บทที่ 23 การสอนชาวเผ่าโบราณทำบาร์บีคิว
บทที่ 23 การสอนชาวเผ่าโบราณทำบาร์บีคิว
เพียงแค่คิดถึง ซูหยุนก็รู้สึกขนลุกวาบขึ้นมาทันที
ต่างจากคนในเผ่าโบราณ ไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงรู้สึกว่า การบินอยู่เหนือหัวคนในยุคปัจจุบันน่าจะให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่มากกว่า
คิดไปคิดมา ซูหยุนถอนหายใจเบาๆ
"ช่างเถอะ เอาไว้จัดการวิกฤติของเผ่าก่อน ค่อยว่ากันเรื่องพวกนี้ทีหลัง"
เผ่าน้ำแข็งนั่นเหมือนหนามยอกใจ คอยกวนใจเขาไม่หยุด ทำให้ตอนนี้เขาไม่กล้ากลับไปโลกปัจจุบันด้วยซ้ำ
เขากลัวว่าหากกลับไป ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เมื่อเขากลับมายังโลกนี้อีกครั้ง อาจพบว่าเผ่าของเขาถูกทำลายไปแล้วทั้งหมด!
ถึงตอนนั้น ต่อให้ร้องไห้ฟูมฟายก็ไม่ช่วยอะไร
เมื่อดึงสติกลับมา ซูหยุนใช้เวลาสักครู่มองออกไปยังโลกภายนอก
"พวกเขากำลังทำอะไรกัน?"
ด้วยความสงสัย ซูหยุนรับรู้เรื่องราวผ่านคำพูดของหัวหน้าเผ่าและเหล่าผู้อาวุโส
"ปวดท้องงั้นหรือ?" ซูหยุนขมวดคิ้ว มองไปยังเด็กที่ชื่อเสี่ยวหู
เขาจำเด็กคนนี้ได้ เมื่อไม่นานมานี้ดูเหมือนเด็กจะกินเนื้อชิ้นหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสดเท่าไหร่ หรือจะเป็นเพราะเนื้อชิ้นนั้น?
ในพริบตาเดียว ซูหยุนก็เข้าใจถึงปัญหา
เมื่อฟังจากบทสนทนา ดูเหมือนทั้งผู้ใหญ่และเด็กจะมีอาการปวดท้องบ่อยผิดปกติ
"ปัญหาน่าจะมาจากการกินเนื้อดิบ"
ซูหยุนลูบคางพลางพึมพำกับตัวเอง
แม้แต่คนในยุคโบราณที่มีร่างกายแข็งแรง แต่การกินเนื้อดิบมากเกินไปก็อาจทำให้อายุสั้นลงได้ เพราะพวกปรสิตเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องที่จัดการได้ง่ายๆ
แม้แต่ในโลกปัจจุบันเองก็ยังมีปรสิตอยู่ เช่นพยาธิไส้เดือนซึ่งเป็นที่รู้จักดี เด็กส่วนใหญ่มักจะเคยติดมาก่อน
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ซูหยุนก็ยังคงคิดถึงลูกอมทรงเจดีย์ที่ใช้รักษาพยาธิอยู่จนถึงตอนนี้
"ดูเหมือนจะต้องสอนพวกเขาให้ใช้ไฟทำอาหารให้สุกแล้วล่ะ"
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็คิดในใจ
"ตาแก่ปุโรหิต คราวนี้คงต้องเป็นเจ้าล่ะ!"
ซูหยุนพึมพำเบาๆ แล้วทันใดนั้นก็รวบรวมจิตใจทั้งหมดเข้าสู่เส้นด้ายแห่งศรัทธา
เพียงชั่วพริบตา จิตสำนึกของเขาก็เคลื่อนผ่านเส้นด้ายนั้นอย่างรวดเร็วเข้าสู่ร่างของปุโรหิตเฒ่า
ทันทีที่ควบคุมร่างนั้นได้ เขาก็ผลักจิตสำนึกของปุโรหิตเฒ่าออกไป
"นี่ นี่ นี่...นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว?"
ปุโรหิตเฒ่าอึ้งจนพูดไม่ออก
"อืม คราวนี้ไม่ให้เจ้ามีสติรับรู้แล้วกัน"
ซูหยุนยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วก็ผลักจิตสำนึกของปุโรหิตไปลึกยิ่งกว่าเดิม
ปุโรหิตเฒ่ารู้สึกเหมือนทุกอย่างดับมืดลง และหมดความสามารถในการคิดไป
เมื่อได้กลับเข้าสู่ร่างนี้อีกครั้ง ซูหยุนก็ยังคงรู้สึกไม่คุ้นเคย โดยเฉพาะกลิ่นในถ้ำที่แย่ยิ่งกว่าข้างนอก
แม้ว่าคนเหล่านี้จะรู้ว่าไม่ควรขับถ่ายในถ้ำ แต่แค่กลิ่นเหงื่อของพวกเขาก็เพียงพอที่จะทำให้เวียนหัวได้แล้ว
"ออกไปข้างนอกกันเถอะ" ซูหยุนหยิบไฟแช็คติดตัวและหันไปพูดกับคนในกลุ่มอย่างรวดเร็ว
เขารีบก้าวออกไปนอกถ้ำทันที
พวกของ “กวง” ดูงุนงง ไม่รู้ว่าหัวหน้าเผ่ากำลังจะทำอะไร แต่ก็รีบตามไป
ซูหยุนพยายามกลั้นหายใจจนกระทั่งออกมานอกถ้ำ แล้วจึงถอนหายใจออกมาอย่างแรง
เขาหายใจเข้าอย่างรวดเร็ว ร่างกายถึงกับมีเหงื่อเย็นซึมออกมา
"ท่านปุโรหิต..." กวงและคนอื่นๆ รีบตามมา
ซูหยุนพยักหน้าแล้วเดินไปต่อ
เมื่อมาถึงที่โล่ง เขาหันไปสั่งกวงว่า "ไปหากิ่งไม้กับใบไม้มาให้ข้า"
กวงที่ยังงุนงงอยู่ในตอนแรก จากนั้นก็เหมือนจะนึกอะไรได้ ดวงตาของเขาเป็นประกาย รีบพยักหน้า วางตัวเด็กชายชื่อเสี่ยวหู ลงบนพื้น แล้ววิ่งเข้าไปในป่า
"ท่านปุโรหิตนี่ท่านจะทำไฟเหรอ?"
เด็กชายสามคนรวมทั้งเสี่ยวหูต่างมีแววตาที่ตื่นเต้น แม้แต่เสี่ยวหูที่กำลังปวดท้องอยู่ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้
สำหรับพวกเขา ไฟเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เคยเห็นเพียงครั้งเดียวและยังคงรู้สึกสงสัยใคร่อยากรู้อยู่มาก
ไม่นาน กวงก็กลับมาพร้อมกับกองกิ่งไม้และใบไม้
ระหว่างนั้นก็มีคนในเผ่าหลายคนเดินเข้ามามุงดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ซูหยุนรับกิ่งไม้จากมือกวงมา แล้วสั่งต่อทันที "ไปเอาเนื้อมาอีกหน่อย"
กวงดูสับสนและเหมือนจะอยากถามอะไรบางอย่าง
"อย่าพึ่งถาม เร็วเข้า!"
ซูหยุนทำหน้าจริงจัง ใบหน้าที่ดูชราและแฝงไปด้วยบารมีของปุโรหิตช่วยเพิ่มความน่าเกรงขามจนไม่มีใครกล้าขัดขืน
"กวง" เชื่อฟังอย่างดี รีบวิ่งไปเอาของตามที่สั่งอีกครั้ง
ซูหยุนนั่งยองๆ บนพื้น จัดเรียงกิ่งไม้แล้วจุดใบไม้แห้งด้วยไฟแช็ก
ควันเริ่มพวยพุ่ง เปลวไฟลุกไหม้ใบไม้จนค่อยๆ ลามไปที่กิ่งไม้ เปลวไฟแดงฉานส่องสะท้อนใบหน้าชราของหัวหน้าเผ่า
"นี่คือไฟงั้นเหรอ?"
เด็กๆ ที่อยู่รอบๆ ทั้งลี่และเสี่ยวหู ต่างตื่นเต้นวิ่งเข้ามาล้อมรอบกองไฟ เสี่ยวหูถึงกับลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ
ชาวเผ่าประมาณ 30 คนมุงเข้ามาดูด้วยแววตาเป็นประกาย พวกเขาค่อยๆ รวมตัวกันเป็นวงล้อมรอบกองไฟด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"ท่านปุโรหิต นี่ท่านกำลังทำอะไรหรือ?"
ชายคนหนึ่งชื่อเหมาเบียดเข้ามาใกล้ พลางเกาศีรษะอย่างงงๆ
ซูหยุนหันไปมองเขา และอดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าของเหมา
"นี่เราควรพูดว่าไม่เสียทีที่เป็นคนยุคโบราณจริงๆ ไหม? เพิ่งทายาไปแค่ครู่เดียว ใบหน้าของเหมาก็ดูเปล่งปลั่งขึ้นมากแล้ว!"
ซูหยุนไม่ได้ตอบคำถามของเหมา รอจนกวงวิ่งกลับมาพร้อมกับเนื้อชิ้นใหญ่ที่ยังมีขนติดอยู่
จากนั้นเขาจึงเริ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"พี่น้องชาวเผ่าทุกคน พระเจ้าทรงประทานคำชี้แนะมาจากสวรรค์!"
พูดจบเขาหยุดไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นสายตาที่ตื่นตะลึงของทุกคน
จากนั้นเขาก็พูดต่อ
"พระเจ้าตรัสว่าพระองค์มอบเปลวไฟให้กับเรา เพื่อให้เราใช้มันย่างเนื้อ และช่วยให้พวกเราห่างไกลจากความเจ็บปวดในท้อง!"
เพื่อไม่ให้เสียเวลาทำความเข้าใจเรื่องแบคทีเรียหรืออะไรที่ซับซ้อน เขาเลือกที่จะบอกผลลัพธ์ออกมาตรงๆ แทน
"อะไรกัน…"
"ย่างเนื้อ?"
พวกเขายังคงงุนงง ไม่เข้าใจว่า "การย่างเนื้อ" หมายถึงอะไร
แต่ทันทีที่ได้ยินว่าไฟที่พระเจ้ามอบให้สามารถช่วยแก้ปัญหาปวดท้องได้ ดวงตาของทุกคนก็เปล่งประกาย
เพราะความเจ็บปวดในท้องได้ทรมานพวกเขามาอย่างยาวนาน หากไฟจากพระเจ้าสามารถช่วยได้ แม้จะยังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตื่นเต้น
ซูหยุนสังเกตเห็นความสงสัยในสายตาของพวกเขา
เขาไม่ได้อธิบายอะไรมาก แต่เลือกที่จะลงมือทำให้ดูแทน
เขารับชิ้นเนื้อมา พร้อมใช้กิ่งไม้ยาวที่เตรียมไว้เสียบทะลุเนื้อ
ในขณะที่พวกคนป่ามองด้วยความงุนงง เขานำเนื้อไปวางเหนือกองไฟ
ขนสีเหลืองบนชิ้นเนื้อเริ่มม้วนตัวและไหม้เกรียมทันที
กลิ่นแปลกๆ เริ่มลอยออกมา ขนทั้งหมดถูกเผาจนเกลี้ยง
พวกคนป่ามองเนื้อชิ้นนั้นด้วยความตื่นตระหนก อำนาจของไฟทำให้พวกเขารู้สึกเกรงกลัว
เหมานั่งลงข้างๆ หัวหน้าเผ่า พลางเกาหัวด้วยความงุนงง
ซูหยุนไม่สนใจพวกเขา เขาเพียงตั้งหน้าตั้งตาหมุนชิ้นเนื้อในมือไปเรื่อยๆ
เมื่อเวลาผ่านไป กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ค่อยๆ ลอยออกมา
สีแดงสดของชิ้นเนื้อค่อยๆ จางลง กลายเป็นสีน้ำตาลทอง และน้ำมันจากเนื้อเริ่มไหลออกมา
เมื่อหยดน้ำมันเจอกับเปลวไฟ กลิ่นหอมอันเข้มข้นก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว
เด็กๆ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่ชิ้นเนื้ออย่างตื่นเต้น
"นี่มัน…"
คนป่าทั้งหมดสูดกลิ่นหอม พวกเขารู้สึกน้ำลายสอ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
(จบตอนที่ 23)