ตอนที่แล้วตอนที่ 6 - ได้คิล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 – นักบวชผู้สำนึกผิด

ตอนที่ 7 - ถ้าทนไม่ไหวจริงๆล่ะก็


【ขนมปังดำแข็ง 2 + เนื้อกวางเน่าเล็กน้อย 1 + น้ำเกรด 3 = โจ๊กเนื้อกวางหวาน*1 (เต็มหม้อ, เติมพลังและความมีชีวิตชีวาได้!)】

“ว่าแล้ว ขนมปังดำต้องใช้บนโต๊ะประดิษฐ์ถึงจะกินได้. ต่อให้ไม่มีเนื้อกวางก็ทำเป็นโจ๊กได้ซึ่งดีกว่าขนมปังเพียงอย่างเดียว. ไม่งั้นฉันอาจต้องอดอาหารตายในบ้านของตัวเองแน่…”

โคลินพึมพำกับตัวเอง โดยตระหนักดีว่าชะตากรรมของหลายคนอาจถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่วันแรก.

เขาหันไปมองผู้ใต้บังคับบัญชาสองคนซึ่งดวงตาแทบจะเป็นประกายด้วยความหิวโหย เขาเสิร์ฟชามให้แต่ละคนก่อน.

“เราจะพักกิน 15 นาที เสร็จแล้วเราจะสำรวจกันต่อ” ทาสทั้งสองหลั่งน้ำตาออกมาขณะที่ถือโจ๊กเนื้อกวางที่หอมกรุ่นและต้มสุกที่เจ้านายของพวกเขาเสิร์ฟให้.

ในความทรงจำอันเลือนลางของพวกเขา ในฐานะทาส พวกเขาต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเพียงเพื่ออาหารเล็กๆน้อยๆ โดยมักจะได้รับขนมปังที่มีราขึ้น เปรี้ยว และสกปรกเป็นรางวัลตอบแทน.

ก่อนหน้านี้ ทาสทั้งสองคิดไว้ว่าโคลินจะให้ขนมปังสีดำแข็งแก่พวกเขา แม้ว่ามันจะแข็งเท่าหิน แต่มันก็ยังเป็นอาหารอันโอชะที่หายากสำหรับพวกเขาอยู่ดี เพราะมันไม่ขึ้นราหรือมีกลิ่นเหม็น และอาจจะไม่มีทรายและสิ่งสกปรกด้วยซ้ำ.

ทว่า โคลินกลับให้โจ๊กแก่พวกเขาแทนที่จะเป็นชาม "ข้าวต้ม" ที่แทบไม่มีเมล็ดพืชเลย แถมยังมีเนื้อด้วย!

พวกเขาจิบโจ๊กเนื้อหวาน กลิ่นหอมและความมีชีวิตชีวาก็เติมเต็มหัวใจของพวกเขาในทันที ทำให้พวกเขาชื่นชมความงามของชีวิตเป็นครั้งแรก ขณะที่พวกเขาซดอยู่ ดวงตาของพวกเขาก็แดงก่ำและชื้นขึ้น และพวกเขารู้สึกอยากจะร้องไห้ หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความขอบคุณและความทราบซึ้ง.

…หลังจากผ่านไปประมาณสามนาที โคลินก็สังเกตข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผลข้างเคียง เช่น 【พิษ】 หรือ 【หมดสติ】 ก่อนที่เขาจะรู้สึกปลอดภัยที่จะกินโจ๊กข้นๆ นี้ด้วยตัวเอง.

เขาไม่เข้าใจว่าทำไม “นักบวชผู้สำนึกผิด – พลเมืองผู้ทุกข์ทรมาน” ถึงดรอปเนื้อกวาง. ไม่ว่าอย่างไร นั่นก็หยุดเขาไม่ให้กินโจ๊กไม่ได้ เขาเพียงแค่ต้องระมัดระวัง.

ในขณะนั้น ทาสทั้งสองพูดเสียงแหบพร่า “นายท่าน ท่านเป็นคนดีจริงๆ”

คำพูดของพวกเขามาจากใจและไม่เกี่ยวข้องกับระบบ.

“งั้นเหรอ…” โคลินรู้สึกผิดเล็กน้อย มองไปที่โจ๊กที่เหลือในหม้อ.

หลังจากที่แต่ละคนได้กินไปหนึ่งชามแล้ว ก็เหลือจำนวนโจ๊กในหม้อประมาณครึ่งชาม โคลินนึกบางอย่างได้และมองไปที่ทาสคนที่สอง สังเกตเห็นบาดแผลยาวเท่าฝ่ามือลึกหนึ่งเซนติเมตรที่แขนของเขา.

“นายได้รับบาดเจ็บแทนฉัน ในเมื่อโจ๊กเหลือแค่นิดเดียว นายควรได้กินมันเพื่อจะได้รักษาตัวให้หายเร็วขึ้น”

ก่อนหน้านี้ เมื่อโคลินตกอยู่ใน “ภาวะสับสนทางจิต” “มนุษย์กลายพันธุ์” ได้โจมตีเขา แต่ทาสคนที่สองได้บล็อกการโจมตีไว้ แม้ว่าโคลินจะเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมดในภายหลัง แต่ถ้าไม่มีทาสคอยปกป้อง เขาอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสได้.

ผลก็คือ แขนของทาสคนที่สองได้รับบาดเจ็บ.

โคลินเชื่อในรางวัลและการลงโทษที่ยุติธรรม ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะใจกว้าง.

“นายท่าน ได้ยังไงล่ะครับ? การสู้และต้องตายเพื่อท่านเป็นหน้าที่ของทาส สิ่งสำคัญควรเป็นปากท้องของท่าน…”

ทาสคนที่สองพยายามปฏิเสธ แต่ภายใต้สายตาที่เคร่งขรึมของโคลิน เขาจึงกินชาม “ที่สาม” ใบนั้นด้วยน้ำตาคลอเบ้า.

“ฉันสงสัยว่าตอนนี้ผู้รอดชีวิตคนอื่นเป็นไงบ้างนะ.”

โคลินไม่คุ้นเคยกับการกินข้าวโดยไม่มีอะไรให้ดู ดังนั้นเขาจึงหยิบม้วนหนังที่ไม่ทราบแหล่งที่มาออกมาและเริ่มท่องช่องแชทภูมิภาคในขณะที่เพลิดเพลินกับโจ๊กเนื้อกวางแสนอร่อยของเขา.

“ฉันหิวมาก คอก็แห้ง. ขอข้าวให้ฉันกินหน่อยเถอะ ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อได้มีอาหารกิน ฮือ ฮือ…”

“ขอโทษที ฉันช่วยไม่ได้ ไม่มีใครรู้วิธีจุดตะเกียง ดังนั้นเราจึงออกไปสำรวจข้างนอกไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงการแบ่งปันอาหารเลย.”

“เฮ้อ ต่อให้มีใครรู้ก็คงไม่ยอมพูด นี่คือเกมเอาชีวิตรอดที่มีคนนับพันคนในแต่ละภูมิภาค ไม่มีใครใจดีขนาดนั้นหรอก.”

“ถ้าคุณทนไม่ได้จริงๆ คุณกินทาสของคุณก็ได้นะ พวกเขาจะไม่ต่อต้านเลย…”

“พวกเขาเป็นคนนะ! คุณจะกินพวกเขาได้ยังไง ถ้า… ถ้า…”

“ถ้าหากคุณติดเชื้อไวรัสล่ะ”

“ก็ไม่ต้องกินสมองสิ…”

“แต่ทาสของคุณเป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอ? ฟังดูเหมือนคุณเป็นผู้หญิงด้วย ไม่งั้นคุณคงไม่มีทาสผู้หญิง… เฮ้อ ความรู้ที่ไร้ประโยชน์นี่.....”

“ผู้หญิงเหรอ? ไม่สนใจหรอก”

“กินมันซะ อย่าลังเล ถ้าไม่กิน คุณจะอดอาหารตายเหมือนคนในช่องแชทโลกที่ตายเพราะความหิวโหย รอดไปอีกวันนะทุกคน ขอให้โชคดี…”

“เลิกโม้และสนับสนุนการกินเนื้อคนซะที! ความหิวในวันแรกจะยังไม่ฆ่าคุณหรอก ความอึดของทุกคนก็เท่ากัน หลังจากคืนนี้ต่างหากที่จะเริ่มไส้กิ่ว..”

“ฉันอยากกินขนมปังดำ ฉันอยากดื่มน้ำ…”

“…เงียบไปเลย”

พูดถึงการกินเนื้อคนอีกแล้ว… ท้องของโคลินปั่นป่วน.

ใครเป็นคนเริ่มกระแสนี้กัน ช่องแชทนี่นรกมาก.

อย่างไรก็ตาม โคลินรู้ว่าคนส่วนใหญ่แค่คุยโวไปงั้น. ถ้าพวกเขาอยู่แต่ในกระท่อม ความอึดของพวกเขาก็จะไม่ลดลงมากนัก การอยู่ให้รอดจนถึงเย็นจึงไม่น่าจะเป็นปัญหา ดังนั้น คนส่วนใหญ่จะไม่ใช้วิธีการสุดโต่งแบบนั้นแน่ ส่วนคนส่วนน้อยที่อาจทำได้นั้น โคลินไม่รู้เลย

“จะว่าไปแล้ว ในเมื่อนี่เป็นเกมระดับโลก ต่อให้มีเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ ของผู้คนนับพันล้านคนที่รู้วิธีจุดตะเกียง ก็ควรมีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นคนที่รู้วิธีจุดสิ. ในจำนวนนั้นจะไม่มีใครเต็มใจแบ่งปันวิธีจุดจริงๆ เหรอ หรือพวกเขาเจอคำเตือนไม่ก็… โดนลบข้อความทิ้ง?”

โคลินขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด แต่เขาไม่สามารถหาคำตอบใดๆ ได้เลยหากไม่มีคำใบ้.

ช่างเถอะ เขาตัดสินใจซดโจ๊กเพื่อสงบสติอารมณ์.

หลังจากซดโจ๊กหมดในอึกเดียว โคลินก็เปิด【ช่องเก็บของ】ของเขาเพื่อตรวจสอบของที่ได้มาล่าสุด.

เขาสามารถตรวจสอบของที่ได้มาตอนกินโจ๊กอยู่ก็ได้ แต่พอจำได้ว่าอาจมีเนื้อมนุษย์อยู่ด้วยแล้ว เขาจึงเลี่ยงที่จะทำเช่นนั้น. เพราะยังไงซะ เขาก็็ไม่ใช่นักเรียนแพทย์ที่มีกระเพาะแข็งแรงพอที่จะผ่าขณะกินได้.

โดยปกติแล้ว โคลินอาจไม่กล้าฆ่าไก่ด้วยซ้ำ.

น่าตกใจที่ ช่องเก็บของก็ไม่ได้ดีไปกว่า ช่องแชทมากนัก.

“‘กระดูกเน่า’ และ ‘ชิ้นเนื้อเน่า’ แทบจะไร้ประโยชน์…”

โคลินสังเกตว่าสิ่งของเหล่านี้ ไม่เหมือนเนื้อกวาง พวกมันมาจาก “นักบวชผู้สำนึกผิด” คำใบ้บ่งชี้ว่ากระดูกสามารถนำไปบดเป็นปุ๋ยได้. ส่วนชิ้นเนื้อเน่านั้นสามารถรับประทานได้เหมือนเนื้อกวางหากปรุงสุกแล้ว ถึงแม้ว่าอาจทำให้ท้องไม่สบายก็ตาม…

ปัญหาคือ “นักบวชผู้สำนึกผิด” นั้นเป็นมนุษย์อย่างชัดเจน เขาจะกินสิ่งนั้นได้อย่างไร

การใช้กระดูกมนุษย์เป็นปุ๋ย ถือว่าสุดโต่งกว่าการใช้ปุ๋ยคอกเสียอีก.

ถึงกระนั้น โคลินก็ไม่ได้ทิ้งมันไป หากเขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังจริงๆล่ะก็…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด