ตอนที่ 8 First Pitch (2)
"โอ้? นายคิดว่าเราจะไม่มีเด็กปีหนึ่งฝีมือดีที่จะเข้ามาติดทีมตัวจริงในปีนี้เหรอ?" เคนถามเสียงประชดเล็กน้อย
"หึ! ทีมเราน่ะแข็งแกร่งอยู่แล้ว ปีที่แล้วเราก็ทะลุถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์คันโต จำไม่ได้หรือไง?" เคสุเกะสวนกลับอย่างมั่นใจ พร้อมยืดอกด้วยความภูมิใจ
"ฮึๆๆ ถ้านายว่างั้นก็แล้วแต่"
เคนตอบกลับด้วยน้ำเสียงลึกลับ ก่อนจะหันไปวิ่งเหยาะ ๆ มุ่งหน้าสู่คลับเฮาส์ ทิ้งให้เคย์สุเกะยืนเอียงคอด้วยความสงสัย
"เฮ้! หัวเราะแบบนั้นหมายความว่าไงกัน!?" เขาตะโกนไล่หลัง พลางวิ่งตามเคนไปอย่างงุนงง
สิ่งที่เพื่อนเขาไม่รู้ก็คือจะมีเด็กปีหนึ่งคนหนึ่งที่มีฝีเท้าว่องไวสุดๆ ซึ่งจะมาแย่งตำแหน่งลำดับการตีของเคสุเกะให้ตกไปอยู่อันดับ 2 แต่เคนไม่ได้พูดอะไรเพราะยังไงเคสุเกะก็คงไม่เชื่อ
เมื่อมาถึงคลับเฮ้าส์ ทั้งคู่ก็สมทบกับเพื่อนๆ อีกสองสามคนที่แอบหลบการรับสมัครมาเช่นกัน เนื่องจากเป็นวันแรกของการเปิดเทอม โค้ชจึงไม่ได้มา ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจ
"เฮ้ ฮิคารุ มาจับบอลให้ฉันหน่อยได้ไหม?" เคนเอ่ยปากขอขณะวอร์มไหล่ของเขา
เด็กปีสองคนหนึ่งหันกลับมาหลังจากได้ยินชื่อตัวเอง เขามีผมยาวที่มัดเป็นหางม้าเรียบร้อย ทิ้งยาวลงมาถึงหลัง ให้ลุคที่ดูแปลกใหม่เล็กน้อย แต่ใบหน้าของเขากลับธรรมดาและไม่มีอะไรโดดเด่น
"อ้อ ได้เลยรุ่นพี่ ขอผมไปหยิบอุปกรณ์จับบอลก่อนนะครับ" ฮิคารุตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
หลังจากที่เด็กปีสามจากปีที่แล้วจบการศึกษาไป ตำแหน่งแคชเชอร์ก็ว่างลง การที่เอซของทีมเอ่ยปากขอให้เขามาจับบอลให้ด้วยตัวเอง ทำให้ฮิคารุรู้สึกดีใจอย่างมาก
เขารีบคว้าอุปกรณ์ของตัวเองและเริ่มเปลี่ยนชุดด้วยความกระตือรือร้น
เคนเปลี่ยนเป็นชุดเบสบอลด้วยความตื่นเต้น เขากำลังจะได้กลับมาเล่นเบสบอลอีกครั้ง สิ่งที่เขาคิดว่าหายไปจากชีวิตตลอดกาล
ไม่นานนัก ทุกคนออกจากห้องล็อกเกอร์ แต่ไม่มีใครที่กระตือรือร้นไปกว่าเคน เขาเดินตรงไปยังสนามซ้อมพร้อมฮิคารุที่ตามมาติดๆ รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่
"มาเริ่มวอร์มกันก่อน" เคนพูดพร้อมส่งฮิคารุไปยังอีกฝั่งของสนาม
ฮิคารุก้มตัวนั่งลงในท่าพร้อมจับ ขณะยกถุงมือขึ้นรอรับลูก พวกเขาเริ่มโยนลูกไปมาระหว่างกัน ขณะที่เคนค่อยๆ วอร์มกล้ามเนื้อไหล่ของเขา
เขารู้สึกขอบคุณที่ไม่มีอาการเจ็บ ทุกอย่างดูเหมือนจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งทำให้เขามั่นใจพร้อมที่จะโยนจริงจัง
"โอเค ไหล่ฉันวอร์มเสร็จแล้ว พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกมาเลย ฮิคารุ"
"พร้อมครับ รุ่นพี่!"
หัวใจของเคนเริ่มเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น เขาจับลูกบอลในมือขวา ยกมือขึ้นประกบกันก่อนจะยกแขนขึ้นสูงพร้อมกับยกเข่าซ้ายจนเกือบชิดอกเพื่อเริ่มการขว้าง
เขาเอนน้ำหนักไปข้างหน้าโดยให้เท้าขวายังอยู่บนฐานโยนด้านหลัง ขาซ้ายเหยียดตรงลงพื้นด้านหน้า ปลายเท้าชี้ตรงไปที่แคชเชอร์
เสียงลมหวืดดังผ่านหูเมื่อแขนขวาของเขาฟาดผ่านศีรษะเหมือนแส้ ลูกบอลถูกปล่อยออกจากมือด้วยจังหวะที่พอดี พุ่งทะยานผ่านอากาศด้วยความเร็วกว่า 80 ไมล์ต่อชั่วโมง
ฮิคารุสัมผัสได้ถึงความเร็วและพลังของการขว้างที่พุ่งตรงมาหาเขา ความตกใจเกือบทำให้เขายกมือขึ้นป้องหน้าโดยสัญชาตญาณ
โชคดีที่ลูกบอลพุ่งเข้าไปในถุงมือของเขาอย่างแม่นยำ ราวกับถูกดูดด้วยแม่เหล็ก เสียง "ป๊าป!" ดังชัดเจน
"โห รุ่นพี่ ขว้างได้ยอดเยี่ยมเหมือนเดิมเลย!" ฮิคารุร้องชมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประทับใจ
"ถ้ารุ่นพี่ขว้างได้แบบนี้ เรามีหวังชนะในปีนี้แน่!" เขาพูดพลางรอสัญญาณส่งลูกกลับไปให้เคน
แต่เคนไม่ได้สนใจเสียงของฮิคารุ เขาจ้องมองแขนขวาของตัวเอง ใบหน้าซีดเผือดและเหงื่อไหลซึมลงมาตามใบหน้า
'นี่มันหมายความว่ายังไง...' ความคิดของเคนว้าวุ่น
ระหว่างที่เขากำลังขว้าง เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดแปลบที่ไหล่ของเขา มันแทบทำให้เขาควบคุมลูกบอลไม่ได้ เขารู้จักความเจ็บปวดนี้ดีเพราะมันตามหลอกหลอนเขามานานถึง 6 ปี
"รุ่นพี่ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ?" ฮิคารุที่สังเกตเห็นเคนดูเหม่อลอยรีบวิ่งเข้ามาเพื่อเช็กอาการ
เคนสะดุ้งหลุดจากภวังค์ ก่อนจะหันไปยิ้มฝืนๆ ให้ฮิคารุ "ไม่มีอะไรหรอก ฉันว่าจะไปวิ่งรอบสนามสักหน่อยก่อนกลับบ้าน เอาไว้เจอกันใหม่วันหลังนะ"
"หา?"
ฮิคารุที่เห็นรุ่นพี่เดินออกไปหลังจากขว้างลูกได้เพียงครั้งเดียว รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาคิดว่าการที่เอซของทีมเลือกเขาให้มาจับลูก คงเป็นเพราะไว้ใจในฝีมือ แต่ดูเหมือนเขาจะทำให้ผิดหวัง
"อ๊ะ เดี๋ยวสิ รุ่นพี่! ขอโทษนะครับถ้าผมไม่เก่งพอจะเป็นแคชเชอร์ของรุ่นพี่ ผมจะพยายามให้มากกว่านี้" เขาพูดพลางเอื้อมมือแตะไหล่ของเคน
แต่ทันทีที่มือของฮิคารุสัมผัสไหล่ของเขา เคนก็รู้สึกถึงคลื่นความเจ็บปวดวิ่งผ่านร่าง จนเขาตะโกนออกมา
"อ๊าก! ปล่อยฉันเถอะ!" เขาคำรามเสียงต่ำ พยายามซ่อนความเจ็บปวด
ฮิคารุสะดุ้งถอยกลับไปด้วยความตกใจ ไม่คิดว่ารุ่นพี่จะตอบสนองแบบนี้ เขารีบโค้งขอโทษก่อนวิ่งหนีไป
เคนเห็นดังนั้นก็รู้สึกผิดที่แสดงอารมณ์ออกไป แต่เขาไม่เอ่ยขอโทษ ความคิดของเขากำลังจดจ่อกับความเจ็บปวดที่กลับมาทำให้เขาหวั่นใจ
'ความเจ็บนี้ไม่เคยรุนแรงขนาดนี้ตอนอยู่มัธยม ฉันมั่นใจ'
เคนครุ่นคิดขณะเดินกลับไปยังห้องล็อกเกอร์ เขาพยายามไม่จมอยู่ในความสิ้นหวัง แต่ก็เป็นเรื่องยาก
ในขณะที่เขาคิดว่าตัวเองจะกลับมาเล่นเบสบอลตามปกติได้อีกครั้ง เขากลับต้องเจอกับอุปสรรคใหม่ที่หนักหนาอีกครั้ง