ตอนที่แล้วบทที่ 409 เดินทางสู่น่านน้ำโนวา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 411 การโจมตีทางจิตของหุ่นเชิด

บทที่ 410 ซากปรักหักพังของนิกายเตาทอง(ฟรี)


บทที่ 410 ซากปรักหักพังของนิกายเตาทอง

แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาก็ไม่ได้หยุด

ฝีเท้าและเดินต่อไปเป็นเวลานานจนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูหินโบราณแห่งหนึ่ง

อักษรรูนที่ซับซ้อนและล้ำลึกนับไม่ถ้วนถูกสลักไว้บนประตูหิน ปล่อยพลังออร่าอันสง่างามออกมา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าค่ายกลอักษรรูนนี้จะปลดปล่อยพลังอันรุนแรงออกมาอย่างแน่นอนหากมีคนต้องการบุกเข้าไป

บัซ!

ในขณะนั้นเองไพ่เงินในมือของเจียงเฉิงซวนก็ยิงแสงสีแดงออกมาอีกครั้งและตกลงบนประตูหิน

แคร้ก

มีเสียงเคลื่อนไหวของเครื่องจักรดังขึ้นมาพร้อมกัน

ทันทีหลังจากนั้น อักษรรูนก็สว่างขึ้นราวกับว่าเชื่อมต่อกับแหล่งพลังงาน

ครืนๆ!

ในที่สุดประตูหินก็เปิดออกด้วยเสียงดังปัง เผยให้เห็นทางเดินที่ลึกเข้าไป

เมื่อเห็นเช่นนี้ เจียงเฉิงซวนและเซินหรู่หยานก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน

ทั้งสองลังเลเพียงครู่หนึ่งก่อนที่จะก้าวเข้าไปในทางเดินลึกนั้นด้วยกัน

ขณะที่ทั้งคู่ก้าวเข้าไปในประตูหิน ก็มีร่างหลายร่างที่มีออร่าอันทรงพลังพุ่งเข้าหาทะเลโค้งในน่านน้ำโนวาอย่างรวดเร็ว

เจ้าของออร่าเหล่านี้อย่างน้อยก็อยู่ที่ระดับที่สี่ของขอบเขตแก่นทองคำ

พวกเขาต่างก็สวมเสื้อผ้าที่แตกต่างกัน

ในกลุ่มของพวกเขามีทั้งตระกูลเฉาจากรัฐหยู ตระกูลหลิวจากไฮ่ ตระกูลลู่จากรัฐลู่ ทั้งสามตระกูลมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือพวกเขาทั้งหมดเป็นตระกูลวิญญาณแรกกำเนิด

ตระกูลทั้งสามตระกูลนำมาโดยผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณแรกกำเนิดปลอม

ออร่าของพวกเขาทรงพลังและมีพลังที่สามารถบดขยี้ขอบเขตแก่นทองคำได้อย่างง่ายดาย

ในขณะนี้

ผู้ฝึกตนของตระกูลเฉาก็ส่งเสียงพูดคุยกัน

เฉาซวนกวงกล่าวว่า "ปู่เจ็ด เรากำลังปล่อยให้ตระกูลหลิวและตระกูลลู่เอาเปรียบเราหรือป่าว?..

..ถ้าทั้งสองตระกูลร่วมมือกันโจมตีตระกูลเฉาของเราล่ะ เราจะทำอย่างไร?”

ชายวัยกลางคนชื่อเฉาซวนกวงเรียกคนที่เป็นผู้นำตระกูลเฉามาในครั้งนี้ว่าปู่เจ็ด

ชื่อของเขาคือเฉาซิ่วชุน และเขาอยู่ในขอบเขตวิญญาณแรกกำเนิดปลอม

เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเฉาซวนกวง เขาก็ส่ายหัวทันที

“เสี่ยวกวง เจ้าควรทราบไว้ว่าหากเราต้องการเข้าไปในซากปรักหักพังของนิกายเตาทอง เราต้องหาชิ้นส่วนไพ่เงินให้ครบ

..อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านมาหลายปีและใช้ทุกวิธีการที่มี เราสามารถค้นพบได้เพียงสามชิ้นเท่านั้น

..หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป คนอื่นอาจไปเจอซากปรักหักพังแห่งนี้ และคงไม่มีอะไรเหลือให้เราอีกแล้ว

..โดยบังเอิญ ตระกูลหลิวและตระกูลลู่ต่างก็มีชิ้นส่วนอีกตระกูลล่ะสองชิ้น เมื่อรวมกันแล้ว เราก็มีเจ็ดชิ้น ซึ่งน่าจะสามารถใช้ในการเปิดซากปรักหักพังไหลังจากเราเข้าไปในซากปรักหักพังได้…”

เฉาซิ่วชุนพูดพร้อมหัวเราะออกมา

“เมื่อถึงเวลานั้น หากเราพบสิ่งที่ดีจริงๆ เจ้าคิดว่าตระกูลหลิวและตระกูลลู่จะเต็มใจร่วมมือกันเพื่อแบ่งแยกมันจริงๆ หรือ..

..หรืออีกนัยหนึ่ง ทำไมเจ้าไม่คิดว่าตระกูลตระกูลหลิวและตระกูลลู่จะร่วมมือกับเราแทนล่ะ..?”

ขณะที่พวกเขาพูด พวกเขาก็เร่งความเร็วบินข้ามท้องฟ้าราวกับแสงวาบ

ประมาณอีกหลายวันต่อมา

ผู้ฝึกตนตระกูลเฉา, หลิว และลู่ได้ปรากฏตัวที่ทะเลโค้งแล้ว

เมื่อมองดูหมอกหนาทึบที่ไม่อาจทะลุผ่านด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้

เฉาซิ่วชุนก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้นำของตระกูลหลิวและลู่ อย่างหลิวหวานลี่ และลู่ซิงหยุน ซึ่งได้ไปถึงขอบเขตวิญญาณแรกกำเนิดปลอมเช่นกัน

“พี่หวานลี่ พี่ซิงหยุน ตอนนี้เราอยู่ที่นี่แล้ว หากท่านต้องการเข้าไปในซากปรักหักพังโดยไม่ต้องรอให้หมอกจางไปเอง.. เราจะต้องร่วมมือกัน”

ในขณะที่เขาพูด ชิ้นส่วนไพ่เงินสามชิ้นก็ปรากฏขึ้นในมือของเฉาซิ่วชุน

หลิวหวานลี่และลู่ซิงหยุนมองหน้ากัน

หลิวหวานลี่ยิ้มและพูดว่า

“พี่ซิ่วชุนพูดถูก”

ขณะที่เขาพูด เขาก็ยื่นมือออกมาพร้อมกับพลิกมือ

มีชิ้นส่วนไพ่เงินสองชิ้นปรากฏขึ้นในมือของเขา

ในทำนองเดียวกัน ลู่ซิงหยุนยังหยิบชิ้นส่วนไพ่เงินสองชิ้นออกจากร่างกายของเขาด้วย

เมื่อชิ้นส่วนไพ่เงินทั้งเจ็ดชิ้นปรากฏขึ้นพร้อมๆ กัน พวกมันก็สั่นสะเทือนกันทันที

และแสงสีแดงอ่อนๆ เริ่มเปล่งออกมา..

อุณหภูมิที่ร้อนจัดเพิ่มสูงขึ้นบนพื้นผิวของไพ่เงิน

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นแสงสีเงินที่เปล่งออกมาจากมันหรืออุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจากมัน พวกมันก็อ่อนแอกว่าไพ่เงินของเจียงเฉิงซวนอย่างมาก

ในขณะนี้ ชิ้นส่วนไพ่เงินทั้งหมดก็ลอยขึ้นมาออยู่ตรงหน้าพวกเขาและเปล่งแสงออกมา

บัซ!

ในเวลาเดียวกัน ชิ้นส่วนทั้งเจ็ดชิ้นก็สั่นสะเทือนและยิงแสงสีแดงจาง ๆ รวมกันเป็นแสงเดียวแล้วชี้ไปที่หมอกหนา

ทันใดนั้นหมอกหนาก็เริ่มจางลง

พวกเขาสามารถมองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้คร่าวๆ ประมาณห้าถึงหกเมตร

เฉาซิ่วชุน, หลิวหวานลี่ และลู่ซิงหยุนมองหน้ากัน

พวกเขาพยักหน้าให้กัน

จากนั้นพวกเขาก็พาผู้ฝึกตนของตนเข้าสู่เส้นทางที่ได้เปิดเผยอย่างรวดเร็ว

แต๊ะ แต๊ะ แต๊ะ

พวกเขาเดินต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัวจนกระทั่งมาถึงประตูหิน

พื้นผิวของประตูหินถูกประทับด้วยอักษรรูนที่ซับซ้อนและล้ำลึกจำนวนนับไม่ถ้วน และมันยังปล่อยออร่าที่ทำให้ใครๆ ต่างก็เหงื่อแตกพลั่กอย่างไม่ทราบสาเหตุอีกด้วย

แม้กระทั่งเฉาซิ่วชุน หลิวหวานลี่ และลู่ซิงหยุน ก็ยังรู้สึกกลัวอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับประตูหินนี้

รู้สึกราวกับว่าชีวิตของพวกเขาอาจตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อ

“มาลงมือกันเลยดีกว่า”

เฉาซิ่วชุนหยิบเศษเงินทั้งสามชิ้นที่พึ่งนำกลับคืนออกมาอีกครั้ง

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิวหวานลี่ และลู่ซิงหยุนก็หยิบชิ้นส่วนไพ่เงินออกจากร่างกายของพวกเขาด้วย

จากนั้นทั้งสามคนก็กระตุ้นพลังธรรมะและฉีดเข้าไปยังชิ้นส่วนไพ่เงิน

บัซ!

ชิ้นส่วนไพ่เงินทั้งเจ็ดชิ้นสั่นสะเทือนกันอีกครั้ง จากนั้นแสงสีแดงจางๆ ทั้งเจ็ดดวงก็เชื่อมต่อกันและยิงแสงสีแดงไปที่ประตูหินตรงหน้าพวกมัน

บัซ! บัซ! บัซ!

ในขณะนี้ อักษรรูนบนประตูหินทั้งหมดก็สั่นไหวด้วยแสงที่แวววาว เฉาซิ่วชุนและคนอื่นๆ ตกตะลึงมากจนพวกเขาถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว

แคร้ก

ในเวลาเดียวกัน ก็มีเสียงเครื่องจักรหลายเสียงดังขึ้นจากภายในประตูหิน

พร้อมกับเสียงดังโครม ประตูหินโบราณก็เปิดออกเป็นช่องว่างที่ทำให้คนผ่านได้ครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น

เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉาซิ่วชุนและคนอื่นๆ ก็ลังเล

ไม่มีใครกล้าเข้าไปก่อน

เวลาผ่านไปทีละน้อย

ประตูหินก็เริ่มแสดงสัญญาณการปิดตัวลงอีกครั้ง….

………………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด