บทที่ 11 บางสิ่งเกี่ยวกับการกลับไปสู่ยุคปัจจุบัน
บทที่ 11 บางสิ่งเกี่ยวกับการกลับไปสู่ยุคปัจจุบัน
“หัวหน้า เทพพูดกับข้าเมื่อกี้!” ซื่อโถวพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น และรีบโอ้อวด
“ซื่อโถวโกหก!” คนอื่นๆ ไม่เห็นด้วยทันที
พวกเขาเริ่มทะเลาะกันอีกครั้ง
“พอแล้ว เรื่องมันเกิดขึ้นยังไงกันแน่!”
จนกระทั่งหัวหน้าหงุดหงิดจนเส้นเลือดที่ขมับเด่นชัด เขาก็พูดเสียงต่ำทำให้พวกเขาหยุดเถียง
หลังจากนั้น ในระหว่างการสอบถามของหัวหน้าและปโรหิตเฒ่า พวกเขาก็เล่าทุกอย่างออกมาอย่างละเอียด
ชาวเผ่าทั้งหมดเมื่อได้ฟังเรื่องราวจบ ต่างก็รู้สึกตื่นตะลึง
“สมกับเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าเรา!”
“เทพผู้ยิ่งใหญ่!”
พวกเขาต่างชื่นชมพร้อมเพรียงกัน
“มหาเทพแห่งแสงสว่าง...” ปุโรหิตเฒ่าพึมพำอย่างเลื่อมใส
…
ซูหยุนกลับมายังพื้นที่ศิลาศักดิ์สิทธิ์ ก็รู้สึกได้ทันทีถึงพลังศรัทธาจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้ามา ซึ่งช่วยฟื้นฟูกำลังเทพที่เขาใช้ไปครึ่งหนึ่งจนกลับคืนมาอีกครึ่ง
ไม่เพียงเท่านั้น เส้นสายศรัทธายังมีถึง 26 เส้นที่หนาขึ้น
โดยเฉพาะ 10 คนนั้น เส้นของแต่ละคนก็หนาขึ้น
รวมกับตอนที่ปรากฏตัวให้เห็นก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขามีเส้นหนาถึง 95 เส้นแล้ว ทำให้พลังเทพยิ่งเข้มข้นมากขึ้น!
เมื่อเห็นว่าประมาณหนึ่งในสามของคนในเผ่ามีเส้นหนาขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มเบา ๆ ด้วยอารมณ์ดี
“จัดการเรื่องทางนี้เสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาย้อนกลับไปในยุคปัจจุบันเพื่อซื้อยาแล้วสินะ”
ซูหยุนพึมพำกับตัวเอง
ก่อนหน้านี้เขากลัวว่าเวลาจะล่วงเลยไปจนไม่สามารถไปช่วยได้ทัน จึงไม่กล้ากลับไปยังยุคปัจจุบัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างจัดการเสร็จสิ้นแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะกลับไปได้แล้ว
คิดดังนั้น เขาจึงตั้งสมาธิไปยังลูกบอลสีดำ
กระแสน้ำวนสีดำค่อย ๆ ขยายขึ้น และกลืนร่างเทพของเขาเข้าไปอย่างรวดเร็ว
...
ในห้องนอน
ซูหยุนที่นอนอยู่บนเตียง ก็ลืมตาขึ้นมาอย่างฉับพลัน
"กลับมาแล้วสินะ"
เขาพึมพำกับตัวเอง
"อืม?" ซูหยุนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
มีเสียง "หึ่ง ๆ ๆ" ดังขึ้นในอากาศ
เขาได้ยินเสียงคล้ายแมลงวันบินวนอยู่ข้างบน พลันจำได้ถึงเสียงยุงกระพือปีก
ในหน้าร้อนที่แผดเผาเช่นนี้ รู้ไหมว่าใครดีกับคุณที่สุด?
มีแค่ยุงเท่านั้นที่ไม่เคยจากคุณไปไหน คอยอยู่กับคุณเสมอไม่ทิ้งกัน!
แถมมันยังส่ง "อั่งเปา" ให้คุณเป็นระยะ ๆ ทำให้คุณซึ้งจนหลับไม่ลง และตั้งแต่เล็กจนโต ก็มีแค่มันนี่แหละที่ให้ "อั่งเปา" คุณมากที่สุด มีทั้งห่อใหญ่ห่อเล็กครบเลย!(*อั่งเปา ก้นยุงเวลาดูดเลือด)
ไม่ว่าจะเป็นซองใหญ่หรือเล็ก มันก็ยังกล้าส่งซองมาให้เสมอ!
เฮ้อ ต่อให้คุณไม่อยากรับมันก็ยังตามมามอบให้คุณจนได้ แถมคุณยังดีใจจนอยากตบมันด้วยซ้ำ!
“ขยะแขยง!” ซูหยุนบ่นอย่างรังเกียจ
ยุง: มนุษย์น่ารังเกียจ ขอข้าดูดแค่คำเดียว…แค่คำเดียวเท่านั้น!
วินาทีต่อมา แสงสว่างวาบออกมาจากตัวซูหยุน ยุงสามตัวที่บินอยู่ในอากาศยังไม่ทันตั้งตัวก็กลายเป็นขี้เถ้าในทันที!
เหล่ายุงผู้กล้าทั้ง 3 จบชีวิต!
ซูหยุนพึมพำกับตัวเองว่า
“ยังดีนะที่ ‘สมาคมคุ้มครองยุง’ ไม่มาเห็นเข้า”
ผู้เชี่ยวชาญ: ยุงก็เป็นแม่คนหนึ่งนะ มันต้องเลี้ยงลูกด้วย แล้วจะให้มันดูดเลือดสักคำไม่ได้เชียวหรือ?
“ยุงแค่นี้คิดจะดูดเลือดเทพอย่างข้า นี่มันคิดจะกลายพันธุ์หรือไง?”
ซูหยุนบ่นพึมพำ
เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะกำจัดยุงทั้งสามตัวนี้แทนทุกคน
หลังจากจัดการยุงเสร็จ ซูหยุนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเปิดหน้าจอแล้วดูเวลา
23:37
“ผ่านไปแค่ 25 นาทีเองเหรอ?”
ซูหยุนครุ่นคิดในใจ
เขาลองคำนวณดูเงียบ ๆ ก็พบว่าอัตราส่วนเวลาระหว่างสองโลกนั้นอยู่ที่ประมาณ 12 ต่อ 1
“ดูท่าคงต้องรีบไปซื้อยาแล้ว ไม่อย่างนั้นพอกลับไปไอ้หมอนั่นที่ชื่อเหมาก็คงตายไปแล้วล่ะสิ?”
คิดได้ดังนั้น เพื่อรักษาคำพูดของตนเองไว้ เขาก็เตรียมออกไปซื้อยาในตอนนี้เลย ถ้ารอจนโลกนี้เช้า คงไม่เหลือแม้แต่ศพของเหมาแล้ว
ซูหยุนรีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ลุกขึ้นยืน
หลังจากใส่รองเท้าและล็อคประตูเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบมุ่งหน้าออกจากคอนโดไป
เกือบเที่ยงคืนแล้ว รถราบนถนนก็มีน้อยมาก ทำให้ถนนดูว่างเปล่าและเงียบสงัด
ซูหยุนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ค้นหาว่า “ร้านขายยาที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง”
ไม่นานหลังจากพิมพ์ข้อมูลลงไป ร้านขายยาที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงในบริเวณใกล้เคียงก็ขึ้นมาในแผนที่
ตามแผนที่ เขาจึงรีบเดินไปยังตำแหน่งนั้น
เมื่อเดินมาถึงทางแยกหนึ่ง เขารอสัญญาณไฟเขียว พอไฟเขียวสว่างขึ้น เขาก็เดินข้ามทางม้าลายไปพร้อมกับก้มมองโทรศัพท์
ทันใดนั้น!
“วู้ม!”
ซูหยุนซึ่งหูไวได้ยินเสียงคำรามกึกก้อง แว่บหนึ่งในใจก็รู้สึกถึงอันตราย
โดยไม่ทันคิด เขาเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์แล้วถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างรวดเร็ว
เสียงคำรามดังใกล้เข้ามา
“วู้ม วู้ม~”
รถสปอร์ตสีขาวสุดหรูคันหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ฝ่าความมืดพุ่งตรงมาทางเขา
เพียงชั่วพริบตา รถคันนั้นก็แล่นเฉียดผ่านตรงตำแหน่งที่เขาเพิ่งยืนอยู่ไปด้วยเสียงหวือดังสนั่น!
ความเร็วของมันราวกับสายฟ้าแลบ หายวับไปข้างตัวเขาในพริบตา!
ฟู่~
กระแสลมทำให้เสื้อผ้าและผมของเขาปลิวไหว
ซูหยุน: “…” มองตามรถสปอร์ตสีขาวที่ใกล้จะหายไปตรงสุดถนน ซูหยุนขมวดคิ้ว
“บ้าหรือไง! ขับซิ่งอะไรนักหนา ตอนกลางคืนก็ยังขับเร็วขนาดนี้ รนหาที่ตายหรือเปล่า!”
พอตกดึก ถนนเส้นนี้มักจะมีพวกรถซิ่งบ่อยๆ เขาแทบจะชินแล้ว
แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกือบโดนชน ความรู้สึกเลยไม่ค่อยจะดีนัก จึงอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา
เมื่อกี้ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายเขาผ่านการเสริมพลังมาแล้ว และร่างเทพสัมผัสได้ถึงอันตราย เขาอาจจะโดนรถคันนี้ชนไปแล้วก็ได้!
แม้ว่าจะใช้พลังเทพป้องกันตัวเองไว้ได้ แต่ผลกระทบคงหนักสำหรับรถนั่นมากกว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น เรื่องคงไม่ง่ายที่จะอธิบาย
นี่ถ้าคนขับรู้ว่าเกือบจะได้ชนกับ “เทพ” เข้า คงเอาไปคุยอวดได้เลย
ซูหยุนถอนหายใจ ปล่อยเรื่องนี้ไป เพราะรถนั่นขับเร็วเกิน เขาจะตามได้ก็ต้องใช้ร่างเทพเท่านั้น
ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะก้าวเดินต่อไปยังร้านยา
...
ในรถสปอร์ตเปิดประทุนสีขาว
ลมแรงพัดตีเข้าหน้า
ชายหนุ่มในวัย 20 กว่า สวมแว่น ใส่ชุดสั่งตัดอย่างประณีต นั่งอยู่ที่ที่นั่งคนขับ
เขากำลังจับพวงมาลัย ยิ้มพลางพูดด้วยความสะใจ “สะใจ! ขับซิ่งตอนกลางคืนแบบนี้มันได้อารมณ์ดีจริงๆ!”
ที่เบาะข้างคนขับ เด็กสาวสวยในชุดวาบหวิวหัวเราะเบาๆ
“ฮิฮิ คุณจาง เมื่อกี้ดูเหมือนคุณจะเกือบชนคนนะ?”
จางเส้าอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ ตอบอย่างเคยชิน
“กลัวอะไรล่ะ ถ้าชนคนไปแล้วจะเป็นไรไป? อย่างมากก็แค่จ่ายเงินสักล้านสองล้าน จบเรื่องแล้ว เธอจะกังวลอะไร?”
“ถึงจะชนเขาตายจริงๆ ก็โทษเขาที่ไม่ดูทางเองละกัน หาเรื่องใส่ตัวเองแท้ๆ จะไปโทษใครได้” จางเส้าหัวเราะเยาะ
“อ้อ จริงด้วย” เด็กสาวยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ใบหน้างดงามยิ้มระรื่น
“ด้วยฐานะของคุณจาง ต่อให้เกิดเรื่องจริงๆ คงไม่ต้องห่วงหรอก มีคนคอยปกป้องคุณอยู่แล้ว”
ใบหน้าที่สวยงามของเธอเผยความอิจฉา “น่าอิจฉาจริงๆ”
“ฮ่าๆ อิจฉาเหรอ?” จางเส้ายิ้มอย่างภูมิใจ “ไม่ต้องอิจฉาหรอก เธอเป็นคนของฉันแล้ว คนของฉันก็ถือว่าเป็นของเธอเหมือนกัน”
พูดจบ เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นมา ลูบแก้มนุ่มนวลของเด็กสาวเบาๆ
“จริงเหรอคะ?” เด็กสาวได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที
“คุณจาง ใจดีกับฉันจริงๆ!”
เธอยื่นแขนเรียวยาวกอดแขนขวาของเขา แก้มสวยพิงลงบนไหล่ของเขา
จางเส้าเหลือบมองท่าทางออดอ้อนของเธอจากหางตา ใจเขาก็เต้นแรงขึ้นทันใด ประกอบกับความตื่นเต้นจากการขับรถเร็ว ทำให้เขารู้สึกคึกคักขึ้นมาทันที
“นั่งมาบนตักผมหน่อยสิ?”
เขาพูดกับเด็กสาวอย่างมีนัย
เธอชะงักไปเล็กน้อย คิดตามครู่หนึ่งก็เข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง
“คุณจางนี่แย่จริงๆ นะ ขับรถอยู่แท้ๆ!”
เธอก้มหน้าด้วยความเขินอาย
จางเส้าตอบกลับด้วยความหมายสองแง่ “ก็ถ้าเธอขึ้นมานั่ง เราก็ยังขับรถกันอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?”
“คุณจาง คุณนี่ร้ายจริงๆ!” เด็กสาวเอามือปิดปาก หัวเราะคิกคักด้วยเสียงหวานใส
เธอทำตามอย่างว่าง่าย รีบขยับตัวขึ้นมานั่งบนตักของจางเส้าทันที
จางเส้ายิ้มกว้างขึ้น กำลังเตรียมตัวที่จะสานต่อให้ลึกซึ้งขึ้น แต่ในขณะนั้นเอง
ด้านหน้าโค้งหักศอกปรากฏขึ้น
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกขัดใจแล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ
เขาเหยียบเบรกอย่างรวดเร็ว
แต่...
รถกลับไม่ชะลอความเร็ว ยังคงพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว!
“เกิดอะไรขึ้น?” จางเส้ารู้สึกสงสัย แล้วลองเหยียบเบรกอีกหลายครั้ง
แต่ก็ยังไม่ได้ผล!
“เบรกแตก!”
เขาร้องออกมาอย่างตกใจ
รอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กสาวพลันหายไปอย่างฉับพลัน “คุณจาง อย่ามาพูดเล่นสิคะ”
“ไม่ ไม่ ผมไม่ได้ล้อเล่น!” จางเส้าเหยียบเบรกด้วยท่าทางลนลาน ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก “เบรกเสียจริงๆ!”
“อะไรนะ!” เด็กสาวหน้าซีดเผือด
เมื่อเห็นทางโค้งข้างหน้าใกล้เข้ามาทุกที ใบหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาร้องออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ
“อ๊าก! ไม่!”
“ช่วยด้วย!”
จางเส้าตกใจจนสับสนไปหมดโดยไม่ตั้งใจเหยียบที่อื่น
ทันใดนั้น รถสปอร์ตก็คำรามและเร่งความเร็วผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ลมพัดแรง!
ไม่หยุดยั้ง!
“อ๊าก!”
“อ๊าก!”
ในที่สุด ในเสียงกรีดร้องของทั้งสองคน รถสปอร์ตก็พุ่งชนเข้ากับกำแพงหิน!
“ปัง~”
เกิดเสียงดังสนั่น รถสปอร์ตพลิกคว่ำและบิดเบี้ยว พร้อมกับมีไฟลุกไหม้!
ชายหนุ่มและหญิงสาวในรถไม่รู้ชะตากรรม...
นี่คืออุบัติเหตุจากการขับรถ... สู่การพลิกคว่ำ!
ผู้คนที่อยู่ไกลออกไปเห็นเหตุการณ์นี้ต่างตกใจและรีบโทรเรียก 120
……
ซูหยุนเดินไปยังร้านขายยาอย่างสบายใจ ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นข้างหลังเขา
เพียงแต่เดินไปเดินมา ก็ได้ยินเสียงดังเบาๆ เหมือนมาจากด้านหลังห่างๆ
“เสียงอะไรน่ะ?”
คิดว่าเป็นเสียงที่เขาหูแว่ว ซูหยุนรู้สึกสับสนและกระพริบตามองอย่างไร้เดียงสา ก่อนจะไม่ใส่ใจและเดินต่อไป เขาไม่ได้คิดจะหันกลับไปดูเลย
นี่แหละคือผู้ชายที่แท้จริง ไม่เคยมองกลับไปดูเวลาที่เกิดระเบิด!
(จบตอนที่ 11)