ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 63 ข้าจะทำให้สำนักร้อยลี้หายไป

ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 63 ข้าจะทำให้สำนักร้อยลี้หายไป

มือทั้งสองข้างกุมที่อกแน่นเห็นได้ชัดว่ากำลังทนทุกข์ทรมานจากบางสิ่งบางอย่าง

"อย่า........."

ฟู่มู่โจวครวญคราง

ตู้ม!!!

หน้าอกระเบิดออกเนื้อหนังกระจาย โลหิตสาดกระเซ็น น่าหวาดกลัวยิ่งนัก

"ไปกันเถิด"

"ขอรับ"

ทั้งสองสบตากัน จากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ประมาณหนึ่งชั่วยาม

เรื่องราวการลอบสังหารฮ่องเต้สามราชวงศ์ก็มิอาจปกปิดได้อีกต่อไป

ในพริบตา ขุนนางและประชาชนทั้งหมดในราชวงศ์ต่างก็ตกตะลึง

ความหวาดกลัวแผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับว่ามีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า

ณ ช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังหวาดกลัว

ข่าวสารการพ่ายแพ้ของกองทัพหลักสามกองทัพก็แพร่กระจายไปทั่ว รัศมีล้านลี้

"ราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยล่มสลายแล้ว ราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยล่มสลายแล้ว!"

บัณฑิตคนหนึ่งจากราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ย เมื่อได้รับข่าวสารนี้ ก็เดินอย่างบ้าคลั่งบนท้องถนน พึมพำกับตนเอง

ทันใดนั้น

ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งสะพายย่าม เดินผ่านมา ใช้มือขวาผลักบัณฑิตผู้นั้นออกไป "อย่ามัวแต่คร่ำครวญอยู่บนถนน ขวางทางข้า ราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยจะล่มสลายก็ช่างเถิด หากเจ้าอยากตายอยู่ที่นี่ ก็อย่าได้ขวางทางข้า!"

เหตุการณ์เช่นนี้และเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในราชวงศ์ต่าง ๆ

ณ จวนของพ่อค้าผู้มั่งคั่งคนหนึ่งในราชวงศ์ราชันเทียนผิง

ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งสวมชุดหรูหรา กล่าวว่า "พ่อมีคนรู้จักในราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน เชื่อว่าไม่นานก็จะสามารถจัดการทะเบียนบ้านของราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนให้พวกเราได้ เมื่อถึงเวลานั้น พวกเราเพียงแค่นำทรัพย์สมบัติทั้งหมดไปที่นั่น ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย"

"ท่านพ่อ พวกเราต้องทำเช่นนี้จริง ๆ หรือ"

เด็กหนุ่มคนหนึ่งมองดูบิดาของตนด้วยความหวาดกลัว

ชายวัยกลางคนแม้ว่าจะขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ยังคงตอบกลับอย่างอดทน "ตอนนี้ฮ่องเต้ถูกลอบสังหาร และกองทัพก็พ่ายแพ้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยจะต้องเผชิญหน้ากับความวุ่นวายครั้งใหญ่"

"หากพวกเราอยู่ที่นี่ คงมิอาจรอดชีวิตได้อย่างแน่นอน"

เด็กชายอายุประมาณห้าขวบกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เศร้าหมอง "ท่านพ่อ ข้าไม่อยากจากไปที่นี่"

ชายวัยกลางคนได้ยินเช่นนั้น จึงนั่งลง ยิ้มให้เด็กชาย "ไม่ต้องกังวล เมื่อพวกเราไปถึงราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน และตั้งหลักปักฐานได้แล้ว พวกเราก็จะกลับมาทำการค้าที่นี่ เพราะราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยแม้จะวุ่นวาย แต่เศรษฐกิจยังคงเป็นอันดับหนึ่งในสี่ราชวงศ์"

"จากนั้นก็นำเงินที่ได้จากที่นี่ กลับไปยังราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน"

เด็กชายกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เศร้าหมอง "พวกเราไม่สามารถตั้งหลักปักฐานที่นั่น แล้วกลับมาอยู่ที่นี่ได้หรือ"

ชายวัยกลางคนส่ายหน้า "ราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยแม้ว่าจะมีข้อดี แต่เมื่อเทียบกับราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วแล้ว ก็ยังคงด้อยกว่า"

"ยิ่งไปกว่านั้น ในราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนยังคงมีขุมอำนาจระดับหกปรากฏตัวขึ้น……"

ชายวัยกลางคนเห็นเด็กชายมีสีหน้าสับสน จึงยิ้มออกมา "นอกจากนี้ อากาศที่ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนยังคงบริสุทธิ์กว่าที่นี่หลายเท่า"

"อากาศบริสุทธิ์?"เด็กชายสงสัย

ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน

ภายในพระราชวัง

เยี่ยหมิงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ยิ้มออกมา "ฮ่องเต้ของราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ย ราชวงศ์ราชันเทียนผิง และราชวงศ์ราชันพั่วซือ ล้วนถูกข้าสังหารแล้ว"

"ตอนนี้เจ้าเพียงแค่ทำตามคำสั่งของข้า ส่งกองทัพไปยึดครองสามราชวงศ์ก็พอแล้ว"

"ท่าน… ท่านเจ้าศาลา… นี่..."

สวี่หยาเซิงมีสีหน้าตกตะลึงอย่างยิ่ง เมื่อได้ยินข่าวสารที่น่าตกใจนี้

ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกตัว กดข่มความตกใจเอาไว้

โค้งคำนับเยี่ยหมิง "ข้าน้อมรับคำสั่ง"

วูบ!

ข้างกายสวี่หยาเซิง ความว่างเปล่าสั่นสะเทือนเล็กน้อย

มือสังหารระดับมนุษย์ชั้นเอกคนหนึ่งเดินออกมา

"ท่านเจ้าศาลา"

มือสังหารผู้นั้นคุกเข่าลงข้างหนึ่ง

สวี่หยาเซิงเห็นเช่นนั้น จึงกล่าวว่า "ท่านเจ้าศาลา ข้าขอตัวก่อน"

เยี่ยหมิงโบกมือ สวี่หยาเซิงจึงถอยออกไป

เยี่ยหมิงมีสีหน้าเรียบเฉย กล่าวว่า "มีเรื่องอันใด จงกล่าวมา"

"เรียนท่านเจ้าศาลา ท่านหวู่เหินผู้ยิ่งใหญ่เพิ่งจะส่งข่าวสารมา พวกเขาเพิ่งจะสังหารผู้อาวุโสสามคนจากสำนักร้อยลี้ที่คิดจะเข้ามาแทรกแซง"

"ผู้อาวุโสจากสำนักร้อยลี้..."

เยี่ยหมิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ความสงสัยในใจก็พลันกระจ่าง

ดูเหมือนว่าข่าวสารที่เขาได้รับจะไม่ผิด ราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยมีความสัมพันธ์อันดีกับสำนักร้อยลี้

ถึงกับส่งผู้อาวุโสสามคนมา เห็นได้ชัดว่าฟู่มู่โจวให้ความสำคัญกับบุตรชายคนที่สองของเขายิ่งนัก

แต่น่าเสียดาย พวกเขาคิดผิด

ก่อนที่เยี่ยหมิงจะได้รับข่าวสารนี้ เขาก็ได้เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

ดังนั้น มือสังหารที่เขาส่งไปสังหารฟู่มู่โจวและคนอื่น ๆ จึงไม่ธรรมดา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวู่เหิน

ตอนที่เขาอัญเชิญหวู่เหินออกมาใหม่ ๆ เขายังคงจำคำอธิบายของระบบได้

[ชื่อ: หวู่เหิน]

[สถานะ: มือสังหารระดับเร้นลับชั้นตรีแห่งศาลาสังหารโลหิต]

[ระดับตบะ: ระดับบำรุงจิตแปดชั้นฟ้า]

[วิชาเวท: วิชาชักกระบี่, คำสาปสะกดใจ, วิชากระบี่มังกรทะยาน, วิชากระบี่หัวใจมั่นคง...]

[คำอธิบาย: มาจากโลกศิลปะการต่อสู้ระดับสูง เป็นอัจฉริยะกระบี่ที่หาได้ยากยิ่งนักในรอบพันปี หลังจากที่ทะลวงไปยังระดับถ้ำพำนัก ก็ถูกคนชั่วร้ายทำร้าย ทำให้ระดับตบะถูกลดลง]

ถูกผนึก ก็หมายความว่ามีโอกาสที่จะปลดผนึก

เพียงแค่ปลดผนึก ก็จะกลายเป็นยอดฝีมือระดับถ้ำพำนัก!

นี่คือเหตุผลที่หวู่เหินสามารถสังหารผู้อาวุโสสามคนจากสำนักร้อยลี้ได้อย่างง่ายดาย

เยี่ยหมิงถามว่า "สายลับที่ข้าส่งไปสืบหาความเคลื่อนไหวของสำนักร้อยลี้ มีข่าวสารใดหรือไม่?"

มือสังหารส่ายหน้า "เรียนท่านเจ้าศาลา จากข้อมูลที่ได้รับเมื่อเค่อที่แล้ว สำนักร้อยลี้ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ผู้ใต้บังคับบัญชาคาดเดาว่าพวกเขายังคงไม่รู้เรื่องการตายของผู้อาวุโสสามคน"

"ดี เช่นนั้นบอกสายลับที่นั่นว่าไม่จำเป็นต้องสืบหาต่อไปแล้ว ให้พวกเขากลับมา"

มือสังหารได้ยินเช่นนั้น ก็สงสัย

ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเยี่ยหมิงจึงออกคำสั่งเช่นนี้

แต่คำพูดต่อไปของเยี่ยหมิง ทำให้เขารู้สึกตกตะลึง!

"ส่งคำสั่งไปยังมือสังหารทุกคน บอกพวกเขาว่าให้เตรียมตัวให้พร้อม สามวันให้หลัง ข้าจะทำให้สำนักร้อยลี้หายไปจากมณฑลเทียนหยวน!