บทที่ 41 : โดนกระเเสสังคมโจมตี!
บทที่ 41 : โดนกระเเสสังคมโจมตี!
บนเวที ดอกบัวเพลิงขนาดมหึมาลอยเด่นอยู่กลางอากาศ
กลีบดอกบัวเป็นสีดำ ใจกลางดอกบัวยังคงมีเงาดำหลงเหลืออยู่เล็กน้อย
"ดอกบัวเพลิงนรก!"
"ท่านผู้ชมทุกท่าน, ที่ท่านเห็นอยู่นี้ไม่ใช่ภาพลวงตา!"
"ทักษะนี้ มีเพียงสัตว์อสูรธาตุไฟระดับสมบูรณ์เท่านั้นที่สามารถเรียนรู้ได้!"
หยางซู่ตะโกนก้องจากบนเวทีผู้บรรยาย
บนจอภาพขนาดใหญ่ ฉายภาพโคลสอัพของหมาป่าวายุนรก
"เหลือเชื่อจริงๆ เซียวซิงหยูช่างเป็นปรมาจารย์อสูรที่มีพรสวรรค์เหนือคำบรรยาย!" หยางซู่พึมพำด้วยความรู้สึกทึ่งอย่างถึงที่สุด
……
ที่นั่งผู้ชม
เหล่าอาจารย์และนักเรียนต่างเบิกตากว้าง เเละส่งเสียงอุทานดังไม่ขาดสาย
"หมาป่าวายุนรกเป็นแค่สัตว์อสูรระดับเริ่มต้น…อย่างไรก็ตามมันไม่เพียงแต่จะปลุกพลังธาตุได้ถึงสามธาตุเท่านั้น, แต่ยังสามารถเรียนรู้ทักษะขั้นสูงได้อีก?"
"ก่อนหน้านี้ก็กรงเล็บเงียบงัน แล้วตอนนี้ก็ดอกบัวเพลิงนรก"
"ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป, เซียวซิงหยูอาจจะแซงหน้าเย่ซวงหนิง เเล้วกลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของวิทยาลัยชิงหลงก็ได้!" นักเรียนคนหนึ่งในห้อง 3 เอ่ยถามขึ้น
"อาจารย์เฉิน, ตกลงว่าระหว่างสัตว์อสูรกับปรมาจารย์อสูร…ใครกันแน่ที่สำคัญกว่า?"
คำถามนี้เป็นคำถามที่นักเรียนทุกคนในห้องอยากรู้
เฉินฉีเหนียนครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างเป็นกลาง
"พรสวรรค์ของสัตว์อสูร เป็นตัวกำหนดขีดจำกัดความแข็งแกร่งขั้นต่ำ"
"ส่วนพรสวรรค์ของปรมาจารย์อสูร เป็นตัวกำหนดขีดจำกัดความแข็งแกร่งขั้นสูงสุด"
"ฉันจะยกตัวอย่างบุคคลสำคัญคนหนึ่ง, มีใครรู้จักท่านฉีเยี่ยนบ้าง?"
อู๋เซิงโหย่ว ผู้ได้ฉายาว่า "สารานุกรมเคลื่อนที่แห่งห้อง 3"...ได้ตอบขึ้นมาทันที
"อาจารย์เฉิน, ผมรู้จักครับ เขาคือปรมาจารย์อสูรระดับสิบดาวที่เคยเข้าร่วมสงครามสังหารมังกร และยังเป็นอดีตพลเรือเอกอีกด้วย!"
เฉินฉีเหนียนพยักหน้ายิ้มๆ ใบหน้าของเขาฉายแววของความทรงจำ
"ใช่แล้ว, พลเรือเอกฉีเป็นหนึ่งในปรมาจารย์อสูรระดับสิบดาวที่หาได้ยากยิ่งในประวัติศาสตร์"
"สัตว์อสูรของเขามีสายเลือดระดับมหากาพย์"
"ตามหลักแล้ว, สัตว์อสูรที่มีสายเลือดระดับนี้ ไม่น่าจะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของระดับราชาได้"
"แต่พลเรือเอกฉีทำได้"
"นี่แหละคือความแข็งแกร่งของปรมาจารย์อสูร ที่สามารถช่วยให้สัตว์อสูรก้าวข้ามขีดจำกัดของพรสวรรค์ทางสายเลือดได้"
ทันใดนั้น นักเรียนคนหนึ่งก็ถามด้วยความอยากรู้
"อาจารย์เฉิน, ในอนาคตเซียวซิงหยูจะแข็งแกร่งเท่าพลเรือเอกฉีได้มั้ยครับ?"
"อันนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" เฉินฉีเหนียนส่ายหน้ายิ้มๆ
จากนั้น เฉินฉีเหนียนก็หันกลับไปมองเด็กหนุ่มบนเวทีอีกครั้ง
ณ เวลานี้ ร่างของเซียวซิงหยูดูเล็กจิ๋วเมื่อเทียบกับดอกบัวเพลิงนรกขนาดมหึมา แต่กำลังเปล่งประกายเจิดจรัสจนไม่อาจละสายตาได้
"บางที, ขีดจำกัดของเขา, อาจจะเหนือกว่าคุณฉีก็ได้..."
บนเวที เซียวซิงหยูขมวดคิ้ว…จากนั้นก็ตะโกนเสียงดังทันที
"โจมตี!"
ดอกบัวเพลิงนรกพุ่งเข้าชนร่างของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บราวกับภูเขาถล่มทับ
ตูมมมม!!!
แรงระเบิดทำเอากระจกอาคารเรียนแตกกระจาย คลื่นพลังเพลิงที่รุนแรงพัดจนพื้นสนามพลิกคว่ำตลบ
เเละเมื่อดอกบัวเพลิงนรกระเบิดออก มันก็ได้ก่อให้เกิดกลุ่มควันรูปเห็ดขนาดใหญ่
เเละเมื่อควันจางหายไป
เวทีประลองได้ถูกแรงระเบิดทำลายราบเป็นหน้ากลอง เเถมยังมีเปลวเพลิงสีดำลุกไหม้ไปทั่วพื้น
เซียวซิงหยูยืนตระหง่านอยู่กลางทะเลเพลิง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูสงบนิ่งราวกับรอบๆตัวคือสถานการณ์ปกติธรรมดา
อย่างไรก็ตาม, คนทั้งสนามกลับเงียบสงัด
ส่วนเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น…ผิวหนังของมันไหม้เกรียม พร้อมนอนตาเหลือกมองฟ้า
ส่วนเจ้าของอย่างหวังเยี่ยนคุกเข่าหน้าซีด ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวอยู่ที่มุมเวที
ทันใดนั้น, เสียงกรรมการก็ดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบ
"ผู้ชนะ…เซียวซิงหยู"
ทันทีที่มีการประกาศผลการแข่งขัน เสียงเชียร์ก็ดังกระหึ่มราวกับคลื่นทะเล
"เซียวซิงหยูชนะแล้ว!"
"หมอนี่มันปีศาจชัดๆ!"
"ตอนที่เซียวซิงหยูมองหวังเยี่ยนเมื่อกี้นะ น่ากลัวสุดๆ!"
"ดอกบัวเพลิงนรก, ทักษะนี้น่าสะพรึงกลัวมากจริงๆ!"
…….
เเต่ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้น, ผู้บรรยายหยางซู่ก็ตะโกนขึ้นมาทันที
"ทุกท่าน, ดูเครื่องตรวจสอบระดับสัตว์อสูรเร็ว!"
บนหน้าจอของเครื่องตรวจสอบระดับสัตว์อสูร ข้อมูลของหมาป่าวายุนรกได้รับการอัปเดตเเล้ว
เเละข้อมูลที่สะดุดตาที่สุด, คือระดับของสัตว์อสูรตัวนี้!
"เหลือเชื่อ, เหลือเชื่อจริงๆ!"
"เซียวซิงหยูได้สร้างสถิติใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนเเล้ว!"
"นับตั้งแต่วิทยาลัยชิงหลงจัดการแข่งขันจัดอันดับนักเรียนใหม่ขึ้นมา…นี่เป็นครั้งแรกที่มีสัตว์อสูรเลื่อนขั้นถึงสองระดับในระหว่างการแข่งขัน!"
ทางด้านคณะกรรมการ, เฉินฉีเหนียนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ
"ดูเหมือนว่าฉันจะเดาถูก, ไอ้เด็กนี่จงใจกดระดับของหมาป่าวายุนรกเอาไว้, แล้วใช้การแข่งขันครั้งนี้เป็นบันไดให้มันเลื่อนขั้น"
ก่อนหน้านี้ หมาป่าวายุนรกได้ติดตามเซียวซิงหยูไปฝึกฝนที่ภูเขาหยินหนาน และได้ล่าสัตว์อสูรไปถึง 110 ตัว
ต่อมา มันก็ได้เผชิญหน้ากับราชสีห์เพลิงลาวา และเกือบเอาชีวิตไม่รอด
หลังจากผ่านประสบการณ์เฉียดตายมา หมาป่าวายุนรกจึงพร้อมที่จะเลื่อนขั้นอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม, เซียวซิงหยูจงใจกดระดับของมันเอาไว้เพื่อรอโอกาสที่เหมาะสม
…
บนเวทีกรรมการ
อาจารย์ใหญ่หลินชางเบิกตากว้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"ท่านอธิการบดี, เซียวซิงหยูนี่ไม่ธรรมดาจริงๆนะครับ!"
"สัตว์อสูรของเขา เลื่อนขั้นถึงสองระดับในระหว่างการแข่งขัน, เรื่องนี้มันสร้างประวัติศาสตร์เลยนะ!"
ซูหรูหยานยิ้มเล็กน้อยเเล้วตอบว่า
"อาจารย์หลิน, ตอนแรกคุณดูถูกเซียวซิงหยูไม่ใช่เหรอ?"
"ตอนนั้นผมคิดว่า เด็กที่เติบโตมาจากเมืองเล็กๆไม่มีฐานะ ไม่มีเส้นสาย…ในวงการปรมาจารย์อสูรคงไปได้ไม่ไกลหรอก”
“ใครจะไปคิด…ว่าผมจะมองคนผิดขนาดนี้~”
หลินชางจำต้องยอมรับว่าตัวเองมองคนผิด จนพลาดโอกาสที่จะเจียระไนเพชรเม็ดงามอย่างเซียวซิงหยู
ในขณะนั้น หวังตงเซิงซึ่งนั่งอยู่บนเวทีกรรมการด้วยกันก็เผลอเผยสีหน้าบึ้งตึงถึงขีดสุด
การได้ยินท่านอธิการบดีและอาจารย์ใหญ่ชมเซียวซิงหยูไม่หยุดปาก…สิ่งนี้มันทำให้หวังตงเซิงไม่พอใจอย่างมาก
"ไอ้ลูกไม่เอาไหน..."
หวังตงเซิงกุ่มด่าขณะที่มองหวังเยี่ยนที่นั่งหมดสภาพอยู่บนซากเวทีด้วยความผิดหวัง
…..
บนเวที
"ฟื้นสิ, ฟื้น!"
"ช่วยด้วย, สัตว์อสูรของผมกระอักเลือด, ใครก็ได้ช่วยด้วย!"
หวังเยี่ยนเริ่มร้องเสียงหลง เมื่อเห็นเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บกระอักเลือดสีดำออกมา
ทันใดนั้น แพทย์อสูรหลายคนก็รีบพุ่งเข้ามาทำการรักษาเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ
ส่วนหยางซู่ยังคงบรรยายต่อ
"เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นครับ”
“เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติ, เเละตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการปฐมพยาบาลเบื้องต้น”
"การแข่งขันจะหยุดพักชั่วคราว"
"ระหว่างนี้, เรามาย้อนชมการต่อสู้สุดมันกันอีกครั้ง!"
"เชิญรับชมวีดีโอย้อนหลังได้เลยครับ!"
บนจอภาพขนาดใหญ่ เริ่มฉายภาพการต่อสู้ระหว่างเซียวซิงหยูและหวังเยี่ยนตั้งแต่ต้นจนจบ
เมื่อผู้ชมได้เห็นภาพสโลว์โมชั่นของดอกบัวเพลิงนรก, พวกเขาต่างก็พากันอุทานด้วยความตื่นตะลึง
ตอนนี้ทุกคนต่างจดจ่ออยู่กับจอภาพ โดยไม่มีใครสนใจหวังเยี่ยนเลย
เเต่ทันใดนั้นเอง หวังเยี่ยนก็ร้องไห้โฮ เเล้ววิ่งไปหาเซียวซิงหยู พลางตะโกนใส่หน้าอีกฝ่าย
"เซียวซิงหยู, แกฆ่าสัตว์อสูรของฉัน, ฉันจะเอาชีวิตแกมาชดใช้!"
คำพูดนี้ทำให้ทั้งสนามตกอยู่ในความโกลาหล
"เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บตายแล้วเหรอ?"
"ดูเหมือนจะตายจริงๆ ด้วยนะ, ตัวแข็งทื่อไปหมดแล้ว"
"เมื่อกี้ยังกระตุกอยู่เลย, ตอนนี้ไม่ขยับแล้ว..."
"แพทย์อสูรวินิจฉัยแล้ว, ยืนยันว่าเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บเสียชีวิตแล้ว!"
"โอ้โห, หวังเยี่ยนก็สร้างประวัติศาสตร์เหมือนกันนะเนี่ย!"
วันนี้, หวังเยี่ยนได้สร้างประวัติศาสตร์อันน่าอับอาย
เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บเป็นสัตว์อสูรตัวแรกที่ตายในระหว่างการแข่งขันจัดอันดับนักเรียนใหม่
การที่สัตว์อสูรตายต่อหน้าธารกำนัล นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
บ่อยครั้งที่มันจะกลายเป็นประเด็นร้อนแรงทันที
"ดอกบัวเพลิงนรกมันรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"แค่ท่าเดียว, สามารถฆ่าเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บได้ในทันทีเชียวหรือ"
"เซียวซิงหยู…เขาโหดร้ายไปหน่อยรึเปล่า"
"มิตรภาพสำคัญกว่าการแข่งขัน, เซียวซิงหยูทำเกินไปแล้ว!"
ณ เวลานี้...เซียวซิงหยูกำลังถูกกระแสสังคมโจมตี
เเน่นอนว่า หวังตงเซิงย่อมไม่พลาดโอกาสเเบบนี้
"ท่านอธิการบดี, เซียวซิงหยูจงใจฆ่าสัตว์อสูรของหวังเยี่ยน!"
"เขาไม่เคารพกฎการแข่งขัน, เเละทำการฆ่าเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ"
"เด็กคนนี้ใจคอโหดเหี้ยม ละเมิดกฎระเบียบ ไม่เห็นมิตรภาพระหว่างเพื่อนร่วมชั้นอยู่ในสายตา…ผมคิดว่าเราควรไล่เขาออก!"
หวังตงเซิงเป็นรองอธิการบดี เมื่อเขาพูดแบบนี้ ก็ย่อมได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการคนอื่นๆ
"ท่านอธิการบดี, รองอธิการบดีหวังพูดถูก!"
"เซียวซิงหยูถึงจะเป็นอัจฉริยะ แต่ใจคอโหดร้ายมากเกินไป!"
"เด็กคนนี้, ผมรับไม่ได้!"
"ต้องไล่ออกสถานเดียว!"
เมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากคณะกรรมการ ซูหรูหยานก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย
"ใจเย็นๆก่อน, เรื่องนี้อาจจะมีเบื้องหลังอะไรมากกว่าที่เห็นก็ได้"
……
ณ เวลานี้บนเวที
เซียวซิงหยูไม่สนใจหวังเยี่ยนที่กำลังคลุ้มคลั่ง…เขาหันไปหาแพทย์อสูรเเล้วเอ่ยถามทันที
"คุณหมอ, สาเหตุการตายของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บคืออะไรครับ?"
"อวัยวะภายในเสียหายอย่างหนัก, น่าจะเกิดจากดอกบัวเพลิงนรก..."
"ดอกบัวเพลิงนรกของเฮยเฟิงจะสร้างความเสียหายให้กับวิญญาณของศัตรู, ไม่ได้ทำให้อวัยวะภายในเสียหายนะครับ"
"ยิ่งไปกว่านั้น, อาการอวัยวะภายในเสียหายมักจะเกิดจากพิษ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ คุณหมอก็พยักหน้าเห็นด้วย
"งั้นคุณหมอลองตรวจสอบอวัยวะภายในใหม่อีกครั้งก็ดีนะครับ" เซียวซิงหยูยิ้มอย่างมีเลศนัย
จากนั้น, เหล่าแพทย์อสูรก็กลับไปตรวจสอบซากของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บอีกครั้ง
เเละครั้งนี้ พวกเขาใช้เครื่องมือที่สามารถตรวจสอบเลือดได้อย่างละเอียด
ความวุ่นวายดำเนินไปประมาณสิบนาที
"เรียนท่านอธิการบดี, พวกเราหาสาเหตุการตายของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บเจอแล้วครับ..."
"บอกมา!"
"เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ ตายเพราะกินยาคลั่งครับ"
ทันทีที่แพทย์อสูรประกาศสาเหตุการตายของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ ทุกคนต่างก็ตกตะลึงอย่างมาก
"ยาคลั่ง?"
"บ้าเอ๊ย, นั่นมันยาต้องห้ามในการแข่งขันไม่ใช่เหรอ?"
"หวังเยี่ยนนี่มันเลวจริงๆ, ไม่พูดถึงเรื่องละเมิดกฎ, ผลข้างเคียงของยาคลั่งมันสร้างความเสียหายถาวรให้กับสัตว์อสูรเลยนะ!"
"มันไม่มีหัวใจ!"
เมื่อเรื่องแดงขึ้นมา หวังเยี่ยนก็กลายเป็นเป้าโจมตีของทุกคนทันที
ตอนนี้เขาได้เเต่ยืนหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว
"พวกแกมันหมอเถื่อน, กล้าใส่ร้ายป้ายสีฉันได้ยังไง!"
"ฉันไม่ได้ให้เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บกินยาคลั่งซักหน่อย!"
อย่างไรก็ตาม, เหล่าแพทย์อสูรไม่สนใจหวังเยี่ยน
พวกเขาได้นำผลการตรวจสอบไปมอบให้ซูหรูหยาน
"ท่านอธิการบดี, นี่คือผลการตรวจสอบครับ"
"พวกเราสามารถยืนยันได้ว่าเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บกินยาคลั่งระหว่างการแข่งขัน"
"หลังจากกินยาตัวนี้ สัตว์อสูรจะเข้าสู่โหมดคลั่ง, ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้น, แต่ก็จะโดนผลข้างเคียงเล่นงานด้วย"
เมื่อความจริงปรากฏ
ทุกคนจึงได้รู้ว่า ดอกบัวเพลิงนรกไม่ได้ฆ่าเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ
สาเหตุการตายที่แท้จริง คืออวัยวะภายในเสียหายจากการกินยาคลั่งต่างหาก
"หวังเยี่ยน, หลักฐานชัดขนาดนี้, ยังจะโกหกอีกเหรอ?"
ซูหรูหยานตวาดเสียงดังจนหวังเยี่ยนได้เเต่ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว
หวังเยี่ยนมองหวังตงเซิง เหมือนมองที่พึ่งสุดท้าย
"พ่อ, ผม..."
หวังตงเซิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่โดนซูหรูหยานขัดขึ้นมาก่อน
"รองอธิการบดีหวัง, ตัวตนของคุณคือรองอธิการบดีของวิทยาลัยชิงหลงด้วยนะ…อย่าลืมซะล่ะ"
"ท่านอธิการบดี, ให้โอกาสลูกชายผมอีกซักครั้ง..."
"ถ้าคุณยังลำเอียง, ก็เขียนใบลาออกแล้วส่งมาที่ห้องทำงานของฉันได้เลย"
ซูหรูหยานพูดด้วยสีหน้าเย็นชา เเละไม่สนใจหวังตงเซิงอีก
ด้วยแรงกดดันจากสังคมและสถานการณ์ หวังตงเซิงจึงตัดสินใจโยนบาปทันที
"นักเรียนหวังเยี่ยน, เนื่องจากบังคับให้สัตว์อสูรของตัวเองกินยาต้องห้าม"
"เธอไม่เพียงแต่ละเมิดกฎของวิทยาลัย, แต่ยังเป็นสาเหตุทางอ้อมที่ทำให้สัตว์อสูรเสียชีวิต"
"ตามกฎต้องให้ออกไปเลย!"
หวังเยี่ยนเบิกตาโพลง ไม่คิดว่าพ่อของตัวเองจะพูดแบบนี้
"พ่อ, ทำไมมาไล่ผมออกเเบบนี้?"
"หุบปาก ใครก็ได้…มาเอาตัวคนสารเลวนี่ออกไปจากวิทยาลัยเดี๋ยวนี้!" หวังตงเซิงตวาดลั่น
หลังจากนั้น หวังเยี่ยนก็ถูกชายฉกรรจ์หลายคนลากออกไปจากวิทยาลัยเหมือนหมาวัดตัวหนึ่ง
………………..