บทที่ 44: ไร้พันธนาการ (ตอนพิเศษ)
รุทราแลบลิ้นเลียริมฝีปากขณะนอนตะแคงอยู่ข้างเจ้านายของเขา เสียงคำรามต่ำจากลำคอของมันดังก้อง
ไทร์นั่งอยู่ข้างหน้า ถือมีดเล็กๆ เหลาไม้สุ่มๆ ก่อนจะโยนเศษไม้เข้าไปในกองไฟเบื้องหน้า
ราตรีนั้นมืดมิด แสงจันทร์สีเงินเจิดจรัสแต่สลัวพอส่องลอดผ่านพุ่มเห็ดเหนือกลุ่มอัลทิเมทัมลงมาได้เพียงเล็กน้อย
พวกเขาทั้งหมดนั่งรอบกองไฟเดียวกัน แม้จะมีบทสนทนาเบาๆ ที่แลกเปลี่ยนกัน แต่ส่วนใหญ่ในบรรยากาศเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
รอบตัวพวกเขาคือป่าที่เต็มไปด้วยเห็ดขนาดใหญ่ตั้งแต่สูง 2 ฟุตจนถึง 200 ฟุต
เห็ดแต่ละต้นมีเฉดสีน้ำเงิน ม่วง และแดงที่แตกต่างกันไป และมีจุดสีขาวบนส่วนยอดของมัน
แมลงแสงสว่างขนาดเท่าแมวบินรอบตัวพวกเขา หัวของมันส่องแสงเหมือนปลาที่เรืองแสงอยู่ใต้ทะเลลึก
“ไมซีเลียอยู่ห่างออกไปแค่ 7 ชั่วโมง เราน่าจะไปถึงที่นั่นก่อนรุ่งเช้า ถ้าเรายังคงเดินทางด้วยความเร็วนี้” เออร์วิลกล่าวพลางหมุนกระต่ายเสียบไม้บนกองไฟ
“นั่นถ้าเราไม่ถูกฝูงหมาเห็ดอีกกลุ่มจู่โจมซะก่อน” ฮันโซพูด ขณะที่นอนหงายพร้อมวางหนังสือปิดหน้า
'จริงๆ ฉันก็ไม่ขัดอะไรนะ พวกมันให้ค่าประสบการณ์ดีใช้ได้เลย' ไทร์คิดในใจ พร้อมเปิดเมนูสถานะขึ้นมา
┏━━━━━━สถานะ━━━━━━┓
ชื่อ: ไทร์ อีโวลิออน ธาโลนิส
สายเลือด: ออลไมตี้ ธาโลนิส + ไม่ทราบ
อายุ: 15 ปี
เลเวล: 48
พลังชีวิต: 28/28
ความแข็งแกร่ง: 33
ความอึด: 30/30
ความเร็ว: 28
ออร่า: --
[แต้มค่าสถานะที่เหลือ: 0]
แรงค์: --
┗━━━━━━━━━━━━━━┛
'อีกแค่สองเลเวล ทุกอย่างก็น่าจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น หวังว่าฉันจะได้คาถาดีๆ และความสามารถแห่งบรรพบุรุษเพิ่มเติม และยังมีเรื่องความทรงจำที่จะได้รับอีก' ไทร์กังวลเกี่ยวกับการได้รับความทรงจำเพิ่ม แต่มันก็ทำให้ไทร์ยิ่งอยากค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของตัวเองมากขึ้น
โดยเฉพาะในตอนนี้ที่เขาเดินทางมาไกลถึงในซับเวิลด์
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไทร์ได้เห็นอะไรมากมายระหว่างการเดินทาง พื้นที่บางแห่งคล้ายคลึงกับโลก เช่น ป่าและภูเขา
แต่ก็ยังมีสถานที่ที่แตกต่างอย่างป่าที่เต็มไปด้วยเห็ดขนาดยักษ์ที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้เห็น
ยิ่งเดินทางและพบเห็นสถานที่อัศจรรย์เหล่านี้มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เขาอยากผจญภัยต่อไปเรื่อยๆ
ชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายในอดีตกลายเป็นเพียงความทรงจำที่ห่างไกล
ตอนนี้เขาอยู่ในโลกแห่งแฟนตาซีแล้ว! เหมือนมนุษย์คนหนึ่ง เขาอยากสำรวจ! อยากเห็นทุกสิ่งในโลกใบนี้!
การได้เห็นสถานที่ใหม่ๆ เหล่านี้ทำให้หัวใจเขาพลุ่งพล่านด้วยความตื่นเต้น
ไม่ใช่แค่สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติใหม่ๆ แต่ยังรวมถึงอาหาร ผู้คน สิ่งมีชีวิต คาถาออร่า และอื่นๆ อีกมากมาย
ทั้งหมดนี้เติมเต็มเขาด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้!
“มันสุดยอดไปเลยใช่ไหม?” ไทร์พูดพร้อมรอยยิ้ม “โลกนี้ช่างกว้างใหญ่นัก”
คนอื่นๆ มองเขาราวกับเขาเป็นคนแปลกประหลาด แต่หลังจากไม่กี่วินาที สีหน้าของพวกเขาก็อ่อนลง
“ใช่ อาจจะพูดแบบนั้นได้” ฮันโซตอบ พร้อมหัวเราะเบาๆ กับคำพูดของเด็กหนุ่ม จากนั้นเขากล่าวต่อ “ว่ากันว่ามีไบโอมมากมายที่ไม่มีใครพิชิตได้ และยังมีดาวเคราะห์มากมายที่ไม่มีใครเคยเห็นทั้งหมด”
“น่าตื่นเต้นใช่ไหม?” ไทร์ถาม ทำให้ฮันโซและโจนัสยิ้มออกมามากที่สุด
ทุกคนหยุดพูดชั่วขณะ ปล่อยให้เสียงไฟปะทุและแตกเปรี๊ยะสร้างบรรยากาศอันเงียบสงบ
“ฉันไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัดในชีวิต... แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันเจอเป้าหมายแล้ว” ดวงตาของไทร์ส่องแสงสะท้อนกับเปลวไฟ ขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังและแรงบันดาลใจ
“ฉันอยากเดินทางไปทั่วโลก เห็นทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ และทำทุกอย่างที่สนุก”
ทุกคนตกใจเล็กน้อยกับคำพูดนี้
ซิลเลียเองก็จมลงไปในความคิด เออร์วิลยิ้มอย่างอบอุ่น ยูรินเงยหน้ามองดาวด้วยกำปั้นที่กำแน่น โจนัสส่ายหน้า ครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้
ฮันโซจ้องมองไทร์ 'ดวงตาคู่นั้น...' เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะคิดถึงน้องชายของตัวเอง
ความทรงจำหนึ่งแวบขึ้นมาในหัวของฮันโซ
หลายปีก่อน น้องชายของเขาเคยพูดบางอย่างที่คล้ายกันเมื่อตอนอายุเพียง 5 ขวบ
“ผมอยากวิ่งข้ามโลก! ผมอยากเห็นหน้าทุกคน!” นั่นคือคำพูดที่น้องชายของฮันโซบอกกับเขา
‘ตอนนั้นฉันไม่มีความต้องการอะไรที่มากไปกว่าการให้โลกนี้เป็นของครอบครัวฉัน ฉันอยากทำให้ความฝันของพวกเขาเป็นจริง อยากหายารักษาแม่ที่ป่วยเรื้อรัง และอยากแบกน้องชายไว้บนไหล่ข้ามโลก เพื่อให้รอยยิ้มของเขาไม่มีวันจางหายไป’
และตอนนี้ ฮันโซเห็นรอยยิ้มแบบเดียวกันบนใบหน้าของไทร์
“ความฝันบ้าคลั่งแบบเด็กๆ ที่อยากทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ มันไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้จริงๆ ในโลกนี้หรอก ไทร์” ฮันโซพูด ขณะที่นั่งตัวตรง
“หา? ทำไมล่ะ?”
“ฉันเชื่อว่า นายเข้าใจ... ดรานซ์ และแม้แต่เซริสก็เป็นดินแดนที่มีอารยธรรมมาก มันเล็กและอ่อนแอ แต่ก็มีความเป็นระเบียบมาก แต่ภายนอกนั้น มีดินแดนที่ คนฆ่ากันเพื่อนยิงชิงแสงแดด เป็นสถานที่ที่มีผู้คนที่โหดร้าย พวกเขามีเป้าหมายในชีวิตเพื่อทำลายความฝันของคนอื่นๆ”
คนอื่นๆ มองฮันโซด้วยสายตาครุ่นคิดในขณะที่เขาพูด
“ฉันเข้าใจสิ่งที่นายหมายถึงนะ ฮันโซ”
ไทร์หยุดชั่วขณะ
‘ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว... ฉันมีชีวิตยาวนานกว่าฮันโซด้วยซ้ำเมื่อรวมเวลาที่ฉันอยู่บนโลกมนุษย์ ฉันรู้จักความโลภและความชั่วร้ายของผู้คนดี แต่บนโลกใบนั้น ไม่มีสิ่งพิเศษใดที่จะแก้ปัญหาของทุกคน ไม่มีทางออกสำหรับคนทำงานทั่วไป พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีความหวัง ไม่มีออร่า แต่ที่นี่ไม่ใช่โลกมนุษย์… ซับเวิลด์คือสถานที่มหัศจรรย์ ที่นี่ฉันทำสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้บนโลกมนุษย์ ถ้าฉันไม่สามารถใช้ชีวิตได้เต็มที่ในโลกนี้ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?’
“ที่นี่... ฉันมีทางเลือก” ไทร์พูดออกมาดังๆ แต่ความจริงแล้วเขาหมายถึงตัวเอง
คนอื่นๆ มองเขา ฮันโซถามด้วยความสับสนเล็กน้อย “นายมีทางเลือก?”
“ถ้าพวกเขาไม่ยอมให้ฉันทำ ฉันก็จะทำมันอยู่ดี” ไทร์พูดด้วยดวงตาที่สงบนิ่ง แต่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ลึกๆ ภายใน
คำพูดของเขาง่ายดาย แต่กลับมีผลกระทบต่อทุกคนที่นั่งรอบกองไฟในคืนนั้นในแบบที่แตกต่างกัน
คำพูดของเขาเป็นคำเดียวกับที่ทำให้ทุกอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ดำรงอยู่ต่อไป
เด็กแต่ละคนที่เกิดมาในยุคใหม่แยกตัวออกจากอุดมคติของพ่อแม่ อยากสร้างชีวิตใหม่ให้ตัวเอง
และนั่นทำให้เกิดเส้นทางการค้นพบและการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีที่สิ้นสุดตลอดประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
ความคิดใหม่ๆ แต่ละอย่างทำให้เกิดแนวคิดและทฤษฎีใหม่ๆ ที่เป็นต้นกำเนิดของเทคโนโลยีทั้งหมด
แต่ละครั้งที่กำแพงถูกทำลาย กำแพงใหม่ก็ถูกวางขึ้นโดยยุคต่อไป
นี่คือจุดเปลี่ยนของไทร์
ไทร์หัวเราะเบาๆ “ถ้าพวกเขาพยายามหยุดฉัน ฉันก็จะแข็งแกร่งขึ้นจนพวกเขาไม่มีทางขวางฉันไว้ได้!” เขาเชื่อมั่นในคำพูดนั้นจริงๆ เขาต้องเชื่อ เพราะเขากำลังจะเดิมพันทั้งชีวิตกับมัน!
‘นั่นจะเป็นเป้าหมายใหม่ของฉัน ฉันจะเป็นอิสระจากพันธนาการใดๆ’