ตอนที่แล้วบทที่ 359 ไปดูที่หยางโจว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 361 คำพูดไม่เหมือนเดิม

บทที่ 360 มีเพียงเส้นทางเดียว


“หากเจ้าคิดถึงครอบครัวของเจ้า ก็อย่าถามมากนัก ทำตามที่ควรทำ และอย่าให้เรื่องนี้ถูกเปิดเผย”

เหลียนซินมองออกว่าเสี่ยวอวี่มีความจงรักภักดีต่อคุณหนูลู่เสวี่ยหยา แต่ในขณะเดียวกัน เสี่ยวอวี่ก็ยังขาดความนิ่งและความสุขุมที่จำเป็นต่อการเผชิญสถานการณ์ใหญ่

เมื่อสบกับสายตาจริงจังของเหลียนซิน เสี่ยวอวี่สูดหายใจลึก ก่อนจะค่อยๆปล่อยมือออก “ข้ารู้แล้ว ขอบคุณพี่เหลียนซิน”

เหลียนซินพยักหน้า ไม่พูดอะไรมากเกินความจำเป็น

ที่เรือนเจีย

ซูเล่ออวิ๋นไม่ได้ปิดบังเรื่องของลู่เสวี่ยหยาต่อซุนเจียงหรู ซึ่งทำให้ซุนเจียงหรูเกิดความสงสัย

“อวิ๋นเอ๋อร์ เจ้ามีเหตุผลอะไรถึงคิดช่วยเหลือเด็กคนนั้นอย่างลู่เสวี่ยหยา”

ซุนเจียงหรูไม่ได้มีความประทับใจในตัวลู่เสวี่ยหยามากนัก แต่นางก็พอรู้ว่าซูฉางอิงไม่ได้ใส่ใจเด็กคนนี้มากเท่าไหร่ ส่วนอวิ๋นเอ๋อร์เองก็ไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกันมาก แล้วเหตุใดจึงช่วย

ซูเล่ออวิ๋นตอบ “ท่านแม่ หากลูกบอกว่าพี่สาวเสวี่ยหยามีบุญคุณกับลูก ท่านแม่จะเชื่อไหมเจ้าคะ”

ซุนเจียงหรูจ้องมองซูเล่ออวิ๋นนิ่งไปพักหนึ่งก่อนพยักหน้า

“เจ้าพูดอะไร แม่ก็เชื่อทั้งนั้น อวิ๋นเอ๋อร์ เจ้าต้องรู้ไว้ว่าไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม แม่ พี่ชายเจ้า และตระกูลซุนของเจ้าล้วนอยู่ข้างเจ้าเสมอ”

“ท่านแม่ ลูกรู้อยู่เสมอเจ้าค่ะ”

ซูเล่ออวิ๋นซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดของซุนเจียงหรู ในท่าทีเหมือนเด็กน้อยที่กำลังอ้อนแม่

“โตแล้วกลับอ้อนเก่งกว่าเดิมอีกนะ”

ซุนเจียงหรูลูบเส้นผมของลูกสาวเบาๆ “อวิ๋นเอ๋อร์ แล้วเจ้าวางแผนอะไรต่อไปหรือยัง”

จริงๆแล้วนางอยากถามเรื่องการแต่งงานของลูกสาว แต่ไม่กล้าพูดตรงๆ เลยเปลี่ยนคำถามให้กว้างขึ้น

ซูเล่ออวิ๋นผละออกจากอ้อมกอดของแม่ แล้วยืนตัวตรง “ท่านแม่ ต่อไปเราไปอยู่ที่เจียงหนานด้วยกันดีไหมเจ้าคะ”

เจียงหนาน… เป็นสถานที่ที่นางไม่เคยได้ไปทั้งในชาติก่อนและชาตินี้

“เจียงหนานเป็นที่ที่ดี แล้วนอกจากนั้นล่ะ” ซุนเจียงหรูถามต่อ

ซูเล่ออวิ๋นมองออกว่าแม่ของนางกำลังคิดอะไรอยู่ “ท่านแม่ ลูกก็รู้ว่าแม่อยากถามอะไร หรือว่าแม่อยากให้ลูกรีบออกเรือนเร็วๆ อย่างนั้นเหรอเจ้าคะ”

“พูดอะไรน่ะ แม่จะอยากให้เจ้าไปจากแม่ได้ยังไง”

“ถ้าอย่างนั้นทำไมท่านแม่ถึงเร่งล่ะเจ้าคะ” ซูเล่ออวิ๋นบ่นพึมพำ

ซุนเจียงหรูถอนหายใจเบาๆ “ลูกชายควรแต่งเมีย ลูกสาวควรออกเรือน แต่ไหนแต่ไรมาโบราณก็เป็นเช่นนี้”

“ท่านแม่ ถ้าพูดอย่างนี้ แล้วถ้าลูกไม่แต่งงาน ท่านแม่จะเลิกนับว่าลูกเป็นลูกของท่านหรือเจ้าคะ”

ซูเล่ออวิ๋นแกล้งทำหน้าเศร้าตัดพ้อ ทำให้ซุนเจียงหรูต้องแตะที่แก้มของลูกสาวแล้วเอ่ยขึ้น

“พูดอะไรไร้สาระแบบนี้ จริงๆแล้วแม่ไม่ได้อยากบังคับให้เจ้าต้องแต่งงาน เพียงแต่…”

ซุนเจียงหรุหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ซูเล่ออวิ๋นรออยู่สักพักใหญ่ ก่อนท่านแม่จะพูดต่อ

“เรื่องในราชสำนัก แม้แม่จะรู้น้อย แต่ตระกูลของท่านยายเจ้า รวมถึงตระกูลซุน ต่างก็พูดถึงเรื่องนี้…ดูเหมือนว่าการแย่งชิงบัลลังก์จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว”

ตอนที่พูดประโยคนี้ น้ำเสียงของซุนเจียงหรูก็แผ่วลงอย่างชัดเจน

“เจ้าก็รู้ว่า พี่ชายของเจ้าเป็นเพื่อนอ่านหนังสือของจิ้นหวาง (องค์ชายจิ้น) จริงๆแล้ว ตระกูลซุนของเราก็เหมือนถูกผูกติดกับจิ้นหวาง ถ้าการแย่งชิงเริ่มต้นขึ้น ตระกูลซุนย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้”

ซูเล่ออวิ๋นพยักหน้า หากไม่มีประสบการณ์จากชาติที่แล้ว นางอาจจะยังสับสนกับสิ่งที่แม่พูด แต่เมื่อผ่านความตายมาแล้ว นางเข้าใจสถานการณ์นี้เป็นอย่างดี

การแย่งชิงบัลลังก์เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่เพียงแค่สำหรับเหล่าองค์ชาย แม้แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างพวกเขาก็ไม่อาจหลบเลี่ยง

“ก่อนหน้านี้ จิ้นหวางดูแลเจ้ามากเป็นพิเศษ แม้แต่ในวันปักปิ่นของเจ้า เขาก็มาด้วย และยังมีองค์ชายหยู…” พูดถึงเรื่องยี้ สีหน้าของซุนเจียงหรูก็ยิ่งดูไม่สบายใจ “ไม่รู้ว่าเขาและสนมเสิ่นต้องการอะไรกันแน่ แต่แม่รู้สึกว่า ทั้งองค์ชายจิ้นและองค์ชายหยูต่างจับตามองเจ้าอยู่”

“ท่านแม่ อย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ”

ซูเล่ออวิ๋นพูดอย่างอึ้งๆ นางสงสัยว่าแม่ของนางรู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังพูดอะไรอยู่

นางมีสติพอที่จะรู้ว่าตัวเองไม่ได้มีคุณสมบัติพิเศษอะไรที่จะดึงดูดองค์ชายได้มากขนาดนั้น การที่องค์ชายคนใดคนหนึ่งจะสนใจนางยังเป็นไปได้ยาก

“อวิ๋นเอ๋อร์ แม่ผ่านประสบการณ์มามาก แม้แม่จะดูเหมือนคนที่เก็บตัวอยู่แต่ในเรือน แต่บางเรื่องแม่ก็มองออก”

ซุนเจียงหรูรู้ดีว่าซูเล่ออวิ๋นไม่เชื่อนาง แต่ในสายตาของแม่ที่มองลูกสาวของตัวเอง ย่อมรู้สึกว่าลูกสาวของนางเป็นคนที่โดดเด่นกว่าใครๆ

แต่การถูกองค์ชายสองคนสนใจพร้อมกัน สำหรับลูกสาวของนางไม่ใช่เรื่องดีเลย

ที่สำคัญ นางไม่เคยคิดจะใช้การแต่งงานของลูกสาวเป็นเครื่องมือสร้างความสัมพันธ์หรือไต่เต้า นางเพียงหวังให้ลูกสาวได้พบคนที่รักอย่างแท้จริงและอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต

“องค์ชายทั้งสองต่างก็เป็นองค์ชายที่โดดเด่นที่สุด ในเมื่อฝ่าบาทยังไม่ได้แต่งตั้งรัชทายาท หากมีการแย่งชิงเกิดขึ้น ทั้งสองคนก็มีโอกาสมาก แต่แม่คิดว่า องค์ชายหยูไม่ใช่คนดี แม้ตอนนี้เขาจะดูเหมือนสนใจเจ้า แต่หากเขาได้ขึ้นครองราชย์ เขาอาจทำร้ายตระกูลซุนของเราก็ได้”

ซูเล่ออวิ๋นพยักหน้า นางเข้าใจดีถึงนิสัยขององค์ชายหยูดี เขาจะต้องทำเช่นนั้นแน่นอน

“แต่สำหรับองค์ชายจิ้น…” ซุนเจียงหรูมีท่าทีลังเลอยู่บ้าง นางไม่กล้าฟันธงเกี่ยวกับจิ้นหวาง

“หากลูกไม่มีความสนใจในตัวเขา แต่วันหนึ่งเขาได้เป็นฮ่องเต้ และต้องการแต่งงานกับเจ้า เจ้าก็คงปฏิเสธได้ยาก”

“ท่านแม่ สิ่งที่ท่านคิดอยู่ตอนนี้ ล้วนตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าพวกเขาสนใจลูก”

ซูเล่ออวิ๋นเข้าใจถึงความกังวลของแม่ หากจิ้นหวางขึ้นครองราชย์ ตระกูลซุนย่อมได้ความดีความชอบที่ช่วยเหลือเขา แต่ความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไป จากการเป็นพันธมิตรที่ต่างฝ่ายต่างพึ่งพากัน เป็นความสัมพันธ์ระหว่างจักรพรรดิและขุนนาง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด

จักรพรรดิผู้สงสัยในขุนนางของตัวเองเป็นเรื่องอันตราย หากเซียวเฉิงอวี้ (จิ้นหวาง) ต้องการแต่งงานกับนาง ตระกูลซุนจะต้องทำเช่นไร

ซูเล่ออวิ๋นส่ายหน้า นางก็ถูกคำพูดของแม่พาให้คิดเตลิด นางกับเซียวเฉิงอวี้ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นเพียงความร่วมมือเท่านั้น เรื่องเช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น

“แต่ถ้าสิ่งที่แม่คิดเป็นความจริงล่ะ”

ซุนเจียงหรูไม่เห็นด้วยกับคำพูดนั้น

ซูเล่ออวิ๋นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ท่านแม่ เราอย่าเพิ่งไปคิดว่ามันจะจริงหรือไม่จริง เอาแค่เรื่องขององค์ชายจิ้น และ องค์ชายหยูก็พอเจ้าค่ะ ในเมื่อพวกเราตัดสินใจอยู่ข้างจิ้นหวางแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากองค์ชายหยูได้ชัยชนะ เพราะลูกเข้าใจดีว่า ถ้าจิ้นหวางพ่ายแพ้ สิ่งที่รอคอยตระกูลซุนของเราอยู่ มีเพียงทางตันเท่านั้น”

นี่เป็นครั้งแรกที่ซูเล่ออวิ๋นพูดเรื่องนี้ออกมาอย่างชัดเจนตรงไปตรงมาต่อหน้าซุนเจียงหรู

เมื่อสบตาลูกสาวที่แสดงความเยือกเย็นและแน่วแน่ ซุนเจียงหรูถึงกับใจสั่น นางรู้มานานแล้วว่าลูกสาวของนางเกลียดชังองค์ชายหยู แต่ตอนนี้ความเกลียดนั้นกลับดูเหมือนจะลึกซึ้งถึงขั้นไม่อาจอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้

ที่น่าแปลกคือ แม้เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น แต่จากแววตาของซูเล่ออวิ๋น ซุนเจียงหรูกลับรู้สึกเหมือนว่าเรื่องเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต

ซุนเจียงหรูค่อยๆพยักหน้า

“สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้ คือสนับสนุนจิ้นหวางอย่างเต็มกำลัง ส่วนเรื่องในอนาคต… ก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต”

ซูเล่ออวิ๋นสามารถคลายความกังวลของซุนเจียงหรูเรื่องการแต่งงานของนางได้อีกครั้ง แท้จริงแล้ว นางเข้าใจดีว่าทำไมแม่ถึงร้อนใจเรื่องนี้ เพราะท่านแม่คงอยากหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับนาง

ถ้าองค์ชายหยูขึ้นครองบัลลังก์ได้จริง นางในฐานะลูกสาวที่แต่งออกไปจากบ้าน อาจมีโอกาสรอดชีวิตบ้าง

ในชาติก่อนก็เป็นเช่นนั้น แม้ซูหว่านเอ๋อร์จะอ้างว่าเพื่อความสบายใจ แต่ทำไมถึงต้องรอถึงครึ่งปี

จากฝันนั้น ซูเล่ออวิ๋นรู้สึกได้ว่าในตอนนั้นองค์ชายหยูแทบจะลืมนางไปแล้ว

นางก้มตาลงต่ำ แต่ความคิดก็ไม่อาจหลุดพ้นจากฝันนั้น

เซียวเฉิงอวี้ ยังมีชีวิตอยู่ แต่ทำไมถึงมาช้าเหลือเกิน

ถ้าเขามาเร็วขึ้นอีกนิด บางทีแม่และตระกูลของนางอาจไม่ต้องตาย…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด