บทที่ 43 : ลูกศรดวงตาปีศาจกระหายเลือด
บทที่ 43 : ลูกศรดวงตาปีศาจกระหายเลือด
ณ บนยอดเขาของภูเขาหยินหนาน
สายฟ้าสีทองฟาดผ่านอยู่บนท้องฟ้า ราวกับเทพเจ้าผู้พิโรธกำลังขับไล่เหล่าปีศาจ เสียงคำรามดังกึกก้องสะเทือนเลื่อนลั่น
“พลังที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้…”
รอยยิ้มของหวังตงเซิงค่อยๆหายไป เเละเขาเผลอยก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
ข้างกายเซียวซิงหยู วงเวทปรากฏขึ้น เเละสาวงามผู้มีรูปโฉมอันงดงามก็ก้าวออกมา
หญิงสาวสวมชุดที่ดูแปลกตา แม้ดวงตาจะเย็นชา แต่ความงามของเธอก็สามารถสะกดวิญญาณของผู้ชายทุกคนในโลกได้
“เรียกข้าออกมาทำไม?”
เดลลูหาวอย่างง่วงงุน เธอดูเฉื่อยชา เหมือนเพิ่งถูกปลุกจากนิทราอันแสนหวานโดยเซียวซิงหยู เธอจึงดูหงุดหงิดเล็กน้อย
เซียวซิงหยูชี้นิ้วไปที่ราชาหมีภูเขาที่กำลังเปล่งพลังออร่าสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์อสูรระดับราชา
อยู่ข้างกายหวังตงเซิง
เดลลูมองด้วยสายตาเรียบเฉยไร้อารมณ์
“จัดการหมีตัวนั้น แล้วข้าจะได้กลับไปนอนต่อใช่มั้ย?”
เซียวซิงหยูยิ้มและพยักหน้า “ใช่แล้ว แถมเธออยากนอนนานแค่ไหนก็นอนได้เลย”
เดลลูบิดขี้เกียจ เผยให้เห็นสัดส่วนอันเย้ายวนใจ
เเต่การกระทำนี้ทำให้ หวังตงเซิงสัมผัสได้ถึงอันตราย…ภายใต้ความหวาดกลัว เขาจึงรีบลงมือทันที
“ฆ่ามัน!” หวังตงเซิงออกคำสั่ง
“กรรรร!!!”
ราชาหมีภูเขาคำรามลั่น มันเหวี่ยงค้อนเหล็กในมือพุ่งเข้าใส่เดลลูอย่างรวดเร็ว
เดลลูยืนนิ่งอยู่กับที่ ดวงตาของเธอฉายแววคมกริบ จ้องมองราชาหมีภูเขาด้วยสายตาสีแดงก่ำ
ทันใดนั้น พลังงานพิเศษบางอย่างก็เปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กของภูเขาทั้งลูก
ราชาหมีภูเขาหยุดชะงัก ร่างกายอันใหญ่โตของมันแข็งทื่อ
จากนั้น…กรงเล็บของมันเริ่มกลายเป็นหิน ตามมาด้วยหัวเข่า ขาทั้งสองข้าง และลำตัว…
ร่างกายของราชาหมีภูเขาค่อยๆ กลายเป็นรูปปั้นหิน ที่ไม่สามารถขยับได้
หวังตงเซิงในฐานะปรมาจารย์อสูรระดับหกดาวที่ผ่านโลกมามาก แต่ในเวลานี้เขากลับตื่นตระหนกสุดชีวิต
“เจ้~เจ้า…”
สายฟ้าฟาดลงมา ส่องสว่างไปทั่วทั้งยามราตรี, ด้านหลังเดลลูปรากฏหางทั้งเก้าที่ลุกโชนด้วยเปลวเพลิงจิ้งจอก
“จิ้งจอกเก้าหาง!”
“เจ้าคือสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่อยู่ในประกาศจับทั่วประเทศ!”
ประกาศจับเดลลูถูกติดอยู่ทั่วทุกหัวระแห่งของเมือง เเละทุกสื่อต่างรายงานข่าวเกี่ยวกับเธอทุกวัน
ไม่ต้องพูดถึงเหล่าปรมาจารย์อสูร แม้แต่คนธรรมดาที่ไม่ได้มีพรสวรรค์ในการเป็นปรมาจารย์อสูร ตั้งแต่เด็กหกขวบยันยายแปดสิบ ต่างก็รู้จักชื่อของจิ้งจอกเก้าหาง-เดลลู
“เซียวซิงหยู เเกกล้าทำพันธสัญญาเลือดกับจิ้งจอกเก้าหางงั้นเหรอ?”
“จิ้งจอกตัวนี้มันเป็นอาชญากรที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดในประเทศนะ, เเกทำพันธสัญญากับมัน ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไป…”
หวังตงเซิงยังพูดไม่จบก็ถูกเซียวซิงหยูขัดจังหวะเสียก่อน
“รองอธิการบดีหวัง ในเมื่อผมเลือกที่จะเรียกจิ้งจอกเก้าหางออกมาต่อหน้าคุณ ก็หมายความว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะให้คุณมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่…เพราะยังไงซะ คนที่ตายไปแล้วก็พูดอะไรไม่ได้”
จิ้งจอกเก้าหางคือไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของเซียวซิงหยูในตอนนี้
เนื่องจากสถานะพิเศษของจิ้งจอกเก้าหาง ทุกครั้งที่เซียวซิงหยูเรียกเธอออกมา นั่นหมายความว่าเขาตั้งใจจะฆ่าใครสักคนจริงๆ
สายฟ้าฟาดลงมาอีกครั้ง แสงสว่างวาบทำให้หวังตงเซิงมองเห็นรอยยิ้มของเซียวซิงหยู
รอยยิ้มของเซียวซิงหยูราวกับยมทูตที่กำลังลงมาทักทายเขา, เเละมันทำให้หวังตงเซิงรู้สึกขนลุก
อย่างไรก็ตาม ถึงตอนนี้สถานการณ์ดูจะพลิกผัน แต่จริงๆแล้วเซียวซิงหยูยังไม่ได้ชนะอย่างเด็ดขาด
ความแตกต่างของระดับปรมาจารย์อสูร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังวิญญาณและประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในการอ่านเกมอีกด้วย
หวังตงเซิงคือปรมาจารย์อสูรระดับหกดาวที่แท้จริง เขาจึงตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว
“ระเบิดหิน!”
หวังตงเซิงรีบออกคำสั่ง
ทันใดนั้น, ราชาหมีภูเขาที่กลายเป็นหินก็สั่นสะเทือนร่างกายอย่างรุนแรง
มันได้ทำลายพลังสาปให้กลายเป็นหินและกลับสู่สภาวะปกติ
“ฮ่าๆๆ~”
“นักเรียนเซียวซิงหยู จิ้งจอกเก้าหางระดับจักรพรรดิมันเก่งก็จริง แต่เเกอย่าลืมว่าต่อให้จิ้งจอกเก้าหางจะเก่งแค่ไหน มันก็เปลี่ยนความจริงที่ว่าเเกเป็นแค่ปรมาจารย์อสูรระดับหนึ่งดาวไม่ได้!”
“ด้วยพลังวิญญาณอันน้อยนิดของเเก แค่จะสั่งให้จิ้งจอกเก้าหางใช้ทักษะสักครั้งยังทำไม่ได้เลย!”
ต้องยอมรับว่าหวังตงเซิงเก่งเรื่องการเล่นสงครามจิตวิทยาจริงๆ
เมื่อเห็นราชาหมีภูเขากลับสู่สภาวะปกติ เดลลูก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเล็กน้อย
“พลังวิญญาณของมาสเตอร์มันน้อยเกินไป, ไม่งั้นแค่ข้าปรายตามอง หมีตัวนั้นคงจะตายไปแล้ว”
เมื่อได้ยินเดลลูบ่นตรงกับที่ตนสันนิษฐาน…หวังตงเซิงก็ยกยิ้มอย่างมั่นใจมาก
“เด็กน้อย ต่อไปนี้ข้าจะให้เเกรู้ว่าความแตกต่างระหว่างปรมาจารย์อสูรหนึ่งดาวกับหกดาว มันมากมายมหาศาลแค่ไหน!”
“เกราะราชาหมี รวมร่าง!”
ทันใดนั้น หวังตงเซิงก็สั่งให้สัตว์อสูรของเขาใช้ทักษะขั้นสูงสุดทันที
ณ เวลานี้…พื้นดินเริ่มแยกออกจากกัน อากาศเริ่มบิดเบี้ยว หินจำนวนนับไม่ถ้วนลอยขึ้นมารวมตัวกันบนร่างของราชาหมีภูเขา
ก้อนหินหลอมรวมกันเป็นเกราะหนาปกคลุมทั่วร่างของราชาหมีภูเขา เเละเมื่อสวมเกราะนี้ ขนาดตัวของราชาหมีภูเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นห้าเท่า หัวของมันสูงทะลุเมฆ, เพียงแค่เหยียบเท้าหนึ่งครั้งมันก็สามารถทำให้ทั้งลูกราบเป็นหน้ากลองได้!
รอบๆ เกราะมีหมอกสีดำลอยอยู่ เเละมันทำให้เซียวซิงหยูรู้สึกไม่สบายตัว
“หมอกสีดำนี่มัน…พลังธาตุความมืด!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวังตงเซิงก็แสยะยิ้มกว้าง
“ฮ่าๆๆ~”
“เซียวซิงหยู เเกนี่ตาดีจริงๆ!”
ในประเทศนี้ ห้ามมิให้เลี้ยงสัตว์อสูรธาตุความมืดโดยเด็ดขาด
ธาตุความมืดเป็นธาตุที่พิเศษที่สุดในบรรดาธาตุทั้งหมด, ปกติเเล้วผู้คนที่มีตำเเหน่งจะไม่เลี้ยงอย่างโจ่งแจ้ง
เพราะถ้าสัตว์อสูรตัวใดมีธาตุความมืด มันก็อาจจะมีนิสัยที่เปลี่ยนแปลงไป…หลายตัวต้องกินเลือดมนุษย์ หรือแม้แต่เลือดของสัตว์อสูรตัวอื่นเพื่อหล่อเลี้ยงตัวเอง
ทันใดนั้น ความคิดของเซียวซิงหยูก็โลดแล่นอย่างรวดเร็ว
“ตั้งแต่ห้าปีก่อน ในเมืองหลงอิ๋นมักมีข่าวสัตว์อสูรระดับต่ำหายตัวไป”
“ร้านขายสัตว์อสูรหลายร้านก็ถูกโจรกรรม ถึงตอนนี้มีสัตว์อสูรที่หายไปมีจำนวนมากกว่า 300 ตัว”
“ถ้าผมเดาไม่ผิด สัตว์อสูรเหล่านั้นคงกลายเป็นอาหารของราชาหมีภูเขาสินะ”
“ใช่แล้ว!” หวังตงเซิงตะโกนด้วยความตื่นเต้น
“หลังจากที่ราชาหมีภูเขาของข้าปลุกพลังธาตุความมืดได้, มันก็ต้องการกินเลือดเนื้อของสัตว์อสูรตัวอื่นเพื่อเพิ่มพลัง!”
“ในเมื่อเเกรู้ความลับของข้าแล้ว, ยังไงวันนี้เเกก็ต้องตายที่นี่!”
เปรี้ยง!!!
ทันใดนั้น แสงจากสายฟ้าก็ทำให้เซียวซิงหยูเห็นรอยสักรูปหัวกะโหลกสีแดงก่ำบนใบหน้าของหวังตงเซิง
ปกติหวังตงเซิงจะใช้เครื่องสำอางเพื่อปกปิดรอยสักนี้เอาไว้
“กิลด์หัวกะโหลกแดง…”
ใบหน้าของเซียวซิงหยูเคร่งขรึมขึ้นอย่างมาก
ในประเทศนี้มีกิลด์ปรมาจารย์อสูรมากมายนับไม่ถ้วน
เเต่มีกิลด์ปรมาจารย์อสูรประเภทหนึ่งที่ถูกจัดให้เป็น "องค์กรก่อการร้าย"
กิลด์ประเภทนี้จะฝึกฝนสัตว์อสูรธาตุความมืดโดยเฉพาะ พวกมันทำร้ายทั้งผู้อื่นและตนเอง ขัดต่อจุดประสงค์และความเชื่อดั้งเดิมของเหล่าปรมาจารย์อสูร
กิลด์หัวกะโหลกแดงคือหนึ่งในห้ากิลด์แห่งความมืด
“ถ้าคนอื่นรู้ว่ารองอธิการบดีของวิทยาลัยชิงหลง แอบเป็นสมาชิกของกิลด์หัวกะโหลกแดง ผลลัพธ์จะเป็นยังไงนะ?”
เมื่อได้ยินคำขู่นี้, หวังตงเซิงก็แสยะยิ้มอย่างดูถูก
“ในเมื่อฉันเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อหน้าเเกแล้ว ฉันก็จะไม่ปล่อยให้เเกมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่”
“ก็ตามที่เเกพูดนั่นแหละ ยังไงซะคนที่ตายไปแล้วก็พูดไม่ได้!”
ทันใดนั้น ราชาหมีภูเขาที่สวมเกราะครบชุดก็คำรามลั่น
“ก๊าซซซซ!!!!”
“เซียวซิงหยู ตายซะ!”
ดวงตาของหวังตงเซิงแดงก่ำ เขาแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะเหยียบย่ำศพของเซียวซิงหยู
ราชาหมีภูเขารับคำสั่งจากเจ้านาย เเล้วมันก็พุ่งเข้าโจมตีศัตรูอย่างรวดเร็ว
มันเหยียบยอดเขาจนราบเป็นหน้ากลอง กรงเล็บของมันฟาดใส่พื้นดินจนแตกกระจาย พลังออร่าสีดำราวกับคมดาบได้กรีดผ่านม่านราตรีอย่างน่าสะพรึงกลัว
“มาสเตอร์ ด้วยพลังวิญญาณในตอนนี้ ข้าไม่สามารถใช้ทักษะใดๆได้เลย!” เดลลูรีบเอ่ยเตือน
“หึ…ฉันไม่เคยสู้ในศึกที่มีโอกาสชนะน้อยกว่า 100%”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เดลลูก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย…เธอคิดไม่ออกว่าเซียวซิงหยูยังมีไพ่ตายอะไรซ่อนไว้อีก
ทันใดนั้น ระบบคลังก็เปิดออก
เซียวซิงหยูหยิบยาเม็ดวิญญาณมังกรออกมาจากคลัง, เเล้วกลืนลงไปในคำเดียว
เมื่อปรมาจารย์อสูรกินยาเม็ดวิญญาณมังกร พลังวิญญาณของเขาจะเพิ่มขึ้นสิบเท่าเป็นเวลา 5 นาที
เเละเมื่อสรรพคุณของยาเริ่มออกฤทธิ์ ร่างกายของเซียวซิงหยูก็ร้อนผ่าวราวกับเเช่ในลาวานรก พลังวิญญาณที่เคยเบาบางของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ถ้าก่อนหน้านี้พลังวิญญาณของเซียวซิงหยูเป็นเพียงแอ่งน้ำ ตอนนี้มันได้กลายเป็นทะเลสาบไปแล้ว!
พลังวิญญาณ 1200+ เพิ่มขึ้นสิบเท่า กลายเป็น 12000+ ทันที!
เมื่อพลังวิญญาณมากกว่าหนึ่งหมื่นหน่วย, มันก็เพียงพอที่เดลลูจะใช้ทักษะได้หนึ่งครั้งเเล้ว
“เดลลู!”
“มาสเตอร์ ข้าพร้อมเเล้ว”
เดลลูพุ่งตัวไปยืนบังเซียวซิงหยู
ในขณะนั้น ราชาหมีภูเขายกกรงเล็บขนาดมหึมาขึ้น หมอกสีดำและพลังออร่าสีแดงปกคลุมไปทั่วกรงเล็บของมัน เเล้วฟาดกรงเล็บลงมาใส่เซียวซิงหยู
แรงกดดันจากกรงเล็บทำให้เกิดลมพัดกระหน่ำไปทั่วทั้งภูเขา
เซียวซิงหยูไม่หวั่นไหว เเล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ลูกศรดวงตาปีศาจกระหายเลือด!”
เดลลูแปลงร่างเป็นจิ้งจอกเก้าหางที่ร่างกายลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีม่วงในทันที
จิ้งจอกเก้าหางคำรามลั่น ก้อนเมฆเหนือหัวของมันสลายตัวจนเผยให้เห็นดวงตาสีแดงก่ำขนาดใหญ่!
รูม่านตาของดวงตาขนาดใหญ่มีรูปร่างเหมือนลูกศร, เเละปลายลูกศรเล็งไปที่หัวใจของราชาหมีภูเขา
บูมมมมม!!!
ลูกศรพุ่งออกมา หมายเจาะทะลุท้องฟ้าและปฐพี
พลังอันน่าสะพรึงกลัวแบ่งท้องฟ้าออกเป็นสองส่วน หมู่เมฆราวกับกำลังถูกแสกกลาง!
ฉึกกกกก~~~~
เสียงลูกศรเจาะทะลุเนื้อหนัง
“ก๊าาาซซซ!!!!”
ราชาหมีภูเขาร้องครวญครางขณะล้มลงกับพื้น, หัวใจของมันถูกเจาะทะลุเเละกำลังจะระเบิด
เซียวซิงหยูหันหลังให้ศัตรู
ไม่ว่าในสถานการณ์ใด การหันหลังให้ศัตรูถือเป็นเรื่องอันตรายที่สุด
แต่ครั้งนี้ที่เซียวซิงหยูหันหลังให้ศัตรู ก็เป็นเพราะ…
ลูกผู้ชายแท้ๆ ไม่หันหลังกลับไปมองการระเบิด!
ตูมมมม~~~
เสียงระเบิดดังกลบเสียงฟ้าร้อง
ลูกศรระเบิดทำให้เกิดเปลวเพลิงจิ้งจอกสีม่วงราวกับดอกกุหลาบที่บานสะพรั่งท่ามกลางยามราตรี
ภูเขาทั้งลูกถูกไฟลุกไหม้จนเปล่งแสงสีม่วงระยิบระยับ สวยงามราวกับภาพวาด
เดลลูกลับคืนร่างมนุษย์ เธอเหาะลงมาจากท้องฟ้าและลงจอดข้างกายเซียวซิงหยู
ในซากปรักหักพัง ร่างของราชาหมีภูเขากลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
“ไอ้เด็กนี่มัน…”
หวังตงเซิงร่วงลงไปในหุบเหวพร้อมกับความแค้น
ก่อนตาย ชายคนนี้ยังคงคิดไม่ตกอยู่เรื่องเดียว
ทำไมเซียวซิงหยู ปรมาจารย์อสูรระดับหนึ่งดาวที่มีพลังวิญญาณแค่พันกว่าหน่วย ถึงสามารถควบคุมจิ้งจอกเก้าหางระดับจักรพรรดิให้ใช้ทักษะได้?
……
ณ ขณะนี้การต่อสู้จบลงแล้ว
นี่คือการบดขยี้ด้วยระดับของสัตว์อสูร นี่คือการบดขยี้ด้วยคุณภาพสายเลือด
เซียวซิงหยูคุกเข่าข้างหนึ่ง ลมหายใจติดขัด หน้าผากมีเหงื่อไหลออกมาเป็นทางยาว
“นี่คือผลข้างเคียงจากการกินยาเม็ดวิญญาณมังกรงั้นเหรอ?”
“มันแย่กว่าที่คิดไว้เยอะเลย…”
อย่างที่โบราณว่าไว้ ฝืนทำเท่เสร็จก็ต้องรับกรรม
…………………..