บทที่ 99 อาจารย์ฮั่นจง
บทที่ 99 อาจารย์ฮั่นจง
เซี่ยหยู่เว่ยและจางจื่อโป๋ต่างก็รู้สึกอึดอัดใจ ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเธอก็ไม่ได้เห็นลู่หยางอยู่ในสายตา เพราะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงคนธรรมดาที่โชคดีกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตามในตอนนี้สถานการณ์กลับแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะฉือมู่ถึงกับเชิญลู่หยางมาเป็นรองหัวหน้ากิลด์คนแรก หมายความว่าหากอีกฝ่ายตอบตกลง เขาจะมีอำนาจอยู่เหนือกว่าคนจำนวนมากกว่า 70,000 คนในทันที ยิ่งไปกว่านั้นฉือมู่ยังคงลงทุนรับสมัครผู้เล่นชั้นยอดให้มาเข้าร่วมกิลด์อย่างต่อเนื่อง
ในเวลาไม่นานนักจำนวนของผู้เล่นภายในกิลด์ย่อมเกินกว่า 100,000 คนอย่างแน่นอน หากข้อเสนอเดียวกันนี้ได้มาตกอยู่ที่เซี่ยหยู่เว่ยหรือจางจื่อโป๋ พวกเธอก็นึกไม่ออกอยู่เหมือนกันว่าพวกเธอจะสามารถปฏิเสธข้อเสนอนั้นได้จริง ๆ หรือเปล่า
“ทำไมคุณถึงปฏิเสธล่ะ?” เซี่ยหยู่เว่ยอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้
ลู่หยางยิ้มโดยไม่ตอบคำถาม เพราะท้ายที่สุดเขาก็รู้ว่าในอนาคตเกมนี้จะพัฒนาไปเป็นยังไง การพยายามบอกอนาคตกับคนอื่นมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องที่ไร้ความหมาย
“ฉันมีธุระ ไว้คราวหน้าพวกเราค่อยคุยกันนะ” ลู่หยางกล่าวก่อนที่เขาจะเดินไป
เซี่ยหยู่เว่ยไม่คิดว่าลู่หยางจะตัดบทเธอแบบนี้ และการกระทำของเขามันก็ทำให้เธอรู้สึกอับอายจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปซ่อนไว้ที่ไหน แน่นอนว่าสมาชิกคนอื่น ๆ ก็กำลังรู้สึกอึดอัดใจไม่แพ้กัน
“ทำมาเป็นเก๊ก” หญิงสาวคนเดิมพูดอย่างไม่พอใจ
“ช่วยไม่ได้ตอนนี้เขาได้กลายเป็นคนที่พวกเราแตะต้องไม่ได้แล้ว” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
ทุกคนต่างก็พยักหน้ารับ เพราะคำพูดของฉือมู่ในครั้งนี้มันก็เท่ากับว่าหลังจากนี้จะไม่มีใครกล้าดูถูกลู่หยางอีกต่อไป
“หลังจากนี้พวกเราจะเอายังไงกันต่อดี? ก่อนหน้านี้ฉันยังคิดจะให้หลานอวี่ไปขอความช่วยเหลือจากลู่หยางบอกที่เก็บเลเวลมาให้กับเราเพิ่มอีกสักหน่อย แต่ตอนนี้มันคงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว” จางจื่อโป๋กล่าว
เซี่ยหยู่เว่ยหันไปมองทางเจิ้งหยวน ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาด้วยความโมโห
“เจิ้งหยวน เมื่อไหร่นายจะโตสักที! ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับลู่หยางมาก่อน กิลด์ของเราคงจะโดนทำลายก่อนที่จะทันได้เติบโต”
“มันจะกล้าเหรอ? ถ้ามันกล้าฉันจะหาคนไปจัดการกับมันเอง” เจิ้งหยวนพูดอย่างไม่พอใจ
“ไร้สาระ!” เซี่ยหยูเว่ยตอบกลับอย่างโกรธจัด
หลานอวี่ทำได้เพียงแต่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเธอก็ไม่อยากฟังทั้งสองคนทะเลาะกัน หญิงสาวจึงส่งข้อความไปหาลู่หยาง
“อาจารย์ คุณไม่ได้โกรธจริง ๆ ใช่ไหม?”
ลู่หยางกำลังเดินไปถึงเส้นทางที่ว่างเปล่าพร้อมกับท่องคาถาเพื่อมุ่งหน้าไปยังวิหารเทพอสูร เมื่อเขาได้เห็นว่าหลานอวี่ส่งข้อความมา ชายหนุ่มจึงเผยรอยยิ้มและพิมพ์ข้อความตอบกลับไปว่า
“ฉันไม่มีเวลามาโกรธพวกเขาหรอก ถ้าคนอย่างเจิ้งหยวนทำให้ฉันโกรธได้ต่อไปฉันคงใช้ชีวิตอย่างลำบากแน่ ๆ ตอนนี้ฉันกำลังรีบไปทำธุระจริง ๆ ฝากบอกเซี่ยหยู่เว่ยด้วยว่าฉันไม่ได้ถือสาอะไร”
“ตอนที่คุณเดินไปเมื่อกี้ฉันตกใจมากเลยนะ นึกว่าคุณจะไม่สนใจพวกเราแล้ว” หลานอวี่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ยัยเด็กโง่ ฉันจะไม่สนใจเธอได้ยังไง รีบไปเก็บเลเวลเถอะ หลังเลเวล 8 แล้วเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปเคลียร์ดันเจียน” ลู่หยางกล่าวอย่างเอ็นดู
“อือ” หลานอวี่ตอบกลับ
หลังจากติดต่อมาระยะหนึ่งหญิงสาวก็เริ่มมีความรู้สึกราวกับว่าลู่หยางเป็นพี่ชายที่คอยปกป้องและห่วงใยเธอตลอดเวลา แน่นอนว่าเธอก็ชอบความรู้สึกที่ได้รับการดูแลจากอีกฝ่ายหนึ่งด้วย
ลู่หยางสามารถนึกภาพใบหน้าอันน่ารักของหลานอวี่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้มันก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะเร่งรีบทำทุกอย่างให้ไวมากขึ้น ชายหนุ่มจึงปิดหน้าต่างแชทและเดินไปยังแท่นบูชาเทพอสูรเพื่อวางเสี้ยวไพลินลงไป 4 ชิ้นและกดหน้าต่างจากระบบเพื่อทำการสังเคราะห์
ระบบ: คุณสังเคราะห์ไพลิน 1 เม็ดสำเร็จ
ไพลิน
เลเวล 0
สติปัญญา +6
ลู่หยางทำการเก็บไพลินเอาไว้ในกระเป๋า โดยในตอนนี้ขอเพียงแค่ตีบวกอุปกรณ์เขาก็สามารถทำการฝังอัญมณีเข้าไปได้แล้ว
อย่างไรก็ตามวัตถุดิบสำหรับการตีบวกอุปกรณ์ก็ค่อนข้างที่จะพิเศษ โดยมันเป็นสิ่งที่เรียกว่าแร่เหล็กดำที่มักจะพบในเหมืองซอมบี้เลเวล 7
เมื่อผู้เล่นมีเลเวลถึงเลเวล 7 พวกเขาสามารถเข้าไปขุดแร่ในเหมืองซอมบี้เพื่อหาเงินได้ โดยแร่พวกนี้ถูกแบ่งออกเป็นแร่ดีบุก, แร่ทองแดง, แร่เงิน, แร่ทองและแร่เหล็กดำ
ช่วงแรกแร่ 4 ชนิดแรกสามารถนำไปขายได้ราคาดี แต่แร่เหล็กดำกลับมีราคารับซื้อเพียงแค่ 1 เหรียญทองแดงเท่านั้น
ในชาติก่อนเมื่อมีผู้เล่นเข้าถึงเลเวล 7 เป็นจำนวนมากและเข้าไปขุดแร่ภายในเหมืองซอมบี้ พวกเขาก็มักที่จะทิ้งแร่เหล็กดำเอาไว้บนพื้น เนื่องมาจากช่องเก็บของในกระเป๋ามีไม่พอและทุกคนก็คิดว่าแร่เหล็กดำเป็นสิ่งที่ระบบสร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้แกล้งผู้เล่นทุกคน
เวลาล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งช่วงครึ่งปีหลังจากที่เกมเปิดให้บริการ มันก็มีผู้เล่นค้นพบภารกิจลับสำหรับการตีบวกอาวุธ และในเวลานั้นผู้เล่นจึงได้ค้นพบประโยชน์ที่แท้จริงของแร่เหล็กดำพร้อมกับทำให้มันกลับมามีราคาอย่างที่ควรจะเป็น
ในชาตินี้มีผู้เล่นบางส่วนเก็บเลเวลถึงเลเวล 7 แล้ว แต่ผู้เล่นเหล่านั้นต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นระดับสูง มันจึงยังไม่มีใครเข้าไปขุดแร่ภายในเหมือง ยิ่งไปกว่านั้นการขุดแร่ยังเป็นงานที่จำเป็นจะต้องพึ่งพาทักษะ การจะขุดแร่เหล็กดำคุณภาพสูงออกมาได้มันจึงจำเป็นจะต้องใช้เวลาเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์อย่างน้อย 3 เดือน
ระหว่างที่ลู่หยางกำลังคิดหาทางออกอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็รู้สึกได้ว่ามันมีคนมาเคาะประตูบ้านในโลกแห่งความเป็นจริง
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ เพราะตอนนี้น่าจะเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืนแล้ว การมีคนมาเคาะประตูบ้านในเวลานี้จึงถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ
ลู่หยางรีบออกจากเกม ก่อนที่จะเดินไปที่ประตู
“ใคร?”
เสียงเคาะประตูหยุดลงในทันที และมันก็จำเป็นจะต้องรอไปอีกนานหลายวินาทีก่อนที่จะมีเสียงแหบ ๆ ดังขึ้นมาจากหลังประตู
“สวัสดี ฉันเป็นเพื่อนเก่าของลู่ฉงจวินตอนที่เป็นทหาร ตอนนี้ฉันมีธุระกับเขานิดหน่อย”
เมื่อลู่หยางได้ยินเสียงของอีกฝ่าย มันก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นจนน้ำตาแทบไหล ท้ายที่สุดเขาก็สามารถจดจำเสียงนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะนี่คือเสียงของอาจารย์ฮั่นจง ผู้ช่วยชีวิตเขาจากการไล่ล่าของลิ่วเจียและช่วยฝึกฝนเขาจนกลับมาแก้แค้นได้สำเร็จ
ชายหนุ่มรีบเปิดประตูอย่างว่องไวจนได้เห็นฮั่นจงที่มีเลือดไหลออกมาจากแขนและท้องน้อย ท่าทางของฝ่ายตรงข้ามดูอิดโรยมากและข้าง ๆ เขาก็มีเด็กชาย 2 คนกับเด็กหญิงอีกหนึ่งคน
เด็กผู้หญิงมีชื่อว่าฮั่นอิ่ง ส่วนเด็กผู้ชายมีชื่อว่าฮั่นเฟยและฮั่นอวี่ ทั้งสามคนนี้คือคนที่เขาสนิทสนมเหมือนดั่งพี่น้อง และทุกคนก็ช่วยเขากลับมาแก้แค้นลิ่วเจียในชาติก่อนพร้อม ๆ กัน
“ขอพวกเราเข้าไปเถอะนะ ตอนนี้พ่อใกล้จะไม่ไหวแล้ว” ฮั่นอิ่งร้องไห้อ้อนวอน
ฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่ต่างก็แสดงสีหน้าอ้อนวอนออกมาเหมือนกัน
ทันใดนั้นลู่หยางก็นึกได้ในทันทีว่าชาติก่อนฮั่นจงเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสและมาขอความช่วยเหลือที่บ้านเขาแบบนี้ แต่ตอนนั้นชายหนุ่มไม่เคยรู้จักกับฮั่นจงมาก่อน และเขายังกลัวว่าอีกฝ่ายจะนำปัญหามาให้ เขาจึงตัดสินใจปฏิเสธให้ความช่วยเหลือ
ในคืนนั้นศัตรูได้ไล่ล่าฮั่นจงมาจนทัน ในท้ายที่สุดอาจารย์ของเขาก็ต้องแลกแขนข้างหนึ่งไปเพื่อทำการสังหารศัตรู
ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ลู่หยางจะเกลียดตัวเองที่ในตอนนั้นไม่ยอมหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับฮั่นจง ในชาตินี้เขาก็มัวแต่คิดถึงเรื่องแก้แค้นจนทำให้เผลอลืมเรื่องนี้ไป
“เข้ามาเร็วเข้า เดี๋ยวผมจะไปหายามาให้” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับรีบพยุงฮั่นจงเข้ามาภายในบ้าน