บทที่ 96 การนำทีมของลู่หยาง
บทที่ 96 การนำทีมของลู่หยาง
ดยุกทูแฮนซอร์ด (ระดับเงิน)
เลเวล 5
พลังโจมตี 15-24
ความแข็งแกร่ง +6
พลังกาย +3
การโจมตีทางกายภาพ +12
“อันนี้ของใคร?” ลู่หยางถาม
“อันนี้ของฉัน” ฉือมู่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม เพราะอาวุธชิ้นนี้เป็นอาวุธที่เขาถูกใจมาก
นักเวทหนุ่มส่งดาบสองมือให้ฉือมู่พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม
“ยินดีด้วย คุณคือผู้เล่นคนแรกในเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับดาบสองมือเลเวล 5”
“ขอบคุณมากน้องชาย คราวนี้นายไม่ได้อะไรจากดันเจียนเลย เดี๋ยวหลังจากออกจากดันเจียนแล้วฉันจะรีบโอนเงินให้นายทันที” ฉือมู่กล่าวพร้อมส่งเสียงหัวเราะ
ลู่หยางยิ้มโดยไม่พูดอะไรแล้วเขาก็ได้พบว่าชายชราคนนี้เป็นคนที่น่าสนใจ เพราะในระหว่างที่เขาสังเกตอีกฝ่ายฉือมู่ก็คอยสังเกตเขาอยู่เช่นกัน
แม้ฉือมู่จะมีอายุมากกว่า 60 ปีแล้วแต่การเคลื่อนไหวภายในเกมของชายชราก็ไม่ได้ดูเชื่องช้าเลย ความเป็นจริงการเคลื่อนไหวของชายคนนี้มีความรวดเร็วพอ ๆ กันกับซิลเวอร์วูฟที่ยังหนุ่มยังแน่นอยู่ด้วยซ้ำ
นอกจากนี้นักเวทหนุ่มยังสังเกตเห็นอีกว่าโจรเฒ่าอีกคนภายในทีมก็สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว หรืออาจจะบอกได้ว่าอายุของพวกเขาไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับการเล่นเกมเลยแม้แต่น้อย
“คุณไม่จำเป็นจะต้องให้เงินผมหรอก แค่อย่าลืมอัญมณีที่สัญญาเอาไว้ก็พอ พวกเราออกเดินทางกันต่อเถอะ” ลู่หยางกล่าว
พื้นที่ข้างหน้ายังเหลือบอสตัวสุดท้ายคือจอมเวทอันเดดบาเลท ผู้ซึ่งเป็นคนใช้เวทมนตร์ต้องห้ามชุบชีวิตทุกคนในปราสาทขึ้นมา
เว็บทางการของเซคคัลเวิลด์เคยลงบทความแนวประวัติศาสตร์เอาไว้เล่มหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในบทความของหนังสือเล่มนั้นก็มีการลงประวัติของจอมเวทบาเลทเอาไว้โดยละเอียด
บาเลทเคยเป็นนักเวทน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงโด่งดังในตอนเป็นมนุษย์ แต่เขาอยากมีชีวิตเป็นอมตะ ก่อนตายเขาจึงเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นจอมเวทอันเดด และมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาถูกตุลาการศักดิ์สิทธิ์ไล่ล่า
ลู่หยางนำทีมผ่านห้องโถงของดยุกพร้อมกับสังหารมอนสเตอร์ระหว่างทาง จนในที่สุดพวกเขาก็ไปถึงมุมด้านขวาของปราสาทที่มีบันไดวนลงไปยังห้องทดลองใต้ดิน
“ตอนที่พวกเราลงกันที่ระดับเอ็กซ์เพิร์ทในก่อนหน้าพวกเรายังไม่สามารถเอาชนะบอสตัวนี้ได้ เพราะแค่มันโยนขวดน้ำยาเยือกแข็งมาช่วงแรกมันก็ทำให้พวกเราตายกันยกทีมแล้ว” ชิงเฟิงกล่าว
ลู่หยางจำสกิลปาน้ำยาเยือกแข็งของบอสได้ และมันก็ถือได้ว่าเป็นสกิลมาตรฐานที่เอาไว้ทดสอบสายตาของหัวหน้าทีมทุกคน
สกิลปาน้ำยาเยือกแข็งคือการโยนน้ำยาไปยังเป้าหมายทำให้พื้นที่ในรัศมี 50 เมตรได้รับความเสียหาย 100 หน่วยต่อวินาที และมันก็ยังลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของผู้เล่นที่อยู่ในระยะลงอีก 50%
ท่าทางก่อนที่บอสจะขว้างน้ำยาออกมาเป็นท่าทางที่สังเกตได้ยากมาก และมันก็มีแต่เฉพาะหัวหน้าทีมระดับสูงเท่านั้นจึงจะมองเห็นสิ่งผิดสังเกต หากหัวหน้าทีมมีสายตาที่ไม่ดี มันก็หมายถึงสมาชิกภายในทีมจะถูกกวาดล้างด้วยเช่นกัน
“ใจเย็น ๆ พวกเรามาลองดูกันก่อน ไม่ว่าบอสจะเก่งขนาดไหนแต่สุดท้ายบอสทุกตัวก็มีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้นแหละ” ลู่หยางกล่าว
จากประสบการณ์เผชิญหน้ากับบอสทั้งสามตัวในก่อนหน้านี้ มันก็ทำให้ทุกคนรวมถึงซิลเวอร์วูฟและลั่วซืออวี่ชื่นชมลู่หยางจากหัวใจ เพราะนักเวทหนุ่มสามารถนำทีมผ่านช่วงเวลาวิกฤตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังนั้นทุกคนจึงมีความเชื่อมั่นในตัวของลู่หยางอย่างเต็มเปี่ยม
ฉือมู่ย่อมสัมผัสได้เช่นกันว่าขวัญกำลังใจของสมาชิกภายในทีมดีแค่ไหน เหตุการณ์นี้แตกต่างจากในตอนที่เขานำทีมด้วยตัวเองอย่างสิ้นเชิง เพราะแม้แต่การให้เงินเป็นของรางวัลก็ยังไม่สามารถปลุกขวัญกำลังใจของทุกคนขึ้นมาได้ มันจึงทำให้ชายชราชื่นชมลู่หยางมากยิ่งขึ้น
หลังจากทุกคนเดินลงบันไดวนไปยังห้องใต้ดิน พวกเขาก็ได้พบกับห้องทดลองขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างประมาณ 200×200 เมตร โดยมีบาเลทที่สวมชุดคลุมสีดำกำลังยืนผสมน้ำยาสีฟ้าอยู่กลางห้อง
จอมเวทอันเดดบาเลท
เลเวล 15
พลังชีวิต 250,000/250,000
“เอาล่ะ สายตีระยะไกลให้มายืนอยู่ใกล้ ๆ ผม บอสตัวนี้ค่อนข้างยากถ้าหากว่าพลาดนิดเดียวก็อาจจะมีการสูญเสียเกิดขึ้นได้ ส่วนสายระยะประชิดถ้าผมสั่งให้หนีก็รีบหนีทันทีเข้าใจไหม?” ลู่หยางกล่าว
“ผมต้องหนีด้วยหรือเปล่า?” ชิงเฟิงถาม
“คุณไม่ต้อง นักบวชทั้งห้าคนจะคอยโฟกัสไปที่คุณอยู่แล้ว ฉันก็จะช่วยฮีลด้วยเหมือนกัน สิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องทำมีเพียงดึงความสนใจของบอสเอาไว้ก็พอ” ลู่หยางตอบ
ความจริงแล้วบอสตัวนี้แทบไม่มีสกิลสังหารตัวแทงค์เลย สกิลส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มุ่งเป้าไปยังอาชีพที่เน้นสร้างความเสียหายทั้งหมด หากการนำทีมของลู่หยางไม่ผิดพลาด การจัดการกับบอลตัวนี้ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
“ชิงเฟิงจัดการได้เลย พวกเราจะเอาชนะบอสให้ได้ภายใต้ความพยายามแค่ครั้งเดียว” ลู่หยางตะโกนออกคำสั่ง
“ครับ!” ชิงเฟิงตะโกนตอบรับพร้อมกับใช้สกิลชาร์จพุ่งเข้าไปหาบอส จากนั้นเขาก็ลากบาเลทมาอยู่ในระยะ 30 เมตรจากคนอื่น ๆ
“มนุษย์? พวกเจ้าอยากเป็นอมตะเหมือนกับข้างั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นข้าจะช่วยไถ่บาปให้กับพวกเจ้าเอง” บาเลทกล่าวก่อนที่เขาจะหยิบขวดน้ำยาสีฟ้าออกมาจากหน้าอก
“สายตีใกล้อยู่กับที่ สายตีไกลหยุดมือแล้วตามผมมาทางซ้าย” ลู่หยางตะโกน
สมาชิกภายในทีมต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นระดับสูง พวกเขาจึงมีระเบียบวินัยและเชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี แม้จะมีคนกำลังท่องคาถาแต่พวกเขาก็หยุดท่องอย่างกะทันหัน ก่อนที่ทุกคนจะรีบวิ่งตามลู่หยางไปทางซ้ายของแผนที่
หลังจากทุกคนออกวิ่งไปได้แค่ 2 วินาที บาเลทก็โยนขวดเยือกแข็งไปยังตำแหน่งที่พวกเขาเคยยืนอยู่ อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากการสังเกตที่แม่นยำ มันจึงไม่มีใครตกอยู่ภายใต้รัศมี 50 เมตรที่ถูกแช่แข็งเลย
ลั่วซืออวี่และผู้เล่นคนอื่นต่างก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เพราะพวกเธอไม่คิดว่าลู่หยางจะสามารถนำทีมหลบสกิลนี้ได้จริง ๆ
ลู่หยางพาทีมวิ่งไปถึงมุมทางซ้าย ก่อนที่เขาจะหยุดฝีเท้าและตะโกนออกมาว่า
“โจมตีต่อ!”
เวลา 1 นาทีผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วและพลังชีวิตของบอสก็ลดลงมาเหลือ 80%
“ลองชิมยาพิษตัวใหม่ของข้าซะ!” บาเลทตะโกนพร้อมกับหยิบน้ำยาขวดสีเขียวออกมาจากหน้าอก
“สายตีใกล้ถอยหลัง 20 เมตร ชิงเฟิงลากบอสออกไปทางซ้าย” ลู่หยางตะโกนออกคำสั่ง
ซิลเวอร์วูฟและผู้เล่นสายระยะประชิดคนอื่น ๆ รีบถอยในทันที แต่มันมีผู้เล่น 2 คนที่ไม่ฟังคำสั่ง
บาเลทขว้างขวดพิษเข้าใส่ชิงเฟิงและทำให้สารพิษสีเขียวแพร่กระจายออกไปในระยะ 20 เมตร
-150
-150
…
ตัวเลขความเสียหายต่อเนื่องปรากฏขึ้นเหนือศีรษะชิงเฟิงอย่างฉับพลัน พร้อมกับความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาที่ลดลงไป 50%
เนื่องมาจากชิงเฟิงเป็นตัวแทงค์หลักของทีม นักบวชจึงคอยฮีลให้เขาตลอดเวลา อย่างไรก็ตามผู้เล่นอีกสองคนไม่มีใครคอยฟื้นฟูพลังชีวิตให้พวกเขาจึงตายก่อนที่จะวิ่งออกมาพ้นรัศมีของยาพิษ
“สายตีใกล้โจมตีต่อได้เลย” ลู่หยางตะโกนสั่งหลังจากชิงเฟิงวิ่งพ้นออกมาจากรัศมีของสารพิษ
ตอนนี้พลังชีวิตของบอสลดลงมาเหลือน้อยกว่า 60% แล้ว
“ข้าจะให้พวกเจ้าได้ลิ้มรสพลังที่แท้จริงของข้า” บาเลทชูมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะก่อให้เกิดเมฆสีดำปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า
“ทุกคนหยุดโจมตี นักเวทตามผมมาทางขวา สายตีใกล้วิ่งไปทางขวา 5 เมตร ชิงเฟิงลากบอสออกไปทางขวา 5 เมตร” ลู่หยางตะโกน
พวกซิลเวอร์วูฟเพิ่งจะวิ่งมาถึงตัวบอส แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้เริ่มโจมตีลู่หยางก็สั่งให้ทุกคนต้องวิ่งอีกครั้ง และถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกอึดอัดแต่หลังจากได้เห็นผู้เล่นบางคนตายไป พวกเขาจึงเชื่อฟังคำสั่งอย่างไม่เต็มใจ
ลู่หยางพาทีมวิ่งไปบริเวณกลางแผนที่ และในขณะนี้มันก็มีเศษน้ำแข็งตกลงมาตรงจุดที่พวกเขาเคยยืนอยู่
เหล่าบรรดาผู้เล่นระยะประชิดต่างก็ลอบกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ เพราะถ้าหากไม่ใช่คำสั่งของลู่หยางพวกเขาก็คงจะตายไปแล้ว