูดอะไรน่ะ ฉันฟังไม่รู้เรื่องเลย"

ภาษาที่เซียวซิงหยูใช้ตอนนี้คือภาษาเฉพาะของเผ่าเอลฟ์

เมื่อ​ได้ยิน​ภาษา​ของเผ่าพันธุ์, เอลฟ์ผมทองก็เงยหน้าขึ้นมองเซียวซิงหยูด้วยความประหลาดใจ

"ตอนนี้ฉันเป็นเจ้านายของเธอแล้วนะ เธอวางใจฉันได้…เเละฉันจะช่วยปลดโซ่ตรวนให้เธอเอง"

ที่คอและเท้าของเอลฟ์ผมทองมีโซ่ตรวนเส้นหนาพันอยู่, เเละการที่เซียวซิงหยูใช้ภาษาของเผ่าเอลฟ์ มันก็ทำให้เอลฟ์ผมทองคลายความหวาดระแวงต่อตัวเขาลงไปมาก

สถานการณ์​นี้ทำให้ลั่วซานเหนียงมองด้วยความชื่นชม

"สุดยอดไปเลยน้องชาย เธอรู้ภาษาเอลฟ์ด้วยเหรอเนี่ย!"

ดวงตาเทพอสูรมอบความสามารถในการเรียนรู้และความเข้าใจระดับสูงสุดให้กับเซียวซิงหยู, เขาจึงสามารถเรียนรู้ภาษาของทุกเผ่าพันธุ์ได้อย่างง่ายดาย

"เฮยเฟิง!"

เซียวซิงหยูเปิดตราอสูร เเล้วเรียกหมาป่าปีศาจ​เเห่ง​นรกออกมา

เคร้ง!

เคร้ง!

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่ากัดโซ่ตรวนที่พันธนาการเอลฟ์ผมทองจนขาดสะบั้น​ในพริบตา

จากนั้น, เซียวซิงหยูก็อุ้มเอลฟ์ผมทองที่บาดเจ็บขึ้น​มา

เมื่อถูกอุ้ม, เอลฟ์ผมทองก็สัมผัสได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้คิดจะทำร้ายเธอ

"เซียว​หยู​ เอลฟ์ผมทองคนนี้พูดอะไรน่ะ ฉันฟังไม่รู้เรื่องเลย"

"เธอกำลังขอบคุณฉัน ขอบคุณที่ฉันช่วยเธอ"

เอลฟ์ผมทองไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่าเซียวซิงหยูเป็นผู้มีพระคุณของเธอ, ถ้าไม่มีเซียวซิงหยู ชะตากรรมของเธอก็คงไม่พ้นการถูกขายให้กับพวกคนใหญ่คนโต แล้วก็ต้องกลายเป็นของเล่นและทาส ถูกทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ

…..

หลังจาก​นั้น​ ทุกคนก็เเยกย้ายกันไป

กลางดึกหลังฝนตก

ณ ภูเขาหยินหนานที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกจนราวกับเป็นดินแดนสวรรค์

ดวงดาวบางดวงปรากฏบนท้องฟ้า แสงดาวส่องสว่างมายังยอดเขาที่เงียบสงบ

ข้างสระน้ำ

เซียวซิงหยูฉีกเสื้อผ้า ใช้เป็นผ้าขนหนูชุบน้ำในสระเช็ดคราบสกปรกและคราบเลือดบนร่างกายของเอลฟ์ผมทอง, เมื่อมือของเซียวซิงหยูสัมผัสโดนบาดแผลของเอลฟ์ผมทองโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาก็จะได้ยินเสียงร้องเบาๆ

"ขอโทษนะ ฉันทำเธอเจ็บรึเปล่า"

เอลฟ์ผมทองส่ายหน้า แสดงออกว่าเธอไม่เป็นไร

กลางดึกบนภูเขาหยินหนานไม่มีผู้คน มีแต่อสูรระดับเริ่มต้นที่ซุ่มซ่อนอยู่

, โชคดีที่มีหมาป่าปีศาจ​เเห่ง​นรกอยู่ด้วย อสูรพวกนั้นจึงไม่กล้าเข้ามาใกล้

เเละที่เซียวซิงหยูพาเอลฟ์ผมทองมาที่​นี่…ก็เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว เพื่อที่จะกระตุ้นสายเลือดที่ซ่อนอยู่ของเอลฟ์​ผมทองได้อย่าง​สะดวก​

ทันใดนั้น​ เขาก็เปิดคลังระบบเเล้วนำผลึกปลุกพลังสายเลือดออกมา

เเต่ก่อนที่จะกระตุ้นสายเลือดที่ซ่อนอยู่ของเอลฟ์ผมทอง มันยังมีขั้นตอนสำคัญอีกอย่างหนึ่ง…นั่นคือการทำพันธสัญญาโลหิต

ภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้าของเอลฟ์ผมทองงดงามราวกับภาพวาด สวยงามจนแทบไม่น่าเชื่อ

"เธอเต็มใจทำพันธสัญญากับฉัน เเล้วกลายเป็นอสูร​ของฉันไหม" เซียวซิงหยูเริ่มเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างจริงจัง

เอลฟ์ผมทองพยักหน้าทันที ในใจของเธอ…เซียวซิงหยูเป็นทั้งเจ้านายและเป็นผู้มีพระคุณของเธอ

เมื่อ​เห็น​เช่นนี้, เซียวซิงหยูก็ยิ้มอย่างพอใจ เขากัดปลายนิ้วมือ นำเลือดไปแต้มที่หน้าผากของเอลฟ์ผมทอง

รูปดาวห้าแฉกสีแดงสดปรากฏขึ้น เป็นสัญลักษณ์ว่าการทำพันธสัญญาโลหิตสำเร็จเเล้ว

จริงๆ แล้วเอลฟ์ผมทองคนนี้เป็นอสูร​ตัวที่สามของเซียวซิงหยู, แต่เนื่องจากสถานะพิเศษของจิ้งจอกเก้าหางเดลลู เขาจึงไม่สามารถเปิดเผยตัวเดลลูต่อหน้า​สาธารณชนได้

ดังนั้นสำหรับคนภายนอก เอลฟ์ผมทองคนนี้คืออสูร​ตัวที่สองของเซียวซิงหยู เเละหลังจากทำพันธสัญญาโลหิตแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเอลฟ์ผมทองกับเซียวซิงหยูก็ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น

ทันใดนั้น, เซียวซิงหยูก็นำผลึกปลุกพลังสายเลือดมายื่นให้เอลฟ์ผมทอง

"กลืนนี่ลงไปสิ"

เอลฟ์สาวผมทองอ้าปากเล็กๆสีแดงสดดุจผลเชอร์รี่ กลืนผลึกปลุกพลังสายเลือดลงไปในคำเดียว

สักพักต่อมา ร่างกายของเอลฟ์สาวก็ร้อนผ่าวขึ้นมา ใบหน้าของ​เธอ​บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด พร้อม​เหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นเต็มหน้าผาก

นี่คือความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญ เพื่อที่จะปลุกพลังสายเลือดที่ซ่อนอยู่…และเมื่อผ่านความเจ็บปวดนี้ไปได้ ชีวิต​ของเธอ​ก็จะได้​รับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

ครืนนน!!!!

ณ ใจกลางป่าอันเงียบสงบ

แสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า กวาดเมฆดำให้สลายหายไป เเล้ว​เชื่อมต่อกับดวงดาวน้อยใหญ่ทั้งหลาย​!

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แสงศักดิ์สิทธิ์ถึงค่อยๆจางหายไป

ในเวลานี้

ตรงหน้าเซียวซิงหยู ปรากฏร่างของหญิงสาวผู้สวมชุดเกราะสีเงินกำลัง​ลอยอยู่กลางอากาศ

หญิงสาวผู้นั้นมีผมสีทอง สวมผ้าคัดหน้าผากสีทอง ด้านหลังมีปีกแสงสว่างไสวสองข้างที่แผ่ออกอย่างสง่างาม

มือซ้ายและขวาของเธอ กุมดาบแสงยาวสามฉื่อเอาไว้

เซียวซิงหยูแสยะยิ้มกว้าง ดวงตาของเขา​เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด​

"ในที่สุด, พลังสายเลือดที่ซ่อนอยู่ของเธอก็ถูกปลุกขึ้นมาแล้ว!"

ดวงตาเทพ​อสูร​เปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ​ เเละข้อมูลใหม่ที่ปรากฏขึ้นบนแผงสถานะ

…..

[ชื่อ]​: เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์

[ระดับ]​: ระดับเริ่มต้น (ขั้นที่​หนึ่ง)

[สายเลือด]​: สายเลือดเทวทูต​ (คุณภาพระดับ​เทพ​เจ้า)

[พรสวรรค์]​: การปกป้องด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ (ขับไล่ผลกระทบเชิงลบจากศัตรู และมอบโล่แสงศักดิ์สิทธิ์ให้แก่พันธมิตร)

[คุณ​สมบัติ​]​: เทวทูต​, บิน, ธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์

[ความภักดี]​: 100

[ทักษะ]​:

[ดาบกางเขน​ศักดิ์สิทธิ์]​: โบกดาบทั้งสองพร้อมกัน สร้างดาบแสงศักดิ์สิทธิ์เป็นรูปกากบาท ทำดาเมจสามเท่าแบบคริติคอล พร้อมทั้งเพิ่มพลังของโล่แสงศักดิ์สิทธิ์ให้กับตนเองและพันธมิตร

[กระบวนทัพขนนกศักดิ์​สิทธ์​]​: กระพือปีกทั้งสองข้าง ปลดปล่อยดาบแสงศักดิ์สิทธิ์รูปขนนกจำนวน 188 ดาบ, ทำดาเมจเป็นวงกว้าง

[เส้นทางวิวัฒนาการ]​: เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ → เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์สี่ปีก → เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์หกปีก → เทพธิดาบริสุทธิ์​ (แปดปีก) → ราชินี​ศักดิ์สิทธิ์ (สิบปีก) → เซราฟิม(สิบสองปีก)​

[นิสัยและความชอบ]​: ดูดซับแสงจันทร์, อยู่เคียงข้างนาย

….

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยอยู่กลางอากาศในตอนนี้…ก็คือเอลฟ์สาวผมทองที่บาดเจ็บสาหัสเมื่อครู่นั่นเอง

หลังจากปลุกพลังสายเลือดที่ซ่อนอยู่ เอลฟ์สาวได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง, ไม่เพียงแต่บาดแผลจะหายเป็นปลิดทิ้งเท่านั้น​ แต่เธอยังกลายเป็นสัตว์อสูร​สายเลือด​เทวทูต​ ซึ่งหาได้ยากมากในโลกใบ​นี้​

ต้องรู้ว่า พลังสายเลือดเทวทูต​นั้น เป็นพลังสายเลือดระดับเทพเจ้า​ที่เทียบเท่ากับพลังสายเลือดจิ้งจอกเก้าหาง…เเละ​หลังจากตรวจสอบแผงข้อมูลแล้ว เซียวซิงหยูก็เริ่มจินตนาการถึงอนาคต

"พอฉันกลายเป็นปรมาจารย์​อสูร​ระดับเก้าดาว เธอก็น่าจะวิวัฒนาการเป็นเซราฟิมสิบสองปีกแล้วสินะ"

"อ้อ ใช่แล้ว ต้องตั้งชื่อให้เธอด้วย"

เซียวซิงหยูเอามือเท้าคางครุ่นคิด

จากนั้น​เขาก็เงยหน้าขึ้น พร้อมดวงตาที่เป็นประกาย

"ก่อนที่เธอจะปลุกพลังสายเลือด เธอเป็นเอลฟ์ธาตุน้ำ"

"ถ้าอย่างนั้น ก็ชื่อเฟรย่าแล้วกัน!"

เพราะในตำนานเทพกรีก เฟรย่าหมายถึงภูติเเห่ง​สายน้ำ

"เฟรย่า!" เซียวซิงหยูเรียกอีกครั้ง

เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์กระพือปีก ค่อยๆลงมาจอดตรงหน้าเซียวซิงหยู

เมื่อเทียบกับเอลฟ์สาวผมทองคนก่อน รูปร่างหน้าตาของเฟรย่าในตอนนี้​ยิ่งดูสมบูรณ์แบบราวกับงานศิลปะที่พระเจ้าบรรจงสร้างขึ้นมา

เธอดูเย็นชา บริสุทธิ์ ทรงพลัง​ และสูงส่ง...นี่คือคุณสมบัติและบุคลิกเฉพาะของสัตว์​อสูร​พลังเทวทูต​

อย่างไร​ก็ตาม, ถึงแม้สัตว์อสูร​สายเลือด​เทวทูต​จะสูงส่งเพียงใด แต่เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเย่อหยิ่งต่อหน้าเซียวซิงหยูเลยแม้แต่น้อย

เธอย่อเข่าข้างหนึ่งลง เก็บดาบแสงทั้งสองเล่ม แล้วกำมือซ้ายวางไว้ที่อก…นี่คือการแสดงความเคารพสูงสุดของเผ่าเทวทูต​

"เฟรย่า ต่อจากนี้ไปเราจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันตลอดไป​"

เซียวซิงหยูยื่นมือไปบีบแก้มของเทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์เบาๆ

เทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ขัดขืน ปล่อยให้เซียวซิงหยูบีบแก้มและลูบหัว, แม้สีหน้าของเธอจะดูเย็นชาและเคร่งขรึม แต่แววตากลับแสดงความอ่อนโยนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

หลังจากที่ปลุกพลังสายเลือดแล้ว แม้ภายนอกเธอจะเป็นเทพธิดาผู้สูงส่ง แต่เธอก็ยังจำได้เสมอว่า ตัวเองเคยเป็นเอลฟ์ธาตุน้ำตัวน้อยๆ ที่พึ่งจะได้รับการช่วยเหลือจากเซียวซิงหยู

บางครั้ง สายสัมพันธ์ระหว่างสัตว์อสูร​และปรมาจารย์​อสูร​ ก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าพันธสัญญาโลหิตเสียอีก

…..

อู๊ววววววว~

ทันใดนั้น​เอง, หมาป่าแห่งนรกก็คำรามก้อง…พลังปีศาจของมันแผ่กระจายออกไปทั่วป่า

ส่วนร่างของเทพธิดาแสงศักดิ์สิทธิ์ก็เปล่งประกายพลังแสงศักดิ์สิทธิ์อันบริสุทธิ์ออกมาเช่นกัน​

ณ เวลานี้​

เซียวซิงหยูมีเทพธิดาอยู่เบื้องซ้าย และปีศาจอยู่เบื้องขวา!

เเละเซียวซิงหยูยังไม่รู้ตัวว่า กงล้อแห่งโชคชะตาได้เริ่มหมุนวนแล้ว

บัลลังก์ของจอมมารในอนาคต​ กำลังเรียกหาเขาอยู่กลายๆ

………………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด