บทที่ 46 : ปลุกพลังปีศาจ, หมาป่าปีศาจเเห่งนรก!
บทที่ 46 : ปลุกพลังปีศาจ, หมาป่าปีศาจเเห่งนรก!
เปลวเพลิงสีดำในป่าค่อยๆ สงบลง
ทันใดนั้น, สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นบนก้อนหิน
มันคือหมาป่ายักษ์ที่มีรูปร่างใหญ่โตราวกับภูเขาลูกเล็กๆ ขนของมันเป็นสีดำสนิท ร่างกายล้อมรอบไปด้วยออร่าของเปลวเพลิงจากขุมนรก…เเละนอกจากเปลวเพลิงแล้ว มันยังมีเงาสีดำพาดผ่านร่างกายของมันเป็นระยะๆ
ที่ขาทั้งสี่ของหมาป่ายักษ์มีโซ่ตรวนสีแดงเพลิงพันอยู่ ส่วนบนหน้าผากของมันมีรอยสักรูปอักขระปรากฏขึ้น ที่พิเศษสุดคือด้านหลังของหมาป่ายักษ์ มีประตูบานใหญ่เปิดออกอยู่เลือนราง
เเละนั่นคือ [ประตูนรก]
“เฮยเฟิง เเกได้พลังใหม่มาอีกแล้ว!”
ภาพประตูนรก เป็นสัญลักษณ์เฉพาะของอสูรสายพลังปีศาจ
การเปิดประตูนรก หมายถึงการปลดปล่อยพลังปีศาจ
พลังปีศาจเป็นพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก มันสามารถช่วยเพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกันให้กับสัตว์อสูร แถมยังมีผลฟื้นฟูพลังชีวิตอีกด้วย
“อาวู้วววว~”
เสียงหอนของหมาป่าดังกึกก้องไปทั่วทั้งภูเขาและท้องฟ้า
เดลลูมองเฮยเฟิงด้วยความประหลาดใจ แล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ “ได้พลังปีศาจมาด้วยเหรอเนี่ย? มาสเตอร์คนนี้ช่างเป็นปรมาจารย์อสูรที่แปลกจริงๆ”
“เเต่เอาจริงๆเเล้วคงไม่มีอะไรน่าแปลกใจเเล้วเเหล่ะ, เเค่พี่สาวของมาสเตอร์ก็….”
เมื่อเดลลูนึกถึงใบหน้าและรอยยิ้มของเซียวรั่วเสวี่ย เธอก็อดตัวสั่นไม่ได้
ทันใดนั้น, หมาป่ายักษ์ก็ก้มหัวลง เอาหัวถูไถกับเซียวซิงหยูอย่างออดอ้อน…ต่อหน้าเซียวซิงหยู มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ดวงตาของมันยังคงใสซื่อและดูเชื่องๆเหมือนเคย
เซียวซิงหยูใช้ดวงตาเทพอสูรมองดูข้อมูลใหม่ของเฮยเฟิงทันที
….
[ชื่อ]: หมาป่าปีศาจเเห่งนรก
[ระดับ]: ระดับเติบโต (ขั้นที่หนึ่ง)
[สายเลือด]: สายเลือดนรก (คุณภาพระดับมหากาพย์)
[พรสวรรค์ 1]: เพลิงนรก (เพิกเฉยเกราะการป้องกันของศัตรู[ตีเจาะเกราะ])
[พรสวรรค์ 2]: พลังปีศาจ (เพิ่มพลังโจมตีและป้องกัน, มีผลดูดเลือด: 50% ของความเสียหายที่สร้างให้กับศัตรูจะถูกแปลงเป็นเลือดของตัวเอง)
[คุณสมบัติ]: ไฟ, ลม, ความมืด, พลังปีศาจ
[ความภักดี]: 100
[ทักษะ]: พันธนาการนรก, คำรามนรก, เงาแฝดแห่งความมืด, กรงเล็บเงียบงัน
[ท่าไม้ตาย]: ใบมีดปีศาจลงทัณฑ์ (ปลดปล่อยพลังปีศาจทั้งหมดออกมาที่กงเล็บเเล้วฟาดฟัน ฉีกทำลายวิญญาณของศัตรู พร้อมลากลงสู่ประตูแห่งนรก)
[นิสัยและงานอดิเรก]: กินแถบเผ็ด นอนขี้เกียจ และรื้อบ้านเป็นครั้งคราว
….
