ตอนที่ 335 สัตว์วิญญาณคุณสมบัติระดับตำนานตัวที่สาม! (ฟรี)
ตอนที่ 335 สัตว์วิญญาณคุณสมบัติระดับตำนานตัวที่สาม!
“กระจกเงา? นี่คือชื่อที่แท้จริงของสัตว์วิญญาณกระจกเหรอ? เป็นชื่อที่ดี!”
“เป็นตัวแทนของภาพลวงตา เป็นตัวแทนของความว่างเปล่าของมิติ เป็นชื่อที่เหมาะสมมาก!”
ไป๋จื่ออันมองข้อมูลของกระจกเงา เขาก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำในใจ
พูดตามตรงว่าก่อนหน้านี้เขาเรียกมันว่าสัตว์วิญญาณกระจก เพราะเขาไม่รู้ชื่อที่แท้จริงของมัน
ตอนนี้เขารู้ชื่อที่แท้จริงของมันแล้ว ไป๋จื่ออันก็จะไม่เรียกมันว่าสัตว์วิญญาณกระจกอีก
แต่ข้อมูลของกระจกเงานั้นมีมากมาย
อย่างแรกก็คือพรสวรรค์และคุณสมบัติ
กระจกเงามีพรสวรรค์สี่อย่าง สองอย่างในนั้นเป็นพรสวรรค์ระดับ SS ส่วนอีกสองอย่างเป็นพรสวรรค์ระดับ S
ในบรรดาพรสวรรค์ระดับ SS สองอย่างนั้น มีพรสวรรค์มิติ [มิติลับกระจกเงา] และพรสวรรค์สร้างภาพลวงตา [กระจกบุปผาจันทราสายน้ำ]
มันดีมาก เหมาะสมกับสถานการณ์ของกระจกเงามาก
“ดูเหมือนว่ามิติลับกระจกเงาของกระจกเงาจะถูกสร้างขึ้นโดยพรสวรรค์ระดับ SS [มิติลับกระจกเงา]”
ไป๋จื่ออันพยักหน้าเล็กน้อย เขากำลังใช้ความคิด
“คุณสมบัติระดับตำนานขั้นต้น คุณสมบัติของกระจกเงานั้นสูงมาก เป็นรองเพียงแค่ลูกแมงมุมโชคชะตา!”
ในแง่ของคุณสมบัตินั้น ไม่ต้องพูดถึง
คุณสมบัติระดับตำนานขั้นต้นถือว่าดีมากในบรรดาสัตว์วิญญาณของไป๋จื่ออัน
พูดตามตรงว่าถึงแม้ว่าตอนนี้ไป๋จื่ออันจะมีสัตว์วิญญาณที่มีคุณสมบัติระดับตำนานหลายตัวก็จริง
แต่พูดให้ถูกก็คือ คุณสมบัติของสัตว์วิญญาณเหล่านี้ค่อยๆ ได้รับการพัฒนาผ่านการวิวัฒนาการครั้งแล้วครั้งเล่า
ตอนแรกที่มีคุณสมบัติระดับตำนาน มีเพียงแค่ลูกแมงมุมโชคชะตากับกระจกเงาเท่านั้น
จะเห็นได้ว่าคุณสมบัติของกระจกเงานั้นน่าทึ่งมากแค่ไหน
แต่ไป๋จื่ออันคาดการณ์ผลลัพธ์นี้เอาไว้แล้ว
สิ่งที่ไป๋จื่ออันสนใจมากกว่าก็คือความเชี่ยวชาญทักษะของกระจกเงาและสถานการณ์พิเศษของระดับ
“มิติลับกระจกเงาระดับขั้นก้าวหน้า ภาพลวงตากระจกบุปผาจันทราสายน้ำ ร่างกายกระจกเงาระดับขั้นก้าวหน้า ความเชี่ยวชาญทักษะของเทเลพาธีถึงกับเป็นระดับสมบูรณ์แบบ!”
“ความเชี่ยวชาญของทักษะโดยกำเนิดสี่อย่างนั้น ระดับต่ำสุดก็ยังสูงมาก จะเกินไปแล้ว!”
ไป๋จื่ออันมองความเชี่ยวชาญของทักษะโดยกำเนิดสี่อย่างของกระจกเงา เขาก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
รู้มั้ยว่าความเชี่ยวชาญทักษะนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพัฒนา
สำหรับสัตว์วิญญาณทั่วๆ ไป การที่พวกมันจะพัฒนาทักษะโดยกำเนิดไปจนถึงระดับหนึ่งนั้นยากมาก มันต้องใช้เวลาสะสมนานมาก
นี่เป็นเพียงแค่พรสวรรค์ทั่วๆ ไป
ทักษะโดยกำเนิดของกระจกเงาล้วนแล้วแต่เป็นทักษะระดับส้ม เป็นทักษะระดับท็อป
แม้แต่ความสามารถมิติและภาพลวงตา
การจะพัฒนาความเชี่ยวชาญของทักษะเหล่านี้ มันยากมาก
แต่กระจกเงากลับสามารถพัฒนาความเชี่ยวชาญของทักษะโดยกำเนิดเหล่านี้ไปจนถึงระดับที่น่าทึ่งได้ด้วยความพยายามของตัวเอง
ไป๋จื่ออันถึงกับตกตะลึง
แต่การที่ความเชี่ยวชาญทักษะโดยกำเนิดของกระจกเงาสามารถพัฒนาไปจนถึงระดับนี้ได้
มันก็แสดงให้เห็นว่ากระจกเงามีพรสวรรค์ที่ไม่อาจจะจินตนาการได้ในด้านมิติและภาพลวงตา
นี่เป็นข่าวดีสำหรับไป๋จื่ออัน
นี่คือสถานการณ์ทักษะของกระจกเงา
ส่วนสถานการณ์พิเศษของระดับนั้น ไป๋จื่ออันก็สนใจเช่นกัน
“สถานะบาดเจ็บ ระดับเดิมคือระดับราชันย์ขั้นสูงสุด? น่าสนใจจริงๆ”
ไป๋จื่ออันพึมพำในใจ เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้
พูดตามตรงว่าเมื่อรวมกับคำอธิบายของกระจกเงาแล้ว ไป๋จื่ออันพอจะเดาความจริงได้
กระจกเงาในอดีต หลังจากที่ฝึกฝนมาหลายปี ในที่สุดมันก็เลื่อนขั้นเป็นระดับราชันย์ กลายเป็นสัตว์วิญญาณระดับราชันย์
แต่เพราะภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้กระจกเงาได้รับบาดเจ็บสาหัส
จนถึงตอนนี้ กระจกเงาก็ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ด้วยเหตุนี้เอง พลังที่มันแสดงออกมาจึงเป็นเพียงแค่ระดับทองคำขั้นสูงสุด
ถ้าหากไป๋จื่ออันเดาไม่ผิด สถานการณ์ของกระจกเงาก็น่าจะเป็นแบบนี้
“เดี๋ยวก่อน ฉันเหมือนกับจะเข้าใจแล้วว่าทำไมกระจกเงาถึงได้ใช้บททดสอบมิติลับกระจกเงาหลอกลวงคนอื่น!”
ไป๋จื่ออันเหมือนกับจะคิดอะไรบางอย่างออก
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา กระจกเงาใช้มิติลับกระจกเงาปลอมตัวเป็นมิติลับที่มีบททดสอบพิเศษ
สาเหตุที่มันทำแบบนั้นก็น่าจะเป็นเพราะมันต้องการรวบรวมพลังงาน เพื่อที่จะรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง
อย่างเช่นเมื่อกี้ เพื่อที่จะเปิดมิติลับกระจกเงา อธิการบดีโจวหยางซูใช้วัสดุระดับราชันย์คุณสมบัติไฟชิ้นหนึ่ง
แบบนี้ก็เหมือนกับการรอคอยอย่างอดทน ให้พลังงานระดับสูงมาถึงมือ เพื่อที่จะรักษาตัวเอง
ถ้าคิดแบบนี้ ทุกอย่างก็สามารถอธิบายได้
“ฉลาดแกมโกงจริงๆ รู้จักใช้วิธีนี้รักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง”
“แต่น่าเสียดายที่แกดันมาเจอกับฉัน”
ไป๋จื่ออันยิ้มออกมา
พูดตามตรงว่าแผนการของกระจกเงานั้นดีมาก
ด้วยข้อได้เปรียบตามธรรมชาติของมิติลับกระจกเงา และการปลอมตัวของกระจกบุปผาจันทราสายน้ำ มันก็เพียงพอแล้วสำหรับการที่มันจะได้รับพลังงานอย่างต่อเนื่อง
แต่น่าเสียดายที่มันดันมาเจอกับบัคอย่างไป๋จื่ออัน
ต่อหน้า [เนตรหยั่งรู้] ของไป๋จื่ออัน แผนการที่มันวางเอาไว้อย่างรอบคอบนั้นไร้ประโยชน์
ยิ่งไปกว่านั้น กระจกเงายังเสียมากกว่าได้ มันกลายเป็นสัตว์วิญญาณของไป๋จื่ออัน
ตอนนี้กระจกเงาคงจะร้องไห้อยู่แน่ๆ
แน่นอนว่าไป๋จื่ออันมีความสุขมาก
ยังไงซะสถานการณ์ปัจจุบันก็เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับไป๋จื่ออัน
“กลับมาได้แล้ว นักศึกษาไป๋จื่ออัน”
ตอนนั้นเอง เสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้นในหูของไป๋จื่ออัน
มันดึงความคิดของไป๋จื่ออันกลับมายังโลกแห่งความจริง
นี่คือเสียงของอธิการบดีโจวหยางซู
“อธิการบดีโจว ผมไม่เป็นอะไรครับ”
ไป๋จื่ออันพูดกับอธิการบดีโจวหยางซู
“งั้นก็ดีแล้ว ฉันคิดว่าเธอได้รับผลกระทบจากสัตว์วิญญาณกระจกซะอีก”
อธิการบดีโจวหยางซูพยักหน้า
เมื่อเห็นไป๋จื่ออันเหม่อลอยเมื่อกี้ โจวหยางซูก็คิดว่าไป๋จื่ออันได้รับบาดเจ็บ
ตอนนี้ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว
“ว่าแต่สถานการณ์ของเธอตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? ทำสัญญากับสัตว์วิญญาณกระจกได้สำเร็จรึเปล่า?”
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ผลลัพธ์อยู่แล้วก็จริง แต่โจวหยางซูก็ยังคงอยากได้ยินคำตอบจากไป๋จื่ออัน
สัตว์วิญญาณกระจกที่สร้างปัญหาให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาภูตเร้นลับมานาน ในที่สุดก็ถูกปราบ ในที่สุดก็มีคนทำสัญญากับมันได้สำเร็จ มันเหลือเชื่อมาก
“ครับ ผมทำสัญญากับมันได้สำเร็จแล้ว ตอนนี้กระจกเงากลายเป็นสัตว์วิญญาณของผม!”
ไป๋จื่ออันพยักหน้าเล็กน้อย เขาไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้
“กระจกเงา? นี่คือชื่อที่แท้จริงของสัตว์วิญญาณกระจกเหรอ? เป็นชื่อที่ดี!”
“ว่าแต่กระจกเงาของเธอเป็นยังไงบ้าง? มีพรสวรรค์อะไร?”
อธิการบดีโจวหยางซูอดไม่ได้ที่จะถาม
“เพราะผมเพิ่งจะทำสัญญากับมัน ผมก็เลยไม่ค่อยรู้จักมัน ยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ของมัน”
ไป๋จื่ออันส่ายหน้าเล็กน้อย บนใบหน้าของเขาปรากฏความเขินอาย
ถึงแม้ว่าไป๋จื่ออันจะรู้สถานการณ์ของกระจกเงาผ่านทาง [เนตรหยั่งรู้] แล้วก็จริง
แต่ไป๋จื่ออันจะไม่มีทางบอกคนอื่น
ยังไงซะพรสวรรค์และทักษะของสัตว์วิญญาณจะส่งผลต่อผลลัพธ์ของการต่อสู้
บางครั้งการที่ความสามารถของสัตว์วิญญาณถูกเปิดเผย มันก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดี
ดังนั้นไป๋จื่ออันจะไม่มีทางบอกสถานการณ์ของกระจกเงา เขาหาข้ออ้างปัด
“จริงสิ ฉันลืมไป”
อธิการบดีโจวหยางซูตกตะลึง เหมือนกับว่าเขานึกอะไรบางอย่างออก เขาพูดกับไป๋จื่ออัน
พูดตามตรงว่าเขาก็รู้กฎของผู้ใช้สัตว์วิญญาณ
ถ้าหากเป็นเขา เขาก็จะไม่บอกเรื่องของสัตว์วิญญาณของตัวเองให้กับคนอื่น
ครั้งนี้เขาดูเหมือนจะเสียมารยาทไปหน่อย
แต่สาเหตุที่เขาอยากจะรู้สถานการณ์ของกระจกเงา เป็นเพราะโชคชะตาพิเศษระหว่างกระจกเงากับมหาวิทยาภูตเร้นลับ
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาถึงได้ถามแบบนั้น
ตอนนี้โจวหยางซูรู้สึกตัว เขาก็ขอโทษไป๋จื่ออัน เขาไม่ได้ถามเรื่องของกระจกเงาอีก
“เอาล่ะ ถึงแม้ว่าระหว่างนั้นจะมีเรื่องวุ่นวาย แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็ดีมาก!”
“นักศึกษาไป๋จื่ออัน ตอนนี้เธอทำสัญญากับสัตว์วิญญาณกระจก... ไม่สิ กระจกเงาได้สำเร็จแล้ว!”
“แบบนี้สัญญาที่ทางโรงเรียนให้ไว้กับเธอก็เสร็จสิ้นแล้ว”
“ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ฉันหวังว่าเธอจะมีช่วงเวลาที่วิเศษในมหาวิทยาลัยนะ”
“แน่นอนว่าในฐานะที่เป็นอธิการบดีของมหาวิทยาภูตเร้นลับ ฉันหวังว่าเธอจะพัฒนาต่อไป กลายเป็นผู้ใช้สัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่ง กลายเป็นกำลังหลักของสหพันธ์จิ่วโจว!”
อธิการบดีโจวหยางซูพูดอย่างจริงจัง เขาพูดจบ
ไป๋จื่ออันทำสัญญากับกระจกเงาได้สำเร็จ เรื่องนี้ก็เกือบจะจบลงแล้ว
ดังนั้นอธิการบดีโจวหยางซูจึงเตรียมที่จะจบเรื่องนี้
“ครับ ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น กลายเป็นเสาหลักของสหพันธ์จิ่วโจว!”
ตอนนี้ไป๋จื่ออันก็มีสีหน้าที่จริงจัง
เพราะเขารู้สึกได้ว่าในคำพูดของโจวหยางซูนั้นไม่มีคำโกหก มันเป็นพรที่จริงใจ
ไป๋จื่ออันจึงจริงจังมากขึ้น
หลังจากที่เรื่องนี้จบลง อธิการบดีโจวหยางซูก็พาไป๋จื่ออันออกจากคลังสมบัติใต้ดินอย่างช้าๆ พวกเขากลับไปที่ชั้นหนึ่งของอาคารสำนักงาน
“อธิการบดีโจว ผมขอตัวก่อนนะครับ”
หลังจากที่บอกลาอธิการบดีโจวหยางซู ไป๋จื่ออันก็เดินออกจากอาคารอย่างช้าๆ
“ที่นี่ๆ ฉันอยู่นี่!”
เสียงของจื่อเยียนเหยียนดังขึ้น
ตอนนี้หลังจากที่จื่อเยียนเหยียนเห็นไป๋จื่ออันเดินออกมา เธอก็รีบวิ่งมาหาเขา
“ไป๋จื่ออัน ทำไมนายถึงออกมาเร็วขนาดนี้ล่ะ?!”
“หรือว่านายล้มเหลว? ทำสัญญากับสัตว์วิญญาณกระจกไม่สำเร็จ?”
“ไม่ต้องเสียใจหรอก มันเป็นเรื่องปกติ”
“คนที่เคยลองมาก่อนก็ไม่มีใครทำสำเร็จ!”
จื่อเยียนเหยียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นไป๋จื่ออันออกมา
เพราะเวลาที่ไป๋จื่ออันใช้นั้นน้อยเกินไป บางทีไป๋จื่ออันอาจจะล้มเหลวก็ได้
ดังนั้นจื่อเยียนเหยียนจึงปลอบใจไป๋จื่ออัน
ไป๋จื่ออันเห็นจื่อเยียนเหยียนปลอบใจเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เขาพูดอย่างช้าๆ
“ไม่ ฉันทำสำเร็จแล้ว”
จื่อเยียนเหยียนตกตะลึงเมื่อได้ยินแบบนั้น