บทที่ 412: ยุ่งเหยิง (1)
บทที่ 412: ยุ่งเหยิง (1)
เที่ยงวันของวันที่สิบสามตามเวลาเกาหลี คังวูจินที่ตื่นตั้งแต่เช้ามืดแต่เผลอไผลกลับไปสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง บัดนี้ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเส้นผมสีดำสนิทที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง มือหนาคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลาทันที
“โอ้โห บ้าจริง เที่ยงแล้วเนี่ยนะ? นานแค่ไหนแล้วที่ผมไม่ได้นอนจนตื่นสายขนาดนี้”
นับเป็นครั้งแรกที่เขานอนหลับยาวนานจนถึงเที่ยงวันตั้งแต่ผันตัวมาเป็นนักแสดง อาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมานาน บวกกับบรรยากาศอันแสนผ่อนคลายของบ้านหลังใหม่ ทำให้เขาดื่มด่ำกับการหลับใหลได้อย่างเต็มที่ ถึงอย่างนั้นคังวูจินก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายเวลาแต่อย่างใด
“ช่างเถอะ วันนี้ฉันหยุดนี่นา”
วูจินผู้มีวันหยุดสามวันนับจากวันนี้ เดินตรงไปยังห้องนั่งเล่นก่อนจะกระดกน้ำเปล่าในขวดจนหมด หลังจากยืดเส้นยืดสายคลายความเมื่อยล้าจนรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางทิ้งไว้บนเตียงขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบข้อความต่าง ๆ ที่ส่งเข้ามา ข้อความมากมายหลั่งไหลเข้ามาตั้งแต่ชเวซองกุนไปจนถึงคนอื่น ๆ แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของคังวูจินได้มากที่สุดกลับเป็น
“เอ๊ะ?”
ข้อความส่วนตัวจากคริส ฮาร์ทเน็ต นักแสดงระดับท็อปของฮอลลีวูด เนื้อความสั้น ๆ กล่าวทำนองว่า
‘ฝากเนื้อฝากตัวด้วย เรื่อง 'ปิเอโรต์: กำเนิดวายร้าย' ขอให้ร่วมงานกันอย่างราบรื่น’
คังวูจินที่เห็นข้อความดังกล่าวก็เอียงคออย่างฉงน
“นี่พ่อรูปหล่อคนนี้สละสิทธิ์การออดิชั่นไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
แล้วจะมาขอให้ร่วมงานกันอย่างราบรื่นได้ยังไงกัน? วูจินเกาคางพลางครุ่นคิด จนกระทั่งความจริงปรากฏขึ้นในหัว
“อ้อ”
หลังจากอ่านข้อความยาวเหยียดจากชเวซองกุน วูจินก็พบข้อมูลเกี่ยวกับคริสแทรกอยู่ภายใน นั่นคือข่าวที่ว่าคริสได้เข้าร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง ‘ปิเอโรต์:กำเนิดวายร้าย’ วูจินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย รีบเปิดอินเทอร์เน็ตเพื่อตรวจสอบข่าวต่างประเทศจากฮอลลีวูด ปรากฏว่ามีบทความเกี่ยวกับคริสอยู่เต็มไปหมด
『LA TIME/ ฝั่งตะวันตก “คริส ฮาร์ทเน็ต ยืนยันเข้าร่วม ‘ปิเอโรต์: กำเนิดวายร้าย’” 』
『ABY/ ยืนยันเข้าร่วม ‘ปิเอโรต์: กำเนิดวายร้าย’ คริส ฮาร์ทเน็ต ไม่ได้ออดิชั่นบทพระเอกเหรอ? –』
กระแสข่าวนี้น่าจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ขณะที่วูจินยังหลับใหล หลังจากที่ ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ ประกาศว่าคริสจะร่วมแสดง สื่อต่างประเทศก็กระจายข่าวนี้กันอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง การปรากฏตัวของคริสได้รับการยืนยันในช่วงบ่ายต้น ๆ ตามเวลาลอสแอนเจลิส
“โอ้- สุดยอด”
วูจินอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจอย่างแท้จริง หลังจากอ่านข่าวต่างประเทศบางส่วน ผู้กำกับอันกาบกไม่ได้บอกเขาเรื่องนี้ และพูดตามตรง ตัวเขาเองก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อน
‘นึกว่าเรื่องราวระหว่างฉันกับคน ๆ นี้จะจบลงแค่วันออดิชั่นซะอีก’
อย่างไรก็ตาม สำหรับสื่อต่างประเทศ การเข้าร่วมแสดงใน ‘ปิเอโรต์’ ของคริสเป็นเหมือนเรื่องราวชวนตื่นเต้น น่าติดตาม ก็แน่ล่ะ คริส ฮาร์ทเน็ต เคยแข่งขันออดิชั่นเพื่อชิงบทนำกับวูจิน และพ่ายแพ้ไป หรือจะพูดให้ถูกคือยอมถอยไปเองต่างหาก แต่ในสายตาของสื่อต่างประเทศ เขาก็เหมือนผู้พ่ายแพ้ แต่ถึงแม้จะแพ้คังวูจิน เขาก็ยังได้รับบทอื่นใน ‘ปิเอโรต์:กำเนิดวายร้าย’ จึงไม่แปลกที่จะจุดประกายความสงสัยใคร่รู้ขึ้นมา
『 “ข่าวลือสนั่นวงการ! คังวูจินคว้าชัยเหนือคริส ฮาร์ทเน็ต แต่คริสกลับได้ร่วมแสดง ‘ปิเอโรต์’ ในบทอื่น?” 』
『เหตุใดคริส ฮาร์ทเน็ตจึงได้ร่วมแสดงใน ‘ปิเอโรต์’ แม้จะพ่ายแพ้ให้กับคังวูจิน แถมยังไม่ใช่บทพระเอกอีกด้วย? เบื้องหลังนี้คือความอาลัยอาวรณ์? ความแค้นฝังลึก? หรือแผนการล้างแค้นอันแยบยล? 』
ข่าวลือมากมายถาโถมกระหน่ำโลกอินเทอร์เน็ต คังวูจินกวาดสายตาอ่านข่าวครู่หนึ่งก่อนจะเบือนหน้าหนีอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่รู้สิ พบกันก็คงได้รู้เอง” คังวูจินพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
จากนั้นจึงพิมพ์ตอบกลับข้อความของคริสอย่างสั้น ๆ ก่อนจะเตรียมตัวออกไปข้างนอก วันนี้เขาตั้งใจจะไปเยี่ยมพ่อแม่ที่จินจู ช่วงที่ผ่านมาตารางงานแน่นขนัดแทบไม่มีเวลาว่าง พอมีวันหยุดจึงอยากกลับไปหาพวกท่านสักหน่อย
เวลาผ่านไป
ขณะที่โลกภายนอกกำลังลุกเป็นไฟด้วยข่าวคราวของคังวูจิน ตัวเขาเองกลับมีวันหยุดที่แสนสงบสุข ได้ใช้เวลากับพ่อแม่หลังจากไม่ได้เจอกันนาน ได้พูดคุยและทานอาหารร่วมกันอย่างอบอุ่น
‘รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก’
เขาได้ปลดเปลื้องเรื่องราวเกี่ยวกับการแสดงและภาระหน้าที่การงานออกไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงตัวตนที่แท้จริง พ่อแม่ของวูจินถึงกับตื่นเต้นดีใจที่ลูกชายกลายเป็น ‘ดาวเด่นระดับโลก’ แต่เพียงไม่นานก็กลับมาปฏิบัติกับเขาเหมือนลูกชายคนเดิม ส่วนคังฮยอนอา น้องสาวของเขานั้นยังคงตื่นเต้นไม่หาย
“พี่! ได้เล่น ‘ปิเอโรต์’ กับคริส ฮาร์ทเน็ตจริง ๆ ใช่ไหม?!” คังฮยอนอาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
พวกเขาพูดคุยกันอย่างออกรส แลกเปลี่ยนเรื่องราวมากมาย ทั้งเรื่องราวในฮอลลีวูด บุคคลสำคัญที่ได้พบเจอ และเรื่องงานแสดงต่าง ๆ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนดึก คังวูจินจึงขอตัวกลับเข้าห้องนอน เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเลื่อนดูไปเรื่อย ๆ
กึก
เขาเปิด SNS หรือจะเรียกให้ถูกต้องว่าบัญชีทางการของ ‘วอลต์ดิสนีย์พิคเจอร์ส’ แน่นอนว่าโพสต์ล่าสุดคือประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เรื่องที่คาร่าได้รับเลือกให้สวมบทบาท “เจ้าหญิงเบลล์” ซึ่งโพสต์นี้มีแฟน ๆ แห่กันมาคอมเมนต์นับแสนคนแล้ว
-ไมลีย์! ไมลีย์!
-ก็คิดอยู่แล้วว่าเจ้าหญิงเบลล์ต้องเป็นไมลีย์ มาเรีย อาร์มาสก็เหมาะสมดี แต่ไมลีย์เหนือกว่า
-ในที่สุดก็ได้นักแสดงที่มารับบทโฉมงามกับเจ้าชายอสูรแล้ว! รอชมเลยนะ ดิสนีย์
-จะรอชมทำไม? คังวูจินได้รับเลือกปุ๊บ หนังก็พังแล้ว!
-ฉันก็คิดอย่างนั้น ไมลีย์โอเคอยู่ แต่ฉันอยากให้ดิสนีย์เปลี่ยนตัวคังวูจิน
-พอเถอะ ทุกคน อย่าเพิ่งด่ากันเลย แค่ไม่ถูกใจก็แสดงความเห็นแย่ ๆ แบบนี้มันดูไม่ดี
-ดิสนีย์! นายกำลังทำพลาดอีกแล้วนะ?
-คังวูจินกับไมลีย์… อืม ยังนึกภาพไม่ออก แต่ฉันว่าก็โอเคนะ พอเห็นคังวูจินใน มารร้ายผู้แสนดี ก็รู้สึกคาดหวังขึ้นมาหน่อย
-ดิสนีย์! เลือกนักแสดงเจ้าชายอสูรจากอะไรเนี่ย
-คังวูจินเคยร่วมงานกับไมลีย์บ่อย ๆ คิดว่าทั้งคู่คงทำได้ดีนะ
-นี่ ดิสนีย์! จะเมินเสียงคัดค้านจากแฟน ๆ ทั่วโลกแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เหรอ!
ความคิดเห็นหลากหลายภาษาไหลบ่าปะปนกันอย่างอลหม่าน คังวูจินเห็นภาพนี้แล้วหัวเราะในใจ ‘โอ้โห… กระแสตอบรับนี่มันยิ่งกว่าระเบิด’
ความอลหม่านครอบคลุมไปทั่วทุกสารทิศ ตั้งแต่ชุมชนออนไลน์ทั่วโลก ไปจนถึงโซเชียลมีเดียอย่าง YouTube ต่างก็ลุกเป็นไฟราวกับถูกระเบิดปรมาณูถล่ม
เกาหลีใต้อีกแล้ว จะมีอะไรให้พูดได้อีกเล่า?
-คังวูจินถ่ายรูปคู่กับไมลีย์ คาร่าในเรื่อง ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดด!
ไม่ต่างอะไรกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอเมริกา
สื่อและกระแสสังคมเกาหลีใต้พุ่งเป้าไปที่คังวูจินราวกับคลื่นยักษ์ซัดสาด แม้ตัวเขาจะไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรมากมายนัก แต่สำหรับชาวเกาหลีใต้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นถือเป็นครั้งแรก เป็นปรากฏการณ์เหนือคาดราวกับปาฏิหาริย์
『 ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ ที่ได้รับทั้งคำชื่นชมและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก จะเริ่มถ่ายทำเมื่อไหร่กันนะ? 』
หลายวันผ่านไป คังวูจินกลับมาทำงานหลังจากวันหยุดอันแสนสั้น ตารางงานแน่นเอียดรอเขาอยู่ และสิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือ
“ว้าว! ซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกมาแล้ว!”
“ปรบมือต้อนรับหน่อยเร็ว!”
“แจ้งไปทางข้อความแล้ว แต่ขอแสดงความยินดีกับคุณวูจินด้วยนะครับ! กับทุกเรื่องที่ฮอลลีวูดเลย!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! พอดีกับที่ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ของเรากำลังโด่งดังเป็นพลุแตก คุณวูจินคงยุ่งน่าดูเลยนะครับที่ฮอลลีวูด?”
การประชุมล่วงหน้าเกี่ยวกับ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ พาร์ท 2 จัดขึ้นที่ Netflix เกาหลี ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ผู้กำกับซงมันวูผู้มีหนวดเคราเฟิ้ม พร้อมด้วยทีมงานคนสำคัญ ผู้จัดการทั่วไปคิมโซฮยาง ผู้บริหารของ Netflix นักเขียนชเวนานา และคนอื่น ๆ ต่างส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีอย่างโอ่อ่าราวกับงานฉลอง ทันทีที่เห็นคังวูจินปรากฏตัว
บรรยากาศในห้องประชุมจึงเต็มไปด้วยความคึกคัก ราวกับงานปาร์ตี้สุดเหวี่ยงมากกว่าการประชุมอย่างเป็นทางการ
ความสำเร็จอันถล่มทลายของคังวูจินในฮอลลีวูด รวมถึง ‘มารร้ายผู้แสนดี’ พาร์ท 1 ที่ยังคงครองใจผู้ชมทั่วโลก ถือเป็นเรื่องธรรมดา แม้ภายนอกชายหนุ่มจะดูนิ่งเฉย แต่ภายในใจกลับปลื้มปริ่มไม่ต่างจากคนอื่น ๆ
สักพักหนึ่ง
“ขอโทษที่รบกวนช่วงเวลาแห่งความสุขนะครับทุกคน คุณวูจิน เราต้องคุยเรื่องงานกันแล้วครับ” PDซงมันวูกล่าวกับคังวูจินหลังจากตั้งสติได้
“การถ่ายทำ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ พาร์ท 2 จะเริ่มต้นในสัปดาห์หน้าครับ”
จากนั้นเอง
ก่อนการถ่ายทำ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ พาร์ท 2 อย่างเป็นทางการ คังวูจินต้องเผชิญกับตารางงานที่อัดแน่นอีกครั้ง งานที่ค้างคาไว้ระหว่างที่อยู่ลอสแอนเจลิส โถมเข้ามาดุจคลื่นยักษ์ ทั้งการให้สัมภาษณ์ ถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบ ถ่ายทำภาพยนตร์ งานอีเวนต์ต่าง ๆ รวมถึงงานแจกลายเซ็นและงานแฟนมีตติ้ง
คังวูจินต้องวิ่งรอกทำงานอย่างหนักระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่น
แต่ต่างจากตอนที่อยู่ลอสแอนเจลิสที่ค่อนข้างสบาย ๆ ครั้งนี้วูจินกลับดูไม่หวั่นไหวกับการกลับสู่ “ขุมนรก” อีกครั้ง หากเป็นเมื่อก่อน แค่รักษาภาพลักษณ์ก็เหนื่อยล้าแล้ว แต่บัดนี้เขากลับรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งไม่ใช่การเสแสร้งแต่อย่างใด
‘เอาไงดี มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรขนาดนั้นนี่? หรือว่าเราเติบโตขึ้นโดยไม่รู้ตัวงั้นเหรอ? รู้สึกว่าจะรับมือได้มากกว่านี้อีกหลายเท่าเลย’
แน่นอนว่าเขายังคงใช้ มิติว่างเปล่า อยู่บ้าง แต่ความถี่ในการใช้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะเดียวกัน
ยอดวิววิดีโอ Youtube ที่คังวูจินและไมลีย์ คาร่าถ่ายทำร่วมกันในธีม ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ พุ่งสูงอย่างน่าเหลือเชื่อ ทะลุ 70 ล้านวิวไปแล้ว
เรียกได้ว่าเป็นพลังระดับโลกอย่างแท้จริง
บัดนี้ อิทธิพลระดับโลกอันแท้จริงของคังวูจินเริ่มฉายแสงเจิดจรัส
『[ข่าวเด่นประเด็นร้อน] ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ยังคงครองอันดับ 1 ของโลก 6 สัปดาห์ติดต่อกัน ยอดผู้ชมพุ่งสูงขึ้นอีกจากกระแส ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ 』
‘มารร้ายผู้แสนดี’ สร้างสถิติใหม่ทั้งในเกาหลีและบน Netflix
『 ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ของคังวูจินครองอันดับ 1 ของโลกมานานกว่าหนึ่งเดือน PDซงมันวูกล่าวว่า "รู้สึกตกตะลึงกับความนิยมระดับโลก" 』
『ประธานของ Netflix กล่าวว่า " ‘มารร้ายผู้แสนดี’ อาจเป็นผลงานที่ดีที่สุดตลอดกาล" 』