ในที่สุด เฮยเฟิงก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาจากระดับเริ่มต้นไปสู่ระดับเติบโต เเต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือในการเลื่อนขั้นครั้งนี้มันได้รับพลังปีศาจมาครอบครอง
เซียวซิงหยูสังเกตเห็นว่ามีกลุ่มควันสีแดงดำแผ่ออกมาจากร่างกายของเฮยเฟิงอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มควันสีแดงดำนี้ปล่อยพลังออร่าอันน่าสะพรึงกลัวออกมา ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวเเละสิ้นหวัง…เห็นได้ชัดว่า นี่คือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของพลังปีศาจ
“เฮยเฟิง เเกเก่งมาก…เอาไปเป็นรางวัล”
เซียวซิงหยูหยิบขนมขบเคี้ยวออกมาจากแหวนมิติหนึ่งกล่องเเล้วโยนให้เฮยเฟิง
“อาวู้วว~”
เมื่อเห็นขนมโปรด ดวงตาของหมาป่าปีศาจเเห่งนรกก็เป็นประกายด้วยความดีใจ
จากนั้น, เดลลูก็เดินเข้ามาหาเซียวซิงหยูอย่างสง่างาม
“ไม่นึกเลยว่าเฮยเฟิงจะได้รับพลังปีศาจระหว่างการเลื่อนขั้น”
“เดลลู เธอเคยเจออสูรที่มีพลังปีศาจบ้างไหม?”
“แน่นอนว่าต้องเคยเจอ”
“อสูรพลังปีศาจ เทวทูตตกสวรรค์ลูซิเฟอร์…ข้าเคยเจอมันสองสามครั้ง”
เทวทูตตกสวรรค์ลูซิเฟอร์ ฟังดูเหมือนจะเป็นอสูรที่มีพลังเทวทูต แต่จริงๆแล้วมันคืออสูรที่มีพลังปีศาจ
ในโลกของอสูร เหล่าจักรพรรดิปีศาจทั้งเจ็ดแห่งขุมนรกเป็นกลุ่มที่สร้างความเดือดร้อนให้กับมนุษย์มากที่สุด, เเละเทวทูตตกสวรรค์ลูซิเฟอร์ก็เป็นหนึ่งในจักรพรรดิปีศาจทั้งเจ็ด ระดับของมันเท่ากับเดลลูคือระดับจักรพรรดิ
จากนั้น เซียวซิงหยูก็หันกลับมามองหมาป่าปีศาจเเห่งนรกอีกครั้ง
“หลังจากที่เฮยเฟิงได้รับพลังปีศาจมา จุดเด่นที่สุดของมันก็คือ [พลังดูดเลือด]”
“ด้วยพลังปีศาจนี้ ระหว่างการต่อสู้ เฮยเฟิงสามารถแปลงความเสียหาย 50% ที่สร้างให้กับศัตรูเป็นพลังชีวิตของตัวเองได้…ดังนั้น แค่เพิ่มพลังโจมตีของเฮยเฟิงให้มากขึ้น มันก็จะฟื้นฟูพลังชีวิตได้อย่างต่อเนื่องระหว่างการต่อสู้!”
ความสามารถในการฟื้นฟูพลังชีวิตของอสูร คือความสามารถในการต่อสู้ที่ยืนยาว, อสูรบางตัวอาจดูแข็งแกร่งมาก สามารถใช้ทักษะเดียวจัดการอสูรได้ถึงสามตัว…แต่ถ้าร่างกายมันบอบบางเกินไป โดนอสูรตัวอื่นลอบโจมตีเพียงครั้งเดียวก็อาจพ่ายแพ้ได้
ส่วนหมาป่าปีศาจเเห่งนรกที่ได้รับพลังปีศาจมา มันสามารถดูดเลือดศัตรูเพื่อรักษาพลังชีวิตของตัวเองให้คงที่อยู่เสมอ…ด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงในการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังสามารถยืนหยัดต่อสู้ในสนามรบได้นานจนสามารถเอาชนะศัตรูได้ในที่สุด
เเต่เดลลูก็ยังช่วยเตือนว่า
“ตอนนี้เฮยเฟิงมีคุณสมบัติถึงสี่ชนิด ดังนั้นวัตถุดิบและยาบำรุงที่มันต้องการก็ต้องเป็นสี่ชนิดเช่นกัน…นั่นเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยเลยนะ”
“ไม่ต้องห่วง ฉันมีพี่เยี่ยนหรานคอยซัพพอร์ตอยู่ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา!”
“หึหึ เจ้าหมาเด็กหลอกสาวๆ~” เดลลูอดที่จะแซวไม่ได้
เซียวซิงหยูหน้าด้าน เขาจึงไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับคำๆนี้
….
“ติ๊ง~”
ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้น
[ยินดีด้วย! อสูรของคุณเลื่อนขั้นสำเร็จ!]
[มอบรางวัลสำหรับการเลื่อนขั้นของอสูร]
[รางวัล: ดอกบัวหิมะ, เเละคูปอง2,000 คูปอง]
[ส่งรางวัลเรียบร้อยแล้ว โปรดตรวจสอบ]
…..
เซียวซิงหยูเปิดคลังของระบบ เเละพบว่ามีดอกบัวหิมะสีขาวบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นมาหนึ่งดอก
นี่คือสมุนไพรบำรุงชั้นยอดสำหรับอสูร…มันหายากถึงขนาดมีเงินก็หาซื้อไม่ได้
เเละทันใดนั้น, เซียวซิงหยูก็นึกอะไรบางอย่างออก
“ดอกบัวหิมะนี่ น่าจะใช้ระงับพลังมังกรได้...”
จากนั้นเซียวซิงหยูก็เปิดดูยอดเงินคงเหลือในบัญชี, ยอดเงินคงเหลือ: 2,050 แต้ม…คูปอง 2,000 แต้ม สามารถซื้อวัตถุดิบสำหรับการเลื่อนขั้นคุณภาพสูงได้
เซียวซิงหยูไม่ได้ใช้คูปองทันที เพราะหมาป่าปีศาจเเห่งนรกเพิ่งเลื่อนขั้นสำเร็จ จึงยังไม่ต้องการวัตถุดิบอะไร…เก็บคะแนนเอาไว้ก่อนจะดีกว่า
“เฮ้! เจ้ามัวเหม่ออะไรอยู่?”
เสียงของเดลลูดึงสติของเซียวซิงหยูกลับมา
ท้องฟ้าที่เคยสดใส ตอนนี้กลับมืดครึ้มไปด้วยเมฆฝน, ฤดูใบไม้ร่วงในเมืองหลงอิ๋นเป็นแบบนี้ ฝนฟ้าคะนองมักจะมาแบบไม่ทันตั้งตัว
สายลมเย็นยะเยือกพัดมาพร้อมกับละอองฝน เดลลูตัวสั่นเล็กน้อยเเละหลังจากนั้นใบหน้าของเธอก็ซีดเผือดลง
“ทุกครั้งที่ฝนตก พลังมังกรในร่างกายของเธอจะปั่นป่วน มันคงทรมานน่าดูสินะ”
“หึ! ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลย!”
เดลลูพยายามอดทนต่อความเจ็บปวด แล้วจ้องมองเซียวซิงหยูด้วยความหยิ่งทะนง
“เอานี่ไปสิ”
เซียวซิงหยูหยิบดอกบัวหิมะออกมาจากคลังของระบบแล้วยื่นให้เดลลู, เเละเมื่อเห็นดอกบัวหิมะ เดลลูก็ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เเละพูดอะไรไม่ออกไปพักใหญ่
“นี่...นี่มัน...ดอกบัวหิมะ?!” เดลลูพึมพำด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ใช่แล้ว ดอกบัวหิมะนี้เป็นสมบัติล้ำค่าจากยอดเขาน้ำแข็งโบราณ…เนื่องจากดอกบัวนี้มีพลังความเย็นที่รุนแรง เมื่อเธอกินเข้าไปแล้วมันจะสามารถระงับพลังมังกรในร่างกายของเธอได้”
“เจ้าได้มันมาจากไหน?” เดลลูถามด้วยความสงสัย
“ไม่ต้องรู้หรอก รีบกินเข้าไปเถอะ”
เดลลูกำลังยื่นมือออกไปจะรับ แต่ทันใดนั้นเธอก็หยุดชะงักลง
“ดอกบัวหิมะนี่มันมีค่ามหาศาลมากนะ ต่อให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองหลวงก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ...”
เดลลูเงยหน้าขึ้นมองเซียวซิงหยู แล้วถามอย่างจริงจังว่า “ทำไมเจ้าถึงยอมเอาสมบัติล้ำค่าขนาดนี้มาให้ข้า?”
“ก็เพราะเธอเป็นอสูรในพันธสัญญาของฉัน สำหรับฉันแล้ว…อสูรในพันธสัญญาก็เหมือนกับครอบครัวเเท้ๆของฉัน” เซียวซิงหยูตอบโดยไม่ลังเล
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เดลลูก็ได้เเต่ยืนนิ่งปล่อยให้สายลมพัดผ่านเส้นผมของเธอ
อสูรในพันธสัญญาก็เหมือนกับครอบครัวเเท้ๆ...คำพูดนี้ดังก้องอยู่ในหูของเดลลูซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ข้าไม่ได้ยินคำว่า ‘ครอบครัว’ มานานแค่ไหนแล้วนะ...”
เดลลูสบตากับเซียวซิงหยู บางทีในวินาทีนั้น เธออาจจะเริ่มเปิดใจให้กับปรมาจารย์อสูรหนุ่มคนนี้แล้วก็ได้
ดวงตาเทพอสูรทำงานโดยอัตโนมัติ ทำให้เซียวซิงหยูเห็นค่าความภักดีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง…ในขณะที่เดลลูรับดอกบัวหิมะไป ค่าความภักดีของเธอที่มีต่อเซียวซิงหยูก็เพิ่มขึ้นเป็น 59 หน่วยทันที
“อีกนิดเดียวก็จะถึงเกณฑ์แล้ว, ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะเอาชนะใจของแม่จิ้งจอกตัวนี้ไม่ได้!”
หลังจากทำพันธสัญญาโลหิตกับเดลลูแล้ว เซียวซิงหยูรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมจีบสาวระดับยากสุดอยู่
การเพิ่มค่าความภักดีของเธอทีละนิดๆทำให้เซียวซิงหยูรู้สึกภูมิใจ เเละในอนาคตเขาจะต้องเอาชนะใจของจิ้งจอกสาวสวยตัวนี้ให้ได้
……………….