บทที่ 39 : เริ่มการแข่งขันจัดอันดับนักเรียนใหม่
บทที่ 39 : เริ่มการแข่งขันจัดอันดับนักเรียนใหม่
“ฉันฟังไม่ผิดใช่มั้ย?”
“หวังเยี่ยนปะทะเซียวซิงหยูงั้นหรอ!”
“ใช่แล้ว รายชื่อขึ้นจอแล้ว…นายฟังไม่ผิดหรอก!”
“โอ้โห ช่างเป็นศัตรูที่แค้นกันจริงๆ!”
ผลการจับสลากของหวังเยี่ยนถูกแสดงบนหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ข้างเวที
การแข่งขันรอบแรก คู่ที่ 7 คือ หวังเยี่ยนและเซียวซิงหยู
ด้านล่าง, อู๋เซิงโหย่วมีสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย…จากนั้นเขาก็ตบบ่าเซียวซิงหยู
“ซิงหยู ช่างเป็นโชคชะตาที่ชอบเล่นตลกจริงๆ นายต้องสู้กับไอ้หวังเยี่ยนบ้านั่นอีกรอบแล้ว!”
ซ่งหู่กอดอก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า
“สู้รอบสองแล้วไง? ซิงหยูก็คงอัดมันจนน่วมได้เหมือนเดิมนั่นแหละ”
บนที่นั่งผู้ชม เสียงพูดคุยเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องบาดหมางระหว่างเซียวซิงหยูและหวังเยี่ยนนั้นเป็นที่รู้กันทั่วทั้งวิทยาลัย
ในการแข่งขันรอบแรกของการแข่งขันจัดอันดับนักเรียนใหม่ครั้งนี้ ทั้งสองกลับได้มาพบกันบนเวทีอีกครั้ง…นี่จึงกลายเป็นหัวข้อที่ทุกคนให้ความสนใจ
…..
บนเวทีกรรมการ
หวังตงเซิงดันแว่นตาขึ้นเเละสบตากับหวังเยี่ยนที่อยู่ในกลุ่มคนดู
หวังเยี่ยนมีสีหน้ามั่นใจ และตั้งปณิธานไว้ในใจว่า
“พ่อวางใจเถอะ ผมจะไม่ทำให้พ่อผิดหวังอย่างแน่นอน!”
จากนั้น หวังเยี่ยนก็จ้องมองเซียวซิงหยูแล้วพึมพำกับตัวเองว่า
“เซียวซิงหยู เดี๋ยวตอนต่อสู้กันบนเวที ฉันจะทำให้สัตว์อสูรของแกพิการซะ!”
สัตว์อสูรคือชีวิตจิตใจของปรมาจารย์อสูร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปรมาจารย์อสูรระดับต่ำที่เพิ่งเริ่มต้น, ทุกคนจะมีสัตว์อสูรที่ทำพันธสัญญาด้วยเพียงตัวเดียวเท่านั้น
ถ้าสัตว์อสูรพิการ ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น
เเละก่อนหน้านี้, สาเหตุที่เซียวซิงหยูได้รับความสนใจจากทุกคน ก็เป็นเพราะศักยภาพอันยอดเยี่ยมของหมาป่าวายุนรก
ทันใดนั้น, กรรมการก็กล่าวประกาศ
“การจับสลากรอบแรกสิ้นสุดลงแล้ว”
“รอบแรก คู่ที่ 1 หลินเชียนหาน ปะทะ หาวเจี้ยน!”
“เชิญผู้เข้าแข่งขันทั้งสองขึ้นเวที!”
“เริ่มการเเข่งขัน!”
ณ ขณะนี้…การแข่งขันรอบแรกรอบที่ 1 เริ่มต้นขึ้นเเล้ว
บนเวทีกกรรมการ ซูหรูหยานมีรอยยิ้มพึงพอใจปรากฏอยู่ที่มุมปาก
เเละหวังตงเซิงที่อยู่ข้างๆเธอก็รีบประจบประแจงทันที
“ท่านอธิการบดี วิทยาลัยชิงหลงของเราปีนี้มีอัจฉริยะมากมายจริงๆ”
“นักเรียนใหม่รุ่นนี้ มีนักเรียนใหม่หลายคนที่ฝึกฝนสัตว์อสูรได้โดดเด่นมาก”
“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณท่านอธิการบดีที่สั่งสอนพวกเขามาเป็นอย่างดีเลยครับ!”
ซูหรูหยานไม่ได้มองหวังตงเซิงเเม้หางตา, แต่กลับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า
“รองอธิการบดีหวัง เรื่องอุบัติเหตุที่เซียวซิงหยูตกหน้าผา สืบสวนไปถึงไหนแล้ว?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ร่างกายของหวังตงเซิงก็แข็งทื่อ กล้ามเนื้อบนใบหน้าเริ่มตึงเครียดจนสายตาไม่สามารถโฟกัสได้
“เอ่อ…ท่านอธิการบดี เรื่องนั้นยังอยู่ระหว่างการสืบสวนครับ…”
“เรื่องนี้ต้องสืบสวนให้ถึงที่สุด เซียวซิงหยูเป็นหนึ่งในบุคลากรที่สำคัญที่สุดของวิทยาลัยชิงหลงของเรา”
“นายต้องหาตัวผู้บงการมาลงโทษให้ได้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับเซียวซิงหยู” ซูหยูหรานสั่งการอย่างเด็ดขาด
“รับทราบครับ” หวังตงเซิงโค้งคำนับ
จากนั้น การสนทนาระหว่างอธิการบดีและรองอธิการบดีก็หยุดลง
ซูหรูหยานเหลือบมองสีหน้าของหวังตงเซิงเล็กน้อย
“เจ้าคนเจ้าเล่ห์นี่ กล้าลงมือกับเซียวซิงหยู ฉันต้องหาโอกาสสั่งสอนมันสักหน่อยแล้ว”
ซูหรูหยานให้ความสำคัญกับเซียวซิงหยูมาก เล่ห์เหลี่ยมสกปรกของพ่อลูกตระกูลหวังนั้น เธอย่อมรู้อยู่แล้ว
แต่นั่นก็ไม่สำคัญอะไร เพราะก่อนที่ซูหรูหยานจะลงมือ เซียวซิงหยูก็วางแผนจะฆ่าพวกมันไว้แล้ว
…….
หนึ่งชั่วโมงต่อมา การแข่งขันรอบแรกของทั้ง 6 คู่ก็จบลง
วิทยาลัยชิงหลงไม่เลี้ยงคนไร้ค่า แม้แต่นักเรียนใหม่ที่มีพรสวรรค์ต่ำที่สุดก็ยังมีความสามารถพิเศษที่ยอดเยี่ยม
ยิ่งไปกว่านั้น นักเรียนใหม่เหล่านี้ไม่มีใครขี้ขลาด แม้คู่ต่อสู้จะมีพลังมากกว่า…พวกเขาก็ยังคงต่อสู้อย่างเต็มที่จนถึงวินาทีสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม, ตอนนี้หยางซู่นั่งอยู่บนเวทีผู้บรรยาย ขณะที่บรรยายด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา
“ทุกท่านครับ การแข่งขัน 6 คู่ของรอบแรกจบลงแล้วนะครับ”
“ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 12 คนต่างก็พยายามอย่างเต็มที่ แต่การต่อสู้ดูไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไหร่เลย…ตอนนี้ผมเกือบจะหลับแล้วเนี่ย”
เเต่ทันใดนั้น…จู่ๆหยางซู่ก็เปลี่ยนน้ำเสียง ราวกับได้ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังชนิดพิเศษ
“แต่….การแข่งขันคู่ที่ 7 ที่จะถึงนี้”
“จะทำให้บรรยากาศของการแข่งขันจัดอันดับนักเรียนใหม่ในปีนี้ พุ่งขึ้นถึงขีดสุด!”
เเละทันใดนั้น, กรรมการก็ตะโกนว่า
“เชิญผู้เข้าแข่งขันทั้งสองขึ้นเวที!”
ณ เวลานี้เซียวซิงหยูเดินขึ้นเวที ท่ามกลางสายตาของทุกคน
“เซียวซิงหยู ฉันรักนาย!”
“มีเซียวซิงหยูผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ไม่ต้องมีเทพยดาบนสวรรค์ก็ได้!”
“เซียวซิงหยู ผู้ครอบครองจักรวาล!”
…..
บนที่นั่งผู้ชม มีเด็กสาวหลายคนส่งเสียงเชียร์เซียวซิงหยูอย่างสุดเสียง
อย่างไรก็ตาม, ใบหน้าของเซียวซิงหยูไม่ได้มีความรู้สึกสนใจใดๆ
ทันใดนั้น เสียงของเดลลูก็ดังขึ้นในหัวของเขา
“ไม่คิดเลยนะเนี่ย ว่าเจ้าจะได้รับความนิยมจากสาวๆในวิทยาลัยชิงหลงมากขนาดนี้”
“ลูลู่ ฉันคือหนุ่มหล่อประจำวิทยาลัยชิงหลงนะ การที่เธอได้เป็นสัตว์อสูรของฉัน เธอควรจะดีใจนะ”
ถึงแม้เดลลูจะซ่อนตัวอยู่ในตราอสูร แต่เซียวซิงหยูก็สามารถจินตนาการถึงท่าทางของเดลลูที่กำลังกลอกตาไปมาได้
อีกด้านหนึ่งของเวที
หวังเยี่ยนเดินขึ้นเวทีพร้อมมองเซียวซิงหยูด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต
เเละเดลลูก็สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของเซียวซิงหยูเกี่ยวกับชายคนนี้ได้ทันที
“คนๆนี้ คือคนที่ทำให้เจ้าตกหน้าผางั้นเหรอ?”
“ใช่…เเละนอกจากมันแล้ว ก็ยังมีพ่อของมันอีก”
“ซึ่งก็คือไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอกที่ใส่แว่น นั่งอยู่บนเวทีกกรรมการนั่นแหละ”
เดลลูสามารถมองเห็นสิ่งที่เซียวซิงหยูเห็น เธอจึงมองเห็นหวังตงเซิงที่นั่งอยู่บนเวทีกกรรมการได้อย่างชัดเจน
“ไอ้คนที่เจ้าว่า เป็นปรมาจารย์อสูรระดับหกดาวเชียวนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวซิงหยูก็พูดติดตลกว่า
“เธอสู้ไม่ได้งั้นเหรอ?”
“เจ้าจะดูถูกใครก็ใช้สมองหน่อยนะมาสเตอร์”
“แค่พลังวิญญาณของเจ้าเพียงพอให้ข้าปล่อยทักษะต่อสู้ได้สักครั้ง…ข้าก็ย่อมสามารถจัดการมันได้ในทันที!”
นี่คือความมั่นใจของสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ ปรมาจารย์อสูรที่ต่ำกว่าระดับเจ็ดดาวไม่มีค่าในสายตาเธอเลยสักนิด
……
ณ เวลานี้บนเวทีเเข่งขัน
ก่อนการเเข่งขัน ย่อมต้องมีช่วงเวลาของการข่มขวัญกัน
หวังเยี่ยนแสยะยิ้มเเล้วพูดว่า
“เซียวซิงหยู เราได้เจอกันบนเวทีอีกแล้วนะ”
“หวังเยี่ยน บทเรียนครั้งที่แล้วยังไม่พอสำหรับเเกอีกเหรอ?”
คำพูดของเซียวซิงหยู แทงใจดำของหวังเยี่ยนอย่างจัง
“เซียวซิงหยู ครั้งนี้ฉันจะต้องเอาชนะเเกให้ได้!”
“และฉันจะทำให้เเกร้องไห้อย่างสิ้นหวังตอนลงจากเวที!”
หวังเยี่ยนพูดจาโอ้อวดอย่างถึงที่สุด
ซึ่งเมื่อได้ยินเช่นนี้, อู๋เซิงโหย่วและซ่งหู่ก็ตะโกนมาจากข้างล่างเวทีทันที
“ซิงหยู สั่งสอนมันอีกครั้งเลย!”
“ไอ้บ้านี่มันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ต่อให้เซียวซิงหยูใช้เเค่มือเดียว มันก็ยังเอาชนะเขาไม่ได้อยู่ดี!”
จากการเเข่งขันครั้งที่แล้ว ไม่มีใครคิดว่าหวังเยี่ยนจะสามารถเอาชนะได้
หวังเยี่ยนเคยพ่ายแพ้ต่อเซียวซิงหยู และการเเข่งขันครั้งนั้นเพิ่งผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์
ภายในหนึ่งสัปดาห์ ต่อให้ฝึกฝนอย่างหนักแค่ไหน ความแข็งแกร่งก็ไม่สามารถพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดได้
“หึ ฉันต้องการให้ทุกคนดูถูกฉันแบบนี้แหละ!”
“หลังจากฉันจะเอาชนะเซียวซิงหยูได้ ทุกคนก็จะต้องตกตะลึงเเละฉันจะกลายเป็นดาวดวงใหม่!”
อุดมคติสวยหรู แต่ความจริงนั้นโหดร้ายอย่างมาก
เเต่ในตอนนี้ หวังเยี่ยนกำลังจมอยู่กับจินตนาการจนไม่สามารถดึงตัวเองออกมาได้
…….
ที่มุมหนึ่งของที่นั่งผู้ชม
สาวงามผมขาวยืนเอามือเท้าคาง มองเซียวซิงหยูด้วยสายตาที่ลึกซึ้งและแจ่มใส
“น้องสาว ทำไมเธอถึงจ้องเซียวซิงหยูเขม็งตลอดเวลาเลยล่ะ?”
มู่หรงซินซินนั่งอยู่ข้างๆชายหนุ่มผมขาว ซึ่งก็คือพี่ชายของเธอมู่หรงหยางซั่ว
“พี่ชาย พี่รู้สึกอะไรบ้างมั้ย”
“รู้สึกอะไร?”
มู่หรงหยางซั่วมีสีหน้าสับสนเล็กน้อย
“ตั้งแต่เซียวซิงหยูถูกช่วยขึ้นมาจากหน้าผา รังสีของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเยอะเลย”
เดิมทีมู่หรงหยางซั่วไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติ แต่เมื่อน้องสาวพูดแบบนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองเซียวซิงหยูอีกสองสามครั้ง
“แค่ไม่กี่วัน รังสีของไอ้หมอนี่แข็งแกร่งขึ้นจริงๆด้วย!”
“คืนที่ตกหน้าผา มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่…”
แม้แต่รุ่นเยาว์ยังมองออก รุ่นใหญ่ก็ย่อมมองออกเช่นกัน
ตอนนี้สายตาของซูหรูหยานก็จับจ้องไปที่เซียวซิงหยูเขม็ง
“เจ้าเด็กคนนี้ ดูเหมือนจะมีความลึกลับบางอย่างปกคลุมอยู่…เเม้เเต่ฉันก็ยังมองไม่ออก”
นี่คือการเปลี่ยนแปลงหลังจากทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรระดับราชา
เมื่อคนๆหนึ่งมีไพ่ตายที่แข็งแกร่งพอ รังสีของเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นจนทำให้คนอื่นเดาทางได้ยาก
เเละทันใดนั้น กรรมการก็ตะโกนก้อง
“รอบแรก คู่ที่ 7!”
“หวังเยี่ยนปะทะเซียวซิงหยู”
“เริ่มการเเข่งขันได้!”
……………….