ตอนที่แล้วบทที่ 351 หมอเฉินยังรู้มากกว่าใคร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 353 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

บทที่ 352 วันครบสิบห้าปี


บางทีหากนางยอมทำใจได้เร็วกว่านี้ นางอาจไม่ต้องมาถึงจุดนี้

รอยขมขื่นบนริมฝีปากของเซียงหลิงหลิงปรากฏชัดขึ้น แต่นางไม่โทษใคร เพราะนี่คือการเลือกของนางเอง

"ในเมื่อไม่สนใจอะไรแล้ว ลองอีกสักครั้งจะเป็นอะไรไปล่ะ"

เสียงอ่อนโยนของซูเล่ออวิ๋นดังขึ้น ทำให้หัวใจของเซียงหลิงหลิงเต้นแรง

นางเข้าใจในสิ่งที่ซูเล่ออวิ๋นพูดดี ใครเล่าจะไม่อยากเห็นแสงสว่างอีกครั้ง

แต่นางจะยังมีโอกาสนั้นอยู่หรือเปล่า

ถึงอย่างนั้น นางก็ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของซูเล่ออวิ๋น ปล่อยให้นางจัดการทุกอย่างตามต้องการ

จางเหล่าซึ่งเพิ่งเสร็จจากการทดลองยา เดินออกมาจากห้อง ก็เห็นซูเล่ออวิ๋นนั่งอยู่ในลานบ้าน

"ดูเจ้าจะสบายดีนะ"

เขาเดินเข้ามารับถ้วยน้ำชาจากเหลียนซินที่ส่งให้ ก่อนดื่มจนหมดในคราวเดียว

"มีจางเหล่าอยู่ทั้งคน ข้าจะไม่สบายได้ยังไงล่ะเจ้าคะ"

ซูเล่ออวิ๋นพูดติดตลก

ที่จริงนางเคยเสนอจะช่วยงานจางเหล่า แต่เขากลับปฏิเสธไปโดยไม่บอกเหตุผล เมื่อถูกปฏิเสธ นางจึงไม่อยากรบกวนอีก และหลีกทางให้จางเหล่าทำงานอย่างเต็มที่

"นี่ เอาไปสิ"

จางเหล่าหยิบขวดกระเบื้องเล็กๆ ออกมา ด้านในมีเม็ดยาสีน้ำตาลเม็ดเล็กขนาดเท่าไข่มุกหนึ่งเม็ด

ซูเล่ออวิ๋นรับขวดมา ก่อนเทยาลงบนฝ่ามือแล้วถาม "นี่คือยาอะไรหรือเจ้าคะ"

"ก่อนหน้านี้ที่ข้าไม่ให้เจ้ามาช่วย เพราะกลัวว่าส่วนผสมบางอย่างจากเลือดหรือสิ่งของของซูหว่านเอ๋ออาจส่งผลต่อหนอนกู่ในตัวเจ้า แต่ถ้าเจ้ากินยานี้เข้าไป ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นอีก"

คำพูดยังไม่ทันจบ ซูเล่ออวิ๋นก็โยนเม็ดยาเข้าปากและกลืนลงไปทันที

จางเหล่ามองการกระทำที่เด็ดขาดของนาง ก่อนถามอย่างติดตลก

"เข้าไม่กลัวข้าวางยาพิษหรือ"

"ท่านผู้เฒ่า ถ้าท่านจะวางยาข้า คงไม่ต้องลำบากขนาดนี้หรอกเจ้าค่ะ"

ซูเล่ออวิ๋นตอบกลับด้วยรอยยิ้ม พร้อมเสริม "พี่ชายบอกว่ายังหาเบาะแสของจางหยางไม่เจอเลยเจ้าค่ะ"

"ยังหาไม่เจอหรือ"

ผู้เฒ่าจางไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่สีหน้ากลับดูหม่นหมองลงเล็กน้อย

"ท่านอย่ากังวลเลยค่ะ ไม่มีข่าวอาจเป็นข่าวดีที่สุดก็ได้เจ้าค่ะ"

"ไม่ต้องห่วง ข้าแก่ป่านนี้แล้ว ยังต้องให้เด็กสาวอย่างเจ้าปลอบใจอีกหรือ จางหยางเป็นคนมีความคิด เขาไม่เป็นอะไรหรอก" ผู้เฒ่าจางส่ายศีรษะ เขาไม่ได้กลัวว่าจางหยางจะเป็นอันตราย แต่หากไม่มีข่าวใดๆกลับอาจเป็นข่าวร้ายที่สุด

เขารู้ว่าถ้าจางหยางเริ่มเคลื่อนไหวในที่ลับ ผลลัพธ์ที่จะตามมาย่อมไม่ใช่เรื่องเล็ก

"ฮัดชิ่ว!" จางหยางที่กำลังลับมีดสั้นอยู่จามออกมา เขาเอามือขยี้จมูกพลางพูดกับตัวเอง

"ใครกำลังนินทาเราหรือเปล่า"

ทาโนที่อยู่ข้างๆ ก็กำลังลับมีดสั้นในมือเช่นกัน

เขาเงยหน้าขึ้นมองในช่วงเวลาพักแล้วถามว่า

"เป็นหวัดหรือ"

จางหยางส่ายศีรษะ "จมูกแค่คันนิดหน่อยน่ะ"

ภายใต้แสงแดด ความแวววาวของคมมีดสะท้อนแสงระยิบระยับ

วันนี้ บรรยากาศในหมู่บ้านที่ปกติก็คึกคักอยู่แล้วกลับดูวุ่นวายมากยิ่งขึ้น

จางหยางวางเครื่องมือลับมีดลง สายตามองไปยังประตูหมู่บ้านที่อยู่ไกลออกไป เขาเห็นรถวัวและรถม้าเคลื่อนเข้ามาในหมู่บ้านทีละคัน

ชาวบ้านพากันรุมล้อมรถที่เข้ามา เพื่อช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถทีละชิ้น

"ทาโน จางหยาง พวกนายมานี่หน่อย"

เสียงของฉิวอี้ดังขึ้น

ทาโนวางอุปกรณ์ในมือลง พลางตะโกนตอบกลับไป

"กำลังไป! จางหยาง ไปกันเถอะ"

"อืม"

จางหยางละสายตา เก็บมีดสั้นและเดินไปพร้อมกับทาโน มุ่งหน้าไปทางที่ฉิวอี้เรียก

ระหว่างทาง จางหยางสังเกตบรรยากาศรอบตัว

ช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ และสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าจำนวนคนในหมู่บ้านเพิ่มขึ้นทุกวัน ความรู้สึกถึง "กลิ่นอายการฆ่าฟัน" ก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

เขาไม่รู้ว่าคนในหมู่บ้านกำลังวางแผนจะทำอะไร แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเข้าร่วม

จางหยางรู้จักตัวเองดี เขาเข้าใจว่าตัวตนของเขาเป็นแบบไหน และการสร้างเรื่องวุ่นวายมักเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยกลัว

ตั้งแต่วันที่ทาโนพาเขามาที่นี่ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เพียงแค่อยู่ในหมู่บ้านนี้ ก็ถือว่าเขาได้ผูกพันกับที่นี่แล้ว

"เสี่ยวหยาง" ทาโนสังเกตเห็นว่าจางหยางดูเหม่อลอยเล็กน้อย จึงเอ่ยขึ้นว่า

"ถ้านายไม่อยากทำอะไรแบบนี้ ยังกลับไปตอนนี้ทันนะ ฉันจะบอกพี่ชายพวกเขาให้เอง"**

ทาโนรู้ดีว่าเขาติดหนี้บุญคุณจางหยางและจางเหล่า ดังนั้นการดึงจางหยางเข้ามาในเรื่องนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ควรทำจางหยางใช้ศอกกระทุ้งทาโนเบาๆ "อย่าคิดมาก รีบไปเถอะ"

พูดจบ จางหยางก็เร่งฝีเท้าเดินนำไป

ทาโนไม่มีเวลาคิดอะไรต่อ จึงรีบเดินตามไป

เมื่อเข้าไปในห้อง จางหยางเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเพิ่มเข้ามา

บางคนนั่ง บางคนยืน แต่ดูเหมือนทุกคนจะมีสถานะไม่ธรรมดา

อย่างไรก็ตาม คนที่นั่งอยู่บนที่นั่งหลักกลับไม่ใช่ฟานอวี้ แต่เป็นชายผู้สวมหน้ากากที่ถูกเรียกว่า "ท่านอิ๋ง"

"ท่านครับ ทุกคนมาครบแล้ว"

ฟานอวี้รายงานต่อท่านอิ๋ง

สายตาของท่านอิ๋งกวาดมองจางหยางผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะละสายตากลับมา

"อีกสองเดือนจากนี้ คือวันที่เราจะลงมือ"

เสียงของท่านอิ๋งเย็นชา แต่คำพูดที่หลุดออกมานั้นทำให้จางหยางรู้สึกหนาวสั่น

"จักรพรรดิเจี้ยนเหวินจะนำเหล่ารัชทายาทออกจากวังไปยังตำหนักนอกเมืองเพื่อหลบภัยจากอากาศร้อน วันนั้นแหละคือโอกาสที่เราจะลงมือ"

"ขอรับ"

จางหยางก้มหน้าลงจนกระทั่งคนในห้องเริ่มทยอยกันออกไป

เมื่อสติของเขากลับมา เขาขยับร่างกายที่แข็งทื่อเล็กน้อย

"ทาโน พวกเจ้าก็กลับไปเถอะ"

ฟานอวี้มองจางหยางอย่างพิจารณาก่อนจะพูดกับทาโน

ทาโนพยักหน้า ดึงแขนจางหยางแล้วพาออกไป

"ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่"

"…ถ้าข้าบอกว่าไม่เป็นไร มันคงดูโกหกเกินไป"

จางหยางยิ้มแห้งๆ เขารู้ดีว่าคนในหมู่บ้านนี้กำลังวางแผนทำอะไรที่ไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าจะใหญ่ถึงขนาดวางแผนลอบสังหารจักรพรรดิ

ในเมื่อเขารู้แผนการนี้แล้ว การจะถอนตัวออกไปย่อมเป็นไปไม่ได้

ทาโนเองก็เข้าใจเรื่องนี้ดี

"อย่าคิดมาก ถ้าสุดท้ายเจ้าไม่ไหวจริงๆ ข้าจะไปขอร้องพี่ชายให้ช่วยจัดการให้ เมื่อทุกอย่างจบแล้ว ข้าจะให้พวกเขาปล่อยเจ้าไป"

"ขอบคุณมาก"

จางหยางตอบกลับ เขารู้ดีว่าทาโนทำได้เพียงเท่านี้

จางหยางถอนหายใจ "ท่านปู่เคยพูดไว้ว่า ถ้าไม่ทำอะไรก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าทำ จะต้องทำเรื่องใหญ่โตเสมอ"

ดูเหมือนคำพูดของปู่เขาจะไม่ผิดเลย

โชคดีที่ปู่ของเขาปลอดภัยแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

ข่าวเกี่ยวกับความปลอดภัยของจางเหล่าไม่ได้ถูกปิดบัง ทาโนจึงให้คนไปสืบในเมืองหลวง และได้ข่าวที่ยืนยันว่าจางเหล่าปลอดภัย

_______________________________________________________

วันนี้คือวันเกิดครบรอบ 15 ปีของซูเล่ออวิ๋น ซึ่งเป็น วันจือจี (วันเข้าสู่วัยผู้ใหญ่) ของนาง

เช้าตรู่ หน้าประตูจวนตระกูลซุนมีแขกมาเยือนมากมาย

หลินซ่างซู (เสนาบดีหลิน) และภรรยาของเขา พร้อมด้วยหลินฉิงฉิง มาถึงตั้งแต่เช้า

หลินซ่างซูนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ ขณะที่ภรรยาของเขาพาหลินฉิงฉิงไปที่เรือนของฉินจื่อเยี่ยน

ซุนอวี้เสวียนถูกฉินจื่อเยี่ยนปลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่

เมื่อหลินฟูเหริน (ภรรยาเสนาบดีหลิน) และหลินฉิงฉิงมาถึง ฉินจื่อเยี่ยนก็กำลังช่วยล้างหน้าให้ซุนอวี้เสวียน

"เสี่ยวเสวียน!"

เสียงเรียกของหลินฉิงฉิงดังขึ้น ก่อนที่นางจะวิ่งเข้ามาในห้อง

ซุนอวี้เสวียนอุทานด้วยความตกใจ รีบยกแขนปิดตัวเองเมื่อรู้ว่ายังแต่งตัวไม่เรียบร้อย

"ตอนนี้ถึงกับอายแล้วเหรอ เมื่อกี้แม่ก็บอกแล้วว่าฉิงฉิงกำลังมา แต่เจ้ากลับไม่เชื่อ"

ฉินจื่อเยี่ยนแตะหน้าผากของลูกชายเบาๆ พร้อมหัวเราะอย่างขบขัน

"ท่านแม่!"

ซุนอวี้เซวียนหน้าแดง รีบเร่งให้มารดาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตนเองเร็วๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด