บทที่ 346 เรือพนัน
บทที่ 346 เรือพนัน
เรือสำราญสุดหรูจอดเทียบท่าที่อ่าวหว่านไจ๋
หลี่เอ้อร์และไป่อันหนีขึ้นเรือมาแต่เช้า โดยมีถงเข่อเหริน คุณหนูใหญ่แห่งกลุ่มตระกูลถงติดสอยห้อยตามมาด้วย
วันนี้คือวันจัดเดิมพันเปิดระหว่างเฉินจินเฉิง เจ้าพ่อวงการพนัน และเกาจิ้น เซียนพนันชื่อดัง นอกจากนี้ ยังมีแผนล้างแค้นของยามาโมโตะ โคอิจิ ประธานกลุ่มแบล็คไทเกอร์จากญี่ปุ่น ซึ่งทำให้การเดิมพันครั้งนี้กลายเป็นที่จับตามองจากทุกฝ่าย
แขกที่มาร่วมชมเดิมพันในวันนี้ล้วนเป็นข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจชื่อดัง
“อาจารย์ นั่นเหมือนจะเป็นเฉาต้าฮว๋า” ไป่อันหนีชี้ให้หลี่เอ้อร์ดูชายร่างอ้วนที่กำลังขึ้นเรือ
หลี่เอ้อร์และถงเข่อเหรินที่พิงราวเรืออยู่มองลงไปข้างล่าง พบว่าชายคนนั้นคือเฉาต้าฮว๋าจริง ๆ นอกจากนี้ หลี่เอ้อร์ยังเห็นตำรวจในเครื่องแบบจากสถานีตำรวจหว่านไจ๋ รวมถึงฟางเจี๋ยเซี่ย
ฟางเจี๋ยเซี่ยรู้สึกว่ามีคนกำลังมองเธออยู่ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองเรือ
‘หลี่เอ้อร์?’
ฟางเจี๋ยเซี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยกมือปิดหน้าอกตัวเอง
หลี่เอ้อร์: "..."
‘ไม่มีหน้าอกแล้วยังจะปิดอะไรอีก?’
ตั้งแต่หลี่เอ้อร์เริ่มคบกับเหอหมิ่น เขาก็มองหน้าอกของผู้หญิงคนอื่นด้วยความรู้สึกเฉย ๆ
“ช่างเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกนั้น ตำรวจหว่านไจ๋คงมาเพื่อคุ้มครองพวกผู้มีอิทธิพลบนเรือนี่แหละ” หลี่เอ้อร์พูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ
ความคิดของเขาถูกต้อง เพราะเรือสำราญลำนี้ออกจากพื้นที่ดูแลของสถานีตำรวจหว่านไจ๋ และเย่เต๋อเซียนกังวลว่าแขกผู้มีเกียรติบนเรือจะเกิดอันตราย จึงส่งตำรวจจากแผนกคดีอุกฉกรรจ์มาตรวจสอบ
“สารวัตรเฉา คนข้างบนคือหลี่เอ้อร์ค่ะ” ฟางเจี๋ยเซี่ยรีบรายงานเฉาต้าฮว๋า
“หลี่เอ้อร์?” สีหน้าของเฉาต้าฮว๋าเปลี่ยนไปทันที “หลี่เอ้อร์ปรากฏตัวบนเรือพนันนี่ คงไม่มีคดีใหญ่อะไรเกิดขึ้นหรอกนะ?”
แท้จริงแล้ว เฉาต้าฮว๋าอาสามาทำหน้าที่บนเรือเพื่อหวังประโยชน์ส่วนตัว เขาได้เดิมพัน 200,000 ดอลลาร์ฮ่องกงว่าเฉินจินเฉิงจะชนะ และต้องการเห็นชัยชนะนั้นด้วยตาตัวเอง
ไม่นานหลังเฉาต้าฮว๋าขึ้นเรือ หลี่เอ้อร์และไป่อันหนีก็เห็นเกาอี้และอาหนานถูกเข็นขึ้นเรือในสภาพนั่งรถเข็น
โจวซิงซิงปฏิบัติภารกิจของหลี่เอ้อร์อย่างเต็มที่จนสามารถทำให้เกาอี้และอาหนานบาดเจ็บหนักถึงขั้นต้องนั่งรถเข็น แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองคนก็ยังมีใจที่จะขึ้นเรือเพื่อร่วมเดิมพัน
ในห้องเล็กบนเรือสำราญ
“คุณเกา ผมจัดการตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว” หลงห้ารายงานกับเกาจิ้น พร้อมเหลือบมองไปยังยามาโมโตะ โคอิจิ ผู้เป็นเจ้านายของเขา
“ดีมาก! หลงห้า สิ่งที่คุณรับผิดชอบสำคัญมาก ห้ามมีพลาด” เกาจิ้นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เข้าใจแล้ว!” หลงห้าตอบด้วยความมั่นใจ
“อาจารย์ครับ ผมเห็นหลี่เอ้อร์อยู่บนดาดฟ้า แต่หมอนั่นไม่ได้พาคนของเขามาเลย กลับพาสาวสวยมาสองคน” เฉินเสี่ยวเต๋ารายงานด้วยความสงสัย
เกาจิ้นหัวเราะเบา ๆ “ไม่ต้องห่วง การร่วมมือระหว่างผมกับหลี่เอ้อร์เป็นแบบวิน-วิน เขาไม่มีทางปล่อยโอกาสที่จะจับเฉินจินเฉิงพร้อมหลักฐานหนีไปได้”
เฉินเสี่ยวเต๋ามองเกาจิ้นด้วยความงุนงง เขาไม่เข้าใจว่าเกาจิ้นเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเฉินจินเฉิงจะก่อเหตุฆาตกรรมต่อหน้าธารกำนัล
เรือสำราญเริ่มออกเดินทาง
“สารวัตรหลี่ วันนี้คุณมาทำคดีหรือเปล่า?” ฟางเจี๋ยเซี่ยถามตรงไปตรงมา
หลี่เอ้อร์หันไปมองเธออย่างเย็นชา ถึงแม้ว่าเขาจะเคยชอบหลี่ซินเอ๋อ แต่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับฟางเจี๋ยเซี่ยที่มีหน้าตาคล้ายกัน
“ถ้ามีปัญหาอะไร ก็ให้หัวหน้าของพวกคุณมาหาผมเอง คุณยังไม่คู่ควร” หลี่เอ้อร์ตอบอย่างไม่ใยดี
ฟางเจี๋ยเซี่ย: "..."
หลังฟางเจี๋ยเซี่ยเดินจากไป ถงเข่อเหรินทนไม่ไหว จึงพูดว่า “หลี่เอ้อร์ คุณไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย”
“งั้นผมควรเลียแข้งเลียขาเธอหรือไง?” หลี่เอ้อร์ตอบด้วยน้ำเสียงประชด
“คุณนี่มัน!” ถงเข่อเหรินพูดอย่างหงุดหงิด “ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อย!”
ไป่อันหนีมองไปรอบ ๆ ก่อนพูดขึ้น “อาจารย์คะ ดูเหมือนเรากำลังถูกจับตามองอยู่”
“หา? ที่ไหน? หรือวันนี้จะมีอันตรายจริง ๆ?” ถงเข่อเหรินพูดพร้อมมองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นกลัว
หลี่เอ้อร์และไป่อันหนีได้แต่ถอนหายใจ “ช่างเถอะ ในเมื่อพวกเขาอยากจับตามอง ก็ปล่อยให้จับไป เราไปกินอะไรกันก่อนดีกว่า ยังไงการแข่งก็ยังไม่เริ่มจนกว่าเรือจะออกสู่ทะเลหลวง”
“โอเค ฉันตามคุณ” ถงเข่อเหรินรีบเดินตามหลี่เอ้อร์ไปอย่างไม่ลังเล
“เฮ้ เฮ้ เฮ้! คุณหนูถง อย่ามัวแต่กอดแขนอาจารย์ของฉันสิ!” ไป่อันหนีมองถงเข่อเหรินที่กอดแขนหลี่เอ้อร์ด้วยความสนิทสนมจนทนไม่ไหว
“ฉันอยู่ตรงนี้ คุณไม่เห็นหรือยังไง?”
“หลี่เอ้อร์เป็นอาจารย์ของเธอ ไม่ใช่สามีเธอสักหน่อย!” ถงเข่อเหรินพูดตรงจนไป่อันหนีแทบระเบิดด้วยความโมโห
ไป่อันหนีกำลังจะโต้กลับ แต่หลี่เอ้อร์รีบคว้ามือทั้งสองคนไว้ ข้างหนึ่งจับมือถงเข่อเหริน อีกข้างจับมือไป่อันหนี
“เอาล่ะ แบบนี้ก็ดีทั้งสองฝ่ายเลย” หลี่เอ้อร์พูดพลางยิ้มหน้าระรื่น
พวกชายในชุดดำที่คอยจับตามองหลี่เอ้อร์รู้สึกทั้งอิจฉาและหมั่นไส้ หลี่เอ้อร์ที่พาผู้หญิงสวยสองคนขึ้นเรือ โดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจเงินหรืออิทธิพล นับว่าเป็นภาพที่หาได้ยาก
ในอีกมุมหนึ่งของเรือพนัน
“เฉินเซ่อ หลี่เอ้อร์ขึ้นเรือแล้วครับ เราได้ส่งคนไปจับตามองตามที่คุณสั่งไว้” หนึ่งในลูกน้องของเฉินจินเฉิงรายงาน
“แต่ที่แปลกคือ เขาพาผู้หญิงสวยสองคนมา แต่ไม่ได้พาลูกทีมของเขามาด้วย”
“อย่างนั้นเหรอ?” เฉินจินเฉิงหัวเราะอย่างสบายใจ สำหรับหลี่เอ้อร์ที่ทั้งมีฝีมือและร่ำรวย การมีนิสัยเจ้าชู้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
เขาเพียงแต่ไม่รู้ว่า ถึงแม้หลี่เอ้อร์จะมีร่างกายที่แข็งแรง แต่ในด้านความสัมพันธ์นั้นกลับเป็นคนธรรมดา
ขณะที่เฉินจินเฉิงกำลังผ่อนคลาย เกาอี้และอาหนานก็ถูกเข็นเข้ามาในสภาพเหมือนมัมมี่
เมื่อเห็นสภาพอันย่ำแย่ของทั้งสอง เฉินจินเฉิงถึงกับอ้าปากค้าง
“ใครเป็นคนทำ?”
เกาอี้และอาหนานมองหน้ากัน ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง “ไม่รู้ครับ”
“ไม่รู้?” เฉินจินเฉิงมองทั้งสองด้วยความตกตะลึง
“ไม่ต้องพูดมาก เรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของหลี่เอ้อร์แน่ ๆ!” เฉินจินเฉิงกล่าวด้วยความโกรธ เขาไม่ต้องการหลักฐานมากมาย เพียงแค่ดูว่าใครมีฝีมือมากพอก็พอจะเดาได้
“เฉินเซ่อ ต้องการให้เราจัดการอะไรไหมครับ?” ลูกน้องคนหนึ่งถาม พร้อมทำท่าปาดคอ
เฉินจินเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัว “ช่างเถอะ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ใหญ่กว่าดีกว่า วันนี้เป้าหมายหลักคือเอาชนะเกาจิ้น เรื่องอื่นเป็นเรื่องเล็กน้อย”
“วันนี้คนที่ขึ้นเรือล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียง เราจะลงมือทำอะไรรุนแรงไม่ได้”
แต่เฉินจินเฉิงคิดผิด หลี่เอ้อร์อาจไม่มีความสามารถมากในการสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ แต่เมื่อพูดถึงการก่อกวนหรือทำลาย หลี่เอ้อร์ถือเป็นมือหนึ่งในวงการ