ตอนที่ 35 ช่วงเวลาแห่งความจริง (1)
พ่อของเคนลงมืออย่างรวดเร็ว เขาติดต่อเพื่อนเก่าจากมหาวิทยาลัยเพื่อเริ่มกระบวนการรับเลี้ยงไดจิทันทีที่เป็นไปได้ การเห็นรอยฟกช้ำและบาดแผลบนใบหน้าของไดจิทำให้บางสิ่งในตัวเขาเหมือนจะขาดผึง
เขาไม่มีทางยอมให้เด็กคนนี้กลับไปบ้านและต้องทนทุกข์กับการถูกทำร้ายอีก ใครจะรู้ว่าไดจิเผชิญอะไรมาบ้างตั้งแต่ยังเด็กที่เขาไม่สามารถปกป้องตัวเองได้
หลังจากเตรียมเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดเสร็จสิ้น เขาเดินตรงไปยังที่อยู่ของไดจิ หัวใจเต้นระรัวในอก เขารู้สึกอยากจะเอาเรื่องผู้หญิงคนนั้นอย่างที่เธอสมควรได้รับ แต่เขารู้ดีว่านั่นจะทำให้สถานการณ์แย่ลง
เมื่อมาถึงประตูบ้าน เขาใช้เวลาสักครู่เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะเคาะประตู ไม่นานนักเขาได้ยินเสียงกระป๋องเบียร์กระทบพื้น และเสียงครางเบาๆ
ประตูเปิดออกพร้อมกับภาพของผู้หญิงที่ผมยุ่งเหยิงและถุงใต้ตาหนา เธอดูเหมือนพึ่งตื่น แม้เวลาจะล่วงเลยไปจนบ่ายสองแล้วก็ตาม
ด้วยความสูงเพียง 5 ฟุตของเธอ เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองคริสที่สูงประมาณ 6 ฟุต 3 นิ้ว ทันทีที่เห็นร่างสูงใหญ่ของเขา เธอก็แสดงสีหน้าหวาดกลัว
แน่นอนว่าหน้าตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรของเขาในขณะนี้คงไม่ได้ช่วยอะไรนัก
โดยไม่รอให้เธอพูด คริสก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ
"ผมมาที่นี่ในฐานะตัวแทนของไดจิ ลูกชายของคุณ ผมขอเข้าไปข้างในได้ไหม?" น้ำเสียงของเขาไร้ซึ่งความสุภาพ
หญิงคนนั้นจ้องมองเขาสักพัก ก่อนจะพยายามปิดประตูใส่หน้าเขา แต่ไม่ทันการณ์ คริสยื่นเท้าออกมาขวางไว้ทันเวลา เธอดิ้นรนสักพักก่อนจะเริ่มตะโกนขู่
"คุณทำอะไรน่ะ!? ฉันจะแจ้งตำรวจนะ!" เสียงของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่พยายามปิดประตูสุดกำลัง
"เปิดประตูให้ผม เราจะได้คุยกันเหมือนผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ คุณรู้จักวิธีการเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะใช่ไหม?" คำพูดของคริสช่างเจ็บแสบขณะเขาจ้องมองเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย
แม่ของไดจิพยายามขัดขืนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะดูเหมือนยอมแพ้ในที่สุด เธอเปิดประตูและถอยไปยืนด้านข้าง ปล่อยให้คริสเดินเข้าไป
เมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้าน สิ่งแรกที่สังเกตได้คือความสกปรก กระป๋องเบียร์และขวดเปล่าวางเกลื่อนในห้องนั่งเล่น ขยะกระจัดกระจายไปทั่ว
คริสไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจเขายิ่งมั่นใจว่าเขากำลังตัดสินใจถูกต้อง มันชัดเจนว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะดูแลเด็กได้ แม้ว่าเด็กคนนั้นจะอายุ 15 ปีแล้วก็ตาม
"เรามีที่สำหรับคุยกันไหม?"
"โต๊ะกินข้าว" เธอพึมพำเบาๆ ขณะเคลียร์ขวดเบียร์บางส่วนออกไปและเดินนำทางไปยังห้องครัว
คริสเดินตามไป และแปลกใจที่โต๊ะกินข้าวไม่ได้รกเหมือนห้องนั่งเล่น มีเพียงกองจดหมายที่วางกองอยู่แทนที่จะเป็นขยะหรือกระป๋องเบียร์
เธอหยิบกองจดหมายขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจแล้ววางมันไว้บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงโดยไม่ได้สนใจว่าบ้านจะอยู่ในสภาพไม่น่าต้อนรับแขก ซึ่งต่างจากวิธีที่ภรรยาของเขาดูแลบ้านอย่างสิ้นเชิง
คริสดึงเก้าอี้ออกและนั่งลง พร้อมกับวางกระเป๋าสีน้ำตาลบนโต๊ะก่อนจะจ้องมองเธอ
"ผมจะเข้าเรื่องเลย สิ่งที่คุณทำกับไดจิมันไม่อาจยอมรับได้" เขาพูดพร้อมหยุดเล็กน้อยเพื่อดูปฏิกิริยาของเธอ แต่สิ่งที่เขาเห็นคือความว่างเปล่า ราวกับว่าเธอไม่สามารถรู้สึกเสียใจหรือสำนึกผิดได้
"ผมมาที่นี่เพื่อให้คุณเซ็นเอกสารและสละสิทธิ์ในฐานะผู้ปกครองตามกฎหมายของเขา" คริสพูดต่อพร้อมกับหยิบเอกสารที่เตรียมไว้ออกมาและส่งให้เธอ
แม่ของไดจิเริ่มแสดงปฏิกิริยาบ้างเมื่อเธอรับเอกสารไปจากมือของเขา คริสคิดว่าเธออาจจะเริ่มรู้สึกผิดในสิ่งที่เธอทำ แต่เขาก็คิดผิด
"แล้วฉันจะได้อะไรจากเรื่องนี้?" เธอถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่เขา
ความโกรธของคริสเริ่มปะทุขึ้นอย่างเงียบๆ ในใจ แทนที่เธอจะสำนึกผิดและพยายามแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น เธอกลับมองหาเพียงโอกาสที่จะได้ผลประโยชน์จากสถานการณ์นี้
ก่อนที่เขาจะทันได้พูดตอบกลับ เธอก็พูดขึ้นอีกครั้ง
"ฟังนะ ฉันรู้ว่าถ้าฉันไม่เซ็นเอกสารพวกนี้ ไดจิก็ต้องกลับมาอยู่ที่นี่อีก คุณจะพาฉันขึ้นศาลก็ได้ แต่สุดท้ายเขาก็จะต้องไปอยู่บ้านอุปถัมภ์อยู่ดี เพราะเราไม่มีญาติคนอื่นแล้ว"
"งั้นทำให้มันคุ้มค่าหน่อยสิ แล้วฉันจะเซ็นเอกสารให้คุณ" รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ ราวกับว่าเธอเพิ่งเดินเกมสำคัญในกระดานหมากรุกได้สำเร็จ
__________________________________________________
ติดตามและอ่านต่อได้ที่เพจ tran นิยายแปลไทย