แม้ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ จะขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลกและประสบความสำเร็จมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่อิทธิพลของคังวูจินในฮอลลีวูดที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดกลับยิ่งส่งให้กระแสปากต่อปากแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว คังวูจินปรากฏตัวอย่างต่อเนื่องใน "เนดิต" คอมมูนิตี้ออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดในต่างประเทศ
『[ข่าวต่างประเทศ] ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ครองอันดับ 1 ใน 80 ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาและยุโรป "กระแสความนิยมระดับโลก" ···ยิ่งทรงพลังขึ้นไปอีกเพราะคังวูจิน』
และในช่วงแรก การคาดการณ์เกี่ยวกับ "รางวัลเอมมี่" ของ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ เป็นเพียงข่าวลือ แต่บัดนี้เริ่มเป็นที่พูดถึงอย่างเปิดเผย เนื่องจากไม่เคยมีละครหรือซีรีส์เกาหลีเรื่องใดที่ประสบความสำเร็จระดับโลกเช่นนี้มาก่อน ยิ่งประกอบกับอิทธิพลของคังวูจินที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
『มีข่าวลือหนาหูว่า ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ของ Netflix ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง "รางวัลเอมมี่" ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับรายการโทรทัศน์ที่ดีที่สุดในโลก』
อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ยังคงเป็นเพียงข่าวลือ 'รางวัลไพรม์ไทม์เอมมี่' ซึ่งจัดโดยสถาบันศิลปะและวิชาการทางโทรทัศน์ (ATAS) ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ
แต่เบื้องลึก ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ได้ผ่านการพิจารณาเพื่อเสนอชื่อเข้าชิง 'รางวัลไพรม์ไทม์เอมมี่' เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
『ประธาน Netflix “‘มารร้ายผู้แสนดี’ จะก้าวข้ามรางวัลเอมมี่ของสหรัฐ” พวกเขากล่าวออกมาด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม』
จากนั้นเอง
『[ประเด็นร้อน] ‘มารร้ายผู้แสนดี’ พาร์ท 2 เตรียมเปิดกล้องถ่ายทำในเร็ว ๆ นี้ มีโอกาสคว้า ‘รางวัลเอมมี่’ ครั้งแรกของเกาหลี แฟนคลับต่างชาติแห่ตื่นเต้นกับข่าวการถ่ายทำพาร์ท 2 หลังตกหลุมรักคังวูจิน!』
ข่าวการถ่ายทำ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ พาร์ท 2 แพร่สะพัดไปทั่วโลก ราวกับไฟลามทุ่ง
เช้าวันที่ 22 มีนาคม สนามบินอินชอน
เวลาประมาณ 11:30 น. ฝูงชนมากมายหลั่งไหลกันเข้ามาที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าของสนามบินอินชอนด้วยเหตุผลบางประการ เหล่านักข่าวหลายสิบคนเบียดเสียดกันอยู่หลังรั้วกั้น พร้อมด้วยแฟนคลับที่ถือโทรศัพท์มือถือและกล้องขนาดใหญ่ราวกับปืนใหญ่ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 200 คน
เหตุผลนั้นเรียบง่าย
เนื่องจากมีข่าวว่าเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของเกาหลีจะเดินทางกลับมาหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่น ภาพที่เห็นจึงเป็นเรื่องปกติเมื่อไอดอลระดับท็อปปรากฏตัวที่สนามบิน
ในขณะนั้น
-แกร๊ก
ประตูอาคารผู้โดยสารขาเข้าบานออก ผู้คนเริ่มทยอยเดินออกมาทีละคนสองคน คนทั่วไปต่างตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นนักข่าวและแฟน ๆ ที่มารวมตัวกัน บางคนดูเหมือนจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นแววว่าเกิร์ลกรุ๊ปที่รอคอยกำลังจะปรากฏตัว เหล่านักข่าวก็รีบยกกล้องขึ้นในทันที
ในวินาทีนั้นเอง กลุ่มชาวต่างชาติปรากฏตัวขึ้นที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า
ประมาณ 6 คน
ทว่านักข่าวส่วนใหญ่กลับไม่สนใจชาวต่างชาติกลุ่มนี้ พวกเขามองว่าเป็นเพียงนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่มาเยือนเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ท่ามกลางฝูงนักข่าวหลายสิบคนนั้น ยังมีนักข่าวบางคนที่...
“หา?”
พวกเขามองไปยังกลุ่มชาวต่างชาติที่เพิ่งเดินทางเข้าประเทศ สายตาจับจ้องไปที่ชายผิวสีร่างสูงใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่นในกลุ่มนั้น พวกเขามองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ราวกับพยายามค้นหาบางสิ่ง ใบหน้าของชายคนนี้ดูคุ้นเคยอย่างประหลาด ในบรรดานักข่าวเหล่านั้น มีนักข่าวบันเทิงต่างประเทศร่างท้วม ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวฮอลลีวูดคนหนึ่งที่...
“คนร่างยักษ์นั่น...”
เขาพึมพำเบา ๆ ขณะมองไปยังชายผิวสีร่างสูงโปร่งผู้นั้น
“เขาชื่ออะไรนะ โจเซฟ เฟลตัน? PDชื่อดังจากฮอลลีวูดเหรอ?”
แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจนัก นักข่าวร่างท้วมจึงยกกล้องขึ้นบันทึกภาพชายผิวสีร่างยักษ์และกลุ่มชาวต่างชาติเอาไว้ก่อน จากนั้นจึงส่งรูปที่ถ่ายได้ไปให้นักข่าวคนอื่นทางแชท พร้อมกับข้อความสั้น ๆ ว่า “ยักษ์นี่ โจเซฟ เฟลตัน ใช่มั้ย?”
คำตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ยืนยันว่าเป็น โจเซฟ เฟลตัน จริง
แต่ความสงสัยของนักข่าวร่างท้วมยังไม่คลาย เท่าที่เขาทราบ โจเซฟ เฟลตัน คือPDชื่อดังในฮอลลีวูด
‘แม้แต่ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ในฮอลลีวูดก็ยังต่อคิวเพื่อร่วมงานกับเขา แล้วเขามาเกาหลีใต้เพื่ออะไรกัน?’
สัญชาตญาณนักข่าวของเขากระตุกเตือน บอกเขาว่าเรื่องนี้น่าจะมีเบื้องลึกบางอย่าง จากนั้นเขาก็ได้รับข้อความอีกครั้ง ดวงตาของนักข่าวร่างท้วมเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยหลังจากอ่านข้อความที่เพื่อนนักข่าวส่งมา
‘โจเซฟ เฟลตัน กำลังร่วมงานกับ ‘ยูนิเวอร์แซลมูฟวี่ส์’ อยู่งั้นเหรอ? ’
‘ยูนิเวอร์แซลมูฟวี่ส์’ คือหนึ่งในห้าสตูดิโอภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ ‘บิ๊กไฟว์’ แห่งฮอลลีวูด เทียบชั้น ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ หรือ ‘วอลต์ดิสนีย์พิคเจอร์ส’ และPDระดับตำนานที่ร่วมงานกับสตูดิโอผู้ทรงอิทธิพลเช่นนี้ เพิ่งเดินทางมาถึงเกาหลีใต้
ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แล่นวาบเข้ามาในหัวของนักข่าว
“‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ ‘วอลต์ดิสนีย์พิคเจอร์ส’ แล้วก็······ ‘ยูนิเวอร์แซลมูฟวี่ส์’ อีกเนี่ยนะ? หรือว่าจะเป็นคังวูจินกัน?”
ใช่แล้ว เป้าหมายของชายร่างยักษ์ที่มาเยือนเกาหลีครั้งนี้คือคังวูจิน…
-จบ-