ตอนที่แล้วบทที่ 395: เบ่งบาน (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 397: เบ่งบาน (3)

บทที่ 396: เบ่งบาน (2)


บทที่ 396: เบ่งบาน (2)

‘บทโจ๊กเกอร์ในปิเอโรต์เป็นของฉันงั้นหรือ?’ คังวูจินแนบโทรศัพท์มือถือแนบหู ความคิดแล่นปราดพยายามตีความความหมายของประโยคนั้นในช่วงเวลาอันแสนสั้น

ทันใดนั้น

‘อ่า!’

ความหมายที่แท้จริงของคำพูดที่ผู้กำกับอันกาบกเอ่ยผ่านโทรศัพท์มือถือก็กระจ่างแจ้งแก่เขา ‘บทโจ๊กเกอร์ในปิเอโรต์’ หมายถึงบท ‘เฮนรี่ กอร์ดอน’ เป็นของวูจิน

หรือก็คือ

‘ของฉัน? หมายความว่าฉันได้บทเฮนรี่ กอร์ดอนแล้ว?’

นั่นหมายความว่าเขาผ่านการคัดเลือกและการทดสอบหน้ากล้องขั้นสุดท้ายแล้ว มิฉะนั้นผู้กำกับอันกาบกคงไม่โทรศัพท์มาหาเขาในเช้าวันนี้เป็นแน่ หากไม่ใช่การหยอกล้อเล่นกัน แต่คุณอันกาบกไม่ใช่คนประเภทที่จะมาพูดเล่น ๆ เช่นนั้น

ในชั่วขณะนั้น คังวูจินก็

‘เยส! ผ่านแล้ว!!’

ความยินดีปรีดาเอ่อล้นจนแทบจะระเบิดออกมา เขาโห่ร้องในใจพลางยกมือข้างหนึ่งขึ้น ความจริงแล้วควรจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อแสดงความดีใจ แต่ติดที่มืออีกข้างกำลังถือโทรศัพท์มือถืออยู่จึงทำได้ลำบาก กระนั้นวูจินก็อดไม่ได้ที่จะขยับกายเล็กน้อย เขากระโดดขึ้นลงเบา ๆ อยู่กับที่ด้วยความตื่นเต้นที่ได้รับบทโจ๊กเกอร์ ดูเหมือนความตื่นเต้นนั้นกำลังจะแปรเปลี่ยนเป็นความคลั่งในไม่ช้า

ในเวลานั้นเอง

“อืม?”

ดูเหมือนผู้กำกับอันกาบกจะเอ่ยขึ้นอีกครั้งผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เพราะไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากเขา

“ฉันบอกว่าบทโจ๊กเกอร์ในปิเอโรต์ของเป็นของนาย ได้ยินไหม?”

เปลวเพลิงแห่งความคลั่งในอกวูจินมอดดับลงราวกับถูกราดด้วยน้ำเย็นยะเยือก ถึงอยากจะแผดเสียงร้องด้วยความยินดีเพียงใด แต่เวลานี้กลับต้องเก็บงำมันไว้ภายใต้หน้ากากแห่งการแสดง รอยยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นที่มุมปากของคังวูจิน เขาพยายามกดเสียงต่ำลงจนแทบจะเป็นกระซิบ

“ครับ คุณผู้กำกับ ได้ยินแล้วครับ”

“···เข้าใจความหมายใช่ไหม?”

‘แน่นอนสิครับ คุณปู่’ รอยยิ้มของคังวูจินยิ่งเด่นชัดขึ้นกว่าเดิม

“หมายความว่าผมผ่านออดิชั่นบท ‘เฮนรี่ กอร์ดอน’ ใน ‘ปิเอโรต์’ ใช่ไหมครับ?”

“ใช่ นายได้รับบทนี้ไป แถมยังเป็นนายคนเดียวเท่านั้นที่เหมาะสม เพราะนายนำ ‘เฮนรี่ กอร์ดอน’ มาสู่ที่นี่ด้วยตัวเอง”

“······”

“แล้วไม่ดีใจหรือ? ทำไมถึงนิ่งขนาดนี้ ฉันแปลกใจนะ”

“ดีใจครับ”

“ถึงจะพูดแบบนั้น แต่นายก็ดูเงียบเกินไปนะ ถึงฉันจะรู้จักนิสัยของวูจินดี แต่นึกว่าครั้งนี้จะเสียงดังกว่านี้นิดหน่อย”

คังวูจินยิ่งทุ่มเทให้กับการสวมบทบาทเย็นชามากขึ้นไปอีก

“ผมก็รออยู่แล้วครับ แค่ประหลาดใจเล็กน้อยที่ติดต่อมาเร็วแบบนี้”

“ฮ่า ๆ รออยู่เหรอ? งั้นก็หมายความว่านายมั่นใจว่าจะได้บท ‘เฮนรี่ กอร์ดอน’ อยู่แล้วสินะ ก็สมควรแล้วล่ะ ‘เฮนรี่ กอร์ดอน’ ของนายสร้างความประทับใจให้ทุกคนอย่างมาก จนไม่มีวันลืมเชียว”

ผู้กำกับอันกาบหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยต่อ

“เขาว่ากันว่านี่เป็นครั้งแรก”

“ครั้งแรกแบบไหนครับ”

“การตัดสินใจเลือกนักแสดง แถมยังเป็นบทนำที่มีนักแสดงฮอลลีวูดมากมายเข้าชิง ภายในเวลาไม่กี่วันแบบนี้ พวกผู้บริหารของ ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ บอกว่า ‘ไม่เคยมีมาก่อน’”

ก็จริง ที่ว่ามันเร็วไปหน่อย ออดิชั่นเสร็จแค่สัปดาห์เดียวก็ได้บทแล้ว

'ตามปกติอย่างน้อยก็น่าจะใช้เวลาสองสัปดาห์ขึ้นไป'

ริมฝีปากของเขายกยิ้มกว้างอย่างอิ่มเอม

"ช่างมันเถอะครับ เร็วหรือช้าไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือผมคว้าบทนี้มาได้แล้ว" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย ไม่ได้ใส่ใจกับความเร็วของกระบวนการเท่าใดนัก

"อย่างนั้นเหรอ?"

"ครับ"

เสียงครางต่ำดังมาจากปลายสาย ผู้กำกับอันกาบกก็เปลี่ยนเรื่องสนทนาไป

"วันนี้ทาง 'โคลัมเบียสตูดิโอ' จะติดต่อไปหาต้นสังกัดของนาย แต่ฉันอยากบอกเรื่องที่นายได้รับเลือกเอง"

"ขอบคุณครับ ผู้กำกับ"

"แล้วก็..."

ผู้กำกับอันกาบกเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง เสียงหายใจแผ่วเบาแทรกผ่านมาตามสาย ก่อนที่น้ำเสียงจะทุ้มต่ำลงกว่าเดิม

"แค่การที่นายได้เป็นนักแสดงนำใน 'ปิเอโรต์' ก็สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก รวมถึงเกาหลีแล้ว แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด ยังมีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ รออีกหน่อยนายก็จะรู้เอง"

แน่นอนว่าสิ่งที่ผู้กำกับหมายถึงคือโปรเจกต์ 'จักรวาลภาพยนตร์' ที่ 'โคลัมเบียสตูดิโอ' ทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง แต่วูจินยังคงไม่รู้เรื่องนี้ เขาเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย ก่อนพยักหน้ารับเบา ๆ

"ครับ"

"ฉันกับคังวูจิน คนเกาหลีคู่แรกที่จะสร้างปรากฏการณ์ในฮอลลีวูด มันช่างน่าตื่นเต้นเสียจริง พอถึงช่วงการถ่ายทำ 'ปิเอโรต์' เดี๋ยวคงมีเรื่องใหญ่ ๆ ที่จะตามมาอีกเป็นขบวนแน่"

ก็นับว่าน่าตื่นเต้นจริง ๆ ที่ผู้กำกับและนักแสดงชาวเกาหลีจะได้เป็นผู้จุดชนวนโปรเจกต์ 'จักรวาลภาพยนตร์' ของ 'โคลัมเบียสตูดิโอ'

จากนั้นเอง ทางผู้กำกับอันกาบกก็กล่าวปิดท้าย

"แล้วเจอกัน ในฐานะผู้กำกับและนักแสดง"

"ครับ ผู้กำกับ"

-ตุ๊ด

ทันทีที่วางสาย วูจินก็ปาโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงอย่างแรง

“เยส! สุดยอด!”

เขาระเบิดความดีใจด้วยการเต้นฉลองอย่างเริงร่า สะโพกและไหล่โยกย้ายไปมาตามจังหวะเพลงที่ดังก้องอยู่ในหัว รอยยิ้มกว้างแต่งแต้มบนใบหน้าหล่อเหลา ถึงแม้ที่ผ่านมาวูจินจะคว้าบทบาทมามากมาย แต่การได้รับบทในฮอลลีวูดครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายใหม่ที่ทำให้หัวใจพองโตด้วยความปลาบปลื้มยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ

ท่ามกลางความสุขล้นปรี่ เสียงเคาะประตูเบา ๆ ก็ดังขึ้น

-ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูสั้น ๆ ทำเอาวูจินสะดุ้งเล็กน้อย เขาตั้งสติแล้วกลับไปสวมวิญญาณนักแสดงมืออาชีพ ก่อนจะเปิดประตูต้อนรับชเวซองกุนที่ยืนยิ้มแย้มอยู่ในชุดลำลอง ผมยาวถูกมัดรวบเป็นหางม้า เขาโบกมือทักทายเล็กน้อย

“หลับอยู่เหรอ?” ซองกุนเอ่ยถาม

“เปล่าครับ” วูจินตอบกลับ

ชเวซองกุนเดินเข้ามาในห้องพลางยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้ดู

“ส่งข่าวดีไปให้ทางแชทแล้ว แต่ไม่เห็นนายอ่านเลย เลยมาดู”

‘แชท?’ วูจินนึกขึ้นได้ มีข้อความเข้ามาเยอะมาก จนเขาเผลอลืมไปสนิทเพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับการติดต่อผู้กำกับอันกาบก วูจินจึงหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนเตียงขึ้นมา ท่ามกลางข้อความมากมายที่ถาโถมเข้ามา คังวูจินเลือกเปิดดูข้อความของชเวซองกุนก่อน

-ท่านประธาน: ตื่นแล้วค่อยดูนะ คิดถึงนะ

-ท่านประธาน: (ลิงก์)

ชเวซองกุนผายมือให้วูจินรีบเปิดดู คังวูจินจึงแตะที่ลิงก์ ในโทรศัพท์มือถือของเขาปรากฏชื่อภาพยนตร์หลายเรื่องพร้อมตัวเลขยาวเหยียด

[ตารางรายได้ภาพยนตร์เกาหลีตลอดกาล] [อันดับภาพยนตร์ตลอดกาล (รวม)]

-1. ปลิง/ ยอดผู้ชมสะสม: 20483558 คน

-2. เกาะแห่งผู้สูญหาย/ ยอดผู้ชมสะสม: 20321451 คน

-3.การสังเวยอันน่าสะพรึงกลัวของคนแปลกหน้า/ ยอดผู้ชมสะสม 16833712 คน

-4.ยุทธนาวี/ ยอดผู้ชมสะสม: 16715955 คน

-5.พรหมลิขิต/ ยอดผู้ชมสะสม: 15557118 คน

ทันทีที่เห็น คังวูจินเกือบจะกางแขนออกด้วยความดีใจ ภาพเบื้องหน้าช่างน่าตื่นตาตื่นใจเหลือเกิน ภาพยนตร์เกาหลี 3 อันดับแรก ล้วนแต่เป็นผลงานที่เขาแสดงนำทั้งสิ้น ทันใดนั้น ชเวซองกุนก็เอื้อมมือมาจับไหล่ของวูจินที่กำลังจ้องมองโทรศัพท์มือถืออยู่แน่น

“สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ? ฉันเห็นปุ๊บ แทบเต้นเป็นเจ้าเข้าเลย”

“...ครับ ผมดีใจมากครับ”

“ฮ่า ๆ ๆ นายดีใจได้มากกว่านี้อีกนะ นักแสดงคนไหนจะทำได้แบบนี้? เกาหลีแทบแตกตื่นกันหมดแล้ว รู้ไหมว่าหนังของนายกวาดอันดับ 1 ถึง 3 เลย ที่ญี่ปุ่นก็เป็นแบบเดียวกัน”

“แล้ว ‘ปลิง’ ที่ญี่ปุ่นเป็นยังไงบ้างครับ?”

“อ้อ? อ่า... ทางนั้นก็ทำลายสถิติเหมือนกัน ทะลุ 17 ล้านคนดู เป็นหนังเกาหลีเรื่องแรกที่ทำได้ด้วย”

วันนี้มีเรื่อง “ครั้งแรก” เกิดขึ้นตั้งกี่เรื่องกันแล้วนะ? คังวูจินพยายามสะกดกลั้นความตื่นเต้นไว้สุดกำลัง ในขณะที่ชเวซองกุนไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย

“สถิติระดับนี้ต้องถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน”

“ท่านประธานครับ”

คังวูจินแทรกขึ้นขัดจังหวะชเวซองกุน

“ผู้กำกับอันกาบกโทรมาเมื่อครู่นี้ บอกว่าผมได้เล่นเป็น ‘เฮนรี่ กอร์ดอน’ ใน ‘ปิเอโรต์’ แน่นอนแล้วครับ”

“อา... จริงเหรอ? ดีแล้วล่ะ... เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ”

ชเวซองกุนที่ฟังอย่างไม่ใส่ใจในทีแรก พลันเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง ก่อนจะถามย้ำอีกครั้ง

“ว่าไงนะ? เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?”

“เรื่อง ‘ปิเอโรต์’ มีการคอนเฟิร์มบท ‘เฮนรี่ กอร์ดอน’ ให้ผมแล้วครับ”

“······”

ชเวซองกุนจ้องมองวูจินนิ่ง ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนจะกระพริบตาถี่ ๆ ราวกับพยายามเรียกสติ

“···นาย ได้เหรอ?” เขาเอ่ยถามเสียงแผ่ว

“ครับ” วูจินตอบรับสั้น ๆ แต่หนักแน่น

“ผู้กำกับอันกาบก โทรมาบอกเอง?” ชเวซองกุนยังคงถามย้ำด้วยความประหลาดใจ

“ครับ” คำตอบเดิมยังคงดังขึ้น

“หมายความว่า... นายได้เล่นเป็น ‘เฮนรี่ กอร์ดอน’ ใน ‘ปิเอโรต์’ งั้นเหรอ? ไปฮอลลีวูดจริง ๆ แล้ว? เรื่องจริงใช่มั้ย?” ชเวซองกุนถามซ้ำ ราวกับยังไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

“จริงครับ” วูจินยืนยันอีกครั้ง

เพียงห้าวินาทีถัดมา ร่างของชเวซองกุนก็ดีดผึงขึ้นจากเก้าอี้ เสียงคำรามด้วยความปิติยินดีดังกึกก้อง

“ว้ากกก! บ้าไปแล้ว!!!”

จากนั้น...

ชเวซองกุนก็ปลดปล่อยความรู้สึกออกมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง เสียงคำรามแห่งความยินดีดังต่อเนื่องยาวนานกว่าสิบนาที กว่าที่เขาจะสามารถดึงสติกลับคืนมาได้ โชคดีที่ในที่สุด เขาก็สงบลงได้ ใบหน้าเปื้อนยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความปลาบปลื้มใจ

“ทำได้ดีมาก... ทำได้ดีจริง ๆ วูจิน ฉันตื้นตันใจจริง ๆ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ทว่า ข่าวดีนี้ยังไม่อาจป่าวประกาศออกไปได้

“ที่ผู้กำกับอันกาบกโทรมาบอกเองแบบนี้ แสดงว่าเรายังต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับสินะ?” ชเวซองกุนเอ่ยถาม แม้จะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว

“น่าจะครับ ทาง ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ บอกว่าจะติดต่อมาเร็ว ๆ นี้ครับ”

‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ ติดต่อชเวซองกุนมาหลังจากนั้นสองชั่วโมง โดยสรุปใจความสำคัญได้ว่า บท ‘เฮนรี่ กอร์ดอน’ ใน ‘ปิเอโรต์’ ตกเป็นของคังวูจินอย่างแน่นอนแล้ว และทางสตูดิโอจะนัดหมายเพื่อพบปะกันเป็นครั้งแรกโดยเร็วที่สุด น่าจะเป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมกับกำชับให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ

การนัดหมายพบกันครั้งแรกนี้ หมายถึงการเจรจาต่อรองเพื่อลงนามในสัญญาอย่างเป็นทางการ

มีหลายสิ่งที่ต้องตัดสินใจตั้งแต่บัดนี้ ทั้งค่าตัวของคังวูจิน ตารางงานในอนาคต และเรื่องสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องแจ้ง แน่นอนว่าวูจินไม่จำเป็นต้องออกหน้าจัดการด้วยตัวเองอีกต่อไป

“ฝากฉันได้เลย วูจิน นายทำหน้าที่ของนายเสร็จสิ้นแล้ว ต่อจากนี้เป็นตาฉัน”

นับจากนี้ไป ชเวซองกุนต้องแบกรับภาระทุกอย่างไว้เพียงลำพัง

และในวันรุ่งขึ้น

ระยะเวลาที่วูจินต้องพักในแอลเอขยายออกไป รวมถึงเรื่องของ ‘ปิเอโรต์’ ด้วย ในระหว่างนั้น คังวูจินได้รับข่าวสารบางอย่างจากหนึ่งในห้าค่ายหนังยักษ์ใหญ่อีกแห่ง นั่นคือ ‘เวิลด์ดิสนีย์พิคเจอร์ส’ ถึงแม้ว่าวันทดสอบหน้ากล้องจะยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบ รวมถึงสิ่งที่คังวูจินต้องฝึกซ้อมก็ส่งมาถึงมือเขาแล้ว

ดนตรีและโน้ตเปียโนมากมายเกี่ยวกับบทบาท ‘อสูร’

ต่างจาก ‘ปิเอโรต์’ ที่เน้นการแสดง ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ จะพิจารณาจากทั้งการแสดง การขับร้อง และทักษะการเล่นเปียโน ส่วนการแสดงจะเป็นการแสดงฉากหนึ่งจากบทภาพยนตร์ ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’

ขณะเดียวกัน ที่เกาหลีก็เต็มไปด้วยกระแสข่าวครึกโครม

แน่นอนว่าประเด็นหลักคือคังวูจิน

『ในที่สุด ‘คังวูจิน’ ก็ทำได้! ‘บุปผาเร้น’ ขึ้นแท่นอันดับ 3 ภาพยนตร์เกาหลีตลอดกาล! ครองอันดับ 1 ถึง 3!』

『[ประเด็นร้อน] ‘บุปผาเร้น’ ขึ้นแท่นอันดับ 3 ภาพยนตร์เกาหลีตลอดกาล ‘ปลิง’ ที่เข้าฉายในญี่ปุ่นกวาดยอดผู้ชมทะลุ 17 ล้านคน』

แม้ตัวจะอยู่ไกลถึงแอลเอ แต่กระแสของเขาก็ยังคงร้อนแรงไม่แพ้ตอนที่อยู่ในเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวคราวของ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ที่ใกล้จะเปิดตัวในอีกไม่กี่วัน ยิ่งเป็นการโหมกระพือให้สถานการณ์เดือดพล่านขึ้นไปอีก

『ใกล้ถึงวันเปิดตัวทั่วโลก ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ปล่อยตัวอย่างครั้งที่ 3 แล้ว···คอมเมนต์ของชาวเน็ตต่างชาติถล่มทลาย』

เดือนมกราคมผ่านพ้นไป วันที่ 1 กุมภาพันธ์ก็มาเยือน ในวันนี้มีงานแถลงข่าวเปิดตัว ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ถึงแม้คังวูจินจะไม่ได้มาร่วมงาน แต่นี่ก็ยังคงเป็นงานใหญ่ที่ต้องดำเนินต่อไป เหล่านักข่าวนับร้อยชีวิตที่มาร่วมงาน ต่างก็ระดมยิงคำถามมากมาย ทั้งเรื่องของคังวูจิน ไมลีย์ คาร่า เนื้อหาของ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ การคาดการณ์ความนิยม รวมไปถึงกำหนดการถ่ายทำพาร์ท 2

แต่แน่นอนว่า ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดกว่าครึ่ง ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องของคังวูจินและไมลีย์ คาร่า

『ในงานแถลงข่าว ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ‘PDซงมันวู’ ได้เปิดเผยว่า “ในผลงานครั้งนี้จะได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ของคังวูจิน ส่วนบทของไมลีย์ คาร่าก็มีค่อนข้างเยอะ” 』

ณ ขณะนี้ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ กำลังได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ทั้งในและต่างประเทศ ถึงแม้ไมลีย์ คาร่าจะมีส่วนช่วยอย่างมาก แต่พลังของคังวูจินที่เคยสร้างปรากฏการณ์ความฮือฮาไปทั่วโลก ตั้งแต่เทศกาลหนังเมืองคานส์ ‘ปิเอโรต์’ และ ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ ก็ยังคงเป็นแรงดึงดูดสำคัญที่ทำให้สายตาของผู้ชมต่างชาติจับจ้องมาที่เขา

ส่วนในเกาหลีและญี่ปุ่น ความคาดหวังที่มีต่อ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ นั้นพุ่งสูงทะยาน

-<คุยเรื่องคังวูจิน สรุปแล้วมารร้ายผู้แสนดีเป็นยังไงกันแน่>|คุยประเด็นเด่นTV

แต่ในต่างประเทศกลับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ราวกับจะรอดูว่าเขาจะเก่งกาจสมคำร่ำลือหรือไม่

『 ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ได้รับเสียงตอบรับที่ค่อนข้างเย็นชาจากต่างประเทศ "เหมือนจะเป็นเรื่องแนวแอ็กชัน ขอลองดูหน่อยแล้วกัน" 』

อย่างไรก็ตาม ทั้งPDซงมันวูและผู้จัดการทั่วไปคิมโซฮยางแห่งทีม ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ก็ยังคงเดินหน้าโปรโมตและทำการตลาดอย่างดุเดือด ทั้งในและต่างประเทศ

จนกระทั่งใกล้ถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ...

“ทั่วโลกต่างจับตามอง ‘มารร้ายผู้แสนดี’ เหลืออีกเพียงสองวัน! เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลาเที่ยงตรงตามเวลาเกาหลี!”

“‘มารร้ายผู้แสนดี’ จะออกอากาศผ่าน Netflix ใน 80 ประเทศทั่วโลกในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลา 12.00 น. / รูปภาพ”

เหลือเวลาอีกเพียงสองวันเท่านั้น

สองวันผ่านไป วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ณ ลอสแอนเจลิส

ในขณะที่เกาหลีใกล้เที่ยง เวลาที่ลอสแอนเจลิสล่วงเลย 19.00 น. ไปแล้ว ท่ามกลางความเงียบสงบของย่านชานเมือง ห่างไกลจากความพลุกพล่านในตัวเมือง บ้านหลังหนึ่งกลับคึกคักเป็นพิเศษ

บ้านสองชั้นหลังงามของคังวูจินในลอสแอนเจลิส

ห้องนั่งเล่นกว้างขวางชั้นล่างยังคงมีพื้นที่ว่างเหลือเฟือ เนื่องจากสัมภาระเพิ่งถูกขนย้ายเข้ามาเพียงบางส่วน

รอบโซฟาหน้าทีวีจอยักษ์ ผู้คนกว่ายี่สิบชีวิตกำลังรวมตัวกันอย่างคับคั่ง มีทั้งชเวซองกุนที่มัดผมหางม้า พร้อมด้วยทีมสไตลิสต์ ทีมงาน และพนักงานจากบริษัทบันเทิง Bw สาขาต่างประเทศ ทุกคนนั่งบ้างยืนบ้าง มือถือเบียร์ พิซซ่า และไก่ทอด พลางพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างถึงขีดสุด

เสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วดังระงมไปทั่วห้อง

ท่ามกลางผู้คนมากมายเหล่านั้น ร่างของคังวูจินนั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับชเวซองกุน ดวงตาจับจ้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างไม่วางตา

คังวูจินนั่งนิ่งเงียบ

‘แปลกจริง ทำไมใจฉันถึงเต้นแรงแบบนี้?’

ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“เริ่มฉายแล้วครับ!”

พนักงานคนหนึ่งร้องขึ้น ก่อนจะควบคุมรีโมทคอนโทรลในมืออย่างคล่องแคล่ว ไม่นานนัก ภาพบนหน้าจอทีวีก็แปรเปลี่ยนเป็นหน้าหลักของ Netflix หลังจากกดปุ่มเพียงไม่กี่ครั้ง โปสเตอร์ของผลงานอันคุ้นเคยที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการก็ปรากฏขึ้น ต่อมา

-♬♪

โลโก้ Netflix อันโด่งดังสว่างวาบขึ้นบนหน้าจอ พร้อมกับเสียงเอฟเฟกต์ที่ดังก้องกังวานไปทั่วห้องนั่งเล่น

จากนั้น บนพื้นหลังสีดำสนิทของหน้าจอทีวี ชื่อเรื่องก็ปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ

- ‘มารร้ายผู้แสนดี’ พาร์ท 1

- ‘ตอนที่ 1’

‘มารร้ายผู้แสนดี’ ระดับ EX ได้ถูกปลดปล่อยออกสู่สายตาชาวโลก ณ บัดนี้แล้ว

-จบ-

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด