ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 57 บทเพลงสังหาร
ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 57 บทเพลงสังหาร
จุดจบของเขาก็คงมีเพียงถูกฉีกเป็นห้าส่วน
แต่หากข้าเดิมพันถูกต้อง ข้าก็จะกลายเป็นรองเจ้าศาลา ผู้ควบคุมขุมอำนาจสี่ราชวงศ์
อำนาจและความมั่งคั่งมากมายจะตกเป็นของข้า
“แต่ครั้งนี้สามราชวงศ์ได้ส่งยอดฝีมือระดับบำรุงจิตรวมกันถึงสิบสองคน ในบรรดานั้นยังคงมียอดฝีมือระดับบำรุงจิตแปดชั้นฟ้าสามคน...”
หยวนเฟิงส่ายหน้า “ช่างเถิด รอคอยสถานการณ์ก่อนก็แล้วกัน”
หนึ่งชั่วยามให้หลัง
เว้นแต่กองทัพราชวงศ์ราชันพั่วซือที่หยวนเฟิงสั่งการให้เคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ
กองทัพอีกสองราชวงศ์ต่างก็เดินทางมาถึงชายแดนราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนพร้อมกัน
กลับมายังเยี่ยหมิง
“รายงานท่านเจ้าศาลา กองทัพราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยและเทียนผิงได้เดินทางมาถึงเบื้องหน้าเมืองแล้ว เหลือเพียงราชวงศ์ราชันพั่วซือที่ยังไม่ปรากฏตัว”
มือสังหารคนหนึ่งรายงานเยี่ยหมิง
“เช่นนั้นหรือ”
เยี่ยหมิงใช้มือขวาเท้าคาง
ดูเหมือนว่าอัครมหาเสนาบดีหยวนแห่งราชวงศ์ราชันพั่วซือผู้นั้น
จะใช้เล่ห์เหลี่ยมบางอย่าง
เยี่ยหมิงกล่าว “ยังไม่มาก็ช่างเถิด ราชวงศ์ราชันพั่วซือนั้น ค่อยจัดการทีหลัง”
“แม่นางเฟิง”
เยี่ยหมิงเอ่ยเรียก
“คุณชายโปรดตั้งใจฟังบทเพลงของข้ารับใช้”
เฟิงชิงจู๋ที่อยู่ด้านข้างสวมผ้าคลุมหน้าอีกครั้ง
ยิ้มให้เยี่ยหมิงเล็กน้อย จากนั้นก็หันหลังกลับจากไป
นอกเมือง
“แปลกยิ่งนัก เหตุใดบนกำแพงเมืองจึงไม่มีผู้ใดอยู่ หรือว่าพวกเขารู้ว่าพวกเรากำลังจะบุกโจมตี จึงหลบหนีไปแล้ว”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ คนของราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนช่างขี้ขลาดยิ่งนัก”
กองทัพสองราชวงศ์หัวเราะออกมาเสียงดัง
ภายในกองทัพ
มู่จิ้นหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย
กล่าวกับทหารที่อยู่ด้านล่าง “เวลาไม่รอคอยผู้ใด ส่งคำสั่งลงไป ให้พวกเขาทำลายประตูเมืองชายแดนเสีย!”
“ขอรับ!”
สิ้นเสียง ยังไม่ทันที่กองทัพจะลงมือ
“รายงานท่านแม่ทัพ มีบุคคลหนึ่งกระโดดลงมาจากกำแพงเมือง”
“ไม่ต้องกล่าว ข้าก็เห็นแล้ว”
มู่จิ้นหยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย
เบื้องหน้า สตรีชุดเขียวคนหนึ่งอุ้มผีผาเอาไว้ในอ้อมแขน ลอยลงมาจากกำแพงเมืองอย่างช้า ๆ
“สตรี… สตรีหรือ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนตกต่ำถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงกับส่งสตรีออกมา”
“ใช่แล้ว ยังอุ้มผีผามาด้วย คิดจะบรรเลงเพลงยอมแพ้หรือไร”
“แต่ต้องยอมรับว่าสตรีผู้นี้ช่างงดงามยิ่งนัก รูปร่างนาง… อึก”
ทุกคนต่างก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
มีเพียงมู่จิ้นหยวนเท่านั้นที่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
จนกระทั่งเฟิงชิงจู๋เตรียมที่จะบรรเลงผีผาในอ้อมแขน
เขาก็หรี่ตาลง จิตสำนึกเคลื่อนไหว
คมมีดที่สร้างขึ้นจากปราณวิญญาณพุ่งเข้าหาเฟิงชิงจู๋
วูบ!
เป็นแสงดาบและเงากระบี่
สีหน้าของมู่จิ้นหยวนเปลี่ยนไป เสียงหัวเราะและเยาะเย้ยทั้งหมดเงียบลง
ทุกสายตามองไปยังเบื้องหน้าด้วยความตกใจ
มองดูเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
คมมีดที่มู่จิ้นหยวนปลดปล่อยออกมา กลับหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ ห่างจากสตรีชุดเขียวเพียงหนึ่งเมตร
“คุณชายผู้นี้ต้องการฟังบทเพลงของข้ารับใช้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ”
เฟิงชิงจู๋กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
คมมีดที่หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศสลายหายไป
“บทเพลงนี้มีชื่อว่า ปลายทางน้ำพุเหลือง โปรดตั้งใจฟัง”
“รีบหยุดนาง!”
มู่จิ้นหยวนตะโกนเสียงดัง
สิ้นเสียง ยอดฝีมือระดับบำรุงจิตแปดคนจากสองกองทัพพุ่งเข้าหาเฟิงชิงจู๋
เห็นได้ชัดว่าการทดสอบของมู่จิ้นหยวนเมื่อครู่ ทำให้ยอดฝีมือระดับบำรุงจิตหลายคนรู้สึกถึงความไม่ธรรมดาของเฟิงชิงจู๋
“ได้ผลแล้ว คอยดูข้าทำลายล้างเมือง!”
ยอดฝีมือระดับบำรุงจิตสามชั้นฟ้าที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มาถึงเบื้องหน้าเฟิงชิงจู๋เป็นคนแรก
ปราณวิญญาณมากมายรวมตัวกันที่มือขวา ราวกับมีพลังอำนาจของราชสีห์หลายตัวรวมอยู่ด้วย
เมื่อโบกมือ อากาศรอบด้านแตกกระจาย
ฝ่ามือเดียวโจมตีไปยังกระหม่อมของเฟิงชิงจู๋
“เจ้าไม่รู้หรือว่าการรบกวนผู้อื่นเป็นการกระทำที่ไม่สุภาพ เจ้าลิงน้อย”
“ไม่ดีแล้ว!”
ความรู้สึกอันตรายแห่งความตายปรากฏขึ้นในห้วงสมุทรแห่งปัญญาของชายผู้นั้น
“วิชาไผ่เขียว เริ่มต้น!”
เสียงที่ไพเราะดังก้องขึ้น
ฉัวะ!
“กระ… กระไรกัน…”
ชายผู้นั้นก้มหน้าลงเล็กน้อย
เบื้องล่างของเขามีต้นไผ่สีเขียวมรกตปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน
โลหิตไหลรินลงมาจากหน้าอกของเขา หยดลงบนต้นไผ่
ต้นไผ่สีเขียวมรกตนั้นได้แทงทะลุหน้าอกของเขา!
“ระวังพื้นดิน!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น มู่จิ้นหยวนตะโกนเสียงดัง
น่าเสียดาย แม้ว่าจะมีเสียงเตือนนี้ ก็ยังคงมียอดฝีมือระดับบำรุงจิตหลายคนจากราชวงศ์ราชันเทียนผิงที่ไม่เชื่อ
พวกเขาคิดว่าด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งและวิชาเวทป้องกัน พวกเขาสามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้
แต่พวกเขาก็คิดผิด
ต้นไผ่ที่งอกออกมาจากพื้นดินได้แทงทะลุกระหม่อมและหน้าอกของพวกเขา
เพียงพริบตาเดียว ยอดฝีมือระดับบำรุงจิตแปดคนที่ลงมือกับเฟิงชิงจู๋ เสียชีวิตไปแล้วครึ่งหนึ่ง!
เฟิงชิงจู๋มองดูบรรยากาศที่เงียบสงัด
ยิ้มเล็กน้อย ใช้มือขวาดีดสายผีผา
เสียงผีผาที่ไพเราะดังก้องไปทั่ว รัศมีสิบลี้
“ขยับ… ขยับไม่ได้…”
ยอดฝีมือระดับบำรุงจิตหกชั้นฟ้าคนหนึ่งเบิกตากว้าง
“เสียงนี้มีปัญหา”
มู่จิ้นหยวนในตอนนี้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
เขาเป็นถึงผู้บำเพ็ญระดับบำรุงจิตสี่ชั้นฟ้า แต่กลับไม่สามารถต้านทานเสียงที่ไพเราะนี้ได้
จากนั้น ทำนองเพลงที่ไพเราะก็ดังขึ้นจากผีผา
“แม้ว่าข้าจะเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เมื่อได้เห็นอีกครั้ง ข้าก็ยังคงไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือพลังอำนาจที่มนุษย์สามารถควบคุมได้”
เฉินโป้เซียวยืนอยู่บนหอสังเกตการณ์ที่อยู่ไม่ไกล
มองดูเหตุการณ์เบื้องหน้า
ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
เขาเห็นกองทัพทหารหลายล้านนาย ภายใต้บทเพลงของเฟิงชิงจู๋ เริ่มต้นอ่อนแรงลง
คุกเข่าลงกับพื้น แต่ครั้งนี้แตกต่างจากก่อนหน้านี้
ดวงตาทั้งสองข้างของทหารเหล่านั้นค่อย ๆ ว่างเปล่า
ราวกับว่าจิตวิญญาณถูกดึงออกไป
“บัดซบ วิชาเช่นนี้มิใช่วิชาที่ผู้บำเพ็ญระดับบำรุงจิตสามารถใช้ได้ หรือว่านางจะเป็นผู้บำเพ็ญระดับถ้ำพำนัก”
มู่จิ้นหยวนมองดูทหารนับล้านนายของราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ย
พยายามต้านทาน กล่าวอย่างยากลำบาก
“เป็นไปไม่ได้ ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนเล็ก ๆ จะมียอดฝีมือเช่นนี้ได้อย่างไร ในเมื่อไม่ใช่คนของราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน……”
มู่จิ้นหยวนที่จิตใจเริ่มพร่ามัว เหลือบมองไปยังเอวของเฟิงชิงจู๋
รูม่านตาหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว
“เป็นเช่นนั้นเอง……ศาลา……สังหาร……”
มู่จิ้นหยวนล้มลงกับพื้น
กองทัพนับล้านนายถูกทำลายล้าง!
เฟิงชิงจู๋ค่อย ๆ หยุดมือลง
“เสร็จสิ้น”
เฟิงชิงจู๋กล่าวพึมพำ จากนั้นก็หันหลังกลับจากไป
……
ไม่ไกลกัน ยอดฝีมือระดับบำรุงจิตของกองทัพราชวงศ์ราชันพั่วซือเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด