ตอนที่แล้วบทที่ 3 กลับสู่โลกแห่งความจริง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 ถึงเวลาที่ฉันจะต้องลงสนามแล้ว!

บทที่ 4 ร่างกายค่อยๆ กลายเป็นเทพ


บทที่ 4 ร่างกายค่อยๆ กลายเป็นเทพ

เมื่อจ้องมองไปที่ ‘แก่นเทพ’ ที่ย้อมเป็นสีแดงเข้มครึ่งหนึ่ง เขาก็เริ่มครุ่นคิด

“หรือว่าสีนี้แสดงถึงระดับพลังเทพ? ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วเราจะพัฒนาระดับพลังของเราได้อย่างไร?”

“หรือเป็นเพราะแรงศรัทธา?”

ซูหยุนคาดเดาว่าคงต้องรอจนกว่าสีแดงเข้มจะปกคลุมแก่นเทพทั้งหมด เขาถึงจะสามารถพัฒนาพลังเทพของเขาให้คงที่โดยไม่รู้สึกแปลก หรือรู้สึกไม่สบายในขณะที่อยู่ในร่างเทพ

และแรงศรัทธาก็เป็นสิ่งที่เขาคาดว่าน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มพลัง เพราะพลังเทพในร่างกายของเขาล้วนแล้วแต่เกิดจากแรงศรัทธาที่ถูกส่งผ่านเส้นเหล่านั้น

ถ้าจำนวนผู้ศรัทธาเพิ่มขึ้น เขาเชื่อว่าพลังของเขาน่าจะเพิ่มขึ้นด้วย!

ซูหยุนลองสัมผัสกับความรู้สึกของการลอยตัวอยู่สักพัก จากนั้นก็ค่อยๆ ลอยกลับไปยังร่างกายของเขาด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

ร่างเทพของเขาค่อยๆ หลอมรวมเข้ากับร่างกาย แสงสีขาวจางหายไปทีละนิด ห้องทั้งหมดกลับคืนสู่สภาพปกติ

ซูหยุนลืมตาแล้วขยับร่างกายเล็กน้อย จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ

'ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง?'

ครั้งนี้ เมื่อกลับมาอีกครั้ง เขารับรู้ถึงบางสิ่งที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

เขารู้สึกว่าร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงที่บอกไม่ถูก เหมือนว่ามันได้รับอิทธิพลจากร่างเทพและกำลังค่อยๆ เปลี่ยนไป

พลังงานอันอ่อนโยนถูกส่งจากร่างเทพไปยังเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเขา ราวกับเป็นยาบำรุงที่ไร้ผลข้างเคียงซึ่งเสริมสร้างร่างกายอยู่ตลอดเวลา

ซูหยุนรู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังถูกพลังแห่งเทพกระจายไปทั่วร่างอย่างช้าๆ ซึ่งกำลังเปลี่ยนให้ร่างกายของเขาเข้าใกล้ร่างเทพเข้าไปเรื่อยๆ และอีกไม่นานร่างมนุษย์ของเขาอาจจะกลายเป็นรูปลักษณ์เดียวกับร่างเทพ

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ มองเงาของตัวเองในกระจก

ในกระจก ชายหนุ่มผมดำยาวพอประมาณ ใบหน้าสะอาดสดใส ดูดีแบบเรียบๆ ไม่ใช่ประเภทที่จะทำใครหันมาสนใจเขาได้

เรียกได้ว่า หน้าตาธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่น

'ผิวขาวขึ้นนิดหน่อย แถมดูดีขึ้นนิดนึง?'

ซูหยุนสำรวจใบหน้าของตัวเองซ้ายขวา แล้วก็สังเกตได้ว่าผิวที่เคยค่อนไปทางเหลืองตอนนี้ขาวขึ้นหน่อยๆ รูปหน้าก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปบ้าง

เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่เป็นผลมาจากพลังเทพ

เขากำลังดูดีขึ้นเรื่อยๆ! ใบหน้า ผิว และทุกส่วนของร่างกายจะค่อยๆ กลายเป็นรูปลักษณ์สมบูรณ์แบบเหมือนกับร่างเทพ

'เทคนิคศัลยกรรมเกาหลีเทียบกับนี่แล้วสู้ไม่ได้เลย!' ซูหยุนอดที่จะบ่นเบาๆ ไม่ได้

ถึงแม้เขาจะยังไม่เห็นรูปลักษณ์ของร่างเทพ แต่ก็รู้ว่ามันต้องหล่อแบบน่าทึ่งระดับสุดยอดแน่นอน

เป็นประเภทที่ทำให้คนเห็นแล้วละสายตาไม่ได้ เดินบนถนนคงเกิดอุบัติเหตุเพราะทำให้ทุกคนต้องหยุดยืนมอง ถ่ายรูปหรือถึงกับกลืนน้ำลาย พูดได้ว่าไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ต้องตะลึง!

พอคิดถึงเรื่องนี้ ซูหยุนก็ขนลุกไปทั้งตัว สายตาเริ่มมีความกังวลปนหวั่นๆ ขึ้นมา

ถ้าวันหนึ่งเขากลายเป็นคนที่มีลักษณะแบบนั้นจริงๆ ก็คงไม่ต้องคิดว่าจะพัฒนาไปอย่างเงียบๆได้เลย

ไม่ต้องคิดถึงว่าคงจะถูกตามเวลาออกจากบ้าน บางทีอาจมีพวกคลั่งที่อยากครอบครองตลอดไป บุกเข้าบ้านเพื่อจบชีวิตไปด้วยกันก็เป็นได้! ฟังดูอาจไม่น่าเชื่อ แต่บนโลกนี้มีคนทุกแบบ และโอกาสนี้ก็มีอยู่จริง

ขนาดดาราในโลกความจริงยังเจอเรื่องแบบนี้ เขาที่หน้าตาเหนือกว่าดาราและไม่มีทางเกิดจากธรรมชาติ จะยิ่งต้องโดนขนาดไหน

‘ยังดีที่การเปลี่ยนแปลงแบบนี้คงใช้เวลาอีกพักใหญ่ ไว้ค่อยหาทางอีกทีแล้วกัน’

ซูหยุนเกาศีรษะ พูดด้วยท่าทีลำบากใจ

‘แต่ตอนนี้ สิ่งที่น่าจะเปลี่ยนไปมากที่สุดก็คงเป็นเรื่องบุคลิกภาพล่ะนะ?’

บุคลิกภาพอาจพูดได้ซับซ้อน แต่มันก็มีอยู่จริง

คนธรรมดาและขุนนาง ต่อให้ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน แต่ความมั่นใจและกริยาท่าทางของทั้งสองคนก็ดูต่างกัน

ซูหยุนพบว่าบุคลิกของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้หน้าตายังไม่เปลี่ยนมากนัก แต่ความรู้สึกที่ส่งให้ผู้อื่นกลับต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

เขายืนจ้องกระจกใสอย่างเหม่อลอย

ในกระจก แม้เขาจะยืนนิ่งอยู่เฉยๆ ก็กลับให้ความรู้สึกเย็นชาและสูงส่ง มีความศักดิ์สิทธิ์และลึกลับอยู่ในแววตา

ภาพรวมแล้วดูคล้ายบาทหลวง แต่ก็ยิ่งใหญ่กว่านั้นไม่รู้กี่ระดับ

บางทีบุคลิกที่ผู้คนจินตนาการถึงบุตรแห่งพระเจ้าอาจใกล้เคียงกับเขาในตอนนี้?

แต่ไม่ใช่เสียทีเดียว บุคลิกของบุตรแห่งพระเจ้าคงอบอุ่นน่าเข้าใกล้ ขณะที่เขาตอนนี้มีความเย็นชาสูงส่งเหมือนไม่ใช่มนุษย์ คล้ายเทพเจ้าเพียงหนึ่งเดียวที่ทำตามใจตัวเอง

ซูหยุนส่ายหน้า ไม่อยากคิดอะไรไปมากกว่านี้ ตอนนี้ยังมีเรื่องสำคัญให้เคลียร์ โดยเฉพาะเจ้าลูกบอลสีดำอันนั้น

เขาสังเกตว่าลูกบอลสีดำยังคงอยู่ในพื้นที่เทพของเขา

เมื่อกลับมานั่งที่เตียงในห้อง ซูหยุนจึงส่งจิตสำนึกของเขาเข้าไปในพื้นที่เทพและมองลูกบอลสีดำพลางครุ่นคิดว่า

"ความลับที่ทำให้ข้ามมิติต้องเป็นเพราะลูกบอลนี้แน่ แต่มันมาจากไหนกันแน่?"

เขาคิดอยู่พักใหญ่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ซูหยุนจึงต้องวางประเด็นนี้ไว้ก่อน

"ถ้ามันสามารถพาข้ากลับมาได้ ก็ต้องพาข้ากลับไปได้อีกใช่ไหม?"

เขาจ้องมองลูกบอลดำอย่างลังเล และหลังจากครุ่นคิดชั่วครู่ก็ตัดสินใจแน่วแน่

"ต้องลองดู!"

ซูหยุนค่อยๆ ขยับจิตสำนึกเข้าหาลูกบอลสีดำอย่างระมัดระวัง

ทันทีที่สัมผัสถึงมัน

ลูกบอลสีดำก็เกิดความเปลี่ยนแปลงในทันที!

เกิดเป็นวังวนเล็กๆ รอบๆ ลูกบอล และทุกสิ่งรอบตัวถูกดึงเข้าสู่วังวนดำอย่างรวดเร็ว

แต่เมื่อเทียบกับครั้งก่อน ครั้งนี้ซูหยุนรู้สึกว่ามีสายสัมพันธ์บางๆกับลูกบอลดำ เขาดูเหมือนจะสามารถควบคุมมันได้

เขาสั่งในความคิดว่า "หยุด!"

สิ่งต่างๆ ที่ถูกดึงเข้าไปเมื่อครู่ถูกปล่อยออกมา พื้นที่กลับคืนสู่สภาพปกติ ลูกบอลดำหดเหลือขนาดเท่านิ้วโป้งและลอยนิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหวอีก

เห็นดังนั้น รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นที่มุมปากของซูหยุน

แม้ว่ามันจะลึกลับมาก แต่เขาก็สามารถควบคุมมันได้บ้าง ซึ่งทำให้เขารู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

“ไม่รู้ว่าพวกคนชนเผ่าโบราณจะเป็นยังไงบ้างนะ ตอนนี้แหละดีเลยที่จะลองกลับไปดูสักหน่อย”

พอนึกถึงพวกคนชนเผ่าโบราณที่บูชาเขาเป็นเทพ เขาก็อดรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาไม่ได้

เขาลืมตาขึ้น ซูหยุนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา

23:12 น.

เวลาที่ผ่านไปตั้งแต่เขานอนหลับจนถึงการข้ามมิติและกลับมานั้นรวมแล้วก็แค่สามชั่วโมงกว่าเท่านั้น

ไม่รู้ว่าเวลาทั้งสองด้านจะต่างกันหรือเปล่า แต่เรื่องนี้คงต้องรอให้เขาข้ามมิติอีกครั้งถึงจะรู้ได้

หลังจากบันทึกเวลาไว้แล้ว เขาก็นอนลง และนำจิตไปสัมผัสกับลูกบอลดำ

วังวนสีดำเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่มันกำลังจะกลืนกินร่างเทพของซูหยุนจนหมด จู่ๆ ก็มีความรู้สึกหนึ่งเกิดขึ้นในใจของเขา

หากเขาต้องการ เขาสามารถนำร่างกายจริงไปด้วยได้หนิ!

คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ละทิ้งความคิดนั้นไว้ก่อน

เพราะปัจจัยที่ไม่ชัดเจนยังมีอยู่มาก ถึงแม้ในอนาคตอาจต้องทำเช่นนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะพาร่างกายจริงข้ามมิติไปด้วย

วังวนสีดำกลืนกินร่างเทพจนหมดสิ้น จากนั้นวังวนสีดำจึงหดตัวลงอย่างรวดเร็วและเลือนหายไป

ในห้องกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง เหลือเพียงเสียงลมหายใจของชายหนุ่ม

(จบตอนที่ 4)

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด