ตอนที่แล้วบทที่ 102 สามพี่น้องเข้าสู่เกม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 104 มุ่งหน้าสู่แผนที่ลับ

บทที่ 103 ผู้นำครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์


บทที่ 103 ผู้นำครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์

“ว่าไง?” ลู่หยางถามหลังจากกดรับสาย

“อาจารย์ พวกเรารวบรวมไพลินได้ครบ 7 เม็ดแล้ว” ชิงเฟิงตอบ

“เร็วมาก!” ลู่หยางอุทาน เพราะตอนแรกเขาคิดว่ามันจำเป็นจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วันพวกฉือมู่จึงจะรวบรวมอัญมณีพวกนั้นได้ครบ

“กิลด์ของเราทุ่มเทอย่างสุดกำลังเพื่อรวบรวมอัญมณีให้กับคุณ หัวหน้าบอกว่าของที่คุณต้องการพวกเราต้องหาให้ได้โดยเร็วที่สุด” ชิงเฟิงกล่าว

ลู่หยางรู้ดีว่าคำพูดของชิงเฟิงอาจจะเกินเลยไปบ้าง แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉือมู่กำลังพยายามทำตามคำขอของเขาอย่างเต็มที่จริง ๆ

ในเกมมีอัญมณีอยู่มากกว่า 10 ชนิดและถึงแม้พวกเขาจะเคลียร์ดันเจียนได้สำเร็จ แต่มันก็ไม่มีอะไรการันตีว่าพวกเขาจะได้รับไพลินมาเป็นสิ่งตอบแทน การที่พวกฉือมู่สามารถหาไพลินมาได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ มันก็หมายความว่าอีกฝ่ายจะต้องระดมคนเป็นจำนวนมากไปลงดันเจียนเพื่อทำการเก็บเสี้ยวอัญมณีเหล่านี้มา

“ฝากขอบคุณคุณฉือมู่แทนผมด้วย” ลู่หยางตอบ

ชิงเฟิงอยากจะลองชวนลู่หยางเข้าร่วมกิลด์อีก แต่เขาก็พอจะคาดเดาคำตอบของอีกฝ่ายได้เขาจึงเปลี่ยนเรื่องถามออกมาว่า

“ตอนนี้คุณอยู่ไหน? ผมกำลังอยู่ในดันเจียน เอาเป็นว่าผมจะส่งคนเอาอัญมณีไปให้กับคุณ”

“ฉันอยู่หน้าธนาคาร” ลู่หยางกล่าว

“โอเค ผมขอเวลา 2 นาที” ชิงเฟิงกล่าวก่อนจะรีบสั่งให้ลูกน้องนำอัญมณีจากคลังไปให้ลู่หยางในทันที

ไพลิน

เลเวล 0

สติปัญญา +6

ลู่หยางทำการเก็บอัญมณีทั้งแปดเม็ดไว้ในคลัง เพราะเขาจำเป็นจะต้องตีบวกอุปกรณ์ก่อนถึงจะสามารถฝังอัญมณีลงไปในอุปกรณ์ได้

อย่างไรก็ตามสถานที่ที่เขากำลังจะไปมันก็ค่อนข้างพิเศษและมันก็จำเป็นจะต้องใช้ตัวแทงค์เพื่อรับความเสียหาย ชายหนุ่มจึงทำการติดต่อไปหาเสี่ยวเหลียง

“ว่าไงครับลูกพี่” เสี่ยวเหลียงถามอย่างดีใจ

“นายตีมอนไปถึงไหนแล้ว?” ลู่หยางถาม

“ผมกำลังจะบอกพี่เรื่องนี้พอดีเลย วันนี้ผมไปเจอฮาล์ฟออร์คที่ตัวใหญ่กว่าฮาล์ฟออร์คปกติ บนตัวมันสวมใส่ชุดเกราะเหล็กอยู่เต็มตัว มันคือตัวอะไรงั้นเหรอครับ?” เสี่ยวเหลียงถามพร้อมกับส่งรูปไปให้ลู่หยาง

ลู่หยางเปิดรูปดูพร้อมกับเปิดปากกว้างด้วยความตกใจ

“นี่นายยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมเนี่ย?! มอนสเตอร์ตัวนั้นคือหัวหน้าฮาล์ฟออร์ค มันสามารถใช้สกิลขว้างขวานทะลุหินที่เป็นจุดบัคได้”

“เมื่อกี้ผมเพิ่งโดนมันไล่ออกมาจากจุดบัค โชคดีที่ตอนมันโจมตีมันใช้แรงมากเกินไป ขวานของมันเลยกระแทกเข้ากับกำแพงถ้ำทำให้หินถล่มลงมาปิดทางเข้า ตอนนี้ผมเลยกำลังรมพิษมันผ่านทางซอกหิน” เสี่ยวเหลียงพูดอย่างเซ็ง ๆ

ลู่หยางอดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เพราะเขาไม่คิดว่าเสี่ยวเหลียงจะโชคดีขนาดนี้ เพราะโดยปกติเมื่อมอนสเตอร์ระดับอีลิทเกิดขึ้นมา พวกมันมักจะถล่มถ้ำเป็นอันดับแรกทำให้ผู้เล่นไม่สามารถหนีออกไปจากถ้ำและถูกบังคับให้ต้องสู้กับมอนสเตอร์อย่างไม่มีทางเลือก

อย่างไรก็ตามเสี่ยวเหลียงก็โชคดีสามารถวิ่งออกมานอกห้องโถงของตัวถ้ำได้ก่อนทำให้เด็กหนุ่มสามารถโจมตีผ่านกำแพงได้อย่างสบาย ๆ และบอสก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงกว่าที่มันจะสามารถทำลายหินที่มันเป็นคนสร้างขึ้นมา

“ว่าแต่ลูกพี่ติดต่อผมมาทำไมเหรอครับ?” เสี่ยวเหลียงถาม

“นายจัดการกับมอนไปก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกันหลังจากที่นายสู้กับมันเสร็จ” ลู่หยางกล่าว

“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะเปิดไลฟ์ให้ลูกพี่ดูนะ”

ไม่นานภาพของเสี่ยวเหลียงก็ปรากฏหน้าลู่หยาง โดยเด็กหนุ่มกำลังยืนอยู่นอกถ้ำหินที่พังทลาย พร้อมกับทำการปล่อยพิษใส่ผู้นำฮาล์ฟออร์คที่พยายามทุบหินอยู่ด้านในอย่างบ้าคลั่ง

“มันเหลือเลือดเท่าไหร่?” ลู่หยางถาม

“ประมาณแสนหนึ่งครับ” เสี่ยวเหลียงตอบ

“โอเค ประมาณครึ่งชั่วโมงนายฆ่ามันได้แน่นอน” ลู่หยางตอบหลังจากคำนวณภายในใจ

ตอนแรกเสี่ยวเหลียงไม่ค่อยมั่นใจในการเผชิญหน้ากับบอสตัวนี้มากนัก แต่เมื่อเขาได้ยินคำยืนยันจากลู่หยาง เด็กหนุ่มก็จู่โจมบอสต่อไปอย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

30 นาที

20 นาที

10 นาที

ไม่นานเลือดของผู้นำฮาล์ฟออร์คก็เหลือเพียงแค่ 10,000 หน่วย อย่างไรก็ตามหินที่ปิดประตูส่วนใหญ่ก็ถูกกำจัดออกไปแล้ว เสี่ยวเหลียงจึงได้ยินเสียงบอสที่กำลังพังก้อนหินก้อนสุดท้าย

“ลูกพี่เอายังไงดี?” เสี่ยวเหลียงถามอย่างตื่นตระหนก

“ไม่ต้องกลัว นายฆ่ามันตายก่อนแน่นอน” ลู่หยางตอบอย่างใจเย็น

เสี่ยวเหลียงพยายามปล่อยพิษต่อไปอย่างหวาดระแวง ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไป 3 นาทีผู้นำฮาล์ฟออร์คก็สามารถพุ่งทะลุหินผ่านมาได้ แต่ในทันใดนั้นร่างของมันก็ล้มลงไปกับพื้นก่อนที่จะได้โจมตีเข้าใส่เด็กหนุ่ม

“ลูกพี่ ผมทำได้แล้ว!” เสี่ยวเหลียงตะโกนอย่างตื่นเต้น

“รีบไปดูสิว่ามันดรอปอะไรลงมา ตอนนี้นายฆ่าบอสได้เชียวนะ” ลู่หยางกล่าว

“นั่นสิ ผมลืมไปเลย” เสี่ยวเหลียงตบหัวตัวเอง ก่อนที่เขาจะรีบเข้าไปเปิดกล่องสมบัติจากบอส โดยด้านในมีหนังสือสกิลอัญเชิญหมานรกสามหัวของวอลอค 1 เล่มและดาบอีกหนึ่งเล่ม

ดาบทมิฬคืออาวุธระดับเงินเลเวล 10 คุณสมบัติโดยรวมของอาวุธค่อนข้างธรรมดา ซึ่งมันสามารถสร้างความเสียหายได้เพียง 10-30 หน่วย

“ลูกพี่ ผมโคตรโชคร้ายเลย มันดรอปมาให้แต่อาวุธขยะ” เสี่ยวเหลียงพูดอย่างเซ็ง ๆ

“น้องชาย นายเป็นคนที่โชคดีมากต่างหาก หลังจากที่นายอัปเกรดลูกปัดอสรพิษเป็นเลเวล 9 มันจะพัฒนาเป็นลูกปัดทมิฬ อุปกรณ์ชิ้นนี้คืออุปกรณ์เซ็ตเดียวกันกับดาบทมิฬและเกราะทมิฬ หากนายสามารถรวบรวมพวกมันได้ครบเซ็ต ตัวของนายก็แทบจะไร้เทียมทานไปจนถึงเลเวล 30 เลย”

“มันดีขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” เสี่ยวเหลียงถาม

“ใช่สิ ฉันเคยโกหกนายตั้งแต่เมื่อไหร่” ลู่หยางตอบ

“แล้วผมจะอัปเกรดมันยังไง?” เสี่ยวเหลียงถามอีกครั้ง

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจะช่วยนายเอง ตอนนี้นายกลับเมืองมาก่อนเดี๋ยวฉันจะพานายไปเก็บเลเวลที่ใหม่ อีกอย่างฉันจะแนะนำน้อง ๆ ให้รู้จักอีกสามคน พวกเขาเป็นพี่น้องของฉันเอง” ลู่หยางกล่าว

“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะรีบกลับเดี๋ยวนี้เลย” เสี่ยวเหลียงตอบก่อนที่เขาจะเก็บของจากบอสทั้งหมดแล้ววาร์ปกลับเมือง

ลู่หยางดูเวลาและได้พบว่าสามพี่น้องเที่ยวเล่นมาเกือบชั่วโมงแล้ว เขาจึงทำการสร้างแชทกลุ่มพร้อมกับเชิญสามพี่น้องเข้ามาภายในห้อง

“เป็นยังไงบ้าง?” ลู่หยางถาม

“พี่ลู่หยางเกมนี้โคตรสนุกเลย! ผมไม่คิดเลยว่าอาคารในเกมมันจะสร้างได้อย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แต่ว่าเกมนี้มันเก็บเลเวลได้ยากมากเลย ทำไมมันถึงมีคนมาเล่นเกมเยอะจัง พอมอนสเตอร์เกิดก็มีคนมาแย่งมอนสเตอร์กับผมตั้งเจ็ดคน ถึงผมจะเปิดโหมดอิสระแต่ก็ยังแย่งฆ่ามอนสเตอร์ได้ไม่ทันอยู่ดี” ฮั่นเฟยกล่าวโดยมีฮั่นอิ่งกับฮั่นอวี่พยักหน้าอยู่ข้าง ๆ

“พวกสายระยะประชิดยังดี ฉันกับฮั่นอวี่แทบยังไม่ทันได้โจมตีมอนสเตอร์ก็ถูกคนอื่นแย่งไปแล้ว” ฮั่นอิ่งบ่น เพราะเธอกับน้องชายคนสุดท้องต่างก็ล้วนแล้วแต่เลือกเล่นสายอาชีพระยะไกล

ลู่หยางอดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้และเขาพอจะคาดเดาได้ว่าทำไมทั้งสามถึงมีปฏิกิริยาแบบนี้

“พี่ลู่หยางทำไมในเกมมันถึงมีกิลด์มาจองพื้นที่เก็บเลเวลด้วยล่ะ? พอพวกเราจะเข้าไปเก็บเลเวลในพื้นที่ของมัน พวกคนในกิลด์ก็ไล่ฆ่าพวกเราเฉยเลย แบบนี้มันจะรังแกคนอื่นมากจนเกินไปแล้ว” ฮั่นอิ่งพูดอย่างโมโห

“กิลด์ไหน? แล้วพวกเธอโดนพวกมันฆ่าหรือเปล่า?” ลู่หยางถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มตึงเครียด เพราะหากกิลด์ไหนกล้ามารังแกน้อง ๆ ของเขา ชายหนุ่มย่อมไม่มีทางปล่อยคนพวกนั้นไปง่าย ๆ

“ใครมันจะมาฆ่าพวกเราได้ กลับกันพวกผมฆ่าคนพวกนั้นไปได้ตั้งเยอะ น่าเสียดายพวกมันมีคนเยอะกว่าเราเกินไป พวกผมเลยต้องหนีออกมาก่อน ถ้าจำไม่ผิดกิลด์ของพวกมันน่าจะชื่อว่าเมอริเอดซอร์ด”

ลู่หยางรู้จักกิลด์นี้เป็นอย่างดี โดยในปัจจุบันเมอริเอดซอร์ดถือว่าเป็นกิลด์ขนาดกลางที่มีสมาชิกอยู่ประมาณ 20,000 คน

“เอาล่ะ พวกเธอกลับมาที่เมืองก่อน อย่าพึ่งไปทะเลาะกับคนพวกนั้น ฉันจะพาทุกคนไปเก็บเลเวลแล้วค่อยกลับมาจัดการกับพวกมันทีหลัง” ลู่หยางกล่าว

สามพี่น้องกำลังรู้สึกเซ็ง ๆ และถึงแม้พวกเขาจะพูดกับลู่หยางอย่างสบาย ๆ แต่ในความเป็นจริงทั้งสามถูกไล่ล่าจนต้องวิ่งกลับเข้ามาภายในเมือง มันจึงทำให้ทุกคนรอดชีวิตมาได้จนถึงปัจจุบัน

“ได้ครับ/ค่ะ พวกเราจะรีบไป” สามพี่น้องพูดพร้อมกัน

เอ็นดู เชื่อฟังพี่หยางกับสุด ๆ 55555

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด