ตอนที่ 2 เคน ทาคากิ (2)
ดวงตาของไดจิเบิกกว้าง เขาปักเท้าลงมั่นคงก่อนจะเหวี่ยงไม้ตีออกไปอย่างทรงพลัง ใส่ลูกเบสบอลที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
จากมุมกล้อง สามารถเห็นได้ว่าเขาจับไม้ตีแน่นขึ้นในลักษณะที่เหมือนเขาคาดการณ์ไว้แล้วว่าผู้ขว้างจะโยนลูกในลักษณะนี้
"ปัง!"
เสียงชัดเจนของไม้ตีที่กระทบลูกเบสบอลทำให้ เคน ขนลุกซู่ มันเหมือนเขาอยู่ในสนามจริง ๆ มองดูบอลพุ่งขึ้นไปในอากาศอย่างสง่างาม ราวกับว่ามันจะไม่มีวันหยุด
"โฮมรันปิดเกม…" เขาพึมพำเบา ๆ
ขณะที่ลูกเบสบอลพุ่งถึงจุดสูงสุด มันค่อย ๆ ตกลงสู่กลุ่มผู้ชม เด็กชายผู้โชคดีคนหนึ่งสามารถยื่นถุงมือออกไปจับลูกเบสบอลได้ นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่เขาจดจำไปตลอดชีวิต
"นี่คือภาพที่น่าประทับใจจากสนามโตเกียวโดมในเย็นวันนี้ เมื่อทีมไทเกอร์สสามารถพลิกเกมและเอาชนะทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในลีก NPB ได้"
คำพูดของผู้บรรยายค่อย ๆ เลือนหายไปขณะที่ เคน ยังคงจ้องหน้าจอทีวี อารมณ์ของเขาที่เคยตื่นเต้นพลันกลับมาสู่ความหดหู่แบบเดิม
"ตื้ด ตื้ด ตื้ด"
เสียงโทรศัพท์ของเขาสั่นสะเทือน ดึงความสนใจของเขาออกจากทีวีชั่วขณะ ดวงตาของเคนเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นชื่อผู้ส่งข้อความ
"ไดจิ…"
ไดจิ: "เฮ้ เคน! นายเห็นโฮมรันปิดเกมของฉันไหม? ทำไมนายไม่มาดูเกมล่ะ? ตั๋วไม่ได้ส่งถึงนายเหรอ? ยังไงไว้มาเจอกันเร็ว ๆ นี้นะ"
เคน จ้องข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์ หัวใจของเขาหนักอึ้ง ใบหน้าของเขาเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ก่อนจะขว้างโทรศัพท์ไปกระแทกกับผนัง
การกระทำนี้ยิ่งทำให้ไหล่ของเขาที่กำลังปวดอยู่แล้วเจ็บหนักขึ้นอีก จนเขาต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เขาทรุดตัวลงกับพื้น กอดเข่าขึ้นชิดอกขณะกุมไหล่ของตัวเองด้วยความเจ็บปวด
"พวกนายไม่เข้าใจ..." เขาพึมพำระหว่างเสียงสะอื้น
หลังจากนอนขดอยู่ที่เดิมอยู่นาน เคน ก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นที่แทรกซึมเข้ามาในร่างกาย ตอนนี้เป็นช่วงต้นเดือนธันวาคม ซึ่งหมายความว่าฤดูหนาวได้มาถึงอย่างเต็มตัว
เคน เริ่มเกลียดฤดูหนาว เพราะความเย็นจะทำให้อาการบาดเจ็บที่ไหล่ของเขาแย่ลง ความเจ็บปวดนั้นเติมเต็มวันเวลาในชีวิตเขาด้วยความทุกข์ทรมาน
เขารีบลุกขึ้น ไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นหวัดจากการนอนบนพื้นด้วยความโง่เขลาเช่นนี้ แม้คริสต์มาสจะใกล้เข้ามา แต่เขายังมีงานมากมายที่ต้องส่งให้เสร็จก่อนสิ้นเดือน
เขามองไปที่นาฬิกา ซึ่งบอกเวลา 00:30 น. ก่อนจะบ่นในใจ
"อีก 5 ชั่วโมงสินะ?" เขาพึมพำ
เพราะดื่มเหล้าในคืนนี้ ทำให้เขาเหลือเวลานอนเพียง 5 ชั่วโมง ก่อนที่จะต้องออกไปทำงานในวันพรุ่งนี้ ความปวดหัวจากแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไปเริ่มประดังเข้ามา เป็นความทุกข์ทรมานที่ผสมผสานกับอาการปวดไหล่
ทั้งสองอย่างร่วมกันบรรเลงบทเพลงแห่งความเจ็บปวด ซึ่งมีแต่จะเพิ่มความทุกข์ทรมานให้กับเขามากขึ้น
"ยาของฉันอยู่ไหน?" เคนถามตัวเองด้วยเสียงอ่อนแรง รู้สึกเหมือนเขากำลังจะหมดสติจากความเจ็บปวด
โชคดีที่เขาสามารถหายาเจอในกระเป๋าหลังจากค้นหาอยู่นาน โดยไม่มอง เขาเปิดฝาขวดยาตามใบสั่งและหยิบเม็ดยาออกมาหนึ่งเม็ด
มันเป็นยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์แรง ซึ่งสามารถบรรเทาความทรมานของเขาได้นานหลายชั่วโมง แม้จะใช้ในปริมาณเล็กน้อย แพทย์เคยเตือนเขาซ้ำ ๆ ว่า อย่ากินเกินขนาดที่กำหนดไว้ แม้ความเจ็บปวดจะยังไม่หายไปก็ตาม
แน่นอนว่า เคน ไม่ใช่คนโง่ แม้ชีวิตของเขาจะดูน่าเวทนาอยู่บ้าง แต่เขาไม่มีทางจะเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งเพราะยาแก้ปวดอย่างแน่นอน
นึกถึงคำเตือนจากแพทย์ เคนหัวเราะเยาะออกมาเบา ๆ ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าอีกครั้ง ปัญหาเดียวของยาแก้ปวดคือ มันทำให้เขานอนไม่หลับหลังจากกินเข้าไป ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจซื้อ เมลาโทนิน ยานอนหลับแบบธรรมชาติมาใช้แทน
เมลาโทนินช่วยเขาได้ดีในช่วงสองสามเดือนแรก แต่หลังจากนั้นเขาต้องเพิ่มปริมาณยามากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เช่นนั้นมันจะไม่ได้ผล
ด้วยความคุ้นเคย เขาหยิบยาออกมาหกเม็ดอย่างรวดเร็วแล้วกินมันพร้อมกับน้ำหนึ่งแก้ว จากนั้นก็ตัดสินใจว่าควรเข้านอนได้แล้ว หากอยู่ต่ออีก เขาอาจนอนหลับน้อยกว่า 5 ชั่วโมง
แต่ทันทีที่ศีรษะของเขาแตะหมอน เขาก็รู้สึกว่าการมองเห็นของเขาเริ่มพร่ามัว
"อะ-อะไรกำลังเกิดขึ้น?" เขาพูดด้วยความตกใจ ความหวาดกลัวเริ่มเข้ามาในใจของเขา
หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นจนเกือบถึง 200 ครั้งต่อนาที มันแทบจะเหมือนว่าหัวใจของเขากำลังจะกระเด็นออกจากอก
เขาพยายามอย่างสุดกำลังที่จะเดินไปยังกระเป๋าของเขา คิดว่าบางทีเขาอาจกินยาผิด แต่ความคิดนั้นก็ไม่สมเหตุสมผล เพราะในกระเป๋าของเขามียาเพียงสองชนิดเท่านั้น ยาแก้ปวดและเมลาโทนิน
ในสภาพง่วงซึมและสับสน เคนขาดความสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เขาเดินโซเซข้ามห้องไปที่กระเป๋า และพบกระปุกยาสองกระปุกที่ดูเหมือนกัน
กระปุกที่ใส่เมลาโทนินยังคงเต็มไปด้วยยา แต่กระปุกที่ใส่ยาแก้ปวดนั้นกลับว่างเปล่า เคนกระพริบตาหลายครั้ง ขณะที่สมองพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อทำความเข้าใจ
"พรุ่งนี้...ฉันมีนัดหมอ เพื่อจ่ายยาเพิ่ม..." เขาพูดเสียงอ้อแอ้ ขณะที่การมองเห็นเริ่มพร่ามัวมากขึ้น และในที่สุดเขาก็เข้าใจ
เขาหยิบยาผิดกระปุก เขากินยาแก้ปวดไปหกเม็ดแทนที่จะเป็นยานอนหลับ
ทันใดนั้น เคนทรุดลงกับพื้น กำกระปุกยาแก้ปวดเปล่าไว้ในมือ ขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มหมดแรง ความคิดของเขาก็ล่องลอยไปยังสถานที่ที่ไกลออกไป
ช่วงเวลาที่เขายังเต็มไปด้วยความหวังและความสุขในวัยเยาว์
ช่วงเวลาก่อนที่อาการบาดเจ็บที่ไหล่จะพรากเบสบอลไปจากเขา
"ถ้าฉันได้โอกาสอีกครั้ง…" เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนจะถอนหายใจ