บทที่ 115 ห้วงลึกต่างมิติ!
"ห้วงลึกต่างมิติ?"
"มันคือที่ไหนกัน?" หลี่เหยาถามอย่างสงสัย
"ถ้าฉันบอกไปแล้ว เธอจะยอมปล่อยฉันไหม?"
หลี่เหยาเหลือบมองหยางเยว่ซินอย่างเย้ยหยัน
"เธอคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ไหม?"
"นายนี่มัน...!"
หยางเยว่ซินเคียดแค้นจนกัดฟันแน่น เธอจะต้องตายอยู่ดี แล้วจะให้เธอตอบคำถามไปทำไมกัน?
เธอเริ่มคิดหาวิธีจัดการกับหลี่เหยาอีกครั้ง ด้วยไอเท็มที่ตระกูลหยางและตระกูลหยานให้มา เธอมีทางเลือกมากมาย ทว่ากลับพบว่าไม่มีอะไรเลยที่สามารถฆ่าหลี่เหยาได้
ความท้อแท้ไหลบ่าเข้ามาในใจ
เธอควรจะยอมแพ้แล้วใช้ไอเท็มพิเศษเพื่อหนีออกไปจากที่นี่ดีไหม...
แต่ถ้าทำอย่างนั้นจะไม่เท่ากับทำให้ตระกูลหยางและตระกูลหยานเสียหน้าอย่างรุนแรงหรือ?
ไม่! เธอยังมีทางอื่นอยู่!
หยางเยว่ซินนึกถึงยักษ์ตาเดียวไบมอนที่กำลังโดนล้อมโจมตีอยู่
เผ่าไททันนี้จะปลดล็อกท่าไม้ตายเมื่อเลือดลดลงถึง 20%
ตอนนั้นเอง…
คราวนี้เธอต้องเล่นละคร แสร้งทำตัวนอบน้อมเพื่อให้หลี่เหยาตายใจไปก่อน
คิดได้เช่นนี้ หยางเยว่ซินจึงเปลี่ยนสีหน้าหมดแรงและทำท่าทางยอมจำนน
เธอเริ่มอธิบายเรื่องห้วงลึกต่างมิติให้หลี่เหยาฟัง
หลี่เหยาจึงได้รู้ว่า ห้วงลึกต่างมิติเป็นที่อยู่แท้จริงของพวกอสูร
ดันเจี้ยนทั้งหมดที่เขาเคยลุยมาล้วนเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ที่สะท้อนภาพออกมาจากห้วงลึกต่างมิติ
โชคดีที่เมื่อรอยแยกต่างมิติมาปรากฏบนโลก มนุษย์ก็ได้รับพรจากชะตาฟ้าให้กลายเป็นนักรบได้ เพื่อให้สามารถต่อกรกับพลังของพวกอสูร
และเพราะมนุษย์สามารถวัดค่าพลังของพวกอสูรได้ จึงยังสามารถปกป้องรอยแยกและสร้างอาณาเขตในห้วงลึกต่างมิติได้
ถึงกระนั้น พื้นที่ที่มนุษย์สร้างขึ้นในห้วงลึกก็เป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ไม่มีค่าใด ๆ สำหรับพวกอสูรในห้วงลึก
อสูรบางตัวที่ถูกจับมาเล่าว่า พื้นที่ของโลกมนุษย์เทียบกับห้วงลึกต่างมิติแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรจากเม็ดทรายเม็ดหนึ่งเท่านั้น
ความน่าสะพรึงที่ยังไม่มีใครรู้จักซ่อนอยู่ตรงนั้น และนี่คือเหตุผลที่พวกเขาจำเป็นต้องฝึกนักรบรุ่นใหม่อย่างจริงจัง
ถึงจะเป็นเพียงขอบเขตเล็ก ๆ แต่เหล่าอสูรที่นั่นก็ยังบีบมนุษย์จนต้องพยายามปกป้องตัวเองอยู่ตลอด ถ้าอสูรในศูนย์กลางของห้วงลึกปรากฏตัวขึ้น มนุษย์จะต้านทานอย่างไร?
หลี่เหยารู้สึกถึงแรงกดดันและเร่งเร้าให้รีบยกระดับความสามารถของตัวเอง
สถานการณ์ปัจจุบันของมนุษย์ไม่ต่างจากการมีเคียวขนาดใหญ่แขวนอยู่เหนือหัว
ที่อาจจะฟันลงมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่กลับไม่มีหนทางใดเลยในการตอบโต้
เมื่อหยางเยว่ซินเล่าจบ หลี่เหยาก็เตรียมที่จะจัดการเธอ
แต่สิ่งที่เขาไม่ทันสังเกตก็คือ ขณะที่เธอเล่าเรื่องห้วงลึกอยู่นั้น เธอแอบมองแถบเลือดของยักษ์ตาเดียวไบมอนอยู่ตลอดเวลา
ทันใดนั้น
เมื่อเลือดลดลงถึงหนึ่งในห้า ยักษ์ตาเดียวไบมอนก็ทุบอกตัวเองและส่งเสียงคำรามดังสนั่นหวั่นไหว
"ท่าไม้ตาย?"
ใบหน้าของหลี่เหยายังคงนิ่งเฉยไม่สะทกสะท้าน
อสูรระดับสูงมีท่าไม้ตายถือเป็นเรื่องปกติ เขาเตรียมพร้อมไว้แล้ว
ทันทีนั้นเอง
หลี่เหยาใช้สกิล "สลับอสูร" เปลี่ยนตำแหน่งของตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่ากับ
อสูรหนอนนักล่าทันที
พร้อมกันนั้น หลี่เหยาใช้สกิลของชุดเกราะ "ราชันย์สูงสุด" เพื่อป้องกันการควบคุมทุกชนิดได้ถึง 24 วินาที
เสียงคำรามนี้ก็น่าจะเป็นสกิลประเภทควบคุมสินะ?
ทันใดนั้น
สิ่งมีชีวิตทุกตัวในบริเวณนั้นยกเว้นหลี่เหยาและยักษ์ไบมอน ต่างตกอยู่ในสภาวะมึนงงไปหมด
ยักษ์ไบมอนพุ่งผ่านอสูรหนอนนักล่า ตรงไปหาตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่า
กำหมัดรวบพลังเข้าที่หมัดก่อนจะซัดลงมาเต็มแรง
แต่หลี่เหยานั้นเร็วกว่ามัน
เขาใช้เกราะป้องกันปกคลุมตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าไว้
"ตูม!"
หมัดของยักษ์ไบมอนกระแทกลงบนโล่ทองคำ
โล่บิดเบี้ยวไปตามแรงกระแทกและแตกออกแทบจะในทันที
【-4741】
หลี่เหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย
ความเสียหายนี้ไม่ใช่น้อยเลย
โล่ป้องกันนี้สามารถลดความเสียหายได้ถึง 70% และยังกันความเสียหายได้ถึง 20,000 หน่วย หากไม่มีโล่นี้ การโจมตีครั้งนี้จะสร้างความเสียหายถึง 57,000 หน่วย
ตามที่เขาประเมิน ค่าพลังของยักษ์ตาเดียวตัวนี้น่าจะอยู่ราว ๆ 3,000 หน่วย
นี่คือค่าดาเมจมหาศาลถึงยี่สิบเท่าของระดับปกติ
และสิ่งที่น่ากลัวก็คือ ก่อนจะโจมตีมันยังมีท่าไม้ตายสร้างการมึนงงในพื้นที่กว้างอีกด้วย
ต้องเข้าใจว่าเขายืนห่างจากมันเกือบ 100 เมตร แต่ยังโดนเสียงคำรามของมันส่งผลอยู่
หลี่เหยาคิดขึ้นมาอย่างคาดหวัง
อสูรที่ถูกอัญเชิญมาก็น่าจะดรอปไอเทมด้วยสินะ?
ในตอนนั้นเอง
หยางเยว่ซินก็ฟื้นจากอาการมึนงง
เธอรีบควักเข็มเงินออกมาและพุ่งแทงไปที่หลี่เหยา
เธอมั่นใจว่าที่ระยะประชิดนี้ หลี่เหยาจะต้องไม่ทันระวังตัวแน่ ๆ!
เป็นไปตามที่เธอคิด เข็มเงินพุ่งเสียบเข้าที่ตัวของหลี่เหยา
หยางเยว่ซินเผยสีหน้าของผู้ชนะออกมาพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงหยามเหยียด
"นี่แหละคือบทเรียนของคนที่ประมาทตระกูลหยาง!"
"คิดว่าฉันจะไม่มีทางจัดการกับเธองั้นหรือ?"
"เหรอ?"
หลี่เหยาเลิกคิ้วเล็กน้อย มองดูเข็มเงินที่หยางเยว่ซินพยายามใช้เล่นงานเขา
ด้วยความเร็วของหยางเยว่ซินตอนนี้ ต่อให้ใกล้เข้ามากว่านี้ เขาก็มีเป็นหมื่นวิธีที่จะหลบ แต่ทำไมต้องหลบให้เสียเวลาล่ะ?
หยางเยว่ซินโกรธจัดเมื่อเห็นท่าทางไม่ใส่ใจของหลี่เหยา เธอพูดด้วยเสียงแหลมสูง "จะบอกให้ก็ได้ว่านี่คือเข็มพิษเลือดคำสาป ไอเท็มระดับแพลทินัม ต่อให้เป็นบอสก็ไม่อาจทนพิษนี้ได้ ถ้าถูกเสียบเข้าร่างกาย!"
“แต่มันก็มีข้อจำกัด ต้องแทงเข้าไปในระยะประชิดเท่านั้นถึงจะทำงานได้”
หยางเยว่ซินยิ้มเยาะ หวังจะเห็นท่าทางหวาดกลัวของหลี่เหยา
แต่เมื่อมองไปที่ปลายเข็ม เธอกลับพบว่ามันลอยค้างอยู่ห่างจากร่างหลี่เหยา
ไปหนึ่งนิ้ว ถูกพลังงานลึกลับบางอย่างกั้นไว้
“เป็นไปไม่ได้!”
หยางเยว่ซินอุทานออกมาอย่างตกใจ
ทันใดนั้น นกสีครามก็ยิงหอกน้ำแข็งมาทางเธอ
หยางเยว่ซินรีบใช้ม้วนคาถาพิเศษ ร่างของเธอหายวับไปและปรากฏตัวอีกครั้งที่ข้างค่ายเวท
หลี่เหยาไม่ได้แปลกใจเลย
ตระกูลหยางจะต้องเตรียมอุปกรณ์ช่วยชีวิตให้เธอไว้แน่ เขาก้าวไปยังค่ายเวทอย่างช้า ๆ ขณะเดียวกันก็สั่งให้มังกรดำใช้สกิล “แสงแห่งความตาย”
พลังแสงสีดำแผ่ไปทั่ว ยักษ์ที่เหลือเลือดเพียงหนึ่งในห้าถูกทะลวงอกด้วยหอกสีดำ แถบเลือดของมันลดลงจนหมดสิ้น
หนอนนักล่าผู้ที่ไม่ได้กินอะไรในด่านทดสอบก็วิ่งไปยังร่างยักษ์ตาเดียวอย่างรวดเร็ว และกัดกินร่างนั้นทันที!
เสียง "กร๊อบ!" ดังขึ้น
【สังหารข้ามระดับอสูรระดับบอส: ยักษ์ตาเดียวไบมอน, ได้รับค่าประสบการณ์ +35%】
【นักล่าจากความว่างเปล่าทำการกลืนกินและพัฒนา ได้รับพลังชีวิตสูงสุดเพิ่ม 200,000 หน่วย】
หลังจากการกัดเพียงครั้งเดียว ร่างของหนอนนักล่าก็ขยายใหญ่ขึ้นจนถึงห้าเมตร
และมีพลังชีวิตทะยานขึ้นไปถึง 530,000 หน่วย เกินกว่าอสูรระดับบอสทั่วไป
ไปมาก
หลี่เหยายิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นกล่องสมบัติที่ยักษ์ตาเดียวไบมอนดรอป
"ตระกูลหยางก็มอบของขวัญดี ๆ มาให้เหมือนกัน"
เขาสั่งให้ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าเก็บกล่องสมบัติ จากนั้นจึงก้าวเข้าไปในค่ายเวท
ด้านนอก
บนดาดฟ้าเรือรบ
เวลาผ่านไปแล้ว 13 นาที แต่ไม่มีใครพูดถึงการช่วยหลี่เหยาอีก
หลังจากที่ไบมอนใช้ท่าไม้ตายไป เซวี่ยจิ่วหลันก็โล่งใจและเดินไปที่ดาดฟ้าพร้อมกับเซวี่ยจิ่วหลิง เพื่อรอการกลับมาของหลี่เหยา
ในการแข่งขันสิบคนสุดท้าย คนของตระกูลหยานและตระกูลหยางก็จะอยู่ด้วย
หากพวกนั้นเห็นหลี่เหยาแล้วทำอะไรบ้าคลั่งขึ้นมา เธออาจจะไม่ได้มีเวลาหยุดยั้งพวกนั้นทัน
บนดาดฟ้ามีผู้คนมายืนรอกันอยู่มากมาย
เวลานี้ผู้เข้าสอบส่วนใหญ่ได้เดินทางมาถึงจากทุกพื้นที่แล้ว
เซวี่ยจิ่วหลันยืนประจันหน้ากับหยานซิง ผู้นำตระกูลหยาน
ทั้งสองจ้องมองกันและกัน ราวกับต่างคนต่างมั่นใจว่าตนอยู่เหนือกว่า
คนอื่น ๆ ที่เห็นต่างพากันเงียบกริบ ไม่กล้าพูดอะไร รักษาระยะห่างเอาไว้
เซวี่ยจิ่วหลันมองหยานซิงอย่างเย้ยหยัน
‘หัวเราะเข้าไปสิ รอให้ฉันมีหลักฐานได้เมื่อไหร่ แกจะหัวเราะไม่ออก’
หยานซิงเองก็จ้องมองเซวี่ยจิ่วหลันอย่างไม่แยแส
‘หัวเราะเข้าไปสิ รอดูตอนที่ได้ข่าวลูกศิษย์ของแกตายเถอะ ว่าแกจะทำหน้าตายังไง’
ในขณะนั้นเอง
ค่ายเวทก็เริ่มทำงานขึ้น
“หยางเยว่ซิน?”
เซวี่ยจิ่วหลันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
หยานซิงกลับยิ้มออกมา
‘ในเมื่อเธอออกมาได้ แปลว่าหลี่เหยาตายไปแล้วสินะ’
แต่ทันทีที่หยางเยว่ซินซึ่งอยู่ในสภาพอิดโรยโผล่ออกมาจากค่ายเวท เธอก็รีบวิ่งไปหาคนของตระกูลหยานอย่างไม่คิดชีวิตและตะโกนลั่นด้วยเสียงแหลมสูง
“ช่วยด้วย! ช่วยฉันที! หลี่เหยาจะฆ่าฉัน!”
“หา?”
ในขณะนั้นเอง
ค่ายเวทส่องแสงขึ้นอีกครั้ง
“โห คนเยอะแยะขนาดนี้เลยเหรอ?”
หลี่เหยาพูดเบา ๆ พลางยิ้มเล็กน้อย
เขาไม่รีรอ ใช้สกิล "พันธนาการ" กำหนดเป้าหมายที่ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่า
"ทะยานข้ามมิติ"
ยังไม่ทันที่ใครจะทันได้ตั้งตัว หลี่เหยาปรากฏตัวขึ้นข้างหลังหยางเยว่ซินและใช้เท้าเหยียบเธอไว้กับพื้น
ต่อหน้าทุกสายตา หลี่เหยาชักดาบและฟาดลงทันที
“ฉัวะ!”
ศีรษะของหยางเยว่ซินลอยขึ้นไปในอากาศก่อนจะหล่นลงบนพื้น กลิ้งไปหยุดอยู่ที่เท้าของหยานซิง
สีหน้าของหยานซิง จากเดิมที่ยิ้มพอใจ เปลี่ยนเป็นตกใจ และในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด
เขายังไม่ทันได้พูดอะไร หญิงวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็ก้าวออกมา
“เจ้าสัตว์นรก กล้าดียังไง!”
พลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายขึ้นสู่ฟากฟ้า
เพียงแค่เห็นก็ทำให้หลี่เหยารู้ทันทีว่านี่คือศัตรูที่เขาไม่อาจต้านทานได้แน่!
อย่างน้อยที่สุดเธอจะต้องเป็นผู้ที่ผ่านการเปลี่ยนอาชีพถึงห้ารอบ!
หญิงคนนั้นพุ่งเข้ามาหาหลี่เหยา
พลังในฝ่ามือของเธอเตรียมพร้อมที่จะซัดลงไป
แต่ทว่า
ใบหน้าของหลี่เหยาไม่ปรากฏความกลัวแม้แต่น้อย
ร่างของหญิงคนนั้นกลับหยุดชะงักลงทันที
ด้านหลังของเธอ
เสียงเย็นยะเยือกของเซวี่ยจิ่วหลันดังขึ้น
“ลองขยับอีกที”
“สิ”