บทที่387
เกรย์เลดี้กลับมามีสีหน้าที่เย็นชาเหมือนเดิม ราวกับอารมณ์โกรธที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตา เธอจ้องปีเตอร์อย่างพินิจพิเคราะห์และพูดขึ้นว่า
"ตั้งแต่เจ้ามาที่โรงเรียน ข้าก็สังเกตเจ้า เจ้าช่างคล้ายกับเด็กชายคนหนึ่งที่ข้าเคยพบ ทั้งรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาและความสามารถที่โดดเด่น"
ปีเตอร์ยิ้มและส่ายหัวก่อนตอบ "คุณผู้หญิง ถึงผมจะอยู่บ้านสลิธีรินเหมือนโวลเดอมอร์ แต่ผมคิดว่าตัวเองต่างจากเขามาก!" จากนั้นเขาก็พูดติดตลกว่า "และผมคิดว่าผมน่าจะดูดีกว่าเขาเยอะ"
เกรย์เลดี้ไม่สนใจคำพูดเล่นของปีเตอร์ มือของเธอเอื้อมไปสัมผัสหมวกของเขา ราวกับต้องการแตะมงกุฎที่อยู่ข้างใน แต่ด้วยความที่เธอเป็นวิญญาณ จึงสัมผัสไม่ได้
เธอไม่ได้ดูผิดหวัง แต่กลับมองมงกุฎด้วยสายตาเศร้าหมองราวกับคิดถึง "ข้าควรจะขอบคุณเจ้า ที่ช่วยคืนมงกุฎของแม่ข้าให้กลับมาสะอาดบริสุทธิ์อีกครั้ง และไม่ปล่อยให้มันถูกทำลายด้วยเวทมนตร์มืด"
หลังจากเงียบไปสักพัก เธอจึงพูดต่อ "เจ้าแตกต่างจากเขา เจ้าคือเด็กชายที่น่ามหัศจรรย์ เหล่าวิญญาณในปราสาทต่างรู้เรื่องของเจ้า เมื่อเจ้าได้มงกุฎจากห้องต้องประสงค์ ข้าก็เริ่มสังเกตเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าคงเป็นเหมือนคนอื่น ๆ ที่หวังจะได้มงกุฎเพื่อเสริมปัญญา แต่เจ้ากลับไม่ได้รีบร้อนใส่มันแม้แต่น้อย ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เจ้าแทบไม่แตะต้องมันเลย"
"เจ้ารู้ก่อนแล้วว่ามันถูกปนเปื้อนด้วยเวทมนตร์มืด เจ้าจึงใช้เวทมนตร์มากมายเพื่อป้องกันและจำกัดมันไว้ และปีที่แล้ว เจ้าก็หาวิธีชำระล้างเวทมนตร์มืดจากมันได้ ข้าประหลาดใจมาก เพราะข้าเชื่อว่ามันคงถูกทำลายไปแล้ว แต่เจ้ากลับช่วยมันไว้"
เกรย์เลดี้จ้องปีเตอร์ด้วยสายตาสงสัย "ทำไมเจ้าถึงไม่ได้ใช้มันเพื่อแสวงหาปัญญาแบบคนอื่น ๆ? หรือเจ้าไม่ได้ต้องการสิ่งนั้น?"
ปีเตอร์ยิ้มให้หญิงสาวที่ดูเหมือนจะอายุไม่มากกว่าเขา เขานั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้งก่อนยกหนังสือในมือขึ้นมา "คุณเกรย์เลดี้ คุณพูดผิดแล้ว ผมใช้มันบ่อยมาก มงกุฎช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่านและเรียนรู้ของผมได้มาก ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว"
"อ่านหนังสือ?" เกรย์เลดี้มองเขาอย่างไม่เชื่อ "มงกุฎที่เลื่องลือว่าเพิ่มพูนปัญญา เจ้ากลับเอามาใช้แค่อ่านหนังสือ?"
"แล้วจะให้เอามันไปทำอะไรล่ะครับ?" ปีเตอร์หัวเราะ "เอามันไปทำเรื่องเลวร้าย หรือใช้เพื่อชิงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์?"
ปีเตอร์พูดต่อ "มงกุฎช่วยให้สมองทำงานเร็วขึ้น ใช้ประโยชน์จากศักยภาพได้เต็มที่ แต่มันไม่ได้มอบปัญญามาให้โดยตรง"
"คุณเกรย์เลดี้ คุณลืมคำพูดสำคัญของเรเวนคลอไปแล้วหรือยังไง?" ปีเตอร์เอ่ยขึ้น "ปัญญาอันล้ำเลิศคือสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์"
"แต่ผมเชื่อว่าปัญญาไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง มันต้องมาจากการเรียนรู้และการฝึกฝน" ปีเตอร์หยิบมงกุฎออกจากหมวกขึ้นมาหมุนเล่นในมือ "ผมไม่เคยเชื่อว่ามงกุฎนี้เป็นสิ่งที่มอบปัญญาให้คุณเรเวนคลอ แต่มันเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการศึกษาและทดลองเท่านั้น"
คำพูดของปีเตอร์ทำให้เกรย์เลดี้ยืนนิ่งและจ้องมองมงกุฎอย่างสำนึกผิด "ข้าผิดเอง ข้าหลงเชื่อว่ามงกุฎจะให้ปัญญา ข้าทำผิดกับแม่ และข้าก็ทรยศเธอ" เธอคร่ำครวญ ก่อนจะหายวับลงไปจากหอคอย ปีเตอร์ทำได้เพียงถอนหายใจ
ทันใดนั้นเขามองไปยังมุมมืดแล้วเอ่ยขึ้น "ออกมาเถอะ ลูน่า เธอจะซ่อนอีกนานแค่ไหน?"
ไม่นานนัก ร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นช้า ๆ จากบันไดหินข้าง ๆ
"สวัสดี ปีเตอร์" ลูน่าทักทายด้วยน้ำเสียงลอย ๆ ใบหน้าไม่มีความเขินอายใด ๆ ที่ถูกจับได้
ปีเตอร์มองเด็กสาวที่มีสีหน้าใสซื่ออย่างน่าขบขัน ก่อนจะถาม "เธอขึ้นมาที่นี่ทำไมล่ะ? ตอนนี้น่าจะไปเล่นกับจินนี่ไม่ใช่เหรอ?"