ตอนที่ 20 กวาดล้าง
ตอนที่ 20 กวาดล้าง
“หายไปไหนกันหมด?”
ชายที่สวมแว่นยังดูเด็กมาก ดูเหมือนนักเรียนมัธยมปลายทั่วๆ ไป ในขณะนี้ เขามองไปที่เพื่อนที่เหลืออยู่ในโรงอาหาร และขมวดคิ้วเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักนิสัยของคนอื่นๆ เป็นอย่างดี เมื่อมีเหยื่อใหม่ พวกเขาจะรีบพุ่งตรงไปหา ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากไป แต่มันไม่จำเป็น แต่ให้ตามไป เขาก็คงจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตอบ เขาก็พูดต่อ “พรุ่งนี้พวกนายต้องออกไปจับเหยื่อกลับมาเพิ่ม ยังขาดอีกประมาณ 3 คน พวกนายจะทำอะไรกับพวกเขาก็ได้ตามใจชอบ แค่อย่าให้ตายก่อนกลับมาถึงที่นี่ก็พอ”
เขาพูดอย่างฉะฉาน และชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากคนบ้าคนอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด และจากคำพูดของเขา ดูเหมือนเขาจะสามารถระบุตำแหน่งของผู้รอดชีวิตทุกคนในเมืองได้ บางทีตำแหน่งของเธออาจถูกค้นพบในลักษณะนี้เช่นกัน
ยิ่งกว่านั้น มันต้องมีเหตุผลบางอย่าง เขาจึงต้องการให้พาเหยื่อกลับมาเป็นๆ แล้วที่บอกยังขาดอีก 3 คน มันเพราะอะไรกันแน่
น่าเสียดายที่สวี่จื้อไม่ได้ตั้งใจถามอย่างละเอียดว่าเขาต้องการทำไร เธอแค่อยากจะฆ่าเขา ไม่ว่าเขาจะมีแผนการแบบไหน หลังจากตายไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีก
บนหน้าจอ เสี่ยวอี้ที่ซุ่มซ่อนอยู่ในเงามืด ค่อยๆ เลื้อยเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่รายล้อมไปด้วยฝูงชน
อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งของเขาอยู่กลางโรงอาหาร ไม่สามารถแอบเข้าไปใกล้ได้โดยตรง ดังนั้นมันจึงพยายามขยับเข้าใกล้เขาให้ได้มากที่สุด เลือกมุมอับสายตา ขยายขนาดตัว และเปิดฉากโจมตี
ทันใดนั้น ดูเหมือนงูตัวใหญ่จะโผล่ออกมาจากอากาศ และหางของมันก็กวาดผ่านฝูงชนที่รวมตัวกันอยู่โดยไม่มีใครสามารถโต้ตอบได้ทัน
ดังนั้น บนหน้าจอของสวี่จื้อ คนบ้าหลายคนจึงถูกหางของเสี่ยวอี้ฟาดอย่างแรง และกระแทกเข้ากับกำแพง แม้แต่เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงกลางกลุ่มก็ยังไม่อาจรอดพ้นจากกระโจมตีนี้ไปได้
แต่ความแตกต่างก็คือ คนอื่นๆ ลุกขึ้นทันที และรีบวิ่งมาหาเสี่ยวอี้ด้วยดวงตาแดงก่ำ อย่างไรก็ตาม ชายสวมแว่นต้องลุกขึ้นยืนจากความช่วยเหลือจากเพื่อนที่อยู่ข้างๆ และถึงกับกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
"ดูเหมือนร่างกายของเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับคนอื่นๆ"
มีคนเหลืออยู่เพียงสิบกว่าคน และคนเหล่านี้ต่างก็เร่งรีบพุ่งมาหาเสี่ยวอี้อย่างบ้าคลั่ง โดยไม่สนใจความแตกต่างด้านขนาด และความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่าย
หากพวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดา แม้จะมีเพิ่มอีกสักสิบคน ก็คงทำอะไรเสี่ยวอี้ไม่ได้ แต่สำหรับคนบ้าที่มีร่างกายเหมือนกับสัตว์กลายพันธุ์นั้น เป็นภัยคุกคามที่ไม่ควรประมาท
ครู่หนึ่ง เสี่ยวอี้ถูกคนเหล่านั้นเข้าไปพัวพัน แต่ก็เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เพราะในช่วงเวลาถัดไป เสี่ยวอี้ก็ย่อขนาดตัวลง และหาทางหลบหนีจากการปิดล้อมได้อย่างรวดเร็ว มุ่งตรงไปยังชายสวมแว่นที่พยายามหลบหนีออกจากโรงอาหาร
มันไม่ได้ใช้อุบายเดิมๆ แต่ใช้ความเร็วของตัวเองเป็นข้อได้เปรียบ มันพุ่งไปที่ชายสวมแว่นราวกับสายฟ้า กัดเข้าที่ข้าของเขา
พิษเลเวล 6 นั้นรุนแรงอย่างยิ่ง เพียงเล็กน้อยก็มากพอที่จะทำให้คนธรรมดาตายคาที่ได้
แต่ในวินาทีต่อมา คนที่ปกป้องชายสวมแว่นตาก็ยกขวานขึ้น และเหวี่ยงใส่เสี่ยวอี้
โชคดีที่เสี่ยวอี้มีเกล็ดที่แข็งแกร่ง ดังนั้น ขวานจึงทำให้แค่กระแทกมันออกไป แต่ก็ไม่อาจทำให้มันได้รับบาดเจ็บ
แต่นี่เป็นโอกาสให้ชายสวมแว่นได้มีเวลาหลบหนี แม้ว่าร่างกายของเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับคนบ้าคนอื่นๆ แต่ก็ต่างจากคนธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อชายสวมแว่นได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง มันก็ทำให้คนอื่นโกรธ และพวกเขาก็โจมตีเสี่ยวอี้ด้วยความบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม ราวกับว่าพวกเขาเต็มใจเสี่ยงชีวิต
"นี่มันบ้าไปแล้ว"
การต่อสู้ที่สิ้นหวังของพวกเขาสร้างปัญหาให้กับเสี่ยวอี้ไม่น้อยเลยจริงๆ ฟันและเล็บของคนเหล่านี้คมกริบ ทำให้เสี่ยวอี้ได้รับบาดเจ็บ และมีเลือดไหลออกมา แต่ถึงอย่างนั้น ความพ่ายแพ้ของพวกเขาก็ถูกกำหนดไว้แล้ว
หลังจากฆ่าคนอื่นๆ ที่ขวางทาง หรือทำให้ได้บาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจเคลื่อนไหวได้ เสี่ยวอี้ก็ไล่ตามชายสวมแว่นไป อีกฝ่ายยังหนีไปได้ไม่ไกลเพราะอาการบาดเจ็บ และติดพิษ
ในที่สุด เมื่อเสี่ยวอี้ไล่ตามไปทัน มันก็เปิดฉากโจมตีอย่างรุนแรง เมื่อชายสวมแว่นได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ไม่อาจทรงตัวได้อีก และล้มลงกับพื้นด้วยความเหนื่อยล้า
ร่างกายที่เต็มไปด้วยเกล็ดแวววาวแต่เดิมของเสี่ยวอี้ตอนนี้มีหลุมบ่อมากมาย โดยมีเนื้อสีแดงสด และเลือดไหลออกมาไม่น้อย แม้แต่ดวงตาข้างหนึ่งของมันก็ไม่อาจลืมได้ด้วยอาการบาดเจ็บ เมื่อเห็นสิ่งนี้ สวี่จื้อก็ดีใจที่เธอได้ขอให้เสิ่นจินเหวินล่อศัตรูส่วนหนึ่งออกไป ไม่เช่นนั้นคนเหล่านั้นยังคงอยู่ในโรงอาหาร ก็ยากจะบอกได้ว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ
ชายสวมแว่นดูเหมือนจะยอมแพ้ไปแล้ว เขานอนราบกันพื้นอย่างเงียบๆ มองดูเสี่ยวอี้ที่กำลังเลื้อยเข้ามาหา จากนั้นก็พูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า “ทำไม”
มีความสับสนอย่างมากปรากฎในน้ำเสียงของเขา
แน่นอนว่าเสี่ยวอี้ไม่อาจตอบได้ มันทุบเขาด้วยหางจนเป็นเนื้อบด ปิดฉากแผนการร้ายที่ยังไม่รู้คำตอบไป
สวี่จื้อเคยอ่านนิยายหลายเรื่องที่ตัวร้ายปล่อยตัวเอกให้รอดไปได้ในช่วงเวลาวิกฤต และถูกแก้แค้นในภายหลัง
นี่เป็นเหตุผลที่เธอเลือกที่จะทำลายคนบ้ากลุ่มนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ แม้พวกเขาจะไม่ใช่ตัวเอกก็ตาม
สวี่จื้อจะไม่ปล่อยให้ศัตรูมีโอกาสพัฒนา และมาแยกเขี้ยวใส่เธอในอนาคต
เมื่อเสี่ยวอี้ฆ่าชายสวมแว่น สวี่จื้อก็พบว่ามันไม่ได้ไปตามหาโก้วจื่อตามที่วางแผนเอาไว้ในทันที แต่กลับย่อตัวลง และเลื้อยเข้าไปหาชายสวมแว่นเพื่อควานหาอะไรบางอย่าง
จากนั้น ไม่กี่วินาที จู่ๆ ข้อความหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ด้านขวาล่างของหน้าจอเกม
[ แกนพลัง +1 ]
“เขาดรอปแก่นพลังด้วยเหรอ?”
สวี่จื้อรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และสิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ เสี่ยวอี้เลื้อยกลับไปที่โรงอาหาร และพยายามค้นศพคนบ้าเหล่านั้น
จากนั้น สวี่จื้อก็เห็นข้อความ [ แกนพลัง +1 ] ปรากฏซ้ำๆ ที่มุมล่างขวาของหน้าจอ
จนกระทั่งเสี่ยวอี้ค้นศพสุดท้าย เธอก็ได้รับแก่นพลังมากถึง 8 ก้อน
“อัตราดรอปแก่นพลังค่อนข้างสูง หรือนี่จะเป็นเพราะความแข็งแกร่งของพวกเขาด้วย?”
สวี่จื้อมั่นใจว่าคนพวกนี้แข็งแกร่งกว่าเด็กสาวที่เธอเจอในตอนนั้นมาก แล้วพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร?
พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นตามธรรมชาติ เมื่ออยู่ในหมอกเหมือนสัตว์ประหลาดเหล่านั้น หรือจะมีเหตุผลอื่นอยู่
อย่างการฆ่าใครสักคน?
ด้วยความช่วยเหลือของเครื่องเกมในมือ เธอสามารถสัมผัสถึงตำแหน่งของแฟมิเลียทุกตนได้ เมื่อเห็นเสี่ยวอี้มุ่งหน้าไปหาโก้วจื่อ สวี่จื้อก็คลิกดูแก่นพลังที่วางอยู่ในคลังเก็บของ
จากนั้น เธอก็ได้เห็นแก่นพลังสีแดงสด 8 ก้อนที่เหมือนกับเลือดที่กำลังส่องสว่าง
เมื่อสวี่จื้อคลิกที่มัน มีคำๆ หนึ่งปรากฏขึ้นข้างๆ ‘เลือด’
“ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ ที่พวกเขามีพลังชนิดเดียวกัน”
สีของแก่นพลังทำให้สวี่จื้อนึกถึงเลือดที่ปกคลุมทั่วทั้งโรงอาหาร ด้วยเหตุนี้ เธอเกือบจะแน่ใจว่ามีบางอย่างผิดปกติกับที่แห่งนั้นอย่างแน่นอน
แต่เธอก็ตัดสินใจรอจนกว่าอาการบาดเจ็บของเสี่ยวอี้จะหายดีเสียก่อน แล้วจึงค่อยไปตรวจดูที่นั่นด้วยตาตัวเอง