บทที่ 246 การทำธุรกรรมสุดท้าย, ใครกันที่ขโมยไป - ตอนฟรี
บทที่ 246 การทำธุรกรรมสุดท้าย, ใครกันที่ขโมยไป
“อะไรนะ คุณมาจากห้องทดลองอัลฟา ในเมืองหูป๋อใช่ไหม”
เมื่อได้ยินคำถามของถังหยู่ ช่างเครื่องก็แสดงสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็เหลือบมองถังหยู่ด้วยความสงสัย
“เจ้า...เจ้านาย รู้ได้ยังไง”
ถังหยู่พยักหน้าไปทางตู่ซานซี เธอเข้าใจความหมายของถังหยู่และหยิบแฟลชไดรฟ์เข้ารหัสออกมาและเริ่มเล่นวิดีโอของกบฏที่กำลังจะโจมตีห้องทดลองอัลฟาอีกครั้ง
ช่างเครื่องดูอย่างตั้งใจจนวิดีโอจบ
ถังหยู่กำลังจะถามช่างเครื่องเกี่ยวกับรายละเอียดของห้องทดลองอัลฟาอย่างจริงจัง
แต่ข้อมูลของแรคคูนน้อยก็ถูกส่งเข้ามาเสียก่อน
ถังหยู่กดคำถามนั้นไว้ชั่วคราว สวมอุปกรณ์ และปรากฏตัวที่สถานีรถไฟใต้ดินป่าดินแดง
เมื่อเขาเดินออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน เขาก็เห็นแรคคูนน้อยนั่งรอในรถโกคาร์ทแบบออฟโรดแล้ว
ถังหยู่กระโดดขึ้นรถอย่างรวดเร็ว แรคคูนน้อยเหยียบคันเร่ง และทั้งสองคนขับรถไปยังจุดนัดพบอย่างรวดเร็ว
เมื่อคืนที่ผ่านมา มีฝนตกหนักที่เมืองคิวเอ่อหลัว จนถึงเช้าวันนี้มันจึงหยุด
ดังนั้นถนนของสถานีเก็บของจึงลื่นมาก
แต่สภาพอากาศก็สดใสขึ้นอย่างรวดเร็ว แดดส่องจ้า ไร้เมฆฝน
ถังหยู่มองดูฉากตรงหน้า และประโยคหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในใจของเขา
"..ความสงบเงียบก่อนพายุ.."
ในไม่ช้า ทั้งสองก็มาถึงจุดนัดพบของนายทหารเสบียงและเฝ้ารอตามเดิม
มันยังคงเป็นแบบเดียวกับเมื่อวาน แรคคูนน้อยอยู่ข้างนอก และถังหยู่ซ่อนตัว และในที่สุดรถหุ้มเกราะของกองทัพปฏิวัติก็หยุดลงอย่างช้าๆ ที่ตำแหน่งของแรคคูนน้อย
ครั้งนี้ นายทหารเสบียงไม่ได้ระมัดระวังตัวเหมือนเมื่อวาน เขาลงจากรถทันทีที่รถยังไม่จอดสนิทและตะโกนเรียกแรคคูนน้อย
"เร็วเข้า เอาของไปเร็ว"
เมื่อเห็นดังนั้น แรคคูนน้อยก็รีบเข้าไปช่วยทันที ทั้งสองคนต้องใช้ความพยายามมากจึงจะสามารถขนปืนแกตลิ่งขนาดใหญ่ที่แสดงให้เห็นร่องรอยการใช้งานอย่างชัดเจนลงจากรถหุ้มเกราะได้ จากนั้นจึงขนกระสุนอีก 20,000 นัด
แรคคูนน้อยเหนื่อยมาก และกำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ปรากฏว่านายทหารเสบียงนั้นเร่งรีบมาก
"ฉันมีธุระด่วน เอาเหรียญภัยพิบัติมาให้ฉันเร็ว"
แรคคูนน้อยกำลังจะปฏิเสธ เพราะยังไม่ได้ตรวจสอบสินค้า แต่ต้องการเงิน
แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นความกังวลในดวงตาของอีกฝ่าย แม้ว่าจะมีความสงสัยอยู่บ้าง แต่เขาก็ยื่นเหรียญภัยพิบัติ 11 เหรียญให้กับอีกฝ่ายพร้อมกับรายการใหม่
"เทรนซู นี่คือรายการของใหม่ ช่วยจัดการให้ด้วย"
นายทหารเสบียงรับรายการนั้นมาดูและตะโกนออกมาทันที
"คุณบ้าแล้วหรือเปล่าเนี่ย ไม่ใช่แค่เรดาร์ แต่ยังมีระบบนำวิถีแบบอินฟราเรดอีก แถมยังเป็นโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์อีกด้วย นี่มันบ้าไปแล้ว"
แต่หลังจากพูดจบ เขาก็พับรายการนั้นแล้วเก็บไว้ในกระเป๋า
"ไม่แน่ใจว่าจะหาให้ได้หรือเปล่านะ รอฉันติดต่อไปก็แล้วกัน"
เมื่อพูดจบ นายทหารเสบียงก็ปิดประตูรถ ปรับพวงมาลัย และขับกลับไปตามทางเดิมด้วยความเร็วในการขับรถที่เร็วกว่าตอนมาอย่างเห็นได้ชัด
ถังหยู่สังเกตเห็นสถานการณ์นี้ และเมื่อแน่ใจว่าไม่มีอันตรายรอบๆ เขาก็รีบเดินไปหาแรคคูนน้อยทันทีเพื่อตรวจสอบปืนด้วยตัวเองอย่างละเอียด และเมื่อแน่ใจว่าไม่มีปัญหา เขาก็เก็บมันเข้าไปในพื้นที่ช่องเก็บของพร้อมกับกระสุน
จากนั้นเขาก็หันไปมองแรคคูนน้อย
"เขาเป็นอะไร ทำไมถึงดูรีบร้อนแบบนั้น"
แรคคูนน้อยก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมนายทหารเสบียงถึงเป็นแบบนี้
"ไม่รู้สิ เขาอาจจะมีธุระด่วนก็ได้"
"เราไปที่ที่หลบภัยของต้นไม้กันต่อ เขายังไม่ฟื้น ยังไม่สามารถผสานรวมที่หลบภัยได้ ของข้างในจะโดนน้ำท่วมพรุ่งนี้ถ้าเราไม่เอามันออกมาก่อน"
ในขณะที่ถังหยู่และแรคคูนน้อยกำลังขับรถโกคาร์ทไปที่ที่หลบภัยของมนุษย์ต้นไม้
แต่ดูท่าว่าเทรนซู นายทหารเสบียงของกองทัพปฏิวัติจะประสบปัญหาเสียแล้ว
เมื่อเทรนซูกลับมาถึงค่ายกองทัพปฏิวัติ เขาก็ถูกทหารเจ็ดแปดคนล้อมทันทีที่ลงจากรถ
จากนั้นนายทหารคนหนึ่งก็เดินมาหาเขา
"เทรนซ์ แกไปไหนมา ทำไมถึงชอบออกไปข้างนอกบ่อยๆ"
เทรนซูเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างไม่สนใจ
*** หมายเหตุ ตัวละครใหม่ “วาดรู” อ่านว่า “วา-ดรู” ไม่ใช่ “วาด-รู” ***
"วาดรูแกจะมาถามอะไรฉัน ทำไมแกถึงชอบมายุ่งเรื่องของฉันนัก แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ทำไมไม่ดูแลเรื่องข้าวของในสัปดาห์นี้ให้เรียบร้อยไปล่ะ"
พูดตามตรง เทรนซู นายทหารเสบียงของกองทัพปฏิวัติแห่งเมืองคิวเอ่อหลัวคนนี้ไม่กลัวใครเลย นอกจากคนสองสามคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงที่สุด
เมื่อพูดจบเขาก็จะออกไป
แต่ วาดรูก็ยืนขวางหน้าเขา และจ้องมองนายทหารเสบียงพร้อมรอยยิ้มที่มีเลศนัย
"ทำท่าทางใหญ่โตเชียวนะ แกคิดว่ามอตอสผู้บัญชาการของแกจะช่วยแกได้เหรอ เขายังเอาตัวเองไม่รอดเลยหลังจากแพ้สงครามเมื่อวานนี้ แกคงไม่คิดว่าพี่ชายของแก บาร์ดเลย์จะรอดใช่ไหม”
เทรนซูจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา ขณะเดินชนและเบียดคนตรงหน้าและเดินจากไป
เมื่อมองดูเทรนซูที่เดินออกไปเรื่อยๆ วาดรู ผู้บัญชาการกองทัพปฏิวัติก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น
เขาเอียงหัวเล็กน้อย มองไปที่คนข้างๆ
"แกแน่ใจนะ เทเรนซ์ซูขายอาวุธจริงๆ ใช่ไหม เขาไม่เห็นแกใช่ไหม"
"ท่านผู้บัญชาการ แน่ใจว่าไม่ผิดพลาด ผมระมัดระวังมากตลอดทาง เขาไม่เห็นผมแน่นอน"
วาดรูยิ้ม
"ดีมาก!"
เทรนซูกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเองด้วยสีหน้ามืดครึ้ม
"บ้าเอ้ย วาดรูมันจะออกมาสร้างเรื่องอะไรกันนักกันหนา... "
ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็แสดงความกังวลเล็กน้อย
"โลคอฟ ไอ้โง่นั่น ขนาดพวกเราใช้แผนดึงดูดความสนใจของพวกกบฏให้ตั้ง แต่มันยังพลาดโดนเล่นงานไปซะได้"
ในขณะนั้น ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก นายทหารเสบียงคิดว่าเป็นวาดรูที่เขามาและกำลังจะด่าทอ
แต่เขาก็เห็นว่ามันเป็นพี่ชายของเขา บาร์ดเลย์
"พี่ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง"
"อย่าพูดเลย ไอ้วินเชสเตอร์นั่นมันข้าหน้าข้ามตาไปรายงานสถานการณ์เมื่อคืนให้ผู้บัญชาการใหญ่โดยตรงเลย ผลคือผู้บัญชาการใหญ่ด่าผู้บัญชาการจนหูชา ฉันเลยโดนผู้บัญชาการด่าไปด้วยเนี่ย"
เทรนซูแสดงสีหน้าสงสัย
"ของเมื่อคืนมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่ใช่ว่าพวกกบฏก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนขโมยของไปหรอ ดังนั้นถ้าไม่ใช่กบฏที่เอาไป มันคงไม่เป็นไรหรอมั้ง"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ บาร์ดเลย์ก็แสดงสีหน้าสับสน
"ใครบอกว่าไม่เป็นไรล่ะ มันหายนะชัดๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้บัญชาการใช้ระบบตรวจสอบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อค้นหาบุคคลหรือกองกำลังที่ขโมยของไป แต่หลังจากตรวจสอบไปสามรอบก็พบผู้รอดชีวิตคนละคนกันสามคน"
"สามคนหรอ"
เทรนซูอ้าปากค้าง
เป็นผู้รอดชีวิตงั้นเหรอ
"นี่มันอะไรกัน ปกติพวกผู้รอดชีวิตจะเอาแต่ซ่อนตัว ทำตัวเงียบๆ ตลอด ไม่ใช่เหรอ และส่วนใหญ่พวกเขาก็ทำสงครามแบบเดี่ยว พวกเขาไม่น่าจะกล้าต่อต้านพวกเราหรือพวกกบฏนี่"
"ฉันก็งงตรงนี้เหมือนกัน แต่พวกกบฏน่าจะรู้ข่าวของสามคนนี้แล้ว และน่าจะกำลังวางแผนที่จะลงมือ"
"สามคนนั้นคือใคร" เทเรนซ์ซูรู้สึกอยากรู้อยากเห็น เขาอบากรู้ว่าใครที่กล้าบ้าบิ่นขนาดนั้น จนถึงกับขโมยของจากพวกกบฏและกองทัพปฏิวัติของพวกเขา
บาร์ดเลย์ส่ายหัว
"ได้ยินมาว่าพวกเขาทั้งสามเป็นผู้รอดชีวิตที่แข็งแกร่ง ชื่อ โจบัดเดน บาร์บาร่า ยากาหรือที่รู้จักในชื่อแมคคานิคัลบาร่า และเทพแห่งความตายจิกูลาถัง!"