บทที่ 95 สังหารดยุกยูริส
บทที่ 95 สังหารดยุกยูริส
“เฮ้อ ไม่รู้ว่ากว่าจะจัดการกับบอสตัวนี้ได้ พวกเราจะต้องตายกันไปอีกกี่ครั้ง” ลอร์ดเดสทรอยเยอร์กล่าว โดยในตอนนี้เขาได้สลับไปใส่ชุดของนักรบสายป้องกันแล้ว
“พวกเรามาลองสู้กันดูสักครั้งเถอะ” ลู่หยางกล่าว
ความจริงแล้วการเผชิญหน้ากับบอสตัวนี้ง่ายมากและมันก็คงไม่มีปัญหาในการเอาชนะในการต่อสู้เพียงแค่ครั้งเดียว เพราะท้ายที่สุดคัมภีร์เสกแกะที่เขาเตรียมมาก็เพื่อนำมาเผชิญหน้ากับหมาป่าวิญญาณโดยเฉพาะ
“ทุกคนยืนกันเป็นรูปสามเหลี่ยมเหมือนเดิม โดยผมจะเป็นคนยืนตรงจุดศูนย์กลาง เมื่อไหร่ก็ตามที่บอสสาดกระสุนกระจาย ให้กระจายตัวหลบกันออกไปแต่จำเอาไว้ว่าห้ามวิ่งหนีไปทางเดียวกันเป็นอันขาด” ลู่หยางกล่าว
ความจริงแล้วส่วนที่ยากที่สุดของการเผชิญหน้ากับบอสตัวนี้คือการตั้งสติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระสุนกระจาย เพราะโดยปกติเมื่อผู้เล่นเห็นกระสุนกระจายพวกเขาก็จะเริ่มตื่นตระหนก และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาวิ่งเข้าไปหาผู้เล่นคนอื่น เมื่อนั้นสมาชิกภายในทีมก็จะถูกสังหารไปจนหมดโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ลู่หยางจึงเปลี่ยนโหมดการโจมตีเป็นโจมตีทั้งหมดก่อนที่จะตะโกนสั่งขึ้นมาว่า
“ชิงเฟิงไปได้เลย”
“ครับ” ชิงเฟิงพยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะใช้สกิลชาร์จพุ่งเข้าหายูริส จากนั้นเขาก็ลากบอสมาในระยะ 30 เมตรจากสมาชิกภายในทีมคนอื่น ๆ และพลิกตัวไปอีกด้านเพื่อเปิดเส้นทางให้อาชีพระยะไกลโจมตีได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
แม้ยูริสจะเป็นซอมบี้แต่เขาก็เคลื่อนที่ได้เร็วมาก หลังจากบอสวิ่งไล่ชิงเฟิงแล้วเขาก็ฟาดดาบขนาดใหญ่สองมือลงมาอย่างรวดเร็ว
-487
“แรงมาก! นักบวชรีบฮีลเร็วเข้า!” ชิงเฟิงตะโกน
นักบวชทั้งห้าคนต่างก็รีบใช้สกิลฮีลเข้าใส่ชิงเฟิงพร้อมกัน ซึ่งในระหว่างนั้นลู่หยางก็ได้ใช้สกิลคอมบัสชัน 5 ครั้งพร้อมกับสั่งให้ทุกคนโจมตีเข้าใส่บอส
หลังจากเวลาผ่านพ้นไปเพียงแค่ไม่นานพลังชีวิตของยูริสก็ลดลงมาเหลือ 90%
“ลองชิมนี่ดู!” ยูริสร้องตะโกนพร้อมกับทำการยิงกระสุนกระจาย
กระสุน 3 ลูกพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วโดยมีเป้าหมายเป็นนักบวชนักเวทและนักธนู
“ผมโดนยิง!” ทั้งสามต่างก็ตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน
“นักบวชวิ่งไปทางซ้าย นักเวทวิ่งไปข้างหน้า ส่วนนักธนูวิ่งถอยไปข้างหลัง” ลู่หยางตะโกนสั่ง
น่าเสียดายที่ความเสียหาย 150 หน่วยทำให้ผู้เล่นพวกนั้นตกใจจนสติแตก ทั้งสามจึงวิ่งเข้ามารวมกลุ่มกันด้วยความตื่นตระหนก ผลก็คือพวกเขาถูกกระสุนชิ่งไปมาจนตายทั้งสามคน
ลู่หยางคาดเดาเอาไว้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์จะออกมาในลักษณะนี้ และนั่นก็คือเหตุผลที่เขาจัดให้ผู้เล่นภายในทีมยืนกันเป็นรูปสามเหลี่ยมเล็ก ๆ เพราะถ้าหากว่ามันมีใครตาย อย่างมากก็เกิดการตายเพียงแค่สามคน กระสุนจะไม่สามารถชิ่งไปหาผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้
“โจมตีต่อไป ไม่ต้องไปสนคนตาย” ลู่หยางตะโกนสั่ง
สมาชิกทุกคนภายในทีมโจมตีตามคำสั่งต่อไป ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไปได้ไม่นานพลังชีวิตของยูริสก็ลดลงเหลือ 80% ขณะเดียวกันบัฟสะสมความเสียหายบนตัวของบอสก็สะสมได้ถึงหกระดับแล้วลู่หยางจึงตะโกนสั่งการขึ้นมาว่า
“ลอร์ดเดสทรอยเยอร์ใช้สกิลยั่วยุ ชิงเฟิงถอยออกมา!”
“จงออกมาสัตว์เลี้ยงของข้า!” ยูริสตะโกนพร้อมกับวงเวทสีดำที่ปรากฏบริเวณด้านข้าง จากนั้นหมาป่าวิญญาณตัวหนึ่งก็กระโดดออกมา
หมาป่าวิญญาณ (ระดับอีลิท)
เลเวล 15
พลังชีวิต 50,000/50,000
ตอนนี้ชิงเฟิงเหลือพลังชีวิตน้อยมากแล้วและเขาก็กำลังจะฝืนเข้าไปรับหมาป่าวิญญาณเอาไว้ ลู่หยางจึงตะโกนขึ้นมาเสียก่อน
“ชิงเฟิงหยุด!”
ระหว่างพูดนักเวทหนุ่มก็ได้หยิบคัมภีร์เสกแกะออกมาจากกระเป๋า ซึ่งหลังจากเปิดใช้งานหมาป่าวิญญาณที่เคยมีหน้าตาดุร้ายก็ได้กลายเป็นแกะตัวเล็ก ๆ ที่มีความสูงประมาณครึ่งเมตร
“อาจารย์ นั่นมันสกิลอะไร?” ชิงเฟิงถาม
“สกิลเสกแกะ” ลู่หยางตอบ
นักเวทหนุ่มใช้สกิลฮีลฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับชิงเฟิง 3 ครั้งติดต่อกันจนทำให้พลังชีวิตของนักรบคนนี้กลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้งหนึ่ง
“ทุกคนเปลี่ยนเป้าหมายมาโจมตีใส่หมาป่าวิญญาณก่อน”
สมาชิกภายในทีมเปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีหมาป่าวิญญาณในทันที โดยลู่หยางได้ใช้สกิลคอมบัสชันเปิดการโจมตีเป็นคนแรก
หลังจากหมาป่าวิญญาณมีสภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง มันก็พยายามจู่โจมเข้าใส่ลู่หยางด้วยความโกรธ แต่ชิงเฟิงได้เปิดสกิลยั่วยุดึงหมาป่าเข้ามาหาเขาเสียก่อน
หมาป่าวิญญาณที่มีพลังชีวิต 50,000 หน่วยถูกสังหารลงไปอย่างง่ายดาย ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็กินเวลาไปเพียงแค่ประมาณ 30 วินาที
“ลอร์ดเดสทรอยเยอร์ถอย ชิงเฟิงเข้าไปชนบอสต่อ” ลู่หยางตะโกน
เมื่อได้รับคำสั่งลอร์ดเดสทรอยเยอร์ก็ถอนตัวออกมาพร้อม ๆ กับชิงเฟิงที่รับไม้ต่อเข้าไปใช้สกิลยั่วยุดึงยูริสไป ซึ่งการประสานงานระหว่างทั้งสองคนก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบ
ลู่หยางนำทีมเข้าโจมตียูริสต่อ ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไปได้ไม่นานพลังชีวิตของบอสก็ลดลงมาเหลือ 50%
“ข้าจะดวลกับพวกเจ้าอย่างยุติธรรม!” ดยุกยูริสร้องคำรามด้วยความโกรธ
ตูม!
ลู่หยางและผู้เล่นที่ยังเหลือรอดชีวิตอีก 16 คนถูกผลักกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อม ๆ กัน ก่อนที่พวกเขาจะชนเข้ากับเพดานและถูกบังคับให้พลังชีวิตลดลงมาเหลือ 1%
ระหว่างที่ลู่หยางถูกผลักกระเด็นออกไปนั้นร่างของนักเวทหนุ่มก็กลายเป็นแสงสีขาว พริบตาต่อมาเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นบนพื้นและในขณะที่ยูริสกำลังท่องคาถาลู่หยางก็รีบใช้ไฟร์บอลโจมตีในทันที
ยูริสที่กำลังท่องคาถาเป็นเหมือนเป้านิ่งไม่เคลื่อนไหว มันจึงถูกลู่หยางโจมตีเข้าใส่หัว 3 ครั้งติดติดกันและทำให้พลังชีวิตลดลงไปอีก 2%
นักเวทภายในทีมกำลังรอให้ร่างของตัวเองตกลงสู่พื้น แต่เมื่อพวกเขาเห็นการเคลื่อนไหวของลู่หยาง มันก็ทำให้พวกเขานึกขึ้นได้ว่ามันสามารถใช้วิธีการแบบนี้ได้ด้วย
“ที่แท้มันก็เอาสกิลแฟลชมาใช้แบบนี้ได้ด้วยสินะ” ซิลเวอร์ไลท์แดนซ์อุทาน
“พวกเราต่างก็มีสกิลนี้กันทั้งนั้น คราวหน้าถ้าบอสใช้สกิลยกพวกเราขึ้นมาอีกพวกเราก็สามารถใช้วิธีนี้หลบหนีการโจมตีของบอสได้” ลั่วซืออวี่กล่าว
ตอนนี้ร่างของทุกคนลงจอดลงบนพื้นแล้ว ซึ่งนอกเหนือจากลู่หยางคนที่เหลือต่างก็ล้วนแล้วแต่มีพลังชีวิตเพียงแค่ 1% เท่านั้น ยูริสจึงชูมือทั้งสองข้างของมันขึ้นเพื่อเริ่มฟื้นฟูพลังชีวิต 1% ต่อวินาที โดยสกิลนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับบอสเท่านั้น แต่มันยังช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับผู้เล่นในอัตรา 1% ต่อวินาทีด้วย
“นักบวชโฟกัสไปที่ชิงเฟิง ผมจะเป็นคนรักษาลอร์ดเดสทรอยเยอร์เอง ส่วนพวกนักเวทใช้ผ้าพันแผลดูแลตัวเองไปก่อน” ลู่หยางตะโกน
ระหว่างพูดอยู่นั้นลู่หยางก็ใช้สกิลฮีล 2 ครั้งติดต่อกันและใช้สกิลเคาน์เตอร์สเปลเพื่อหยุดการใช้สกิลฟื้นฟูของบอส
“สัตว์เลี้ยงของข้าจงออกมาสังหารศัตรูพวกนี้ซะ” ยูริสตะโกนด้วยความโกรธพร้อมกับทำการอัญเชิญหมาป่าวิญญาณออกมาอีกครั้ง
ลู่หยางใช้คัมภีร์เสกแกะเปลี่ยนหมาป่าวิญญาณให้กลายเป็นแกะตัวน้อยเช่นเดิม จากนั้นเขาก็นำทีมสังหารหมาป่าวิญญาณก่อนเป็นอันดับแรก
หลังจากหมาป่าวิญญาณถูกสังหารลงไปแล้ว ยูริสก็ใช้สกิลยิงกระสุนกระจายพุ่งเข้าไปหากลุ่มนักเวท
พวกนักเวทเพิ่งจะใช้ผ้าพันแผลฟื้นฟูพลังชีวิตกลับมาได้เพียงแค่ 50% ถ้าหากพวกเขาถูกกระสุนชิ่งไปมาสองครั้ง กลุ่มของพวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
ในระหว่างที่พวกนักเวทกำลังตื่นตระหนก ลู่หยางก็ใช้สกิลแฟลชไปปรากฏตัวตรงกลางกลุ่ม ก่อนที่มันจะมีวงแหวนเปลวไฟทะลุออกมาจากร่างของเขาอย่างรุนแรง
รีซิสท์ไฟร์ริง!
นักเวทที่อยู่รอบ ๆ ลู่หยางถูกผลักกระเด็นออกไปในทันทีทำให้กระสุนทั้งสามนัดปะทะเข้ากับเป้าหมายเพียงครั้งเดียวแต่ไม่มีเป้าหมายให้ชิ่งต่อ การโจมตีของกระสุนจึงหยุดลงไปเพียงเท่านั้น
ตอนแรกพวกลั่วซืออวี่คิดว่านักเวทกลุ่มนั้นจะต้องตายแล้วแน่ ๆ และมันก็ไม่มีใครคิดว่าลู่หยางจะแก้ไขสถานการณ์ในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อนักเวทรอดชีวิตทุกคนต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“รีบโจมตีเร็วเข้า! พลังชีวิตของบอสเหลือแค่ 20% แล้ว อย่าปล่อยให้มันเข้าโหมดคลั่งอย่างเด็ดขาด” ลู่หยางตะโกน
“ระวังบอสใช้สกิลยกขึ้นไปบนฟ้าด้วย ถ้าบอสใช้สกิลออกมานักเวทให้รีบใช้สกิลแฟลชเหมือนที่ผมทำ” ชายหนุ่มตะโกนต่อ
“ครับ/ค่ะ” ทุกคนตะโกนตอบรับ
“ข้าจะดวลกับพวกเจ้าอย่างยุติธรรม!” ยูริสคำรามแล้วใช้สกิล
ทุกคนภายในทีมถูกยกลอยขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง แต่ในคราวนี้มันมีแสงสว่างปรากฏขึ้นมาพร้อมกันมากกว่า 10 จุด ก่อนที่เหล่าบรรดานักเวทจะกลับมายืนบนพื้นได้อย่างปลอดภัย
“นักเวทโจมตี” ลู่หยางตะโกน
เหล่านักเวททำการโจมตีเข้าใส่บอสไปด้วย ขณะที่หางตายังคงมองไปยังลู่หยางเป็นระยะ ๆ เพราะด้วยการใช้โหมดอิสระมันจึงทำให้นักเวทหนุ่มสามารถจู่โจมเข้าใส่ศีรษะของบอสได้อย่างแม่นยำ ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีทุกครั้งยังเป็นการโจมตีแบบติดคริติคอล
-952, -976,…
ตัวเลขความเสียหายเกือบ 1,000 หน่วยทำให้ทุกคนต่างจ้องมองด้วยความอิจฉา เพราะเมื่อเทียบกับตัวเลขความเสียหายเพียงแค่ประมาณ 250 หน่วยของพวกเขาแล้ว มันก็ทำให้ทุกคนอยากจะเรียนรู้การใช้โหมดอิสระมากยิ่งขึ้น
ไม่นานผู้เล่นทุกคนก็ลงจอดบนพื้น ขณะที่พลังชีวิตของบอสลดลงมาเหลือเพียงแค่ 10% เท่านั้น
“ชิงเฟิงถอย ลอร์ดเดสทรอยเยอร์เข้าไปแทน นักบวชเปลี่ยนไปโฟกัสลอร์ดเดสทรอยเยอร์ ส่วนคนอื่นโจมตีอย่างสุดกำลัง พวกเราจะพยายามฆ่าบอสให้ได้ในคราวเดียว” ลู่หยางตะโกน
ระหว่างพูดชายหนุ่มก็ใช้สกิลเคาน์เตอร์สเปลขัดจังหวะการใช้สกิลฟื้นฟูของยูริสทำให้บอสเปลี่ยนมาใช้สกิลอัญเชิญหมาป่าวิญญาณอีกครั้ง
นักเวทหนุ่มยังคงใช้คัมภีร์เปลี่ยนร่างหมาป่าวิญญาณให้กลายเป็นแกะตัวน้อยเช่นเดิม แต่ในคราวนี้เขาไม่ได้สั่งการให้ทุกคนเปลี่ยนเป้าหมายมาที่หมาป่าวิญญาณอีกต่อไปแล้ว แต่สั่งให้ทุกคนโจมตีบอสต่อไปจนสุดท้ายดยุกผู้เคยยิ่งใหญ่ก็คุกเข่าลงกับพื้น
ระบบ: คุณสังหารดยุกยูริสสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 6,532 หน่วย
“นักบวชชุบชีวิตคนที่ตายขึ้นมา” ลู่หยางสั่งพร้อมกับเดินไปดูอุปกรณ์จากบอส
สำเร็จ!!