ตอนที่แล้วบทที่ 361 คำพูดไม่เหมือนเดิม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 363 ครอบครัวกลับมาพบกัน

บทที่ 362 ความสงสัยบางอย่าง


หลี่เมิ่งเหยารู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตนเอง

แต่เมื่อได้เห็นซูเล่ออวิ๋น นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆในใจ

นางก้มหน้าลงช้าๆหลบเลี่ยงสายตาของซูเล่ออวิ๋น

ในความเป็นจริง ซูเล่ออวิ๋นไม่ได้สนใจอารมณ์ของหลี่เมิ่งเหยามากนัก สายตาของนางจับจ้องไปที่ผู้เฒ่าฮั่ว หญิงชราคนนี้เป็นบุคคลที่ซูเล่ออวิ๋นชื่นชม

“อืม”

ผู้เฒ่าฮั่วพยักหน้าด้วยท่าทีเย็นชา

ซูเล่ออวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบมองไม่ออก ตั้งแต่ครั้งก่อนที่เจอผู้เฒ่าฮั่วหน้าประตูวัง นางรู้สึกได้ว่าท่านดูไม่ชอบนางเท่าไหร่นัก

แต่ทั้งในชาตินี้และชาติก่อน นางไม่ได้มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับตระกูลฮั่วเลย

นอกจากเรื่องของหลี่เมิ่งเหยา…

หากเป็นเพราะหลี่เมิ่งเหยา ดูเหมือนว่าผู้เฒ่าฮั่วจะให้ความสำคัญกับหลี่เมิ่งเหยามากกว่าที่นางคิดไว้

“คู่สามีภรรยาตระกูลหลี่ ข้าให้คนพาตัวมาที่นี่แล้ว ในเมื่อเป็นเรื่องของพวกท่าน ข้าก็ไม่ขอแทรกแซงมากนัก”

ผู้เฒ่าฮั่วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมตัวกลับ

“ข้าจะไปส่งท่าน” ซุนเจียงหรูรีบเดินตามไปส่งผู้เฒ่า

ในโถง หลี่รุ่ยยังคงยืนอยู่ด้วยท่าทีที่ทั้งจนปัญญาและรู้สึกผิด เขามองซูเล่ออวิ๋นด้วยสายตาเสียใจ

“เรื่องของคู่สามีภรรยาตระกูลหลี่ ข้ามีส่วนผิด”

เดิมทีในระหว่างการส่งตัวคู่สามีภรรยาตระกูลหลี่ไปชายแดน หลี่รุ่ยได้ทำตามคำขอร้องของซูหว่านเอ๋อร์ โดยจัดให้คนตามไปดูแล เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลพวกเขา เขาตั้งใจว่าหากถึงเวลาที่เหมาะสม จะพาพวกเขากลับมา แต่เรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมายจนเขาลืมเรื่องนี้ไปสนิท

ใครจะคิดว่า หลี่เมิ่งเหยาจะใช้คนของเขาเป็นเครื่องมือพาตัวคู่สามีภรรยาตระกูลหลี่กลับมาเสียเอง

ซูเล่ออวิ๋นไม่ได้สนใจคำพูดของหลี่รุ่ย นางหันไปพูดกับซูเยี่ยแทนว่า “พี่ชาย พาข้าไปพบสองคนนั้นหน่อยเจ้าค่ะ”

“ได้ พี่จะไปกับเจ้า”

ซูเยี่ยเหลือบมองหลี่รุ่ยเล็กน้อยโดยไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะพาซูเล่ออวิ๋นเดินออกไป

หลี่รุ่ยหัวเราะขื่นๆ พลางเอ่ยว่า “ท่านตา ข้าขอตัวกลับก่อนขอรับ”

“อืม”

ซุนเส้ามองเขาแวบหนึ่งแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉยเมย

คนที่หลานสาวของเขาไม่ชอบ เขาเองก็ไม่มีวันชอบ

ยิ่งไปกว่านั้น ไอ้หนุ่มคนนี้ยังเคยปฏิเสธหลานสาวของเขามาแล้ว ตอนนี้กลับทำตัวเหมือนคนหลงรักหัวปักหัวปำ ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่อให้ใครดู

ไม่เหมือนผู้ชายจริงๆ เลยสักนิด!

ซุนเส้าคิดอะไร หลี่รุ่ยไม่อาจอ่านออก และไม่กล้าคาดเดาได้เช่นกัน เขาทำได้เพียงเดินจากไปอย่างเงียบๆ

อีกด้านหนึ่ง ซูเยี่ยพาซูเล่ออวิ๋นไปยังห้องที่ใช้ควบคุมตัวคู่สามีภรรยาตระกูลหลี่

ภายในห้องเงียบสงัด

ซูเยี่ยเปิดประตูเข้าไป “ยาที่เจ้าเคยใช้กับซูหว่านเอ๋อร์ ข้าก็ให้คนใช้กับสองคนนี้แล้ว”

ยานั้นทำให้ทั้งร่างกายไร้เรี่ยวแรงและพูดไม่ได้

นี่เป็นยาที่ซูเล่ออวิ๋นเตรียมไว้สำหรับซูหว่านเอ๋อร์โดยเฉพาะ

ในห้อง คู่สามีภรรยาตระกูลหลี่นั่งพิงกันอยู่ ทำได้เพียงจ้องมองคนที่เข้ามาด้วยสายตาเบิกกว้าง

เมื่อเห็นซูเล่ออวิ๋น ทั้งสองคนดูเหมือนเห็นผี ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจกลัว

ซูเล่ออวิ๋นกวาดสายตามองใบหน้าของทั้งสอง แม้จะมอมแมมเลอะเทอะ แต่ก็ดูออกชัดเจนว่าเป็นคู่สามีภรรยาตระกูลหลี่

นางพยักหน้าให้ซูเยี่ย

“ไม่นึกเลยว่าจะได้พบพวกเจ้ารวดเร็วเช่นนี้”

ซูเล่ออวิ๋นพูดพลางยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นเป็นเพียงเปลือกนอกที่ไม่มีความอบอุ่นแฝงอยู่เลย

ในดวงตาของคู่สามีภรรยาตระกูลหลี่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

โดยเฉพาะหลี่ต้าซาน ซึ่งเป็นพ่อของซูหว่านเอ๋อร์ เขาเป็นคนติดเหล้า เวลาดื่มแล้วชอบใช้กำลัง ในอดีต ลูกชายและลูกสะใภ้ของเขามักเป็นคนที่ต้องรับเคราะห์ แต่หลังจากซูเล่ออวิ๋นเข้ามา คนที่ถูกทุบตีเหลือเพียงนาง

หลี่ต้าซานรู้ดีว่าซูเล่ออวิ๋นไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของเขา และยังไม่พอใจที่นางมีชาติกำเนิดลึกลับ เมื่อใดที่เขาลงมือ ก็ลงมือรุนแรงจนไม่เหลือความปรานี

ทุกครั้งที่ซูเล่ออวิ๋นบาดเจ็บสาหัส หลี่ซื่อ ภรรยาของหลี่ต้าซาน จะคอยช่วยใส่ยาให้นาง แต่ก็เพียงเพราะกลัวว่าหากมีใครเสียชีวิต ครอบครัวจะตกเป็นขี้ปากของชาวบ้านในหมู่บ้าน

แต่ถึงจะใส่ยาให้ หลี่ซื่อก็ยังคงสั่งให้ซูเล่ออวิ๋นทำงานเหมือนเดิม ไม่มีการพักผ่อน

ตอนนี้ เมื่อซูเล่ออวิ๋นได้กลับมามีตัวตนในฐานะคุณหนูของตระกูลซุน คู่สามีภรรยาตระกูลหลี่ที่ตกอยู่ในมือนางย่อมรู้ดีว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร

“อื้ม อื้ม”

หลี่ซื่อพยายามครางเสียงออกมา แต่ลำคอไร้เสียง ทำได้เพียงขอความเมตตาด้วยสายตา

หลี่ต้าซานที่ตกใจจนตัวสั่น คิดฟุ้งซ่านจนตัวเองทำให้ตัวเองปัสสวะราดกางเกง

ซูเยี่ยยกมือปิดจมูก ก่อนจะดึงซูเล่ออวิ๋นออกมานอกห้อง “คนพวกนี้ เจ้าจะจัดการอย่างไร”

“ข้ามีบางอย่างที่สงสัยเจ้าค่ะ”

ตั้งแต่เห็นคู่สามีภรรยาตระกูลหลี่ครั้งแรก ซูเล่ออวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบพวกเขากับซูหว่านเอ๋อร์ ดวงตาและคิ้วดูคล้ายกัน แต่เมื่อสังเกตลึกลงไปกลับไม่เหมือน ความสงสัยในชาติกำเนิดของซูหว่านเอ๋อร์ก็เริ่มเพิ่มขึ้นในใจนาง

“พี่ชาย ช่วยให้คนจัดการล้างตัวพวกเขาให้สะอาด แล้วส่งไปพบซูหว่านเอ๋อร์ที”

“ได้”

ซูเยี่ยไม่เคยสงสัยในสิ่งที่ซูเล่ออวิ๋นพูด ในฐานะพี่ชาย เขาพร้อมจะสนับสนุนน้องสาวในทุกเรื่อง

ยิ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ เขายิ่งไม่คิดปฏิเสธ

เมื่อเดินออกจากเรือน ซูเยี่ยเดินตามซูเล่ออวิ๋น พลางถามว่า “เล่ออวิ๋น ระหว่างเจ้ากับองค์ชายจิ้น มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“หืม”

ซูเล่ออวิ๋นหันมามองซูเยี่ยด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร

ซูเยี่ยกระแอมเบาๆ ด้วยท่าทีเขินๆ เล็กน้อย

“ก็ในวันปักปิ่นของเจ้า องค์ชายจิ้นไม่ใช่มาหรือ ข้าเลยคิดว่าเขาน่าจะมีใจให้เจ้า ข้าก็เลยเผลอพูดอะไรไปเล็กน้อย แต่เขากลับบอกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเขาไม่ใช่อย่างที่ข้าคิด” ไม่ใช่อย่างที่เขาคิดหรือ ซูเยี่ยรู้สึกว่า หลังจากที่เซียวเฉิงอวี้ อธิบายเช่นนั้น เขากลับยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น

แต่เมื่อพยายามถามต่อ เซียวเฉิงอวี้ก็ไม่ตอบอะไรเพิ่มเติม เพียงแต่บอกให้เขาไปถามซูเล่ออวิ๋นเอง

หลังจากคิดวนเวียนอยู่หลายวันจนไม่อาจหาคำตอบได้ ซูเยี่ยจึงตัดสินใจถามออกมาในที่สุด

ซูเล่ออวิ๋นรู้สึกขำเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจว่าพี่ชายเป็นห่วงนาง

“เรื่องระหว่างข้ากับองค์ชายจิ้น เราได้พูดคุยกันจนชัดเจนแล้ว สำหรับความสัมพันธ์ในตอนนี้ หากพี่ชายมีความสัมพันธ์แบบไหนกับองค์ชายจิ้น ข้าก็มีความสัมพันธ์แบบนั้นกับเขาเหมือนกัน” ซูเล่ออวิ๋นยิ้มให้พี่ชาย

คำพูดนี้ทำให้ซูเยี่ยยิ่งงุนงง เขากับองค์ชายจิ้นหรือ องค์ชายกับเพื่อนอ่านหนังสือ

ซูเยี่ยยืนนิ่งแล้วส่ายหัว ความสัมพันธ์แบบนี้ต้องไม่ใช่แน่…

หรือว่า… เจ้านายกับลูกน้องหรือ

ดวงตาของซูเยี่ยเข้มขึ้นเล็กน้อย หากเป็นความสัมพันธ์แบบนี้ หมายความว่าองค์ชายจิ้นเห็นซูเล่ออวิ๋นเป็นคนที่มีประโยชน์สำหรับเขา

แต่ซูเล่ออวิ๋นจะช่วยองค์ชายจิ้นเรื่องอะไรได้กันล่ะ…

ยิ่งถาม ซูเยี่ยกลับยิ่งสับสนกว่าเดิม

คู่สามีภรรยาตระกูลหลี่ถูกคนรับใช้จับไปล้างตัวอย่างหยาบคาย ก่อนจะถูกโยนเข้าไปใน “ห้องมืด” ที่ซูหว่านเอ๋อร์อาศัยอยู่

โดยปกติ “ห้องมืด” นี้จะไม่มีแสงสว่างใดๆ

ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ไม่สามารถขยับตัวได้หรือพูดได้ ไม่ว่าเป็นใครก็คงทรมาน

แต่วันนี้ เมื่อซูหว่านเอ๋อร์ลืมตาขึ้นมา กลับพบว่ามีแสงจากเทียนจุดอยู่ใกล้ๆ

หรือว่าซูเล่ออวิ๋นจะมา

ทุกครั้งที่ซูเล่ออวิ๋นมา ห้องนี้ถึงจะมีการจุดเทียนขึ้น

แต่วันนี้ แสงสว่างกลับดูเจิดจ้ากว่าทุกครั้งจนซูหว่านเอ๋อร์มองเห็นลวดลายบนเพดานของเตียงได้อย่างชัดเจน

หัวใจของนางเต้นเร็วขึ้น ความรู้สึกทั้งความกังวล ความคาดหวัง และอารมณ์อื่นๆ เริ่มปั่นป่วนในใจ

จนกระทั่งเสียงเปิดประตูดังขึ้น

เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ซูหว่านเอ๋อร์กลั้นหายใจ

เสียงฝีเท้านี้นางจำได้ดี

ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากซูเล่ออวิ๋น…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด