ตอนที่ 711 ผู้ว่าราชการมณฑล

ครั้งนี้เขาแพ้ แพ้แบบหมดรูปโดยสิ้นเชิง

แต่ จ้าว เซิ่งจี้ อยากรู้ความจริง เขาอยากเข้าใจว่าทำไม เย่เฉิน ถึงมีอำนาจ และเครือข่ายความสายสัมพันธ์ที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ที่ถึงขั้นเชิญคนระดับนั้นมาได้

“ความจริงมันง่ายมาก”

เย่เฉิน ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“เพราะผมเป็นสมาชิกของสมาคมการค้าจิ้งจอกเงิน”

“สมาคมการค้าจิ้งจอกเงิน?”

จ้าว เซิ่งจี้ นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย เขารู้สึกคุ้นชื่อ แต่ก็ไม่ค่อยคุ้นเคยนัก

พอนึกอยู่สักพัก สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันทีเหมือนเพิ่งนึกอะไรออกได้

“นี่ใช่สมาคมเดียวกับที่ ท่านผู้เฒ่าเกา และประธานเหยียน, เหยียน สวี่คง เป็นสมาชิกอยู่ด้วยนั่นเหรอ?”

จ้าว เซิ่งจี้ ถามด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ

“ใช่ครับ”

เย่เฉิน ตอบพร้อมกับพยักหน้า

คำตอบนี้ทำให้ จ้าว เซิ่งจี้ ถึงกับตะลึง

ท่านผู้เฒ่าเกาเป็นใคร? นั่นคือหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลอย่างแท้จริงในเย่ว์เฉิง!

ส่วน เหยียน สวี่คง นั้น จ้าว จื้อหยาง ไม่รู้จัก แต่เขารู้จัก ท่านผู้เฒ่าเกา เป็นอย่างดี

ใบหน้าของ จ้าว จื้อหยาง ซีดเผือด เขายืนนิ่งเหมือนถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ

‘ท่านผู้เฒ่าเกา คือผู้มีอำนาจอย่างแท้จริงในเย่ว์เฉิง แล้ว ไอ้แซ่เย่ คนนี้อยู่ในสมาคมเดียวกับท่าน?’

นี่มัน...

จ้าว จื้อหยาง ถึงกับช็อกไปแล้ว

“ถูกต้องแล้ว”

เย่เฉิน พยักหน้าตอบกลับ

จ้าว เซิ่งจี้ รู้สึกตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก

จริงเหรอ?

เมื่อเห็น เย่เฉิน พยักหน้า จ้าว เซิ่งจี้ ถึงกับตกตะลึงหนักกว่าเดิม

ท่านผู้เฒ่าเกา และเหยียน สวี่คง ล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลที่เขาไม่กล้าเทียบ แม้แต่การที่เขาได้ยินชื่อยังทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว

เขาเคยได้ยินว่าทั้งสองท่านนี้เป็นสมาชิกของสมาคมการค้าจิ้งจอกเงิน แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เย่เฉิน ตรงหน้าคนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน

การเป็นสมาชิกของสมาคมการค้าจิ้งจอกเงิน หมายความว่า เย่เฉิน คนนี้มีสถานะไม่ด้อยไปกว่า ท่านผู้เฒ่าเกา และประธานเหยียน เลย

จ้าว เซิ่งจี้ ตกใจจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ส่วน จ้าว จื้อหยาง หน้าซีดเผือดจนไม่เหลือสีเลือดใดๆ เหมือนคนที่เพิ่งเดินออกมาจากปากหลุมศพ

จ้าว จื้อหยาง เวลานี้แทบหมดหวัง เขาอุตส่าห์ดึงพ่อมาเพื่อช่วย แต่กลับพบว่าไม่เพียงแต่ช่วยไม่ได้ แต่ยังทำให้ เย่เฉิน เกลียดเขาหนักกว่าเดิมอีก

เขาจบสิ้นแล้ว

สองคนที่เคยทรยศ เย่เฉิน เองก็หมดหวังสิ้นเชิงจากความหวังที่เคยมี..

ด้าน เย่เฉิน ที่เขาสามารถจัดการเรื่องในวันนี้ได้ง่ายขึ้นเป็นเพราะเขาได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกของสมาคมการค้าจิ้งจอกเงิน และที่สำคัญ เขายังได้รับตำแหน่ง ‘ผู้ก่อตั้ง’ ในสมาคม

เมื่อครั้งที่ เย่เฉิน ไปที่บ้านตระกูลเกา เกา ชางซาน ได้ทำตามคำสัญญา ยื่นเรื่องต่อสมาคมเพื่อโอนสถานะผู้ก่อตั้งให้แก่ เย่เฉิน

ทำให้ เย่เฉิน กลายเป็นหนึ่งในสี่ผู้ก่อตั้งของสมาคมการค้าจิ้งจอกเงิน และมีสถานะที่สูงยิ่งกว่าเดิมในสมาคม

หากไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมการค้าจิ้งจอกเงิน แม้ เย่เฉิน จะสามารถจัดการกับ จ้าว เซิ่งจี้ ได้ แต่ก็คงต้องใช้เวลาไม่น้อย

เนื่องจาก เย่เฉิน เพิ่งมาถึงเมืองเย่ว์เฉิง และยังไม่มีสายสัมพันธ์ในพื้นที่มากนัก

แต่เมื่อมีสมาคมการค้าจิ้งจอกเงินอยู่เบื้องหลัง เย่เฉิน เองก็ย่อมมีเครือข่ายอันทรงพลังในเมืองเย่ว์เฉิงแห่งนี้

ในสมาคมการค้าจิ้งจอกเงินที่อยู่ในเมืองเย่ว์เฉิง นอกจาก เกา ชางซาน แล้ว ยังมีอีกคนหนึ่ง นั่นคือเหยียน สวี่คง ซึ่งคือคนที่ จ้าว เซิ่งจี้ พูดถึง

ก่อนที่ จ้าว เซิ่งจี้ จะมาถึง เย่เฉิน ได้ส่งข้อความพิเศษถึง เหยียน สวี่คง

ไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากรู้ว่า เย่เฉิน กลายเป็นผู้ก่อตั้งของสมาคมการค้าจิ้งจอกเงิน สมาชิกหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในเซี่ยงไฮ้ก็ริเริ่มที่จะเพิ่มข้อมูลติดต่อของ เย่เฉิน และต่างแนะนำตัวเอง

เย่เฉิน จึงยังได้รู้สถานะบางอย่างเกี่ยวกับสมาชิกเหล่านี้ รวมถึงเหยียน สวี่คง ด้วย

เหยียน สวี่คง อาจไม่ได้มีทรัพย์สินมากนัก หากเทียบกับสมาชิกคนอื่นๆ ของสมาคม เขาอาจอยู่ในระดับท้ายๆ ด้วยซ้ำ

แต่เขามีข้อได้เปรียบหนึ่งที่ไม่มีใครเทียบได้ นั่นคือเพราะพ่อของเขาเป็นถึง ผู้ว่าราชการมณฑล!!!

ดังนั้น สายสัมพันธ์ของเหยียน สวี่คง ในเมืองเย่ว์เฉิง จึงทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ ซึ่ง จ้าว เซิ่งจี้ ไม่มีทางเทียบได้เลย

‘เย่เฉิน เป็นสมาชิกของสมาคมการค้าจิ้งจอกเงิน’

จ้าว เซิ่งจี้ พลันถอนหายใจยาวยอมรับชะตากรรม

‘ถ้าแบบนี้ ฉันคงแพ้ตั้งแต่เริ่มแล้ว’

การที่เขาแพ้ให้กับคนที่มีสถานะเทียบเท่า ท่านผู้เฒ่าเกา และประธานเหยียน ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอายแต่อย่างใด

“บอสเย่ ฉันจะจ่ายให้คุณ 2,000 ล้าน ไม่สิ, ฉันจะจ่ายให้คุณ 3,000 ล้านหยวน!”

“หลังจากกลับไป ฉันจะรับผิดชอบเรื่องนี้ และจะให้คำตอบที่น่าพอใจกับคุณแน่นอน”

“สำหรับทีมพัฒนาโปรแกรมโกงเกมที่อยู่ในมือ จื้อหยาง ฉันจะจัดการมันให้เรียบร้อย”

จ้าว เซิ่งจี้ ก้มศีรษะลงพูดด้วยท่าทีสำนึกผิด พร้อมทั้งเสนอเพิ่มค่าชดเชยไปให้อีก 1,000 ล้านหยวน

ในสถานการณ์นี้ แค่จ่ายเงินชดเชยไม่พอแน่นอน เขารู้ว่าตัวเองยังต้องเสียอะไรเพิ่มเติม

ซึ่งเรื่องนี้เขาจำเป็นต้องคิดให้รอบคอบ

“ประธานจ้าว ดูเหมือนจะสอนลูกไม่เก่ง ผมจะขอให้ใครสักคนมาช่วยคุณสักหน่อย”

เย่เฉิน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ฟังดูน่าเกรงขาม

จ้าว จื้อหยาง ที่ชอบเปลี่ยนสีหน้าไปมาจะต้องได้รับผลกรรม แม้ว่า จ้าว เซิ่งจี้ พ่อของเขาจะยอมจ่ายเงินจำนวนมากก็ตาม!

ในเมื่อเขาไม่อยากเป็นแค่ ‘หมูหัว’ งั้นฉันก็จะสนองให้!

เย่เฉิน กล่าว ก่อนจะหันไปสั่งลูกน้อง

“ไปช่วยสั่งสอน คุณชายจ้าว หน่อย ให้เขาได้พักยาวๆ บนเตียงโรงพยาบาลสักหลายเดือน”

“รับทราบครับ บอส!”

ลูกทีมสองคนรับคำสั่งก่อนจะก้าวเดินไปหา จ้าว จื้อหยาง

“พ่อ! พ่อช่วยผมด้วย!”

จ้าว จื้อหยาง ร้องขอความช่วยเหลือจากพ่อด้วยความสิ้นหวัง

แต่ จ้าว เซิ่งจี้ ก็ทำได้แต่ปิดตาลง ไม่สามารถช่วยอะไรได้

“อา.. โอ๊ยย!!”

“โอ๊ย! อย่าตีหน้าฉันอีกเลย!”

เสียงร้องโหยหวนของ จ้าว จื้อหยาง ดังขึ้น แต่ไม่สามารถหยุดลูกน้องสองคนของ เย่เฉิน ได้

หลังจากไม่กี่นาที ลูกน้องของ เย่เฉิน ก็ปล่อยมือ หลังจากนี้คงต้องทิ้งให้ จ้าว จื้อหยาง นอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงโรงพยาบาลไปในช่วงครึ่งปีหลังอย่างสงบเสงี่ยม

จ้าว เซิ่งจี้ ยอมจ่ายเงินชดเชย 3,000 ล้าน และสัญญาว่าจะมอบค่าชดเชยเพิ่มเติมให้ เย่เฉิน ในภายหลังเพื่อเป็นการขอโทษ

ส่วนตัวของ จ้าว จื้อหยาง ที่บาดเจ็บสาหัสถูกคนนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที เช่นเดียวกับกลุ่มลูกน้องในชุดดำที่เขาพามา ซึ่งก็ถูกส่งตัวไปรักษาเหมือนกัน

ไม่นานนัก ครอบครัวของสองคนที่เคยทรยศ เย่เฉิน ก็มาถึง

แม้ตอนแรกจะลังเลไม่อยากจ่าย แต่เมื่อรู้ว่า จ้าว เซิ่งจี้ ยังต้องจ่าย พวกเขาก็ยินยอมจ่ายเงินชดเชยคนละ 500 ล้านในทันทีอย่างไม่อิดออด

หลังจากจ่ายเงินครบ ทั้งสองผู้ทรยศถูกสั่งสอนจนหมดสภาพก็ถูกส่งตัวไปรักษาเช่นกัน

“พี่เฉิน สุดยอด!”

“พี่เฉิน เก่งจริงๆ ขนาด จ้าว เซิ่งจี้ ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ พี่เฉิน เลย”

“พี่เฉิน สุดยอด!!!”

หลังจาก จ้าว เซิ่งจี้ จากไป ว่าน จวิ้นอิง, เถียน ปั๋วเฟิง และคนอื่นๆ ต่างพากันเข้ามาชื่นชม เย่เฉิน ด้วยความตื่นเต้น

ในความคิดของพวกเขา จ้าว เซิ่งจี้ เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากอยู่แล้ว

แต่ในสายตาของ พี่เฉิน คนแบบนี้กลับเป็นแค่คนตัวเล็กๆ ที่ต้องยอมก้มหัวขอโทษอย่างเชื่อฟัง

พวกเขาทั้งหมดต่างคิดเหมือนกันว่า พี่เฉิน คือคนที่มีอิทธิพล และอำนาจเหนือทุกสิ่งในสายตาพวกเขา

ระดับความรู้ของพวกเขาไม่ได้สูงนัก สรุปได้เป็นคำเดียวว่า – พี่เฉิน สุดยอด!!!

พวกเขาโชคดีมากที่ได้ติดตาม พี่เฉิน

“พวกนายรีบจัดการหาคนมารีโนเวตใหม่ซะ”

เย่เฉิน กล่าวหลังจากมองไปรอบๆ สถานที่ที่กลายเป็นซาก

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้กำหนดการเปิดตัวสโมสรของเขาต้องเลื่อนออกไปอีก 1-2 สัปดาห์

แต่ เย่เฉิน ก็ไม่ถือว่าเสียหายอะไร เพราะผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าเกินคาด

เกม ‘Doomsday is Coming’ ของ เย่เฉิน ที่ตอนแรกนักวิเคราะห์ประเมินว่าจะทำเงินได้เพียงไม่กี่พันล้าน

ตอนนี้กลับมียอดรายได้เข้ามาถึง 4,000 ล้านหยวนแล้ว ซึ่งมากกว่ากำไรที่คาดการณ์ไว้ถึง 10 เท่า

“ได้เลย พี่เฉิน เดี๋ยวพวกเราจะรีบจัดการให้ทันที”

ว่าน จวิ้นอิง และเพื่อนๆ รีบไปดำเนินการ

ในขณะเดียวกัน โทรศัพท์มือถือของ เย่เฉิน ก็ดังขึ้น

สายที่โทรเข้ามานี้เป็นคนที่ค่อนข้างพิเศษมาก…